กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา มันอาจจะดูยาว หรืออ่านไม่เข้าใจบางก็ขออภัยด้วยนะคะ
คิดมากตลอดว่าครอบครัวคือเซฟโซนที่ดี แต่ที่ผ่านมาเราคิดผิดตลอด แม่คือผู้กดดันเรากับน้องสาวมาตั้งแต่เล็กจนโต แม่พยายามกดดันในเรื่องเรียน รวมทั้งเรื่องอื่นๆ นำเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ว่าเราไม่ดีเท่าอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าเราไม่เรียนเก่งเหมือนคนนั้นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งตั้งแต่เล็กจนโตแม่ชอบด่าเราเสียๆหายๆ บางทีด่าเราอย่างกับเราไม่ใช่ลูก บางทีเราก็แอบบคิดทำไมแม่ต้องด่าเราขนาดนี้ ทั้ง ๆที่เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมากมายจนถึงขนาดจะต้องด่า (แม่ชอบด่าว่าเราไม่กวาดบ้าน ไม่ล้างจาน ไม่เก็บบ้าน ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเราทำทุกอย่าง) แต่แม่ก็ยังเอามาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะด่าเรา (คำที่แม่ด่าเรากับน้องบางที ซั่วคัก โง่เหมือนหมา ไม่ทำงานบ้าน บ้านไม่รู้จักเก็บ ตั้งแต่สร้างบ้านา 14 ปีนี้ กวาดอยู่มั้ง 2 ครั้ง กูสงสารคนที่จะได้เอาไปเป็นเมียเด้ เคราะห์มันคงไม่ดี ดวงมันคงตกมาก กูทำบุญด้วยอะไรหนอทำไมได้ลูกแบบนี้มา)
คือเรากับน้องทำงานบ้านทุกอย่าง แต่แม่กับบอกว่าไม่ได้ทำ แล้วก็ด่า เห้ออออ เราท้อใจ เราเหนื่อยมากเลยค่ะ ถ้าเรากับน้องพูดออกไปว่าทำอยู่ หรือเรากับน้องอธิบาย ก็หาว่าเถียง ไม่มีมารยาท ส่งเรียนสูงให้มาเถียงแม่
แม่ชอบบอกเราว่า ต้องทำงานรับราชการนะ ถึงจะประสบความสำเร็จ ถึงจะเป็นหน้าเป็นตาให้พ่อกับแม่ (เราบอกแม่ตลอดว่าสเราไม่ชอบเราอยากเปิดร้านขายของ อยากเปิดคาเฟ่ อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง แต่แม่ก็ไม่เห็นด้วย) แม่กลัวขายหน้า อายชาวบ้านที่ลูกไม่ได้ทำงานรับราชการ
แล้วอีกอย่างตอนนี้ คือเราเรียนจบมา 2 ปีแล้วค่ะ แล้วเราก็ได้ทำงานอยู่ที่ การไฟฟ้าฝ้ายผลิต แต่แม่ก็ยังชอบที่จะด่าเราทั้ง ๆที่เราก็โตแล้ว 24 ปีแล้ว ไม่กลัวเราอายคนบางหรือไง พอเราบอกว่าอย่าด่าหยุดเราอายคน ด่าแบบไม่มีเหตุผล ก็บอกเราว่าหุบปากเดียวนี้ จะเถียงทำไม
เราคิดว่าบ้านไม่ใช่เซฟโซนที่ดีขอเราเลยค่ะ มันดูอึดอัดไปหมด มันดาวน์ มันเหนื่อย ดูหงอยไปหมด หันหน้าไประบายกับใครก็ไม่ได้ พอเราจะคุยกับแม่ด้วยเหตุผลขอคุยด้วยดีๆ แม่ไม่เคยจะฟังเราพูดเลย เราพูดยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ แม่ด่าเราแทรกขึ้นมาทุกครั้ง (ตอนที่เรายังเรียนมหาลัยเราอยู่หอจากที่เราเคยเป็นคนที่ร่างเริง พอหเรียนจบได้กลีบมาทำงานใกล้บ้านได้พักที่บ้าน เราดูหงอยดูอึดอัดไปหมด)
