สวัสดีค่ะ เราจะทำยังไงกับครอบครัวตัวเองดี พ่อกับแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเด็ก (ทางคุณพ่อไม่เคยส่งเสียเลย) มีแต่แม่ที่ส่งเราเรียนจบมหาวิทยาลัย ตอนนี้เราทำงาน มีเงินเก็บที่เหลือจากเงินเดือน เดือนละ 13,000 บาท (หักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว) ช่วงที่เรียนมหาลัยเราทำงานเสริมด้วยนะคะและกู้ กยศ ค่าหอจ่ายเอง ค่ากินแม่ให้อาทิตย์ละ 500 บาท นอกนั้นคือเงินตัวเองที่ได้จากการทำงาน อยากได้อะไรก็เก็บเงินซื้อเอง ตอนนี้เราส่งให้แม่ใช้ ค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าwifi เรารับผิดชอบ รู้สึกดีใจที่ตัวเองทำงานส่งครอบครัวได้ แต่ตอนนี้ท้อมากเลยให้เงินแม่เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เงินเดือนออกปุ้บเราจะโอนให้แม่ให้ยายทันที ผ่านมา1อาทิตย์แม่จะใช้คำว่า เงินไม่พอขอยืมเงินหน่อย เราก็โอนให้ แม่ชอบแต่งตัวและใช้เงินเก่งมาก ที่ให้เพราะอยากตอบแทนบุญคุณ เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นแต่แค่อยากให้แม่ถามเราบ้างว่ากินข้าวยัง สบายดีไหม แค่นี้ก็ดีใจ แต่ทุกครั้งที่คุยกันจะมีแค่เรื่องเงิน โคตรเหนื่อยเลยจริงๆ ตอนนี้เราอายุ 23 แม่ก็เอาแต่พูดว่าอิจฉาลูกคนอื่นที่พาแม่ไปเที่ยว ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่เราไม่มี (มีบ้านอยู่ รถยนต์มีนะคะ) แต่เค้าจะกดดันเราตลอด เราก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าแม่จะขอทุกๆอาทิตย์ขนาดนี้จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อใหม่ แม่เราอายุ40ต้นๆนะคะทำงานแต่ไม่เคยมีเก็บเพราะใช้เงินฟุ่มเฟือย และยังแอบไปสร้างหนี้ ซื้อเหล้าซื้อเบียร์ให้คนในหมู่บ้านกิน พอเราบอกเดือนนี้ช็อตยืมสักสองร้องได้ไหมไว้กินข้าวแต่แม่เราให้ไม่ได้ แต่เลี้ยงคนอื่นได้ น้อยใจครอบครัวมากค่ะ นอนร้องไห้เกือบทุกวัน พี่ๆน้องๆ ก็มีแต่ทักมาขอมายืม ไม่เคยถามสารทุกข์สุขดิบ คิดนะคะว่าทำกรรมอะไรนักหนาทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ จะคุยกับแม่ยังไงดีเคยพูดไปแล้วเค้าก็ชอบทวงบุญคุณที่ส่งเรียน ตอนนี้มีแค่ยายที่โทรหา ยายเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก เพราะไม่ได้อยู่กับแม่ ยายจะชอบถามว่าให้แต่คนอื่นตัวเองมีกินไหม เอาเงินกับยายไหม ยายมีเงินคนแก่ กินข้าวบ้างนะลูก สู้ๆนะ คำพูดยายทำให้เราฮีลตัวเองได้มากเลย
บางทีครอบครัวก็ไม่ใช่เซฟโซน