เกริ่นนำก่อนนะคะ เราอายุ 39 ส่วนตัวคุณสาก็บวกไปอีก 1 ค่ะ  เราทั้งคู่แต่งงานช้า ซึ่งก่อนแต่งเราสองคนก็คุยกันเรื่องการมีลูกแล้วค่ะ เรื่องนี้สำคัญเหมือนกันนะคะ ชีวิตคู่หลายคู่ก็จบลงด้วยทัศนคติเรื่องการมีบุตรที่ไม่เหมือนกัน หลังแต่งงานคืออีก 6 เดือนถึงจะได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันค่ะ เจอกันบ้างเดือนละครั้ง ซึ่งในระหว่างนี้เราก็ทำการศึกษาข้อมูลเรื่องการมีลูกบ้างแล้ว จะแบ่งเป็นหมวดๆ เผื่อคุณแม่ทานอื่นไปหาข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

1 วิตามินบำรุง สำหรับคุณแม่ หลักๆเลยที่จะแนะนำให้ทานคือโฟลิคค่ะ ทานก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือนจะดีมาก และทานแล้วแม้ไม่ท้องก็ไม่มีผลเสียอะไรกับคุณแม่ค่ะ และวิตามินสำหรับคุณพ่อหลักๆคือ Zn ค่ะ เพื่อบำรุงสเปิร์ม 
2 ทราบเรื่องการตกไข่และการเรื่องของอสุจิ ไข่ของผู้หญิงเมื่อตกแล้วจะอยู่ในร่างกายได้เพียง 12-24ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ ส่วนอสุจินั้นสามารถอยู่ในร่างกายผู้หญิงได้นานกว่าคือ 2-3วัน ฉะนั้นการมีลูกได้มันจะมีช่วงเดียวเท่านั้นในแต่ละเดือน เราควรทราบไว้เพื่อจะได้ทำการบ้านค่ะ ส่วนวิธีการทราบวันไข่ตกจะเล่าเฉพาะคนที่รอบเดือนไม่ปกติเท่านั้นนะคะ คนที่รอบเดือนมาประจำสม่ำเสมอก็โชคดีไป นับวันน่าจะพอได้ โดยการนับวันคือให้นับย้อนกลับไป 14 วันนับจากวันที่มีประจำเดือนวันแรกค่ะ เพราะช่วงหลังไข่ตกจะค่อนข้างแน่นอนที่ 14 วันค่ะ เช่น สมมุติเป็นคนมีรอบเดือน 32 วัน มีรอบเดือนวันที่ 1 มค ครั้งหน้าประจำเดือนก็ควรมีวันที่ 1 กพ ดังนั้นวันไข่ตก ก็คือช่วงวันที่ 18 มค นั่นคือให้คำนวนดูวันแรกที่ประจำเดือนจะมาครั้งหน้า และนับย้อนขึ้นมา 14วันค่ะ ก็พอจะทราบวันไข่ตกคร่าวๆ ส่วนคนที่รอบเดือนมาไม่แน่นอนก็ต้องกทำขบวนการอื่นค่ะ
2.1มูกไข่ตก เป็นตกขาวที่ออกมามีลักษณะใสๆ ยืดได้เหมือนไข่ขาว ซึ่งมักจะมีก่อนไข่ตก 1-2 วัน
2.2 การวัดอุณหภูมิร่างกายขณะพัก โดยควรทำตอนเช้าก่อนลุกจากเตียง และทำในเวลาเดิมๆจะแม่นยำสุดค่ะ เราวัดเพื่อเอามาหาวันไข่ตก ซึ่งในapp ที่เราใช้คือ Fertility friend มันจะบอกวันไข่ตก เมื่อเลยวันไปแล้วนะคะ โดยเหมือนว่ามันจะคำนวนจากวันที่อุณหภูมิลงต่ำ แล้วสูงต่อเนื่อง 3 วันค่ะ และบางทีมันก็ขึ้นกับค่าบางอย่างที่เรากรอกด้วย เช่นค่า cervical fluid เราเคยลองใส่กับไม่ใส่ ค่าวันไข่ตกในแอพก็เปลี่ยนไปค่ะ อ้าวแล้วอย่างนี้เราจะวัดไปเพื่ออะไรเมื่อวัดไปก็ไม่ได้รู้วันไข่ตกในวันที่ตก ใช่แล้วค่ะ แต่เราก็เอาไว้ดูแนวโน้มสำหรับตัวเองค่ะ ประกอบกับการดูอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เราก็ดูกราฟถ้าวันนี้ดูอุณภูมิต่ำลง ร่วมกับการมีมูกไข่ขาว ก็น่าจะพอเอ๊ะ ได้แล้วค่ะ
2.3 การใช้แผ่นตรวจไข่ตก โดยควรวัดกับปัสสาวะช่วงบ่ายๆนะคะ วันไหนไข่ตก LH(Luteinizing hormone) ฮอร์โมนจะสูง   
ซึ่งพอรู้ขบวนการทุกอย่าง หลังย้ายมาอยู่ด้วยกัน ผ่านไป 3 เดือน ทำทุกอย่างแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว แต่จะบอกว่าสิ่งที่คู่เราตกไปอย่างนึง คือเรื่องการตรวจร่างกายค่ะ ตรวจอันนี้ หมายถึงการตรวจพร้อมมีบุตรนะคะ เพราะถ้าตรวจร่างกายทั่วๆไป เบาหวาน ความดัน ไขมัน คือตรวจประจำทุกปีอยู่แล้วค่ะ  จะว่าใจร้อนก็ได้ เพราะยังไม่เข้าข่ายผู้มีบุตรยาก นิยามทางการแพทย์ คือ คนที่อายุเกิน 35 อยู่ด้วยกันทำการบ้านปกติ สัปดาห์ละ2-3 ครั้ง เค้าให้เวลา  6 เดือนค่ะ แต่ไม่ไหวแล้วก็แก่แล้วเนอะ อยู่ๆคุณสาก็เลยชวนไปหาหมอมีบุตรยากค่ะ ซึ่งเราเลือกไปครั้งแรกช่วง 14 วันหลังมีประจำเดือน ที่เลือกไปช่วงนี้เพราะว่าจะได้ตรวจภายใน ตรวจรังไช่ และไข่ที่พร้อมตกในเดือนนั้นได้เลย 

เราอยู่เชียงรายค่ะ แต่เราเลือกมาปรีกษาหมอมีบุตรยากที่เชียงใหม่ คลินิก CMIVF ค่ะ เค้าว่าก็คือ กุลพัฒน์เดิมแหละค่ะ แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนเป็น CMIVF แล้วซึ่งสถานที่ก็อยู่ใกล้กัน ส่วนกุลพัฒน์ก็ยังมีอยู่นะคะ แต่รับฝากครรภ์อย่างเดียว เราเลือกไปทำที่นี่แต่ไม่ได้เลือกอ.หมอที่คนอื่นๆว่าเก่ง เพราะว่าท่านลงไม่ตรงกับวันที่เราสะดวก อย่างที่บอกเราอยู่เชียงราย ต้องเดินทางอย่างน้อย 3 ชม.เพื่อไปถึงที่นั้น เลยเลือกอ.ที่เราสะดวกมากกว่า เพราะเชื่อว่าอ.ที่นี่เก่งทุกท่าน

15 สค 64 
ไปหาวันแรก คุณสามีได้รับการตรวจสเปิร์ม ซึ่งผลก็ออกวันนั้นเลย ว่าปกติดี ทั้งจำนวนและการวิ่ง ของเราก็ได้รับการอัลตราซาวน์ผ่านทางช่องคลอดค่ะ อันนี้ขอชื่นชมที่นี่ค่ะ คือเค้าจะมีห้องเล็กอีกห้องที่ให้คุณผู้หญิงเข้าไปนั่งขึ้นขาหยั่ง ห้องค่อนข้างมืดและเป็นส่วนตัว ส่วนคุณผู้ชายก็ดูผ่านจอที่เค้าเปิดประตูแง้มไว้ให้ดู ซึ่งเป็นจอเดียวกัน ผลตรวจวันนี้มดลูกเรียงชั้นสวยดี ความหนาพอเหมาะ ไข่ในรังไข่ข้างขวาโตสุด ดูพร้อมจะเป็น the best ของเดือนนี้ ขนาด 9มม. คุณหมอแนะว่าโดยทั่วไปไข่น่าจะโตวันละ 2 มม ไข่ขนาดที่ต้องการคือ 17-18มม จึงนัดอีก 4 วันเพื่ออัลตราซาวด์ดูขนาดไข่ เพื่อนัดทำ IUI แบบฉีดเชื้อธรรมชาติ เพราะคุณหมอเห็นว่าทั้งเราและคุณสามี ก็ดูไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
วันนี้หมดไป 1900 บาท จากค่าอัลตราซาวน์ 1300 ค่าตรวจสเปิร์ม 600 ส่วนเรื่องการเจาะเลือดพาหะธาลัสซีเมีย หรือภูมิที่คุณแม่ควรมี ได้มีการเจาะเลือดตรวจไปจากข้างนอกแล้วค่ะ เลยเอาผลไปให้คุณหมอดู

19 สค 64
ไปตามนัดอัลตราซาวน์ ผลไม่เป็นไปตามคุณหมอคาด เพราะพบว่าไข่ข้างขวาใบนั้นมันโตแค่ 12 มม เอง เท่ากับโตวันละ 1 มม เราคิดว่าเราเองคงบำรุงไม่พอ แถมตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 2x3มม แต่อยู่นอกมดลูก ไม่ได้มีผลอะไรกับการตั้งครรภ์ เท่ากับว่าเดือนนี้หมอเลยของดการทำ IUI แบบฉีดเชื้อธรรมชาติไปก่อน ให้ไปลองทำการบ้านกันเอง ถ้าเดือนหน้าประจำเดือนมากค่อยว่ากันใหม่กับการทำ IUI แบบทานยากระตุ้นไข่ โดยวันนี้หมอเลยให้รับยาไปเลย ยาที่ได้คือDuinum(Clomiphene) จำนวน 5 เม็ด ทานหลังมีประจำเดือนวันที่ 3 วันละ 1 เม็ด ทานติดต่อกัน 5วัน แล้วระหว่างนี้ให้โทรไปทางคลินิคเพื่อนัดวันเข้าพบคุณหมออัลตราซาวน์ ประมาณวันที่ 13-14 หลังมีประจำเดือนรอบหน้า วันนี้หมดไป 1800 บาท ค่าอัลตราซาวน์ 1300 ค่ายา 500 ค่ะ

23 กย 64 
หลังจากประจำเดือนมา 14 วัน และทานยา Duinum ตามที่หมอสั่ง ก็ไปอัลตราซาวน์ ไข่ในรังไข่ขวา ได้ประมาณ 13มม. ไข่ข้างซ้ายประมาณ 8มม.จึงนัดถัดไปอีก 3 วัน  เพราะเราขออัลตราซาวน์อีกรอบเพราะอยากรู้ว่าได้ไข่ใบสวยพอ จะทำ IUI หรือเปล่า จากการคำนวณสูตรเดิมว่าไข่จะโตวันละ 2มม.ก็น่าจะได้ไข่ขนาดที่ต้องการคือ 18มม. วันนี้เสียเฉพาะค่าอัลตราซาวน์ค่ะ

26 กย 64 
มาซาวน์ครั้งนี้ปรากฏว่าไข่ขวาใบใหญ่สุดตกไปแล้วจ้า และไข่ซ้ายขนาดเท่าเดิมเลย IUI รอบนี้เลยล้มเหลวไป คุณหมอให้กลับไปทำการบ้านเองอีกครั้ง ...เฮ้อ สู้ใหม่อีกรอบคร้า

ครั้งใหม่คุณหมอจัดยากระตุ้นไข่ให้เต็มสูตรเลยค่ะ แต่เรายังไม่ได้รับนะคะ กะว่ารอประจำเดือนมาวันแรกค่อยมารับ ก็มีความหวังลมๆแล้งๆว่าทำการบ้านแล้วจะสำเร็จ อิอิ สุดท้ายก็ต้องมารับยาค่ะ
ยาทาน Fermara 10 เม็ด 4000 บาท วันละ 2 เม็ด เริ่มทานหลังมีประจำเดือน 3 วัน และยาฉีด Menopur 3 dose 3000 บาท ต่ออีกวันละเข็ม 3 วันรอบสะดือ ยาฉีด เค้าจัดมาเป็นยาผง ผสมกับน้ำเกลือขวดเล็ก ยาผง ต้องเก็บในที่เย็นเท่านั้นนะคะ 

     
หลังจากสิ้นสุดวันฉีดยาปุ๊บ ก็นัดซาวน์กันในวันรุ่งขึ้นเลยค่ะ

19 ตค 64 
พบว่าไข่ขวา 14.5มม. จำนวน 1 ฟอง  ไข่ซ้าย 12มม . 2 ฟอง ผนังมดลูกหนา 8 มม.สวยงาม คุณหมอเลยให้ยาฉีด Menopur ต่ออีก 2 วัน วันนี้เสียค่าอัลตราซาวน์ และค่ายารวม 3300 ค่ะ และนัดดูขนาดไข่อีก 2 วัน

