เทคนิคลือกเบาะรองนั่ง แก้ปัญหาปวดหลังให้ได้คุณภาพ
1. เลือกเบาะรองให้ถูกประเภท
เบาะรองเพื่อสุขภาพจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะของการใช้งาน คือ เบาะรองหลัง และเบาะรองนั่ง
เบาะรองหลัง เป็นเบาะที่ช่วยปรับท่านั่งใหม่ ช่วยป้องกันไม่ให้นั่งหลังงอ ซึ่งหากนั่งหลังงอเป็นเวลานาน ๆ จะส่งผลให้หลังค่อมได้ ตัวเบาะรองหลังจะถูกออกแบบมาให้รับกับสรีระด้านหลัง รวมถึงรองรับกระดูกสันหลัง โดยส่วนมากจะมีสายรัดกับเก้าอี้เพื่อให้สามารถปรับมุมได้ตามความเหมาะสม
เบาะรองนั่ง เป็นเบาะที่ช่วยลดการปวดเอวและก้นกบเนื่องจากการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ ควรเลือกใช้เบาะที่มีความหนาและแข็งแรง ไม่อ่อนเกินไป ความสูงต้องพอดีกับระดับตัว เมื่อนั่งแล้วต้องให้เท้าแตะพื้นได้พอดี ที่สำคัญคือ ต้องพอดีกับระดับสายตา โดยเฉพาะเวลาจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
2. เลือกความหนาให้พอดี ไม่มาก หรือไม่น้อยเกินไป
การเลือกเบาะรองหลังและเบาะรองนั่ง ควรเลือกใช้รุ่นที่มีความหนาพอดี เพราะหากบางเกินไปก็อาจจะทำให้รองรับน้ำหนักได้ไม่มาก การเลือกเบาะที่มีความหนาพอประมาณ นอกจากจะทำให้นั่งสบายแล้วยังช่วยให้ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นด้วย
3. เลือกขนาดที่พอเหมาะกับเก้าอี้
การเลือกเบาะรองหลังและเบาะรองนั่ง ควรเลือกรุ่นที่มีขนาดพอดีกับเก้าอี้ที่ใช้งาน เพราะหากใช้เบาะที่มีขนาดเล็กหรือแคบกว่าจะทำให้นั่งไม่สบาย รองรับสรีระได้ไม่ดี หรือหากใช้ขนาดใหญ่เกินไปก็อาจจะทำให้เกินที่นั่งได้เช่นกัน
4. เลือกรุ่นที่มีสายผูก
การเลือกเบาะรองนั่งและเบาะรองหลังเพื่อสุขภาพ ควรเลือกรุ่นที่มีสายผูกหรือสายสำหรับยึดกับเก้าอี้ เพราะจะทำให้นั่งได้สบาย ไม่พะวงว่าจะเคลื่อนที่ตามการขยับตัวจนเบาะร่วง โดยตัวสายเชือกนั้นมีทั้งแบบที่ผูกกับขาเก้าอี้และแบบยึดกับพนักพิง
5. เลือกรุ่นที่วัสดุดี นุ่ม และไม่อับชื้น
เบาะสำหรับรองนั่งและรองหลังที่ดีควรมีความนุ่มที่ไม่มากจนเกินไป เวลานั่งควรให้ความรู้สึกสบายตัวและกระชับกับสรีระ สามารถซัพพอร์ตบริเวณหลัง สะโพก และกระดูกก้นกบได้ สำหรับวัสดุที่ใช้ทำเบาะโดยส่วนมากแล้ว จะมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน คือ
ใยฝ้าย เป็นเส้นใยธรรมชาติที่มีความโปร่ง เบา และนุ่ม สามารถระบายอากาศได้ดี แต่ข้อเสียคือ คืนตัวได้ช้า ไม่ยืดหยุ่น เมื่อซักแล้วอาจะทำให้เกิดการหดตัวได้ง่าย
ใยโพลีเอสเตอร์ เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย คืนรูปได้ดี แต่มีข้อเสียคือ เรื่องการระบายอากาศไม่ค่อยดีนัก
เมมโมรี่โฟม เป็นวัสดุที่นิยมนำมาทำเบาะรองเพื่อสุขภาพมากที่สุด เพราะมีคุณสมบัติรองรับน้ำหนักได้ดี มีความยืดหยุ่น รับกับสรีระที่หลากหลาย แต่อาจมีราคาที่สูงกว่าเบาะประเภทอื่น ๆ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
เทคนิคลือกเบาะรองนั่ง แก้ปัญหาปวดหลังให้ได้คุณภาพ
1. เลือกเบาะรองให้ถูกประเภท
เบาะรองเพื่อสุขภาพจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะของการใช้งาน คือ เบาะรองหลัง และเบาะรองนั่ง
2. เลือกความหนาให้พอดี ไม่มาก หรือไม่น้อยเกินไป
การเลือกเบาะรองหลังและเบาะรองนั่ง ควรเลือกใช้รุ่นที่มีความหนาพอดี เพราะหากบางเกินไปก็อาจจะทำให้รองรับน้ำหนักได้ไม่มาก การเลือกเบาะที่มีความหนาพอประมาณ นอกจากจะทำให้นั่งสบายแล้วยังช่วยให้ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นด้วย
3. เลือกขนาดที่พอเหมาะกับเก้าอี้
การเลือกเบาะรองหลังและเบาะรองนั่ง ควรเลือกรุ่นที่มีขนาดพอดีกับเก้าอี้ที่ใช้งาน เพราะหากใช้เบาะที่มีขนาดเล็กหรือแคบกว่าจะทำให้นั่งไม่สบาย รองรับสรีระได้ไม่ดี หรือหากใช้ขนาดใหญ่เกินไปก็อาจจะทำให้เกินที่นั่งได้เช่นกัน
4. เลือกรุ่นที่มีสายผูก
การเลือกเบาะรองนั่งและเบาะรองหลังเพื่อสุขภาพ ควรเลือกรุ่นที่มีสายผูกหรือสายสำหรับยึดกับเก้าอี้ เพราะจะทำให้นั่งได้สบาย ไม่พะวงว่าจะเคลื่อนที่ตามการขยับตัวจนเบาะร่วง โดยตัวสายเชือกนั้นมีทั้งแบบที่ผูกกับขาเก้าอี้และแบบยึดกับพนักพิง
5. เลือกรุ่นที่วัสดุดี นุ่ม และไม่อับชื้น
เบาะสำหรับรองนั่งและรองหลังที่ดีควรมีความนุ่มที่ไม่มากจนเกินไป เวลานั่งควรให้ความรู้สึกสบายตัวและกระชับกับสรีระ สามารถซัพพอร์ตบริเวณหลัง สะโพก และกระดูกก้นกบได้ สำหรับวัสดุที่ใช้ทำเบาะโดยส่วนมากแล้ว จะมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน คือ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE