ต่อจากกระทู้นี้นะคะ
https://m.ppantip.com/topic/41192906?fbclid=IwAR03Qmqq3dmmd8NNOZFw9-tdEVFbodo2Q_VMzKj2mHcDHcDI7eDej7v-7ZI
ตอนนี้ปัญหาน่าจะแก้ได้ส่วนนึง เพราะจากกระทู้นั้น หลายคนบอกให้เราลองกลับบ้านพ่อ/แม่ดู
เราก็กลับค่ะ วันนี้วันที่ 4 แล้วที่พาเด็กๆมาเที่ยวบ้านตา-ยาย สุขสบายจนอดคิดไม่ได้ว่าอยากอยู่นานๆจัง
แต่สามีโทรตามกลับบ้านแล้วค่ะ
เราสองคนคบกันมาตั้งแต่เรียน จนทำงาน จนเก็บเงินซื้อบ้านด้วยกัน จะไม่ได้จบปัญหาด้วยการหย่าแน่ๆค่ะ
เราทิ้งบ้านออกไป ไม่ซื้อไข่ หมู ผัก ข้าวใดๆติดบ้านไว้ ก็ไหนๆไม่ให้เงิน ตู้เย็นก็จะโล่งๆ เหลือแค่นมที่ลูกเจาะแล้วดื่มไม่หมดไว้
เพราะมีบางความเห็นแนะนำว่าควรให้เค้ารู้ว่ามันลำบาก ไม่ใช่เราไป support เค้าจนเค้าไม่รู้ถึงความจำเป็นในการใช้จ่าย
วันแรกสามีทักมาว่าสั่งข้าวมากิน เราก็อือๆออๆ ไม่ค่อยตอบ เพราะอารมณ์เบื่อๆ
จนเมื่อวานเริ่มบอกว่าไม่ไหวแล้ว กินข้าวไม่ตรงเวลา ปวดท้อง กาแฟก็ไม่รู้ว่าเราซื้อให้จากร้านไหน กดสั่งเองไม่ถูก ทำงานแล้วหงุดหงิด ตามประสาคนติดกาแฟ แม่สามีก็ทำอาหารซ้ำๆจนเค้าก็เบื่อ
(ปกติเราทำอาหารให้ มีบ้างที่กดสั่ง แต่นิสัยเค้าคือจะทานอาหารไม่ซ้ำ ไม่ทานอาหารเย็นชืด ไม่ทาน junk food เรียกว่าก็ต้องรู้ใจระดับนึงถึงจะทำอาหารถูกปาก)
เลยคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายนี่แหละค่ะ สรุปคือสามีก็โอนมาให้ส่วนนึง อีกครึ่งนึงจะโอนก่อนเรากลับบ้านวันศุกร์นี้ (ทุกทีเราจ่ายก่อน แล้วทำเบิกปลายเดือน ก็จะได้ไม่เต็ม เพราะเค้าตัดรายการที่คิดว่าไม่จำเป็นออก ทีนี้เราเลยคุยกันค่าเรียนลูกก็ไม่ต้องจ่าย ค่าพี่เลี้ยงก็ไม่ต้องจ่าย ตรงนี้ต้องเป็นเงิน fix ที่ต้องให้เราดูแล ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น เช่นอาหารหรือขนมลูก เราขอแค่ไม่กี่พัน ให้รู้สึกว่ายังดูแลชีวิตกันอยู่)
ส่วนเรื่องแม่ เค้าบอกให้ลองดูก่อน เค้าจะดูแลเราให้ดีขึ้น ถ้ายังไม่โอเค ค่อยมาคุยทางออกกันอีกที
ก็น่าจะจบไปได้หนึ่งปัญหา ขอบคุณทุกคนมากนะคะ
ตอบไว้ตรงนี้จากกระทู้เก่า
- เงินเดือนเราหกหลัก แต่ใช้ลงทุนและเก็บออมให้ลูกประมาณ 40-60% แล้วก็ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนคอนโด(ให้คนเช่า)จนหมดหนี้หมดสิน เพราะเราอยากวางแผนอนาคตเรา อนาคตลูก
การที่เราซื้อบ้านเล็ก รถยนต์เล็ก เพราะคล่องตัวกว่าค่ะ สามีขับรถให้แค่วันหยุด วันทำงานเราใช้รถคนเดียว ไม่ได้ขับเก่งค่ะ เคลมประกันทุกปี
บ้านก็อยู่ในทำเลที่ดี ใกล้รถไฟฟ้า มีแพลนขายอยู่แล้วหลังจากลูกเข้า ป.1 เพื่อขยายบ้าน