21 ตค 64
พบว่าไข่ขวาโตขนาด 16 มม. ไข่ซ้าย 16.8 และ 17.8 มม . ผนังมดลูกหนา 10 มม.คุณหมอโอเคแล้วกับขนาดไข่และผนังมดลูก จึงให้ยาฉีดกระตุ้นไข่ตก Ovidrel 1 dose 1600บาท ฉีดเวลา 20.00น.ก่อนวันทำการฉีดเชื้อซึ่งคืออีก 2 วันถัดไป สรุปคือฉีดยา ovidrel วันที่ 22 ตค 2ทุ่ม แต่เราก็กลัวเนอะ ครั้งก่อนไข่ดันตกเร็ว เลยต่อรองกะคุณสาว่าสัก 3 ทุ่มแล้วกัน ไม่น่าจะมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ก็คิดมากอ่ะค่ะ วันนี้เสียค่าซาวน์และค่ายารวม 2900 บาทค่ะ

23 ตค 64 
นัดฉีดเชื้อกัน 8 โมงเช้าที่คลินิกค่ะ แต่ต้องไปเร็วกว่านั้น ตั้งแต่ 7โมงเช้าเลย เพื่อทำการเก็บน้ำเชื้อ และปั่นแยกก่อน จะได้เข้าฉีดเชื้อจริงประมาณ 8.30 น แล้วก็นอนพักในห้องทำประมาณครึ้งชั่วโมงค่ะ ก่อนกลับ คุณหมอให้ยา Duphason ไปด้วย 30 เม็ด 750 บาท กินวันละ 2 เม็ดเช้าเย็น หลายคนเคยได้ยินว่ามันคือยากันแท้ง แต่จริงๆแล้วมันคือยาที่ช่วยให้ผนังมดลูกหนาตัว เพื่อรองรับการฝังตัวไม่หลุดลอกไปก่อน วันนี้เสียค่ะทำ IUI 3500 บาท และค่ายาค่ะ

หลังจากนั้น 14 วันคุณหมอให้ตรวจการตั้งครรภ์เอง หากไม่ท้องก็เข้าไปคุยเรื่องแผนการรักษาต่อไป แต่หากท้องก็นัดติดตามว่าท้องจริงไหม คุณหมอจะอัลตราซาวน์คอนเฟิร์ม ว่าตั้งท้องจริง มีตัวเด็กจริง แล้วก็สามารถไปฝากท้องที่อื่นต่อได้ค่ะ หากท้องก็ไม่ต้องรีบนัดนะคะ รอให้เด็กมีการเติบโตสักนิดนึงก่อน ค่อยตรวจก็ได้ เราตรวจปัสสาวะได้ผลว่าท้องวันที่ 8 พย 64 นัดตรวจอัลตราซาวน์กับคุณหมออีกทีก็ 2ธค 64 เลยค่ะ อายุครรภ์ได้ประมาณ 7 สัปดาห์ ได้เห็นตัวน้องและเสียงหัวใจเต้นด้วยค่ะ
 
อาการสำหรับเราก่อนทดสอบการตั้งครรภ์ คืออาการปวดหน่วงท้องน้อยและคัดเต้านมค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วมันจะอาการคล้ายการมีประจำเดือน แต่ของเราที่สังเกตคือคัดเต้าก่อนมีประจำเดือน 1 สัปดาห์และปวดหน่วงท้องน้อยมักเป็นก่อนหรือวันแรกของการมีประจำเดือน แต่เดือนนั้นหลังทำ IUI มีอาการทั้ง 2 อย่างนี้มาพร้อมๆกันหลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ยังรู้สึกแปลกอยู่ และก็หวังแบบลุ้นๆค่ะ

หวังว่าการรีวิวอย่างละเอียดนี้จะช่วยเป็นแนวทางและมีประโยชน์ให้คุณแม่ที่อยากมีบุตรนะคะ เพราะเราเองก็เป็นคนนึงที่เข้ามาหาข้อมูลในพันทิปประจำ เพราะอย่างที่บอกเราต้องเดินทางไกลค่ะ รวมถึงการเดินทางต่างๆในการทำงานด้วย ก็ต้องมีการเตรียมพร้อมและวางแผนล่วงหน้าค่ะ
และขอให้คุณแม่ทุกคนที่อยากมีบุตรประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจนะคะ