ออกตัวก่อนนะคะ ว่ากระทู้นี้ยาววววววววว ใครชอบอ่านสั้นๆ ข้ามได้เลย และการแชร์ประสบการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นกับตัวเราเองและเป็นความรู้สึกส่วนตัว ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังคิดจะทำค่ะ
จากคนไม่ชอบเด็ก วันนึงก็อยากมีลูก
เราเป็นอีกหนึ่งคน ที่ไม่ได้คิดว่าแต่งงานแล้วอยากจะมีลูก เพราะเราคิดว่าเลี้ยงลูกต้องเหนื่อยแน่นอน ไลฟ์สไตล์เรากับแฟนคือชอบเที่ยว ทั้งเดินทางท่องเที่ยวและเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน แฮงค์เอาท์กันอาทิตย์ละหลายครั้ง ไลฟ์สไตล์แบบนี้มาตั้งแต่ช่วงคบกันใหม่ๆ ยันแต่งงานเลยค่ะ การมีลูกไม่มีอยู่ในความคิดค่ะ อาจจะเพราะเรากับสามีไม่ได้เป็นคนชอบเด็ก ไม่ได้เป็นคนมีความอดทนขนาดนั้น
จนมาหลังแต่งงาน ที่เราต้องมีการพบปะบรรดาญาติๆ ของทั้งสองฝ่ายมากขึ้น ก็เริ่มมีทั้งญาติและพ่อแม่ทักว่า ทำไมถึงยังไม่ท้อง ยังไม่มีลูก ซึ่งแรกๆ ค่ะ ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ไม่อยากเลี้ยงเด็กค่ะ ไม่อยากท้อง จนวันเวลาล่วงเลยค่ะ เที่ยวบ่อยๆ ก็ไม่ค่อยเงินเก็บค่ะ เมื่อลดการเที่ยวลง เราก็เริ่มไม่มีอะไรทำ เลยคุยกันจริงจังถึงเรื่องครอบครัว ทั้งเรื่องเงิน เรื่องลูก เรื่องพ่อแม่ จนวันที่ค่อนข้างชัดเจนและแน่วแน่มากขึ้นแล้ว ความคิดของการมีลูกก็เริ่มกลับมา เพราะทั้งบรรดาเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน ญาติๆ ก็ทยอยกันมีลูกมีหลานให้เราได้อุ้มได้เล่น ทั้งแฟนและเราได้เห็นความน่ารักสดใส แม้จะเห็นการออกฤทธิ์บ้างประปราย เลยตกลงกันว่าจะมีลูกค่ะ
แค่มีเซ็กซ์ไม่พอ มีลูกไม่ใช่เรื่องง่าย
ตัดสินใจแล้วก็ปล่อยเลยค่ะ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าอยากมีและจะมีเลย จนมันทำให้เรื่องเซ็กซ์ของเราเปลี่ยนจากเรื่องสนุกเป็นเรื่องที่กดดันไปเลย เราทำทั้งการนับไข่ตก การวัดอุณหภูมิ ท่าไหนที่เขาว่าปล่อยได้ลึก ยกขาข้างไว้ก็แล้ว หลังจาก 1 ปี ก็แล้ว 2 ปี ก็แล้ว ที่บ้านสามีและบ้านตัวเองทักบ่อยขึ้น เราก็เฮ้ย ทำไมมันยากจัง ซึ่งเราไม่คิดว่าเราจะเป็นคนที่มีลูกยากเลย อ่านกระทู้ในพันทิปแต่ละคนก็ไม่ได้มียากกันขนาดนั้น
ตัวเองกับสามีตระเวนไปตรวจร่างกาย ตรวจทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง ตรวจโรคติดเชื้อ ตรวจฮอร์โมน อัลตราซาวน์ ซึ่งน่าจะราวๆ 5 โรงพยาบาลได้ค่ะ ทั้งรัฐบาลใหญ่ๆ เอกชนที่มีชื่อเสียง ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น แล้วเราก็คิดว่าคู่ของเรา ไม่ได้อายุเยอะขนาดนั้น เรากับสามี 30 ต้นๆ เองค่ะ พอตรวจไม่พบอะไร ทีนี้ก็เลยนั่งเสิร์ชกันแทน ซึ่งพอมาศึกษาจริงๆ ก็พบว่าการมีลูกยาก ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่อายุเยอะเท่านั้น (อันนี้เป็นความเข้าใจผิดของเราเองด้วย เพราะเข้าใจมาตลอดว่าอายุเยอะ=มีลูกยาก) เลยเริ่มว่าเล็งๆ คลินิกเฉพาะทางต่างๆ โทรไปถาม ได้ราคามาแต่ละที่ ก็ต้องมาเลือกแล้วว่าจะไปหาหมอที่ไหนกันดี เอาที่ใกล้บ้าน เพราะต้องเดินทางไปหลายครั้งอยู่ค่ะ
ก่อนจะไปคลินิกสามีเลยชวนไปปรึกษาผู้ใหญ่ คือพ่อแม่ทั้งเราทั้งสองคน ผลคือทางฝั่งเราน่ะไม่ติดอะไร ถ้าจะใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย เขาแค่อยากอุ้มหลาน แต่มันก็กลายเป็นปัญหาจนได้ เพราะทางฝั่งสามีไม่เห็นด้วยหลังชนฝา ในการทำเด็กหลอดแก้ว เขาให้เหตุผลว่า ทั้งสามีและเราไม่ได้มีความผิดปกติอะไร ยังไงก็ต้องมีลูกได้ ถ้าเขาจะไม่ว่าคือ ทำ IUI ค่ะ ใครที่ไม่รู้ว่าคืออะไร มันคือการเอาเชื้อของสามีฉีดเข้าที่โพรงมดลูก ลองเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ เราทั้งสองคนก็เลย อะ งั้นก็ IUI จะได้ไม่ผิดใจกับบ้านสามีด้วย
ร่างกายและจิตใจไม่มีปัญหา แต่อะไรละที่เป็นปัญหา
ตอนแรกเรากับสามีจะเลือกคลินิกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งแถวชิดลม แต่ด้วยราคาที่สูงประกอบกับคลินิกคนเยอะ คุณหมอคุยกับเราและสามีได้เพียงไม่กี่นาที เราเลยไม่ค่อยประทับใจค่ะ เลยเลือกไปอีกที่นึงใกล้ๆ กันตรงเพลินจิต ปรึกษาครั้งแรกกับคุณหมอ ค่อนข้างประทับใจเลย เพราะคุณหมอค่อนข้างให้เวลามาก ถามได้เยอะ ตรวจเรากับสามีค่อนข้างละเอียด บวกกับคนไม่เยอะจอแจเท่าที่แรก ก็เลยตกลงกันว่าจะทำที่นี่แหละ ผลการตรวจคือตัวอสุจิของสามีวิ่งดี เพราะสามีแข็งแรง ออกกำลังกายอาทิตย์ละหลายวัน เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบ เราก็แข็งแรงดี ค่าฮอร์โมนผ่านเกณฑ์ ประจำเดือนมาปกติดีทุกอย่าง คือโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีกันทั้งคู่ค่ะ แต่ทีนี้สาเหตุที่ไม่ท้องสักที อาจจะเป็นไปได้หลายอย่าง เช่น ต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ความเครียด หรืออื่นๆ ซึ่งบางทีสิ่งเหล้านี้ก็หาสาเหตุไม่ได้
จากนั้นก็แจ้งคุณหมอว่า เราทั้งคู่อยากที่จะลองทำ IUI ดูก่อน สัก 1-2 ครั้งถ้าไม่ติด ค่อยแอบบ้านสามีไปทำเด็กหลอดแก้ว หลังจากนั้นก็เข้าขั้นตอนทำ IUI ค่ะ ก็เลยได้ให้ยากระตุ้นไข่มากิน 5 วันค่ะ ซึ่งส่วนตัวเราโล่งอก ว่าไม่ใช่การฉีดยากระตุ้น อันนี้ถามแล้ว คุณหมอบอกว่าในกรณีที่เป็นยาฉีด จะทำให้ไข่ตกเยอะ เป็นสิบยี่สิบฟอง ซึ่งการทำ IUI ถ้าไข่ตกเยอะขนาดนั้น อาจจะได้แฝดไม่แท้หลายคนเลย เราอยากได้แค่ 1 คนค่ะ ดังนั้นเลยไม่ต้องฉีดยาเอง รอดไปๆ
วันขึ้นเขียง วันทำลูก
เรากินยาที่พยาบาลให้มาจนหมด หลังจากนั้นอีก 5 วัน คุณหมอก็นัดอัลตราซาวน์ค่ะ ไข่เราโตดีประมาณ 17-18 มิล แต่พบว่าเรามีไข่ถึง 6 ฟองด้วยกันค่ะ เป็นไปได้ว่าเป็นคนที่ไข่ตกมากกว่า 1 ฟองอยู่แล้ว ไข่โตโอเคแล้ว คุณหมอก็เลยให้เราเอายาให้ไข่ตกไปฉีดในตอนเย็นของวันนั้น ตอน 6 โมงเย็นค่ะ อันนี้เวลาสำคัญมาก แล้วจากนั้นอีก 2 วันจะนัดฉีดเชื้อ ในวันขึ้นเขียง เราต้องฉีดเชื้อประมาณเที่ยงค่ะ แต่คุณสามีต้องมาเก็บสเปิร์มก่อนหน้านั้น 2-3 ชั่วโมง ก่อนหน้าวันเก็บสเปิร์มคุณผู้ชายต้องเคลียร์สเปิร์มก่อน 4-5 วันนะคะ อันนี้คุณหมอจะบอกตั้งแต่แรกเลยค่ะ เพื่อให้สามีเตรียมตัว วันฉีดเชื้อ เราไปถึงตั้งแต่เช้าน่ะแหละค่ะ นั่งรอสามีเข้าห้อง หลังจากที่เก็บเชื้อสามี ทางคุณหมอก็จะไปทำการคัดเชื้อก่อนที่จะฉีดให้เรา
อันนี้ข้อควรระวังสำหรับคนที่ยังไม่รู้
เราเคยอ่านมาว่า ฉีดเชื้อเองโดยใช้ไซริงค์นั้น ไม่ควรนะคะ เพราะนอกจากอาจจะทำให้มดลูกเป็นแผลติดเชื้อได้ เราเห็นหลอดพลาสติกที่ใช้เเล้ว มันยาวมาก เพราะต้องสอดเข้าไปให้ลึกมากกว่าการสอดใส่เวลามีเซ็กซ์ เนื่องจากเวลาที่เซ็กซ์ปกติ มันจะมีแรงดันจากร่างกายของคุณผู้ชาย ทำให้น้ำอสุจิพุ่งแรง แต่ถ้าไม่มีแรงดันนี้ การสอดเพื่อฉีดเชื้อจึงต้องลึกกว่าปกติ ซึ่งใช้ไซริงค์ทั่วไป มันเข้าไปไม่ได้ค่ะ ตรงนี้หลายต่อหลายคน เข้าใจผิดนะ เราเคยอ่านเจอ ก็คิดว่าทำเองมันค่อนข้างอันตรายค่ะ
อะต่อๆ ในวันเดียวกันพอหลังจากคัดเชื้อเสร็จแล้ว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เราก็ได้ฤกษ์ไปขึ้นเขียง หรือขึ้นขาหยั่งเหมือนตรวจภายในค่ะ คุณหมอก็จะเอาเชื้อมาฉีดให้เรา หลังจากนั้นก็นอนพักอย่างน้อยๆ 2 ชั่วโมงค่ะ หลังฉีดก็ยกก้นให้สูงไว้สักนิดนึง อันนี้เป็นเรื่องขำเพราะเราดันหลับจริงจนคลินิกเกือบปิด เจ้าหน้าที่ก็มาเรียกเราให้ตื่นค่ะ อันนี้คุณสามีแฮปปี้เลย เพราะได้นั่งเล่นเกมยาวๆ ไป ไม่มีเรามาคอยกวน
หลังจากนั้นประมาณ 14 วัน ก็นัดตรวจเลือด ซึ่งผลออกมาว่า…..
