หลังจากได้ยินได้เห็นเรื่องทะสวยน้ำใสของทะเลฝั่งอันดามันมานานตั้งแต่เด็กจนจะสี่สิบล่ะ คิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะไปเพราะไกลจากบ้าน ใช้เวลาเยอะและงานรัดตัวอยู่ เคยไปทางใต้ไกลสุดก็ปราณบุรีนี่แหล่ะ 555
จนวันหนึ่งได้มีโอกาสนั่งรถไฟอุตรวิถีไปเที่ยวเชียงใหม่จึงคิดได้ว่า เอ้....ถ้ารถไฟแบบนี้ นี่มันจะไปอันดามันได้มั้ยหว่า จนมาหาข้อมูลจนพบว่า ตรัง นี่รถไฟไปถึงนี่หว่า ส่วนสตูลกับกระบี่ดูจากแผนที่ก็ไม่ไกลทะเลนี่ เลยหาข้อมูลอีก อ่านจากรีวิวหลายๆอันต่างเชียร์ว่า ต้องหลีเปะอ่ะน่ะไม่ผิดหวัง จึงเป็นที่มาของรีวิวอันนี้ล่ะครับ ผิดถูกประการใดก็ขออภัย จขกท.มีวัตถุประสงค์เพียงอยากแบ่งปันสิ่งที่ได้ไปเที่ยวมาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและข้อมูลคร่าวๆ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวแบบผมด้วยตัวคนเดียวครับ
เริ่มแรกก็จองรถไฟออนไลน์ ขบวนทักษิณารัถย์
(รถด่วนพิเศษรุ่นใหม่เหมือนอุตรวิถี-เชียงใหม่) รถออกจากหัวลำโพงวันศุกร์ 14.30 น.ถึงหาดใหญ่ตามกำหนดการ 7.25 น. ถึงจริง ณ เช้าวันเสาร์ที่ 8/1/65 เวลา 8.45 น.ค่าตั๋วตู้นอนชั้น 2 เตียงล่าง 1,105 บาท เนื่องจากออกช่วงบ่ายจึงมีเวลาได้เพลิดเพลินกับวิวข้างทาง ทอดถอนอารมย์ฟังเพลงชิวๆ ตามสเน่ห์ที่น่าหลงไหลของการนั่งรถไฟ แต่ก่อนขึ้นอย่าลืมซื้ออาหารและน้ำดื่มขึ้นไปด้วยน๊า แต่ถ้าพลาด สถานีราชบุรี จะมีแม่ค้าขึ้นมาขาย โดยจะยืนเรียกตรงประตูรถไฟแต่ละคัน ไม่เดินเข้าไปในตู้โดยสาร จขกท.เองก็จัดก๋วยเตียวแห้งไป 4 กล่องๆละ 10 บาท
เมื่อถึงสถานีหาดใหญ่ ก็รีบโทรหารถตู้ของบริษัททัวร์ให้มารับโดยด่วน เพื่อให้ทันเรือไปหลีเปะเที่ยวแรก 11.30 น. ผู้เขียนใช้บริการของ พลอยสยาม สปีดโบ้ท (ขอบคุณ ททท.สตูล ที่ให้ข้อมูลบริษัททัวร์ที่น่ารักนี้มา) ค่าเรือและค่ารถตู้ไปกลับ 1,600 บาท(โอนตอนจอง 800 จ่ายวันลงเรือ 800) วันนี้รถไฟมาถึงช้ากว่ากำหนดมาก พี่บริษัททัวร์ ก็ส่งรถตู้มารับเราคนเดียว นั่งคนเดียวเหมาคัน ชั่วโมงครึ่งไปท่าเรือปากบารา (แอบเกรงใจจัง พี่เค้าจะขาดทุนมั้ยเนี่ย 555)
10.40 น.รถตู้มาส่งถึงท่าเรือปากบารา แวะกินข้าวแกงปักต์ใต้ด้านหน้าซักหน่อย+โอเลียง 1 แก้ว=70 บาท
11.00 น.เข้าไปเอาตั๋วเรือจาก สนง.พลอยสยาม(ด้านหน้าท่าเรือ) แล้วไปเช็คอินเพื่อขึ้นเรือ ซึ่งจะมีมาตรการคัดกรองโควิทเข้มงวด จขกท.ได้เข็ม 3 ไปแล้ว จึงผ่านฉลุย ซื้อของกินติดไปด้วยก็ดีนะ เพราะซื้อจากนี่ราคายังปกติอยู่
11.30 น.เรือออกจากท่า ว้าวดีจังได้นั่งไกล้สาวน่ารักซะด้วย
12.20 น.เรือแวะจุดแรก เกาะตะรุเตา 15 นาที ตอนลงเรือก็จำชื่อเรือของตัวเองให้ดีนะครับ ลำที่ผมนั่งตอนออกจากเกาะผู้โดยสารไม่ครบ ตามหาไม่เจอ คาดว่าจะติดไปกับเรือลำอื่นแล้วล่ะ
13.30 น.เรือแวะจุดที่ 2 เกาะไข่ ไฮไลน์ของเกาะนี้ก็คือซุ้มประตูหินแห่งรัก ซึ่งเชื่อกันว่าคู่รักจับมือกันเข้าประตูนี้ ความรักจะยืนยาวมั่นคง (จขกท.โสด เกรงว่าถ้าเดินลอดซุ้มนี้คนเดียวจะกลายเป็นโสดตลอดชีวิต เลยแก้เคล็ดด้วยการไขว้นิ้วไว้ข้างหลังตอนเดินลอด คงพอช่วยได้มั่ง 5555)
14.20 น.ถึงจนได้เกาะสวรรค์ที่ฝันหา โอ้วมันช่างสวยจริงๆ ลงเรือที่หาดพัทยา เสร็จก็เดินไป 7-11 ก่อนเลยเพื่อซื้อครีมกันแดด หลังจากนั้นขึ้นแท็กซี่หลีเปะ(มอไซด์พ่วงข้าง) ค่าบริการ 50 บาทไปยังรีสอร์ทที่จองไว้ ที่นี่ไม่มีมอไซด์เช่านะ หรือจะเดินก็ไม่ไกลมากขึ้นอยู่กับว่าที่พักอยู่ส่วนไหนของเกาะ
14.30 น.เข้าเช็คอินที่ หลีเปะ บีช รีสอร์ท ซึ่งเข้าไปจองไว้กับ อโกด้า 1,350 บาท หาดอยู่ติดกับหาดซันไรท์ ที่เลือกที่นี่เพราะราคาไม่แพงมาก ติดหาด คะแนนและรีวิวดีเยี่ยม ไม่สนเรื่องสระว่ายน้ำหรือวิวอลังการจากห้องพักหรอก เพราะเดินจากห้องพักไม่ถึงยี่สิบก้าวก็เป็นชายหาดแล้ว เรามาช่วงบ่าย ดังนั้นพระอาทิตย์จะไปตกอีกฟากของเกาะ แดดจึงไม่แรงมาก ลงเล่นน้ำได้เลย
ยืนงงในดงฝรั่ง เราเป็นคนไทยคนเดียวในรีสอทนี้รึเปล่า ว้า 555
19.00 น.หิวละ ได้เวลาไปสตีทฟูด ซึ่งอยู่ตรงกลางเกาะ ดู gps บ้าง ถามชาวบ้านบ้าง ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็ให้รีสอท เรียกแทกซี่ให้ได้ครับ คนละ 50 บาทตลอดสาย ขึ้นคนเดียวก็ 50 บาท จากที่เดินดู ราคาอาหารไกล้เคียงกัน ค่อนข้างสูงตามปกติแหล่งท่องเที่ยว และค่าขนส่งสำหรับเกาะที่ห่างไกลฝั่งชั่วโมงครึ่งแบบนี้
อย่างแรกที่ต้องกินตามธรรมเนียม(มั้ง) คือโรตี กับชาชัก หมดไป 90 บาท อาหารจารเดี่ยวก็มีนะ เห็นป้าคนหนึ่งเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้านว่า "ผัดกระเพาจานละ 80 บาท" แต่แหม่ มาทะเลทั้งทีจะกินผัดกระเพาแบบเดิมