เรื่องเขาจะฟ้องหรือไม่ฟ้องเป็นสิทธิ์เขานะ กฎหมายมีไว้เพื่อปกป้องสิทธิ์ เขาย่อมใช้สิทธิ์นั้นได้ ส่วนเรื่องที่เขาไปฉีดวัคซีนหรือไม่ฉีดวัคซีน เป็นสิทธิ์เขาเช่นกัน เป็นสิทธิ์พึงมีพึงได้ ในฐานะปวงชนชาวไทย

แต่จากการอ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกว่าเมืองไทยช่างมีเวรมีกรรมเสียจริง เพราะมีกลุ่มคนบางคนมันย้อนแย้งพิกล เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างที่พูดอย่างทำอย่างมากมายเหลือเกิน

เช่น เรื่อง ๑๑๒ ซึ่งเป็นกฎหมายที่อยู่บนฐานหมิ่นประมาท ในขณะที่ตัวเองกำลังรณรงค์ยกเลิกด้วยอ้างสิทธิในการพูด แต่พอเจอฤทธิ์ปากคนที่ล้ำเส้นเกินกว่าวิจารณ์เข้าไปหน่อยก็ทนไม่ไหว กลับไปใช้กฎหมายที่อยู่ฐานหมิ่นประมาทฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิ์ตนเช่นกัน แล้วประเด็นที่ตัวเองต่อสู้เรียกร้องมามันคืออะไรล่ะ?

สรุปว่าเรื่องเสรีภาพในการพูดวิจารณ์มันควรมีขอบเขตใช่มั้ย?

หรืออย่างไปการไปฉีดวัคซีน ใครตามข่าวจะจำได้เลยว่ามีการออกข่าวโจมตี ด้อยค่าวัคซีนที่รัฐบาลมี จนประชาชนบางกลุ่มคล้อยตามไม่กล้าฉีด และเมื่อโรคระบาดแพร่ไปทั่ว คนที่ไม่ได้ฉีดก็ป่วยไข้ล้มตาย แต่ครั้นเวลาผ่านไป ผลปรากฏว่าฉีดดีกว่าไม่ฉีด และในกลุ่มที่ฉีดก็มีอัตราการตายน้อยกว่าคนที่ไม่ฉีดด้วย มันเลยเกิดคำถามว่าทำไมในช่วงขณะเดียวกันที่เกิดการด้อยค่า ผู้ที่แสดงตัวว่าเป็นตัวแทนของประชาชนกลับไม่เชิญชวนให้ประชาชนไปฉีด ซ้ำยังออกมาร่วมด้อยค่าอีก แต่ตัวเองกลับไปฉีดวัคซีนที่ตัวเองได้ด้อยค่านั้นเสียเอง

สรุปว่าตัวเองรู้อยู่เต็มอกใช่มั้ยว่าวัคซีนที่รัฐบาลมีอยู่ในตอนนั้นดีอยู่แล้ว แต่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มตน ถึงได้ยอมให้เกิดการสูญเสียแก่ประชาชนอย่างใจร้ายใจดำ

อีกประการหนึ่ง วัคซีนที่ตัวเองฉีดเป็นยี่ห้ออะไรล่ะ? ใช่วัคซีนที่ผลิตมาจากโรงงานสยามไบโอไซเอนซ์หรือเปล่า? ยังจำได้มั้ยว่ากลุ่มตัวเองพูดว่าอย่างไรเกี่ยวกับบริษัทนี้ นี่ยังไม่รวมกับพวกที่แอบไปฉีดวัคซีนเสิ่นเจิ้นด้วยนะ ถ้ามันห่วยขนาดนั้นแล้วจะไปหาพระแสงของ้าวแล้วออกมาด้อยค่าจนคนไม่กล้าไปฉีดอีกทำไม?

นี่ยังไม่รวมพฤติกรรมล้มอำมาตย์เพื่อจะเป็นอำมาตย์อย่างไม่เกี่ยงวิธี มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ด่าคนที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนว่าเป็นนักบุญด้วยทุนคนอื่น แต่กลุ่มการเมืองเองกลับขยับแต่นิ้วเพื่อพิมพ์ด่า ขยับแต่ปากเพื่อติเตียน ปลอมประวัติศาสตร์ ออกหนังสือทางวิชาการบิดเบือน หลอกเด็กไปติดคุก ซื้อสื่อเพื่อเสี้ยม ติดต่อต่างชาติเพื่อขอทุนสนับสนุน ฯลฯ

ไม่ได้ว่ารัฐบาลลุงดีเด่อะไรนะ แต่ในภาวะที่คนไทยต้องการผู้นำที่ดีกว่าเก่า กลับมากับภาวะซวยซ้ำซวยซ้อน เพราะกลุ่มการเมืองที่อ้างตนเป็นคนรุ่นใหม่ กลับมีพฤติกรรมเลวทรามไม่ต่างกัน จะมีก็แต่การกล่าวหยาบคาย เต้าข่าวปลอม ล้ำเส้น ย้อนแย้ง ฯลฯ ที่พัฒนาขึ้น