สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอยากจะมาปรึกษาพี่ๆเพื่อนๆน้องๆค่ะ คือเราคุยอยู่กับผู้ชายคนนึง เป็นรุ่นพี่เรา 2 ปี เจอกันในแอพค่ะ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะจริงจังขนาดนี้ แต่พอเจอกันครั้งที่ 2 ก็ได้รู้ตัวว่าหลงรักเขาไปแล้วเต็มประตู เจอกันครั้งแรกเขาไม่ใช่สเปคเราเลย หมายถึงภายนอกนะคะ แบบความสูง อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ แต่พอได้คุย ได้รู้จักกัน เห้ยยย..ทำไมคลิกจัง ทำไมนิสัยโอเคจัง ที่ผ่านมาไม่เคยเจอผู้ชายแบบนี้เลยแฮะ เราเลยลองเปิดใจให้ตัวเองรับเขาเข้ามาในชีวิตและหัวใจดูค่ะ และเราเองก็ชัดเจนกับเขาเลยว่าเราชอบเขานะ อยากไปต่อนะ ทั้งๆที่ตอนแรกเจอกันเพราะคิดว่าแค่เหงา มีเพื่อนแก้เหงาก็คงดีมั้ง แต่พอได้เจอแล้วกลับกลายเป็นว่าเห้ยคนนี้ใช่ว่ะ ลองรักดูอีกสักทีก็คงไม่ได้แย่มั้ง 😂
เรื่องของเรื่องก็คือเราเอาใจลงไปเล่นกับเขาแบบเต็มดวงเลยค่ะ ทั้งๆที่สถานะก็ไม่ได้ชัดเจน จะเป็นพี่น้องก็ไม่ได้ จะเป็นแฟนมั้ยเค้าก็ไม่ได้พูดอีก อารมณ์แบบ เจอกันอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หรือไม่ก็แล้วแต่วันหยุดที่ตรงกัน ( แต่เอาจริงๆเราก็ชอบงอแงไปหาเขานะ แฮ่) เจอกันก็ไปกินข้าว ดูหนัง เดินห้างกันเขาก็จับมือ จูงมือ เดินโอบเอวเรา ฟีลแฟนเลยค่ะ มีซัมติงกัน 2-3 รอบแล้ว แต่พักหลังๆเจอกันก็แค่ไปกินข้าวกัน กลับห้องมาก็อาบน้ำนอนกอดกัน เหมือนต่างคนต่างเหนื่อยกับงาน ส่วนตัวเขาก็พูดว่า แค่นอนกอดกันก็พอแล้วเนอะ ซึ่งเราก็โอเคมากๆแล้วกับการกระทำแบบนั้นของเขา เพราะการที่ได้เจอกันแบบนั้นมันดีกว่าการคุยไลน์เยอะเลย เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยติดโซเชียลค่ะ อย่างมากก็แค่จับโทรศัพท์มาดูหนังฟังเพลง ไม่ค่อยสนในอะไรเท่าไร (รวมถึงฉันด้วยจ้าาาาา ) ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันเขาก็จะสไตล์นี้เลย ตอนแรกเราก็กลัวใจมาก กลัวว่าเค้าจะทำแบบนี้กับคนอื่นด้วย แต่พอระยะเวลาผ่านไปเราก็โล่งใจว่าเค้าคุยกับเราแค่คนเดียวจริงๆ มีเราคนเดียวจริงๆ เพราะทุกครั้งที่เรากลับไปห้องเค้า ของทุกอย่างที่เราเอาทิ้งไว้ที่ห้องเค้ายังคงสภาพเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย (เราไปๆมาๆห้องเค้านะคะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันถาวร)
คือทุกอย่างมันดีไปหมดตอนที่อยู่ด้วยกัน แต่ที่เรายังคงข้องใจก็จะมีเรื่องสถานะกับเรื่องการตอบแชทนี่แหละค่ะ เรื่องสถานะเค้าเคยบอกว่าให้รอเค้าหน่อย เราเองก็ไม่อยากไปเร่งรัดเค้า เพราะที่ผ่านมา เราเคยคุยๆแบบ อาทิตย์เดียวคบเลยก็มี สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า เลยอยากลองศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีๆ แต่กับคนนี้เราก็ดันเลยคำว่าศึกษานิสัยใจคอกันไปซะแล้ว ถ้าหากเป็นภาษาชาวบ้านคงเรียกว่าอยู่ก่อนแต่งจะได้มั้ยคะ แฮะๆ แค่ไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน ? แต่ตอนอยู่ด้วยกันมันดีจริงๆนะคะ โครตเป็นความสบายใจให้กันเลย ไม่จำเป็นต้องฝืนอะไรเลย เพราะเวลาอยู่ด้วยกัน มาเจอกัน มันไม่ได้มาหากันเพราะเรื่องอย่างว่าอย่างแค่เรื่องเดียว แต่มันมีอะไรให้ทำด้วยกันเยอะมากๆเลยค่ะ ส่วนเรื่องการตอบแชท ที่ผ่านมาเราอาจจะติดกับการติดต่อกันทางโซเชียลมากเกินไป พอมาเจอพี่เขาที่ไม่ค่อยติดโซเชียล เราเลยรู้สึกแปลกๆไป เลยยังปรับตัวไม่ได้ เลยชอบนอยด์บ่อยๆ แรกๆก็เคยพูดกับเค้าว่าไม่โอเค จนพักหลังต้องข่มใจยอมรับและทำใจให้ชินไปเองว่าเขาเป็นแบบนี้นะ เราเลือกรักเขาแล้ว เราก็ต้องทนให้ไหวสิ
สุดท้ายนี้ยอมรับเลยค่ะว่าการคลั่งรักคนๆนี้ในครั้งนี้ค่อนข้างจะจริงจังมากๆ และก็เริ่มจะเหนื่อยแล้ว.. แต่ก็ไม่มีทางไหนที่ดีไปกว่าการลองวิ่งตามเขาดูแล้วค่ะ คนรอบข้างเริ่มเตือนแล้วว่ามันเหนื่อยไปรึป่าวที่เราทำแบบนี้ เพราะเราพยายามเพื่อเขามากอยู่ ลืมบอกไปค่ะ ว่าเขาทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน หยุดทุกวันจันทร์แทบจะทุกอาทิตย์ ส่วนเราเองทำงานโรงพยาบาลหยุดอาทิตย์ละ 2 วัน แบบไม่ตายตัวว่าจะได้หยุดวันไหน แล้วแต่Cycle ที่เขาจะจัดให้ พอมาคุยกับคนนี้ เราพร้อมใจแลกเวรออกและฟิคเวรให้หยุดทุกวันจันทร์เพื่อที่จะได้ไปหาเขา ไปใช้เวลาวันนั้นกับเขา ซึ่งคนรอบตัวมองว่าเราพยายามมากไปไหม ? ตัวติดกันไปไหม ? เขาพยายามทำอะไรเพื่อเราบ้างไหม ? มีแต่เราพยายามเพื่อเขาคนเดียวรึป่าว ? พอเจอคำถามแบบนี้เอาจริงๆเราเองก็เริ่มเครียดนะคะ คือเราไม่ได้เข้าข้างพี่เขานะ คืองานพี่เขามันฟิคไม่ได้ว่าอยากจะหยุดวันนี้ก็หยุดได้ มันแลกไม่ได้เหมือนเวรเรา แต่พอเค้าได้หยุด เค้าก็บอกเราเสมอนะ วันหยุดของเขา เขาก็เอามาใช้กับเรา ไปกินข้าว ไปทำนู่นนี่นั่นด้วยกัน แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าพยายามปรับเข้าหากันหรอคะ ? คือต่างคนต่างไม่มีค่อยมีเวลาเหมือนกัน เขาเองก็พยายามนะ แค่ไม่ได้แสดงออกมากมายแบบที่เราทำ อย่างล่าสุดเขาพูดขึ้นมาว่า ถ้ากลับบ้านรอบนี้เขาจะไปเอาโน๊ตบุ๊คมาไว้ดูหนังแล้วนะ จะได้มีเวลาโทรคุยกับเราบ้าง เราเองก็ตกใจ เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่าไม่ชอบโทรคุย แต่เขาก็ยังพยายามปรับตัวเข้าหาเราบ้าง คือเราไม่ได้โกรธหรือนอยอะไรเลยนะที่น้องคนสนิทเรามาเตือนเราแบบนี้ เราเข้าใจว่าน้องรักและหวังดีกับเรา คงเห็นว่าเราพยายามกับความรักครั้งนี้เป็นอย่างหนักและมากเกินไปแล้ว ทั้งๆที่อีกฝั่งยังไม่เห็นจะชัดเจนอะไรเลย ใช่ค่ะ สภาพภายนอกไม่ชัดเจนหรอก แต่การกระทำของเขามันชัดเจนมากๆแล้วที่เริ่มจะปรับตัวเข้าหากัน .. 😂 เอาจริงๆความสัมพันธ์จะเป็นยังไง มีเพียงแค่คนสองคนที่รู้และเข้าใจใช่ไหมคะ เราเองก็ไม่ได้คิดว่าน้องมันมาวุ่นวายหรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเราหรอก เพียงแต่เราเองก็อึดอัด เพราะเราก็รักน้องมันเหมือนน้องแท้ๆ เพราะสนิทกันมากๆ เราพยายามพูดให้น้องเข้าใจว่าเราไม่ได้เข้าข้างผู้ชายที่เรารักนะ แต่เขาเป็นแบบนี้จริงๆ ที่เราอยากจะสื่อและอยากจะถามเพื่อนๆก็คือ เราควรจะไปต่อกับความสัมพันธ์แบบนี้ไหมคะ และเราควรจะพูดยังไงให้คนรอบข้างเราเข้าใจดีว่าคนที่เรารักเขาก็ดีกับเรา ไม่ใช่แค่เราที่พยายามอยู่คนเดียว ..
** อาจจะพิมพ์งงๆหน่อย ต้องขออภัยด้วยนะคะ และต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาด้วยค่ะ 🙏🏻😊 **
คนคลั่งรัก 2022 (จะรอดหรือจะร่วงกลางทางกันนะ) ???
เรื่องของเรื่องก็คือเราเอาใจลงไปเล่นกับเขาแบบเต็มดวงเลยค่ะ ทั้งๆที่สถานะก็ไม่ได้ชัดเจน จะเป็นพี่น้องก็ไม่ได้ จะเป็นแฟนมั้ยเค้าก็ไม่ได้พูดอีก อารมณ์แบบ เจอกันอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หรือไม่ก็แล้วแต่วันหยุดที่ตรงกัน ( แต่เอาจริงๆเราก็ชอบงอแงไปหาเขานะ แฮ่) เจอกันก็ไปกินข้าว ดูหนัง เดินห้างกันเขาก็จับมือ จูงมือ เดินโอบเอวเรา ฟีลแฟนเลยค่ะ มีซัมติงกัน 2-3 รอบแล้ว แต่พักหลังๆเจอกันก็แค่ไปกินข้าวกัน กลับห้องมาก็อาบน้ำนอนกอดกัน เหมือนต่างคนต่างเหนื่อยกับงาน ส่วนตัวเขาก็พูดว่า แค่นอนกอดกันก็พอแล้วเนอะ ซึ่งเราก็โอเคมากๆแล้วกับการกระทำแบบนั้นของเขา เพราะการที่ได้เจอกันแบบนั้นมันดีกว่าการคุยไลน์เยอะเลย เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยติดโซเชียลค่ะ อย่างมากก็แค่จับโทรศัพท์มาดูหนังฟังเพลง ไม่ค่อยสนในอะไรเท่าไร (รวมถึงฉันด้วยจ้าาาาา ) ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันเขาก็จะสไตล์นี้เลย ตอนแรกเราก็กลัวใจมาก กลัวว่าเค้าจะทำแบบนี้กับคนอื่นด้วย แต่พอระยะเวลาผ่านไปเราก็โล่งใจว่าเค้าคุยกับเราแค่คนเดียวจริงๆ มีเราคนเดียวจริงๆ เพราะทุกครั้งที่เรากลับไปห้องเค้า ของทุกอย่างที่เราเอาทิ้งไว้ที่ห้องเค้ายังคงสภาพเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย (เราไปๆมาๆห้องเค้านะคะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันถาวร)
คือทุกอย่างมันดีไปหมดตอนที่อยู่ด้วยกัน แต่ที่เรายังคงข้องใจก็จะมีเรื่องสถานะกับเรื่องการตอบแชทนี่แหละค่ะ เรื่องสถานะเค้าเคยบอกว่าให้รอเค้าหน่อย เราเองก็ไม่อยากไปเร่งรัดเค้า เพราะที่ผ่านมา เราเคยคุยๆแบบ อาทิตย์เดียวคบเลยก็มี สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า เลยอยากลองศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีๆ แต่กับคนนี้เราก็ดันเลยคำว่าศึกษานิสัยใจคอกันไปซะแล้ว ถ้าหากเป็นภาษาชาวบ้านคงเรียกว่าอยู่ก่อนแต่งจะได้มั้ยคะ แฮะๆ แค่ไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน ? แต่ตอนอยู่ด้วยกันมันดีจริงๆนะคะ โครตเป็นความสบายใจให้กันเลย ไม่จำเป็นต้องฝืนอะไรเลย เพราะเวลาอยู่ด้วยกัน มาเจอกัน มันไม่ได้มาหากันเพราะเรื่องอย่างว่าอย่างแค่เรื่องเดียว แต่มันมีอะไรให้ทำด้วยกันเยอะมากๆเลยค่ะ ส่วนเรื่องการตอบแชท ที่ผ่านมาเราอาจจะติดกับการติดต่อกันทางโซเชียลมากเกินไป พอมาเจอพี่เขาที่ไม่ค่อยติดโซเชียล เราเลยรู้สึกแปลกๆไป เลยยังปรับตัวไม่ได้ เลยชอบนอยด์บ่อยๆ แรกๆก็เคยพูดกับเค้าว่าไม่โอเค จนพักหลังต้องข่มใจยอมรับและทำใจให้ชินไปเองว่าเขาเป็นแบบนี้นะ เราเลือกรักเขาแล้ว เราก็ต้องทนให้ไหวสิ
สุดท้ายนี้ยอมรับเลยค่ะว่าการคลั่งรักคนๆนี้ในครั้งนี้ค่อนข้างจะจริงจังมากๆ และก็เริ่มจะเหนื่อยแล้ว.. แต่ก็ไม่มีทางไหนที่ดีไปกว่าการลองวิ่งตามเขาดูแล้วค่ะ คนรอบข้างเริ่มเตือนแล้วว่ามันเหนื่อยไปรึป่าวที่เราทำแบบนี้ เพราะเราพยายามเพื่อเขามากอยู่ ลืมบอกไปค่ะ ว่าเขาทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน หยุดทุกวันจันทร์แทบจะทุกอาทิตย์ ส่วนเราเองทำงานโรงพยาบาลหยุดอาทิตย์ละ 2 วัน แบบไม่ตายตัวว่าจะได้หยุดวันไหน แล้วแต่Cycle ที่เขาจะจัดให้ พอมาคุยกับคนนี้ เราพร้อมใจแลกเวรออกและฟิคเวรให้หยุดทุกวันจันทร์เพื่อที่จะได้ไปหาเขา ไปใช้เวลาวันนั้นกับเขา ซึ่งคนรอบตัวมองว่าเราพยายามมากไปไหม ? ตัวติดกันไปไหม ? เขาพยายามทำอะไรเพื่อเราบ้างไหม ? มีแต่เราพยายามเพื่อเขาคนเดียวรึป่าว ? พอเจอคำถามแบบนี้เอาจริงๆเราเองก็เริ่มเครียดนะคะ คือเราไม่ได้เข้าข้างพี่เขานะ คืองานพี่เขามันฟิคไม่ได้ว่าอยากจะหยุดวันนี้ก็หยุดได้ มันแลกไม่ได้เหมือนเวรเรา แต่พอเค้าได้หยุด เค้าก็บอกเราเสมอนะ วันหยุดของเขา เขาก็เอามาใช้กับเรา ไปกินข้าว ไปทำนู่นนี่นั่นด้วยกัน แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าพยายามปรับเข้าหากันหรอคะ ? คือต่างคนต่างไม่มีค่อยมีเวลาเหมือนกัน เขาเองก็พยายามนะ แค่ไม่ได้แสดงออกมากมายแบบที่เราทำ อย่างล่าสุดเขาพูดขึ้นมาว่า ถ้ากลับบ้านรอบนี้เขาจะไปเอาโน๊ตบุ๊คมาไว้ดูหนังแล้วนะ จะได้มีเวลาโทรคุยกับเราบ้าง เราเองก็ตกใจ เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่าไม่ชอบโทรคุย แต่เขาก็ยังพยายามปรับตัวเข้าหาเราบ้าง คือเราไม่ได้โกรธหรือนอยอะไรเลยนะที่น้องคนสนิทเรามาเตือนเราแบบนี้ เราเข้าใจว่าน้องรักและหวังดีกับเรา คงเห็นว่าเราพยายามกับความรักครั้งนี้เป็นอย่างหนักและมากเกินไปแล้ว ทั้งๆที่อีกฝั่งยังไม่เห็นจะชัดเจนอะไรเลย ใช่ค่ะ สภาพภายนอกไม่ชัดเจนหรอก แต่การกระทำของเขามันชัดเจนมากๆแล้วที่เริ่มจะปรับตัวเข้าหากัน .. 😂 เอาจริงๆความสัมพันธ์จะเป็นยังไง มีเพียงแค่คนสองคนที่รู้และเข้าใจใช่ไหมคะ เราเองก็ไม่ได้คิดว่าน้องมันมาวุ่นวายหรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเราหรอก เพียงแต่เราเองก็อึดอัด เพราะเราก็รักน้องมันเหมือนน้องแท้ๆ เพราะสนิทกันมากๆ เราพยายามพูดให้น้องเข้าใจว่าเราไม่ได้เข้าข้างผู้ชายที่เรารักนะ แต่เขาเป็นแบบนี้จริงๆ ที่เราอยากจะสื่อและอยากจะถามเพื่อนๆก็คือ เราควรจะไปต่อกับความสัมพันธ์แบบนี้ไหมคะ และเราควรจะพูดยังไงให้คนรอบข้างเราเข้าใจดีว่าคนที่เรารักเขาก็ดีกับเรา ไม่ใช่แค่เราที่พยายามอยู่คนเดียว ..
** อาจจะพิมพ์งงๆหน่อย ต้องขออภัยด้วยนะคะ และต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาด้วยค่ะ 🙏🏻😊 **