จนเมื่อช่วง เมษายน ปีก่อน เราได้คุยได้คบกับแฟนคนปัจจุบัน เหมือนกับเเฟนเราคอยดึงเราออกจากความอึดอัดนั้น แฟนเราพยายามพูดกับเราตลอดว่าอดทนนะ เค้าจะคอยอยู่ข้างเราแล้วผ่านไปด้วยกัน (เวลาเราไปบ้านแฟน หรือไปนั้นไปนี้เราดูไม่อึดอัด มันรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง มีความสุข ทางครอบคึรัวแฟนเค้าดีกับเราทุกคน)
แล้วมาช่วงต้นปี แม่เราบอกเราว่าให้ไปบอกแฟนเรามาขอ เราก็ไปบอกแฟน แฟนกับแม่แฟนก็บอกว่าเดี๋ยวมาขอ แต่ขอให้แม่แฟนผ่าตัดขาเรียบร้อยก่อนได้ไหม(แม่แฟนไปผ่าขาวันที่ 17 มกราคม ค่ะ) เราก็มาบอกแม่ ซึ้งตอนแรกแม่เราก็โอเค แม่พอชาวบ้านพูดอย่างนั้นอย่างนี้ แม่เรากับโวยวาย ว่าไม่ยอม ไม่มาขอก็ไม่ต้องมาขอ เเล้วก็ด่าเราว่า เป็นเพราะเรา ชอบทำตัวอย่างนั้นอย่างนี้ เวลาถ่ายรูปก็ไปยืนใกล้ชิดกัน คนเขามองก็ว่าได้เสียกันแล้ว ไม่มีคุณค่า ทำตัวไร้ยางอาย นั้นแหละเขาถึงไม่มาขอ ทีนี้พวกป้าก็มาพูดกับแม่ว่าฟังเหตุผลหน่อย เหมือนแม่เราจะใจเย็น แล้วก็บอกเราว่าถ้าจะมาขอให้มาขอเดือน 11 12 ถึงจะให้ขอให้แต่ง
เราอึดอัดมากค่ะที่แม่เราเป็นแบบนี้ เราร้องไห้ เราเสียใจ เรานอย ที่แม่เราเป็นแบบนี้ เราอยากออกจากเซฟโซนนี้มาก แต่แฟนเราบอกว่าอกทน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เค้าจะคอยอยู๋ข้างๆตลอด รอวันที่จะได้อยู่ด้วยกัน
คิดมากตลอดว่าครอบครัวคือเซฟโซนที่ดี
คิดมากตลอดว่าครอบครัวคือเซฟโซนที่ดี แต่ที่ผ่านมาเราคิดผิดตลอด แม่คือผู้กดดันเรากับน้องสาวมาตั้งแต่เล็กจนโต แม่พยายามกดดันในเรื่องเรียน รวมทั้งเรื่องอื่นๆ นำเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ว่าเราไม่ดีเท่าอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าเราไม่เรียนเก่งเหมือนคนนั้นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งตั้งแต่เล็กจนโตแม่ชอบด่าเราเสียๆหายๆ บางทีด่าเราอย่างกับเราไม่ใช่ลูก บางทีเราก็แอบบคิดทำไมแม่ต้องด่าเราขนาดนี้ ทั้ง ๆที่เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมากมายจนถึงขนาดจะต้องด่า (แม่ชอบด่าว่าเราไม่กวาดบ้าน ไม่ล้างจาน ไม่เก็บบ้าน ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเราทำทุกอย่าง) แต่แม่ก็ยังเอามาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะด่าเรา (คำที่แม่ด่าเรากับน้องบางที ซั่วคัก โง่เหมือนหมา ไม่ทำงานบ้าน บ้านไม่รู้จักเก็บ ตั้งแต่สร้างบ้านา 14 ปีนี้ กวาดอยู่มั้ง 2 ครั้ง กูสงสารคนที่จะได้เอาไปเป็นเมียเด้ เคราะห์มันคงไม่ดี ดวงมันคงตกมาก กูทำบุญด้วยอะไรหนอทำไมได้ลูกแบบนี้มา)
