เมื่อวันที่27/11/64 เราทำงานอยู่พอเที่ยงกว่าๆมีรถไหลมาจากอีกฝั่งชนรถเราถึงในบ้าน ซึ่งรถเราพึ่งออกมาแค่18วัน เอง ได้ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีลงบันทึกประจำวัน ที่หลักๆคือ ท้ายบุบปิดฝาท้ายไม่สนิท กันชนบุบ ไฟท้ายแตกเซนเซอร์ถอยหลังใช้การไม่ได้  ประกันฝ่ายคุ่กรณีบอกว่าขับๆไปก่อน  เราไม่ยอม ประกันฝ่ายเราเรียกรถยกมาให้พาไปถึงอู่ที่ซ่อมถึงวันที่27 นั้นเลย  แต่อู่เซนรถเข้าซ่อม29/11/64 และในวันรุ่งเช้าอู่แกะดูว่าเสียหายตรงไหน ประกฎว่า เสียหายไปถึงข้างในเลยจ่ะ บุบถึงโครงสร้างจากโรงงาน  และวันที่1 /12/64ประกันมาประเมินความเสียหาย  ก็ตามที่บอกไปข้างต้น  แต่ว่ามีเพิ่มมาคือโครงสร้างข้างหลังที่ยุบไป เค้าบอกว่าถ้าเปลี่ยนคือต้องเลาะกาวจากโรงงานเดิมออก ซึ่งรถจะช้ำมากกว่าเดิมจากที่ช้ำอยู่แล้ว  แต่ถ้าไม่เปลี่ยนต้องเคาะ ซึงเราเลือกเคาะ  เพราะจะช้ำน้อยกว่า  แต่หมายความว่า  รถเราเสื่อมสภาพไปแล้ว ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมจากโรงงานแล้ว คือเสียใจหนักมาก   พอประกันโทรมาเคลียว่าแบบนี้แบบนี้ก็จัดการให้ซ่อมประกันก็สั่งอะไหล่  มา  รอนานมากประมาณ3เกือบ4อาทิต  พอมาถึงเราโทรไปเชค  อู่บอกว่าที่เค้าส่งมาตำหนิ1ชิ้น ซึ่งต้องตีกลับ  และก็ตีกลับ รอของไปอีก  รอๆจนมาและเค้าทำสี  ประกอบเสร้จทุกอบย่าง  ตั้งแต่เอารถไป27/11/64 อุ่เซนรับรถ29/11/64 รับรถ8/1/64  เป็นเวลา41วัน  เราก็ไปเรียกร้องค่าชดเชยที่ขาดผลประโยชน์ไป เพราะเราต้องใช้รถคันนี้ขับไปรับลุกค้าทำเล็บต่อขนตานอกสถานที่  แต่แน่นอนเราขาดปนะโยชน์จากการใช้รถตรงนี้  เราเลยเรียกทั้งค่าขาดประโยชน์และค่าเสือมสภาพไป   ยื่นเอกสารที่ประกันสาขาย่อยฝ่ายคู่กรณีเรียบร้อย  เค้าบอก3วันโทรมา วันที่3โทรมา บอกให้ได้แค่10วัน วันละ500อันนี้บอกปากเปล่า  ซึ่งเราไม่ยอม  เราควรทำไงดีคะ  คือเครียดมากรู้สึกไม่ยุติธรรมเลย เพราะแน่นอนถ้าเราไม่จำเป็นใช้รถเราคงไม่ออกรถคันนี้มา