ท้องค่ะ แต่ไม่ใช่ท้องเดียวนะ เป็นแฝด 3 ยิ้มทั้งน้ำตา 555 ซึ่งเอาจริงๆ ปาดเหงื่อกันทั้งคู่นะคะ แต่ที่บ้านเราและสามีคือดีใจกันมากๆ คลอดทีเดียว ปิดอู่ได้เลยค่ะ
สรุปให้ค่ะ สำหรับคนขี้เกียจอ่านเราเวิ้นเว้อ
- เป็นการทำ iui ของเราทั้งคู่ เพราะปล่อยเองแล้วไม่ติด
- เลือกทำที่คลินิก ibaby แถวเพลินจิต ไม่ใช่โรงพยาบาลค่ะ
- ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลนะคะ คลินิกไม่ได้รับฝาก
- ไปหาคุณหมอ 4 ครั้งค่ะ
1. ไปตรวจและรับยากระตุ้นไข่มากิน
2. ไปอัลตราซาวน์ และรับยาฉีดให้ไข่ตก
3. เก็บสเปิร์มและไปฉีด
4. ไปตรวจเลือด ฟังผลการตั้งครรภ์
- ค่าใช้จ่ายประมาณ 1 หมื่นมีทอนค่ะ จ่ายครั้งเดียวไม่ได้ทยอยจ่าย เพราะเราใช้ราคาโปร
- ของเราไม่มีค่าตรวจร่างกายและตรวจสเปิร์มประมาณ 3 พันค่ะ เพราะตรวจจากที่อื่นไปแล้ว
แชร์ประสบการณ์ ทำ iui ยังไง ให้คุ้มที่สุดในชีวิต
จากคนไม่ชอบเด็ก วันนึงก็อยากมีลูก
เราเป็นอีกหนึ่งคน ที่ไม่ได้คิดว่าแต่งงานแล้วอยากจะมีลูก เพราะเราคิดว่าเลี้ยงลูกต้องเหนื่อยแน่นอน ไลฟ์สไตล์เรากับแฟนคือชอบเที่ยว ทั้งเดินทางท่องเที่ยวและเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน แฮงค์เอาท์กันอาทิตย์ละหลายครั้ง ไลฟ์สไตล์แบบนี้มาตั้งแต่ช่วงคบกันใหม่ๆ ยันแต่งงานเลยค่ะ การมีลูกไม่มีอยู่ในความคิดค่ะ อาจจะเพราะเรากับสามีไม่ได้เป็นคนชอบเด็ก ไม่ได้เป็นคนมีความอดทนขนาดนั้น
จนมาหลังแต่งงาน ที่เราต้องมีการพบปะบรรดาญาติๆ ของทั้งสองฝ่ายมากขึ้น ก็เริ่มมีทั้งญาติและพ่อแม่ทักว่า ทำไมถึงยังไม่ท้อง ยังไม่มีลูก ซึ่งแรกๆ ค่ะ ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ไม่อยากเลี้ยงเด็กค่ะ ไม่อยากท้อง จนวันเวลาล่วงเลยค่ะ เที่ยวบ่อยๆ ก็ไม่ค่อยเงินเก็บค่ะ เมื่อลดการเที่ยวลง เราก็เริ่มไม่มีอะไรทำ เลยคุยกันจริงจังถึงเรื่องครอบครัว ทั้งเรื่องเงิน เรื่องลูก เรื่องพ่อแม่ จนวันที่ค่อนข้างชัดเจนและแน่วแน่มากขึ้นแล้ว ความคิดของการมีลูกก็เริ่มกลับมา เพราะทั้งบรรดาเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน ญาติๆ ก็ทยอยกันมีลูกมีหลานให้เราได้อุ้มได้เล่น ทั้งแฟนและเราได้เห็นความน่ารักสดใส แม้จะเห็นการออกฤทธิ์บ้างประปราย เลยตกลงกันว่าจะมีลูกค่ะ
แค่มีเซ็กซ์ไม่พอ มีลูกไม่ใช่เรื่องง่าย
ตัดสินใจแล้วก็ปล่อยเลยค่ะ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าอยากมีและจะมีเลย จนมันทำให้เรื่องเซ็กซ์ของเราเปลี่ยนจากเรื่องสนุกเป็นเรื่องที่กดดันไปเลย เราทำทั้งการนับไข่ตก การวัดอุณหภูมิ ท่าไหนที่เขาว่าปล่อยได้ลึก ยกขาข้างไว้ก็แล้ว หลังจาก 1 ปี ก็แล้ว 2 ปี ก็แล้ว ที่บ้านสามีและบ้านตัวเองทักบ่อยขึ้น เราก็เฮ้ย ทำไมมันยากจัง ซึ่งเราไม่คิดว่าเราจะเป็นคนที่มีลูกยากเลย อ่านกระทู้ในพันทิปแต่ละคนก็ไม่ได้มียากกันขนาดนั้น
ตัวเองกับสามีตระเวนไปตรวจร่างกาย ตรวจทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง ตรวจโรคติดเชื้อ ตรวจฮอร์โมน อัลตราซาวน์ ซึ่งน่าจะราวๆ 5 โรงพยาบาลได้ค่ะ ทั้งรัฐบาลใหญ่ๆ เอกชนที่มีชื่อเสียง ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น แล้วเราก็คิดว่าคู่ของเรา ไม่ได้อายุเยอะขนาดนั้น เรากับสามี 30 ต้นๆ เองค่ะ พอตรวจไม่พบอะไร ทีนี้ก็เลยนั่งเสิร์ชกันแทน ซึ่งพอมาศึกษาจริงๆ ก็พบว่าการมีลูกยาก ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่อายุเยอะเท่านั้น (อันนี้เป็นความเข้าใจผิดของเราเองด้วย เพราะเข้าใจมาตลอดว่าอายุเยอะ=มีลูกยาก) เลยเริ่มว่าเล็งๆ คลินิกเฉพาะทางต่างๆ โทรไปถาม ได้ราคามาแต่ละที่ ก็ต้องมาเลือกแล้วว่าจะไปหาหมอที่ไหนกันดี เอาที่ใกล้บ้าน เพราะต้องเดินทางไปหลายครั้งอยู่ค่ะ
ก่อนจะไปคลินิกสามีเลยชวนไปปรึกษาผู้ใหญ่ คือพ่อแม่ทั้งเราทั้งสองคน ผลคือทางฝั่งเราน่ะไม่ติดอะไร ถ้าจะใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย เขาแค่อยากอุ้มหลาน แต่มันก็กลายเป็นปัญหาจนได้ เพราะทางฝั่งสามีไม่เห็นด้วยหลังชนฝา ในการทำเด็กหลอดแก้ว เขาให้เหตุผลว่า ทั้งสามีและเราไม่ได้มีความผิดปกติอะไร ยังไงก็ต้องมีลูกได้ ถ้าเขาจะไม่ว่าคือ ทำ IUI ค่ะ ใครที่ไม่รู้ว่าคืออะไร มันคือการเอาเชื้อของสามีฉีดเข้าที่โพรงมดลูก ลองเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ เราทั้งสองคนก็เลย อะ งั้นก็ IUI จะได้ไม่ผิดใจกับบ้านสามีด้วย
ร่างกายและจิตใจไม่มีปัญหา แต่อะไรละที่เป็นปัญหา