คือเรากับน้องทำงานบ้านทุกอย่าง แต่แม่กับบอกว่าไม่ได้ทำ แล้วก็ด่า เห้ออออ เราท้อใจ เราเหนื่อยมากเลยค่ะ ถ้าเรากับน้องพูดออกไปว่าทำอยู่ หรือเรากับน้องอธิบาย ก็หาว่าเถียง ไม่มีมารยาท ส่งเรียนสูงให้มาเถียงแม่
แม่ชอบบอกเราว่า ต้องทำงานรับราชการนะ ถึงจะประสบความสำเร็จ ถึงจะเป็นหน้าเป็นตาให้พ่อกับแม่ (เราบอกแม่ตลอดว่าสเราไม่ชอบเราอยากเปิดร้านขายของ อยากเปิดคาเฟ่ อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง แต่แม่ก็ไม่เห็นด้วย) แม่กลัวขายหน้า อายชาวบ้านที่ลูกไม่ได้ทำงานรับราชการ
แล้วอีกอย่างตอนนี้ คือเราเรียนจบมา 2 ปีแล้วค่ะ แล้วเราก็ได้ทำงานอยู่ที่ การไฟฟ้าฝ้ายผลิต แต่แม่ก็ยังชอบที่จะด่าเราทั้ง ๆที่เราก็โตแล้ว 24 ปีแล้ว ไม่กลัวเราอายคนบางหรือไง พอเราบอกว่าอย่าด่าหยุดเราอายคน ด่าแบบไม่มีเหตุผล ก็บอกเราว่าหุบปากเดียวนี้ จะเถียงทำไม
เราคิดว่าบ้านไม่ใช่เซฟโซนที่ดีขอเราเลยค่ะ มันดูอึดอัดไปหมด มันดาวน์ มันเหนื่อย ดูหงอยไปหมด หันหน้าไประบายกับใครก็ไม่ได้ พอเราจะคุยกับแม่ด้วยเหตุผลขอคุยด้วยดีๆ แม่ไม่เคยจะฟังเราพูดเลย เราพูดยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ แม่ด่าเราแทรกขึ้นมาทุกครั้ง (ตอนที่เรายังเรียนมหาลัยเราอยู่หอจากที่เราเคยเป็นคนที่ร่างเริง พอหเรียนจบได้กลีบมาทำงานใกล้บ้านได้พักที่บ้าน เราดูหงอยดูอึดอัดไปหมด)
จนเมื่อช่วง เมษายน ปีก่อน เราได้คุยได้คบกับแฟนคนปัจจุบัน เหมือนกับเเฟนเราคอยดึงเราออกจากความอึดอัดนั้น แฟนเราพยายามพูดกับเราตลอดว่าอดทนนะ เค้าจะคอยอยู่ข้างเราแล้วผ่านไปด้วยกัน (เวลาเราไปบ้านแฟน หรือไปนั้นไปนี้เราดูไม่อึดอัด มันรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง มีความสุข ทางครอบคึรัวแฟนเค้าดีกับเราทุกคน)
แล้วมาช่วงต้นปี แม่เราบอกเราว่าให้ไปบอกแฟนเรามาขอ เราก็ไปบอกแฟน แฟนกับแม่แฟนก็บอกว่าเดี๋ยวมาขอ แต่ขอให้แม่แฟนผ่าตัดขาเรียบร้อยก่อนได้ไหม(แม่แฟนไปผ่าขาวันที่ 17 มกราคม ค่ะ) เราก็มาบอกแม่ ซึ้งตอนแรกแม่เราก็โอเค แม่พอชาวบ้านพูดอย่างนั้นอย่างนี้ แม่เรากับโวยวาย ว่าไม่ยอม ไม่มาขอก็ไม่ต้องมาขอ เเล้วก็ด่าเราว่า เป็นเพราะเรา ชอบทำตัวอย่างนั้นอย่างนี้ เวลาถ่ายรูปก็ไปยืนใกล้ชิดกัน คนเขามองก็ว่าได้เสียกันแล้ว ไม่มีคุณค่า ทำตัวไร้ยางอาย นั้นแหละเขาถึงไม่มาขอ ทีนี้พวกป้าก็มาพูดกับแม่ว่าฟังเหตุผลหน่อย เหมือนแม่เราจะใจเย็น แล้วก็บอกเราว่าถ้าจะมาขอให้มาขอเดือน 11 12 ถึงจะให้ขอให้แต่ง
เราอึดอัดมากค่ะที่แม่เราเป็นแบบนี้ เราร้องไห้ เราเสียใจ เรานอย ที่แม่เราเป็นแบบนี้ เราอยากออกจากเซฟโซนนี้มาก แต่แฟนเราบอกว่าอกทน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เค้าจะคอยอยู๋ข้างๆตลอด รอวันที่จะได้อยู่ด้วยกัน