- ก่อนจะเลือกคนนี้เป็นแฟนสมัยเรียน เราไปดูบ้านเค้าก่อนตกลงคบกัน เราไม่ชอบการเริ่มต้นชีวิตด้วยภาระ
- ก่อนแต่งงานคุยกันเรื่องแผนในอนาคต มองหาบ้านที่ตรงโจทย์ (ทำเลดี เผื่อขาย ห้องไม่ต้องเยอะ อยู่กันเองพ่อแม่ลูก) และการดูแลแม่ คือหลังจากขยายบ้าน ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยเท่านั้น
- ทำไมไม่ดึงเงินที่เก็บไว้มาใช้ แล้วจะมองไปถึงอนาคต 20 ปีได้ยังไง
ก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนขนาดต้องใช้เงินอนาคต แต่คิดว่าปัญหามันอยู่ที่สามีมองว่าตัวเองสามารถทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดี ลูกที่ดี สามีที่ดี พ่อที่ดี และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่นค่ารายอาทิตย์แม่ เพราะอยู่บ้านนี้เราเป็นคนซื้อข้าวปลาอาหารและทำกับข้าวเผื่อ รวมถึงเงินต่างๆที่ขอให้โอน ถ้ารู้นิสัยลูกว่าไม่เอาเงินคืน ก็ไม่ควรต้องมาให้โอนคนนอกครอบครัวเรา จึงเกิดกระทู้ก่อนหน้านี้ค่ะ
- ฐานะทางบ้านเราไม่แย่ เกิดมาก็เพิ่งเคยทำงานบ้าน งานครัว หลังแต่งงานนี่แหละ แต่ในเมื่อเราแต่งงานแยกครอบครัวออกมาแล้ว สมบัติพ่อแม่เราก็ถือว่าเป็นของพ่อแม่ ส่วนทรัพย์สินชื่อเรา เราอยากส่งต่อให้ลูก ไม่อยากขายกิน
- ข่วงมาอยู่บ้านตา/ยาย เราชอบพ่อแม่มากๆ ใช้ชีวิตปกติ น้องชายพาหลานแวะมาหา ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน
เราถึงไม่ชินกับการที่เกาะติดลูกไปไหน ตัวเราเองก็ส่งแค่เรียนจบ มีรายได้ก็แยกย้ายแล้วนะคะ ความรักความสัมพันธ์ไม่ได้ลดลงเลยค่ะ ถ้าเราให้ความรักและความเอาใจใส่ที่มากพอ
- มีคนถามเรื่องสินสอด ไม่มีค่ะ เราจัดงานแต่งแค่กินเลี้ยงตอนเช้า ให้นายทะเบียนมาจดทะเบียนที่บ้าน ค่างานช่วยกัน มีแค่ค่าแหวนกับค่าตกแต่งงานที่สามีออกค่ะ พ่อแม่เราก็เป็นคนง่ายๆ ขอแค่พาลูกสาวเค้าไปไม่ลำบาก
- เราเริ่มทำงานตามหลายๆความเห็นแล้วนะคะ แต่ทำที่บ้าน เรารับแปลเอกสาร ญี่ปุ่น อังกฤษ ไทย แต่ก็น่าจะทำได้แค่ช่วงมาบ้านตายายนี่แหละ กลับไปบ้านนั้นก็ไม่มีคนช่วยดูลูกแล้ว
- ย้ำอีกครั้งว่าแม่สามีดีค่ะ แต่อึดอัดก็คืออึดอัด ข้อตกลงก็ควรเป็นข้อตกลง ค่าใช้จ่ายในบ้านควรให้ความสำคัญก่อนคนอื่นนอกบ้านค่ะ ความกตัญญูแสดงออกได้หลายแบบค่ะ
ถ้าคนที่เข้าใจก็จะเข้าใจเลย ถ้าคนไม่เข้าใจ อธิบายไปก็ไม่เข้าใจ
ขอปิดกระทู้ด้วยคำขอบคุณอีกครั้งค่ะ แม้เสียงจะแตก แม้จะได้รับคำด่ามากมาย แต่หลายๆความเห็นในนั้นก็ช่วยให้เราฉุกคิดถึงชีวิตตัวเองค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ
how to พูดยังไงไม่ให้แม่สามีอยู่ด้วย (ภาคต่อ)
ตอนนี้ปัญหาน่าจะแก้ได้ส่วนนึง เพราะจากกระทู้นั้น หลายคนบอกให้เราลองกลับบ้านพ่อ/แม่ดู
เราก็กลับค่ะ วันนี้วันที่ 4 แล้วที่พาเด็กๆมาเที่ยวบ้านตา-ยาย สุขสบายจนอดคิดไม่ได้ว่าอยากอยู่นานๆจัง
แต่สามีโทรตามกลับบ้านแล้วค่ะ
เราสองคนคบกันมาตั้งแต่เรียน จนทำงาน จนเก็บเงินซื้อบ้านด้วยกัน จะไม่ได้จบปัญหาด้วยการหย่าแน่ๆค่ะ
เราทิ้งบ้านออกไป ไม่ซื้อไข่ หมู ผัก ข้าวใดๆติดบ้านไว้ ก็ไหนๆไม่ให้เงิน ตู้เย็นก็จะโล่งๆ เหลือแค่นมที่ลูกเจาะแล้วดื่มไม่หมดไว้
เพราะมีบางความเห็นแนะนำว่าควรให้เค้ารู้ว่ามันลำบาก ไม่ใช่เราไป support เค้าจนเค้าไม่รู้ถึงความจำเป็นในการใช้จ่าย
วันแรกสามีทักมาว่าสั่งข้าวมากิน เราก็อือๆออๆ ไม่ค่อยตอบ เพราะอารมณ์เบื่อๆ
จนเมื่อวานเริ่มบอกว่าไม่ไหวแล้ว กินข้าวไม่ตรงเวลา ปวดท้อง กาแฟก็ไม่รู้ว่าเราซื้อให้จากร้านไหน กดสั่งเองไม่ถูก ทำงานแล้วหงุดหงิด ตามประสาคนติดกาแฟ แม่สามีก็ทำอาหารซ้ำๆจนเค้าก็เบื่อ
(ปกติเราทำอาหารให้ มีบ้างที่กดสั่ง แต่นิสัยเค้าคือจะทานอาหารไม่ซ้ำ ไม่ทานอาหารเย็นชืด ไม่ทาน junk food เรียกว่าก็ต้องรู้ใจระดับนึงถึงจะทำอาหารถูกปาก)
เลยคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายนี่แหละค่ะ สรุปคือสามีก็โอนมาให้ส่วนนึง อีกครึ่งนึงจะโอนก่อนเรากลับบ้านวันศุกร์นี้ (ทุกทีเราจ่ายก่อน แล้วทำเบิกปลายเดือน ก็จะได้ไม่เต็ม เพราะเค้าตัดรายการที่คิดว่าไม่จำเป็นออก ทีนี้เราเลยคุยกันค่าเรียนลูกก็ไม่ต้องจ่าย ค่าพี่เลี้ยงก็ไม่ต้องจ่าย ตรงนี้ต้องเป็นเงิน fix ที่ต้องให้เราดูแล ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น เช่นอาหารหรือขนมลูก เราขอแค่ไม่กี่พัน ให้รู้สึกว่ายังดูแลชีวิตกันอยู่)
ส่วนเรื่องแม่ เค้าบอกให้ลองดูก่อน เค้าจะดูแลเราให้ดีขึ้น ถ้ายังไม่โอเค ค่อยมาคุยทางออกกันอีกที
ก็น่าจะจบไปได้หนึ่งปัญหา ขอบคุณทุกคนมากนะคะ
ตอบไว้ตรงนี้จากกระทู้เก่า
- เงินเดือนเราหกหลัก แต่ใช้ลงทุนและเก็บออมให้ลูกประมาณ 40-60% แล้วก็ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนคอนโด(ให้คนเช่า)จนหมดหนี้หมดสิน เพราะเราอยากวางแผนอนาคตเรา อนาคตลูก
การที่เราซื้อบ้านเล็ก รถยนต์เล็ก เพราะคล่องตัวกว่าค่ะ สามีขับรถให้แค่วันหยุด วันทำงานเราใช้รถคนเดียว ไม่ได้ขับเก่งค่ะ เคลมประกันทุกปี
บ้านก็อยู่ในทำเลที่ดี ใกล้รถไฟฟ้า มีแพลนขายอยู่แล้วหลังจากลูกเข้า ป.1 เพื่อขยายบ้าน
- ก่อนจะเลือกคนนี้เป็นแฟนสมัยเรียน เราไปดูบ้านเค้าก่อนตกลงคบกัน เราไม่ชอบการเริ่มต้นชีวิตด้วยภาระ
- ก่อนแต่งงานคุยกันเรื่องแผนในอนาคต มองหาบ้านที่ตรงโจทย์ (ทำเลดี เผื่อขาย ห้องไม่ต้องเยอะ อยู่กันเองพ่อแม่ลูก) และการดูแลแม่ คือหลังจากขยายบ้าน ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยเท่านั้น
- ทำไมไม่ดึงเงินที่เก็บไว้มาใช้ แล้วจะมองไปถึงอนาคต 20 ปีได้ยังไง
ก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนขนาดต้องใช้เงินอนาคต แต่คิดว่าปัญหามันอยู่ที่สามีมองว่าตัวเองสามารถทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดี ลูกที่ดี สามีที่ดี พ่อที่ดี และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่นค่ารายอาทิตย์แม่ เพราะอยู่บ้านนี้เราเป็นคนซื้อข้าวปลาอาหารและทำกับข้าวเผื่อ รวมถึงเงินต่างๆที่ขอให้โอน ถ้ารู้นิสัยลูกว่าไม่เอาเงินคืน ก็ไม่ควรต้องมาให้โอนคนนอกครอบครัวเรา จึงเกิดกระทู้ก่อนหน้านี้ค่ะ
- ฐานะทางบ้านเราไม่แย่ เกิดมาก็เพิ่งเคยทำงานบ้าน งานครัว หลังแต่งงานนี่แหละ แต่ในเมื่อเราแต่งงานแยกครอบครัวออกมาแล้ว สมบัติพ่อแม่เราก็ถือว่าเป็นของพ่อแม่ ส่วนทรัพย์สินชื่อเรา เราอยากส่งต่อให้ลูก ไม่อยากขายกิน
- ข่วงมาอยู่บ้านตา/ยาย เราชอบพ่อแม่มากๆ ใช้ชีวิตปกติ น้องชายพาหลานแวะมาหา ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน
เราถึงไม่ชินกับการที่เกาะติดลูกไปไหน ตัวเราเองก็ส่งแค่เรียนจบ มีรายได้ก็แยกย้ายแล้วนะคะ ความรักความสัมพันธ์ไม่ได้ลดลงเลยค่ะ ถ้าเราให้ความรักและความเอาใจใส่ที่มากพอ
- มีคนถามเรื่องสินสอด ไม่มีค่ะ เราจัดงานแต่งแค่กินเลี้ยงตอนเช้า ให้นายทะเบียนมาจดทะเบียนที่บ้าน ค่างานช่วยกัน มีแค่ค่าแหวนกับค่าตกแต่งงานที่สามีออกค่ะ พ่อแม่เราก็เป็นคนง่ายๆ ขอแค่พาลูกสาวเค้าไปไม่ลำบาก
- เราเริ่มทำงานตามหลายๆความเห็นแล้วนะคะ แต่ทำที่บ้าน เรารับแปลเอกสาร ญี่ปุ่น อังกฤษ ไทย แต่ก็น่าจะทำได้แค่ช่วงมาบ้านตายายนี่แหละ กลับไปบ้านนั้นก็ไม่มีคนช่วยดูลูกแล้ว
- ย้ำอีกครั้งว่าแม่สามีดีค่ะ แต่อึดอัดก็คืออึดอัด ข้อตกลงก็ควรเป็นข้อตกลง ค่าใช้จ่ายในบ้านควรให้ความสำคัญก่อนคนอื่นนอกบ้านค่ะ ความกตัญญูแสดงออกได้หลายแบบค่ะ
ถ้าคนที่เข้าใจก็จะเข้าใจเลย ถ้าคนไม่เข้าใจ อธิบายไปก็ไม่เข้าใจ
ขอปิดกระทู้ด้วยคำขอบคุณอีกครั้งค่ะ แม้เสียงจะแตก แม้จะได้รับคำด่ามากมาย แต่หลายๆความเห็นในนั้นก็ช่วยให้เราฉุกคิดถึงชีวิตตัวเองค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