ตอนแรกเรากับสามีจะเลือกคลินิกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งแถวชิดลม แต่ด้วยราคาที่สูงประกอบกับคลินิกคนเยอะ คุณหมอคุยกับเราและสามีได้เพียงไม่กี่นาที เราเลยไม่ค่อยประทับใจค่ะ เลยเลือกไปอีกที่นึงใกล้ๆ กันตรงเพลินจิต ปรึกษาครั้งแรกกับคุณหมอ ค่อนข้างประทับใจเลย เพราะคุณหมอค่อนข้างให้เวลามาก ถามได้เยอะ ตรวจเรากับสามีค่อนข้างละเอียด บวกกับคนไม่เยอะจอแจเท่าที่แรก ก็เลยตกลงกันว่าจะทำที่นี่แหละ ผลการตรวจคือตัวอสุจิของสามีวิ่งดี เพราะสามีแข็งแรง ออกกำลังกายอาทิตย์ละหลายวัน เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบ เราก็แข็งแรงดี ค่าฮอร์โมนผ่านเกณฑ์ ประจำเดือนมาปกติดีทุกอย่าง คือโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีกันทั้งคู่ค่ะ แต่ทีนี้สาเหตุที่ไม่ท้องสักที อาจจะเป็นไปได้หลายอย่าง เช่น ต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ความเครียด หรืออื่นๆ ซึ่งบางทีสิ่งเหล้านี้ก็หาสาเหตุไม่ได้
จากนั้นก็แจ้งคุณหมอว่า เราทั้งคู่อยากที่จะลองทำ IUI ดูก่อน สัก 1-2 ครั้งถ้าไม่ติด ค่อยแอบบ้านสามีไปทำเด็กหลอดแก้ว หลังจากนั้นก็เข้าขั้นตอนทำ IUI ค่ะ ก็เลยได้ให้ยากระตุ้นไข่มากิน 5 วันค่ะ ซึ่งส่วนตัวเราโล่งอก ว่าไม่ใช่การฉีดยากระตุ้น อันนี้ถามแล้ว คุณหมอบอกว่าในกรณีที่เป็นยาฉีด จะทำให้ไข่ตกเยอะ เป็นสิบยี่สิบฟอง ซึ่งการทำ IUI ถ้าไข่ตกเยอะขนาดนั้น อาจจะได้แฝดไม่แท้หลายคนเลย เราอยากได้แค่ 1 คนค่ะ ดังนั้นเลยไม่ต้องฉีดยาเอง รอดไปๆ
วันขึ้นเขียง วันทำลูก
เรากินยาที่พยาบาลให้มาจนหมด หลังจากนั้นอีก 5 วัน คุณหมอก็นัดอัลตราซาวน์ค่ะ ไข่เราโตดีประมาณ 17-18 มิล แต่พบว่าเรามีไข่ถึง 6 ฟองด้วยกันค่ะ เป็นไปได้ว่าเป็นคนที่ไข่ตกมากกว่า 1 ฟองอยู่แล้ว ไข่โตโอเคแล้ว คุณหมอก็เลยให้เราเอายาให้ไข่ตกไปฉีดในตอนเย็นของวันนั้น ตอน 6 โมงเย็นค่ะ อันนี้เวลาสำคัญมาก แล้วจากนั้นอีก 2 วันจะนัดฉีดเชื้อ ในวันขึ้นเขียง เราต้องฉีดเชื้อประมาณเที่ยงค่ะ แต่คุณสามีต้องมาเก็บสเปิร์มก่อนหน้านั้น 2-3 ชั่วโมง ก่อนหน้าวันเก็บสเปิร์มคุณผู้ชายต้องเคลียร์สเปิร์มก่อน 4-5 วันนะคะ อันนี้คุณหมอจะบอกตั้งแต่แรกเลยค่ะ เพื่อให้สามีเตรียมตัว วันฉีดเชื้อ เราไปถึงตั้งแต่เช้าน่ะแหละค่ะ นั่งรอสามีเข้าห้อง หลังจากที่เก็บเชื้อสามี ทางคุณหมอก็จะไปทำการคัดเชื้อก่อนที่จะฉีดให้เรา
อันนี้ข้อควรระวังสำหรับคนที่ยังไม่รู้
เราเคยอ่านมาว่า ฉีดเชื้อเองโดยใช้ไซริงค์นั้น ไม่ควรนะคะ เพราะนอกจากอาจจะทำให้มดลูกเป็นแผลติดเชื้อได้ เราเห็นหลอดพลาสติกที่ใช้เเล้ว มันยาวมาก เพราะต้องสอดเข้าไปให้ลึกมากกว่าการสอดใส่เวลามีเซ็กซ์ เนื่องจากเวลาที่เซ็กซ์ปกติ มันจะมีแรงดันจากร่างกายของคุณผู้ชาย ทำให้น้ำอสุจิพุ่งแรง แต่ถ้าไม่มีแรงดันนี้ การสอดเพื่อฉีดเชื้อจึงต้องลึกกว่าปกติ ซึ่งใช้ไซริงค์ทั่วไป มันเข้าไปไม่ได้ค่ะ ตรงนี้หลายต่อหลายคน เข้าใจผิดนะ เราเคยอ่านเจอ ก็คิดว่าทำเองมันค่อนข้างอันตรายค่ะ
อะต่อๆ ในวันเดียวกันพอหลังจากคัดเชื้อเสร็จแล้ว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เราก็ได้ฤกษ์ไปขึ้นเขียง หรือขึ้นขาหยั่งเหมือนตรวจภายในค่ะ คุณหมอก็จะเอาเชื้อมาฉีดให้เรา หลังจากนั้นก็นอนพักอย่างน้อยๆ 2 ชั่วโมงค่ะ หลังฉีดก็ยกก้นให้สูงไว้สักนิดนึง อันนี้เป็นเรื่องขำเพราะเราดันหลับจริงจนคลินิกเกือบปิด เจ้าหน้าที่ก็มาเรียกเราให้ตื่นค่ะ อันนี้คุณสามีแฮปปี้เลย เพราะได้นั่งเล่นเกมยาวๆ ไป ไม่มีเรามาคอยกวน
หลังจากนั้นประมาณ 14 วัน ก็นัดตรวจเลือด ซึ่งผลออกมาว่า…..
ท้องค่ะ แต่ไม่ใช่ท้องเดียวนะ เป็นแฝด 3 ยิ้มทั้งน้ำตา 555 ซึ่งเอาจริงๆ ปาดเหงื่อกันทั้งคู่นะคะ แต่ที่บ้านเราและสามีคือดีใจกันมากๆ คลอดทีเดียว ปิดอู่ได้เลยค่ะ
สรุปให้ค่ะ สำหรับคนขี้เกียจอ่านเราเวิ้นเว้อ
- เป็นการทำ iui ของเราทั้งคู่ เพราะปล่อยเองแล้วไม่ติด
- เลือกทำที่คลินิก ibaby แถวเพลินจิต ไม่ใช่โรงพยาบาลค่ะ
- ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลนะคะ คลินิกไม่ได้รับฝาก
- ไปหาคุณหมอ 4 ครั้งค่ะ
1. ไปตรวจและรับยากระตุ้นไข่มากิน
2. ไปอัลตราซาวน์ และรับยาฉีดให้ไข่ตก
3. เก็บสเปิร์มและไปฉีด
4. ไปตรวจเลือด ฟังผลการตั้งครรภ์
- ค่าใช้จ่ายประมาณ 1 หมื่นมีทอนค่ะ จ่ายครั้งเดียวไม่ได้ทยอยจ่าย เพราะเราใช้ราคาโปร
- ของเราไม่มีค่าตรวจร่างกายและตรวจสเปิร์มประมาณ 3 พันค่ะ เพราะตรวจจากที่อื่นไปแล้ว