สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
รถคันเดียวในบ้าน เลือกรถที่reliabilityสูงสุดเท่าที่งบไหว ลองนึกดูมีเหตุด่วนต้องเดินทางไกลกลางดึก รถพร้อมแค่ไหน มีคนแก่ในบ้านป่วย รีบไปส่งรพ.รถแบบไหนถึงพร้อมใช้ที่สุด?
ถ้าคันสองสามสี่ในบ้าน มีรถพร้อมสลับใช้หากมีปัญหา ก็เลือกตามใจชอบ
ev เป็นรถอนาคต แต่ไม่ใช่รถปัจจุบัน ข้อเสียยังมีเยอะ หลายคนรับได้ก็ดีไป มีเงินพร้อมซื้อพร้อมใช้ก่อนก็ดีไป ข้อเสียข้อใหญ่มากๆคือขับทางไกลยังไม่ไหว หาจุดเติมชาร์จด่วนยาก ต้องวางแผนเหมือนสมัยน้ำมันแพงใหม่ๆ ต้องmarkจุดปั๊มแก็สลงแผนที่กระดาษ(สมัยนั้นGPSยังแพง) แชร์ตำแหน่งกันในบอร์ดเล็กๆ
ถ้าใครเคยไปนั่งรอแก็ส ตอนแก็สหมดปั๊ม รถรถมาส่งอีกสามชั่วโมงคงพอเข้าใจ ตอนนั้น เบนซินลิตรละเกือบ50 บาทเลย รถรุ่นเก่าเติมE10ยังไม่ได้ต้องจำทนเปลี่ยนมาใช้แก็สที่จุกจิกร้อยแปด พอน้ำมันกลับมาถูกลงก็ถอดระบบแก็สทิ้งกันเกือบหมด
ที่แน่ๆจะใช้รถevตอนนี้ ต้องมีบ้านส่วนตัว อยู่คอนโด ติดระบชาร์จเองไม่ได้อีกตะหาก
อีกอย่างรถevค่าเดินทางตอนนี้ถูกเพราะค่าไฟบ้านเราถูก ลองใช้กันเยอะๆ ค่าไฟขึ้นแน่นอน ประเทศที่เจริญแล้วค่าไฟหน่วยละสิบบาท จ่ายกันไหวไหม?
ป.ล.1 สำหรับคนไม่รู้ PTT เป็นเอกชนไทยที่ลงทุนในรถevมากที่สุดในประเทศก็ว่าได้ ดูข้อตกลงความร่วมมือกับfoxconn นะ ส่วนรัฐจะสนับสนุนev ในประเทศมันต้องส่งเสริมให้ผลิตในประเทศเป็นหลัก จะได้เกิดงาน เกิดsupply chain ไม่ใช่ไปลดภาษีให้นำเข้าถูกๆ แล้วอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นGDPอันดับหนึ่งในประเทศเจ๊งหมด คนตกงานอีกเป็นล้าน อย่าคิดแคบสั้น แค่อยากได้รถนำเข้าถูกๆ โดยไม่สนใจภาพรวมอะไรเลย
ถ้าคันสองสามสี่ในบ้าน มีรถพร้อมสลับใช้หากมีปัญหา ก็เลือกตามใจชอบ
ev เป็นรถอนาคต แต่ไม่ใช่รถปัจจุบัน ข้อเสียยังมีเยอะ หลายคนรับได้ก็ดีไป มีเงินพร้อมซื้อพร้อมใช้ก่อนก็ดีไป ข้อเสียข้อใหญ่มากๆคือขับทางไกลยังไม่ไหว หาจุดเติมชาร์จด่วนยาก ต้องวางแผนเหมือนสมัยน้ำมันแพงใหม่ๆ ต้องmarkจุดปั๊มแก็สลงแผนที่กระดาษ(สมัยนั้นGPSยังแพง) แชร์ตำแหน่งกันในบอร์ดเล็กๆ
ถ้าใครเคยไปนั่งรอแก็ส ตอนแก็สหมดปั๊ม รถรถมาส่งอีกสามชั่วโมงคงพอเข้าใจ ตอนนั้น เบนซินลิตรละเกือบ50 บาทเลย รถรุ่นเก่าเติมE10ยังไม่ได้ต้องจำทนเปลี่ยนมาใช้แก็สที่จุกจิกร้อยแปด พอน้ำมันกลับมาถูกลงก็ถอดระบบแก็สทิ้งกันเกือบหมด
ที่แน่ๆจะใช้รถevตอนนี้ ต้องมีบ้านส่วนตัว อยู่คอนโด ติดระบชาร์จเองไม่ได้อีกตะหาก
อีกอย่างรถevค่าเดินทางตอนนี้ถูกเพราะค่าไฟบ้านเราถูก ลองใช้กันเยอะๆ ค่าไฟขึ้นแน่นอน ประเทศที่เจริญแล้วค่าไฟหน่วยละสิบบาท จ่ายกันไหวไหม?
