พ่อแม่ให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อนสนิท

กระทู้คำถาม
เรื่องมันเกิดขึ้นมาเมื่อปี 62เข้า63 ตอนนี้ผมอายุ28เข้า29 ส่วนน้องผู้หญิงอายุ26เข้า27
เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะผมเลยบอกแม่กับพ่อไป (ตอนนั้นผมแค่พูดเล่นกับแม่นะเพราะพึ่งอกหักมาเลยบอกไปว่าหาแฟนให้ด้วยถ้าเรียนจบ) หลังจากที่ผมเรียนจบก็ทำงานประจำได้ปีเดียวก็ออกมาทำธุรกิจของตัวเองเพราะอยากเดินตามฝันที่ตัวเองตั้งไว้แต่ยอมปีนึ่งผมเปลี่ยนการขายปีละครั้งเลยตลอด3 จนอยู่ว่าวันนึ่งแม่ก็บอกถามตอนนร้มีแฟนหรือยังคนคุยก็ได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้แม่ผมไม่เคยสนใจถามสักครั้งในชีวิต ผมก็ตอบไปว่าไม่มีเวลาหาหลอก พอได้คำตอบแกก็ยิ้มๆแล้วก็เดินจากไปทำให้ผมนั่งงงเป็นไก่ไปเลย ผ่านไป3วันแม่ก็ชวนผมว่าไปซื้อของเป็นเพื่อนหน่อย ผมก็ตกลงไปเพราะพ่อไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดเลยต้องดูแลแม่กับลูกสาว (ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวนะครับ) พอไปถึงห้างก็มาเจอเพื่อนแม่สมัยเรียนนึกว่านัดมาเจอมาเที่ยวแต่ที่ไหนได้ เค้านัดมาดูตัว ย้อนความหลังคือผมรู้จักเพื่อนพ่อแม่ทุกคนนะและเรียนเพื่อนพ่อแม่กว่าพ่อและแม่เช่นกัน และลูกๆเพื่อนพ่อแม่ผมก็เจอมาทุกคนแล้วโดยเฉพาะน้องหลิน ที่เคยเล่นมาด้วยกันแต่เด็ก ตอนนั้นก็ผ่านมา15-16ปีได้จากสาวน้อยผู้ห้าวหาญที่เคยถ้าผมต่อยและชอบตัดผมสั้นๆเหมือนผู้ชายในวันนั้น มาเป็นดาวคณะในวันนี้ ยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างตกใจครับ ผมไม่ได้บอกว่าหล่อเลือกได้นะ แต่คุณผู้อ่านเข้าใจใช่ไหมสมัยนี้มันสมัยไหนแล้วยังมีการจับคลุมถุงชนกันอีกหลอจริงไหม ซึ่งเจอกันก็คุยกับน้องเค้าปกตินะ แต่น้องเค้าดูเรียบร้อยไม่คาดเชือกเหมือนสมัยเด็กๆ🤣🤣🤣 คิดแล้วสยองง่ะ เอาจริงผมมองดูเค้าแบบไม่ละสายตาเลยเพราะน้องเค้ามารู้เรื่องที่หลังว่าจะให้ผมกับน้องแต่งงานกัน ในตาน้องเค้าแดงๆเหมือนจะร้องให้ แต่ผมนี่จิตตกไปแล้วจากที่ปวดขี้กูหายปวดเลย พอรู้เรื่อง หลังจากวันที่มาดูตัว ผมกลับบ้านไปทะเลาะกับพ่อแม่ยับเลยจนผมออกมาดื่นเหล้าจนสว่างก็ว่าได้ แต่แม่ก็ขอนะน้องมาได้งานทำใกล้ๆบ้านอยากให้ไปดูแลน้องเค้า ผมก็ไม่ติดใจเพราะคนคุ้นเคย แต่ยอมรับแรกๆน้องเค้าไม่กล้าสบตาผมเลย แต่น้องเค้ามีคนคุยเข้ามาคุยเยอะนะ เท่าที่เจอกันโทรศัพท์นี่พิมพ์คุยตลอดผมว่างวันไหนแม่ก็บอกไปชวนน้องมากินข้าวที่บ้านบ้างพาไปเที่ยวบ้าง ผมก็ขัดใจไม่ได้เบื่อเวลาโดนบ่น หูซ้ายกับหูขวาจะไม่เท่ากันและทุกวันนี้ คงดูที่ผมไปมาหาสู่กับน้องเค้าบ่อย แต่ไม่ได้ทุกวันนะอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แต่บอกเลย ไม่เคยมีอะไรกันเลยนะเต็มที่แค่จับมือข้ามถนนแค่นั้น จากที่น้องไม่ค่อยพูดเล่นแต่โทรศัพท์หลังๆมานี่กลับคุยกะนมากขึ้นและถ้าวันไหนที่น้องเค้าเบื่อๆอยู่คอนโดก็จะมาช่วยผมขายของบ้างแต่ไม่ทุกวันนั้นเดือนนึง3-4ครั้งได้ เป็นแบบนี้มาเกือบปี แต่ไม่เคยพูดว่าเราเป็นไรกันเลย เพราะใครถามก็บอกว่าพี่บ้างน้องบ้างลูกเพื่อนพ่อแม่บ้างบลาๆๆ จนวันที่ทางครอบครัวผมและน้องเค้าไปแอบดูฤกษ์แต่งงาน คือ14 กุมภาพันธ์นี้ ผมก็ตกใจนะ แล้วบอกไปพร้อมกับน้องยังไม่ได้คบกันเลยไปไหนมาไหนเพื่อนพี่น้องมากกว่า แต่เรื่องมันมาเกิดตรงที่แม่น้องเค้าเห็นตอนที่ผมจูบน้องใตคอนโนโดยที่มีลูกชายคนนึ่งเป็นพยายาม ก็ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันตามจีบน้องเค้ามาเกือบปีแล้วน้องเค้าก็บอกไปแล้วว่าไม่ชอบไม่รู้ว่าเหมือนเป็นคนรักเลยสักนิดแต่คงเพราะทนไม่ได้เลยให้ผมมาเป็นไม้กันหมาสะงั้นอะ คงเป็นจังหวะที่แม่น้องเค้ามาเห็นพอดี เพราะผมจูบน้องเค้าแล้วบอกผู้ชายคนนั้นไปว่านี้เมียกู เลิกยุ่งกับเมียกูได้และ 14 กุมภากูจะแต่งงานกันแล้ว นั้นคือที่มาขอฤกษ์แต่งงานของผม เอาจริงผมไม่รู้ใจตัวเองเลยว่ารู้สึกไงกับน้องเค้าเพราะเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็กๆ แต่วันนั้นหลังได้จูบน้องเค้าหลังจากที่ผู้ชายคนนั้นเดินกลับไปผมโดนตบนะครับ ไม่มีจูบคืนแต่อย่างใด แสบหน้าม๊ากกกน้ำตาเล็ดเลย แต่พอน้องขึ้นคอนโดไปก็โทรมาขอบคุณแล้วก็ว่างสาย เอาจริงผมไม่รู้เลยว่าน้องเค้ารู้สึกอย่างไง แต่เพื่อนแม่เคยตามว่าตลอกเวลาอยู่กับผมเป็นอย่างไงน้องเค้าบอกว่าถึงผมจะไม่ใช่สเปคแต่รู้สึกดีและรู้สึกปลอดภัยกว่าผู้ชายที่เคยคบมาอย่างบอกไม่ถูก(อาจเป็นเพราะเค้าเป็นลูกสาวเพื่อนพ่อแม่ผมด้วยมั่งน้องเค้าตอบมาแบบนี้) เอาจริงตอนที่รู้ว่าได้ฤกษ์แต่งน้องเค้ายิ้มหน้าแดงไปเลยไม่มีทำหน้างง หน้าอึดอัดเลยนะ แล้วหลังที่รู้เรื่องฤกษ์ก็มาช่วยขายของบ่อยกว่าเดิมเจอกันบ่อยกว่าเดิม แต่ไม่เคยบอกรักหรือบอกว่าแฟนกันเลย นี้คือมันคบกันแล้วใช่ปะ ต้นปีผมก็ได้หมั่นกันเรัยบร้อยแล้ว แต่ผมกับน้องไม่เคยบอกรักกันเลยตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่รู้ว่ามาดูตัว
ปล. น้องเค้าเคยบอกว่าถ้าพี่รักเดียวใจเดียว หนูก็จะเป็นภรรยาที่ดีให้กับพี่ แต่ถ้าจับได้ว่ามีเรื่องผู้หญิงที่ไม่ใช่เพื่อนเข้าหูหนูละก็ กูเอาตาย (ถ้าพิมพ์ตกหรือผิดต้องขออภัยด้วยนะครับจริงๆดรื่องมันเยอะกว่านี้ครับเหตุการณ์ที่ผ่านๆมาเยอะมากแต่ ผมขี้เกียดพิมพ์555)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่