💬💬💬
เป็นหนังอีกเรื่องที่พยายามหาเวลาตามเก็บตกมันอยู่ เพราะตอนที่หนังเข้าฉายเป็นช่วที่มีโควิดอยู่พอสมควร เลยไม่ได้มีโอกาสดู แต่ที่อยากดูเพราะเห็นว่าคอนเซ็ปต์ของหนังมันน่าสนใจ บวกกับหนังเรื่องนี้เป็นการฉีกภาพลักษณ์ของนักแสดงสาว Daisy Ridley ที่คนติดภาพของ Ray ใน Star Wars ไปซะแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอได้รับบทคาแรคเตอร์ใหม่ที่ฉีกออกมา บวกกับเจ้าหนู Tom Holland ที่หนีบท Spider-Man มา
💬💬💬
เรื่องราวของโลกอนาคตดิสโทเปีย เกิดเชื้อโรคแปลกประหลาดคร่าสิ่งมีชีวิตเพศหญิงจนหมดสิ้น ส่วนผู้ชายทุกคนที่เหลืออยู่จะเกิดอาการบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมตัวได้ ทุกความคิดในหัวมันจะถูกถ่ายถอดออกมาเป็นภาพ กระทั่งวันหนึ่ง “ทอดด์ ฮิววิตต์” เด็กหนุ่มที่ออกเดินทางพร้อมกับสุนัขตัวโปรดได้พบกับ “วิโอล่า” ผู้หญิงคนแรกในชีวิต สิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ เหตุการณ์นี้นำไปสู่เรื่องราวแห่งการร่วมผจญภัยค้นหาความลับอีกจักรวาลของโลก และหนีให้พ้นจากอานุภาพของ “เดอะ นอยซ์”
💬💬💬
การเล่าเรื่องของหนังตั้งแต่ต้นเรื่องมีความน่าสนใจและดึงดูดให้น่าติดตามเยอะพอสมควร หนังเป็นแนว Sci-Fi Adventure ที่ผสมผสานการผจญภัยกับโลกอนาคตไว้ด้วยกันอย่างกลมกล่อม การเล่าแบบที่ไม่ต้องเกริ่นนำอะไรเยอะ แล้วค่อยๆ ปล่อยของออกมาเรื่อยๆ มันทำให้คนดูต้องติดตามเรื่องราวอยู่ตลอดเวลา เพราะหนังจะทะยอยปล่อยหมัดออกมาทีละน้อยๆ จนถึงหมัดฮุค
💬💬💬
ไอเดียต่างๆ ของโลกอนาคตที่หนังใส่เข้าไปมันคือจินตนาการที่บอกเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ เพียงแต่ว่า หนังอาจจะใส่ไอเดียหลากหลายลงไปเยอะแยะมากมาย แต่กลับไม่ได้พูดถึงทุกอย่าง บางอย่างที่ใส่ลงไปก็เหมือนกับใส่มาแล้วก็ปล่อยผ่านไป หรือบางอย่างก็ใส่เข้ามาแต่ไม่ได้มีบทขยายความให้คนดูเข้าถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เดอะ นอยซ์" ที่เป็นแกนหลักของเรื่องราวที่เป็นเหมือนปริศนาที่น่าค้นหามากที่สุด แต่หนังก็บอกแค่ว่ามันคือโรคประหลาดที่เกิดขึ้นกับผู้ชายในโลกอนคตเท่านั้นเอง หรือแม้แต่ตัวเอเลี่ยนในเรื่องที่โผล่ออกมาอย่างน่ากลัวสองสามครั้ง ซึ่งน่าเสียดายว่ามันน่าจะต่อยอดไปได้ไกลกว่าแค่เสียงที่หนวกหูตลอดทั้งเรื่อง
💬💬💬
เรื่องนักแสดงถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้ Daisy Ridley สลัดความเป็น Ray ออกไปได้อย่างสิ้นเชิง ตอนแรกอาจจดูคล้ายๆ เพราะเรายังคงติดภาพความเป็นนาเอกหนังแอ็คชั่นอยู่ แต่ยิ่งเรื่องราวเดินไปเท่าไหร่ ความเฉิดฉายของ Daisy ยิ่งออกมาแย่งซีนหนังได้มากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับเจ้าหนู Tom Holland ที่เข้ากับบทบาทของ ท็อดด์ เหลือเกิน เด็กหนุ่มที่มีแต่ความยุ่งเหยิงและความเวิ่นเว้ออยู่ในหัว ส่วนตัวละครอื่นๆ ผมว่าหนังใช้ตัวละครสิ้นเปลืองเกินไป นักแสดงอย่าง Nick Jonas และ Mads Mikkelsen บทน่าจะดีกว่านี้ โดยเฉพาะคนหลังที่เป็นตัวร้ายที่สุดของเรื่อง แต่แทบไม่มีอะไรเลย
💬💬💬
สำหรับหนังเรื่องนี้ ถือว่าเล่าเรื่องได้น่าติดตามและสนุกพอสมควร แต่ถามว่ามีอะไรประทับใจจนน่าจดจำมั๊ย ก็ไม่ ถือว่าเป็นหนังกลางๆ ที่ดูได้สนุก แต่ยังธรรมดาไปนิดครับ เสียดายคอนเซ็ปต์หนังที่ไม่ค่อยได้เอาออกมาพูดถึงสักเท่าไหร่
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] ตามเก็บ Chaos walking จิตปฏิวัติโลก - หนัง concept ล้ำๆ ที่ดูเอาสนุก แต่ยังไม่มีอะไรให้จดจำ
💬💬💬
เป็นหนังอีกเรื่องที่พยายามหาเวลาตามเก็บตกมันอยู่ เพราะตอนที่หนังเข้าฉายเป็นช่วที่มีโควิดอยู่พอสมควร เลยไม่ได้มีโอกาสดู แต่ที่อยากดูเพราะเห็นว่าคอนเซ็ปต์ของหนังมันน่าสนใจ บวกกับหนังเรื่องนี้เป็นการฉีกภาพลักษณ์ของนักแสดงสาว Daisy Ridley ที่คนติดภาพของ Ray ใน Star Wars ไปซะแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอได้รับบทคาแรคเตอร์ใหม่ที่ฉีกออกมา บวกกับเจ้าหนู Tom Holland ที่หนีบท Spider-Man มา
💬💬💬
เรื่องราวของโลกอนาคตดิสโทเปีย เกิดเชื้อโรคแปลกประหลาดคร่าสิ่งมีชีวิตเพศหญิงจนหมดสิ้น ส่วนผู้ชายทุกคนที่เหลืออยู่จะเกิดอาการบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมตัวได้ ทุกความคิดในหัวมันจะถูกถ่ายถอดออกมาเป็นภาพ กระทั่งวันหนึ่ง “ทอดด์ ฮิววิตต์” เด็กหนุ่มที่ออกเดินทางพร้อมกับสุนัขตัวโปรดได้พบกับ “วิโอล่า” ผู้หญิงคนแรกในชีวิต สิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ เหตุการณ์นี้นำไปสู่เรื่องราวแห่งการร่วมผจญภัยค้นหาความลับอีกจักรวาลของโลก และหนีให้พ้นจากอานุภาพของ “เดอะ นอยซ์”
💬💬💬
การเล่าเรื่องของหนังตั้งแต่ต้นเรื่องมีความน่าสนใจและดึงดูดให้น่าติดตามเยอะพอสมควร หนังเป็นแนว Sci-Fi Adventure ที่ผสมผสานการผจญภัยกับโลกอนาคตไว้ด้วยกันอย่างกลมกล่อม การเล่าแบบที่ไม่ต้องเกริ่นนำอะไรเยอะ แล้วค่อยๆ ปล่อยของออกมาเรื่อยๆ มันทำให้คนดูต้องติดตามเรื่องราวอยู่ตลอดเวลา เพราะหนังจะทะยอยปล่อยหมัดออกมาทีละน้อยๆ จนถึงหมัดฮุค
💬💬💬
ไอเดียต่างๆ ของโลกอนาคตที่หนังใส่เข้าไปมันคือจินตนาการที่บอกเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ เพียงแต่ว่า หนังอาจจะใส่ไอเดียหลากหลายลงไปเยอะแยะมากมาย แต่กลับไม่ได้พูดถึงทุกอย่าง บางอย่างที่ใส่ลงไปก็เหมือนกับใส่มาแล้วก็ปล่อยผ่านไป หรือบางอย่างก็ใส่เข้ามาแต่ไม่ได้มีบทขยายความให้คนดูเข้าถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เดอะ นอยซ์" ที่เป็นแกนหลักของเรื่องราวที่เป็นเหมือนปริศนาที่น่าค้นหามากที่สุด แต่หนังก็บอกแค่ว่ามันคือโรคประหลาดที่เกิดขึ้นกับผู้ชายในโลกอนคตเท่านั้นเอง หรือแม้แต่ตัวเอเลี่ยนในเรื่องที่โผล่ออกมาอย่างน่ากลัวสองสามครั้ง ซึ่งน่าเสียดายว่ามันน่าจะต่อยอดไปได้ไกลกว่าแค่เสียงที่หนวกหูตลอดทั้งเรื่อง
💬💬💬
เรื่องนักแสดงถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้ Daisy Ridley สลัดความเป็น Ray ออกไปได้อย่างสิ้นเชิง ตอนแรกอาจจดูคล้ายๆ เพราะเรายังคงติดภาพความเป็นนาเอกหนังแอ็คชั่นอยู่ แต่ยิ่งเรื่องราวเดินไปเท่าไหร่ ความเฉิดฉายของ Daisy ยิ่งออกมาแย่งซีนหนังได้มากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับเจ้าหนู Tom Holland ที่เข้ากับบทบาทของ ท็อดด์ เหลือเกิน เด็กหนุ่มที่มีแต่ความยุ่งเหยิงและความเวิ่นเว้ออยู่ในหัว ส่วนตัวละครอื่นๆ ผมว่าหนังใช้ตัวละครสิ้นเปลืองเกินไป นักแสดงอย่าง Nick Jonas และ Mads Mikkelsen บทน่าจะดีกว่านี้ โดยเฉพาะคนหลังที่เป็นตัวร้ายที่สุดของเรื่อง แต่แทบไม่มีอะไรเลย
💬💬💬
สำหรับหนังเรื่องนี้ ถือว่าเล่าเรื่องได้น่าติดตามและสนุกพอสมควร แต่ถามว่ามีอะไรประทับใจจนน่าจดจำมั๊ย ก็ไม่ ถือว่าเป็นหนังกลางๆ ที่ดูได้สนุก แต่ยังธรรมดาไปนิดครับ เสียดายคอนเซ็ปต์หนังที่ไม่ค่อยได้เอาออกมาพูดถึงสักเท่าไหร่
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้