ป.ล.1 สำหรับคนไม่รู้ PTT เป็นเอกชนไทยที่ลงทุนในรถevมากที่สุดในประเทศก็ว่าได้ ดูข้อตกลงความร่วมมือกับfoxconn นะ ส่วนรัฐจะสนับสนุนev ในประเทศมันต้องส่งเสริมให้ผลิตในประเทศเป็นหลัก จะได้เกิดงาน เกิดsupply chain ไม่ใช่ไปลดภาษีให้นำเข้าถูกๆ แล้วอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นGDPอันดับหนึ่งในประเทศเจ๊งหมด คนตกงานอีกเป็นล้าน อย่าคิดแคบสั้น แค่อยากได้รถนำเข้าถูกๆ โดยไม่สนใจภาพรวมอะไรเลย
ความคิดเห็นที่ 18
ณ ตอนนี้ ยังบอกอะไรที่ชัดเจนได้ยาก
1. conflict of interest ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ต้องบอกก็คงจะคิดออกนะครับว่า หุ้นที่ใหญ่ทีสุดของบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในบ้านเราเป็นของใคร ทำให้ตรงนี้แหละ ที่รถไฟฟ้ายังไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างที่ควรจะเป็น
2. รถ EV ตอนนี้มีปัญหาเรื่อง ค่าเบี้ยประกันสูงมาก รวมถึงหลายบ.ประกันไม่ยอมรับทำประกัน
3. เราอาจจะหนีจากกรอบปัญหาหนึ่ง ไปสู่อีกกรอบปัญหาหนึ่ง ลองคิดดูง่ายๆ รถไฟฟ้าหนึ่งคันมีแบตเตอรี่ ขนาด 50-70 KW ถ้าเอาวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมมาคำนวณโดยไม่ต้องชดเชยค่าการสูญเสียใด เราชาร์จแบตเตอรี่ ด้วยกำลังไฟ 5-7 KW ต่อเนื่องกัน 10 ชม. แล้วทุกๆบ้านก็ทำแบบนี้กันหมด ความสามารถในการชดเชยพลังงานตรงนี้ของผู้ผลิตไฟฟ้า ณ ปัจจุบันนี้ไหวไหม ? สุดท้ายระบบผลิตไฟฟ้าในบ้านเราก็คือใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอยู่ดี เราอาจจะคิดว่า องค์กรที่ผลิตไฟฟ้า "น่าจะ"ควบคุมมลพิษที่ปล่อยออกมาได้ดีกว่า แต่คิดว่าจริงหรือ? โดยเฉพาะในบ้านเราเอง ที่รู้กันอยู่ว่า เป็นเช่นไร
4. เมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน ปัญหาคือ ถึงเวลานั้น การrecycle เอาสารพิษ โลหะพิษในแบตเตอรี่นั้นๆกลับมาใช้ใหม่ ทำได้จริงจังแค่ไหน หรือ ปล่อยให้มีการปนเปื้อนกับสภาพแวดล้อมไปก่อน แล้วค่อยเอาไป recycle
ซื้อก่อน ใช้ก่อน คำนี้คงจะต้องยอมรับว่ามันใช่
คนที่ใช้มาก่อน เขาก็มีความสุขแบบของเขา แต่เราอาจจะมองในแง่มุมของเรา อันนี้แล้วแต่ความเห็นส่วนบุคคล
สำหรับประเทศไทย ณ เวลานี้ ถ้าไม่มีรถใช้เลย EVยังตอบโจทย์ได้ไม่ครบ แต่ถ้ามีรถในบ้าน และเผื่อ EV เป็นรถคันทีสอง หรือ สาม อันนี้ก็แล้วแต่จะพิจารณาครับ
1. conflict of interest ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ต้องบอกก็คงจะคิดออกนะครับว่า หุ้นที่ใหญ่ทีสุดของบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในบ้านเราเป็นของใคร ทำให้ตรงนี้แหละ ที่รถไฟฟ้ายังไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างที่ควรจะเป็น
2. รถ EV ตอนนี้มีปัญหาเรื่อง ค่าเบี้ยประกันสูงมาก รวมถึงหลายบ.ประกันไม่ยอมรับทำประกัน
3. เราอาจจะหนีจากกรอบปัญหาหนึ่ง ไปสู่อีกกรอบปัญหาหนึ่ง ลองคิดดูง่ายๆ รถไฟฟ้าหนึ่งคันมีแบตเตอรี่ ขนาด 50-70 KW ถ้าเอาวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมมาคำนวณโดยไม่ต้องชดเชยค่าการสูญเสียใด เราชาร์จแบตเตอรี่ ด้วยกำลังไฟ 5-7 KW ต่อเนื่องกัน 10 ชม. แล้วทุกๆบ้านก็ทำแบบนี้กันหมด ความสามารถในการชดเชยพลังงานตรงนี้ของผู้ผลิตไฟฟ้า ณ ปัจจุบันนี้ไหวไหม ? สุดท้ายระบบผลิตไฟฟ้าในบ้านเราก็คือใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอยู่ดี เราอาจจะคิดว่า องค์กรที่ผลิตไฟฟ้า "น่าจะ"ควบคุมมลพิษที่ปล่อยออกมาได้ดีกว่า แต่คิดว่าจริงหรือ? โดยเฉพาะในบ้านเราเอง ที่รู้กันอยู่ว่า เป็นเช่นไร
4. เมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน ปัญหาคือ ถึงเวลานั้น การrecycle เอาสารพิษ โลหะพิษในแบตเตอรี่นั้นๆกลับมาใช้ใหม่ ทำได้จริงจังแค่ไหน หรือ ปล่อยให้มีการปนเปื้อนกับสภาพแวดล้อมไปก่อน แล้วค่อยเอาไป recycle
ซื้อก่อน ใช้ก่อน คำนี้คงจะต้องยอมรับว่ามันใช่
คนที่ใช้มาก่อน เขาก็มีความสุขแบบของเขา แต่เราอาจจะมองในแง่มุมของเรา อันนี้แล้วแต่ความเห็นส่วนบุคคล
สำหรับประเทศไทย ณ เวลานี้ ถ้าไม่มีรถใช้เลย EVยังตอบโจทย์ได้ไม่ครบ แต่ถ้ามีรถในบ้าน และเผื่อ EV เป็นรถคันทีสอง หรือ สาม อันนี้ก็แล้วแต่จะพิจารณาครับ
แสดงความคิดเห็น
ระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า กับ รถยนต์น้ำมัน ถ้าระยะยาวตอนนี้เอาอะไรดีครับ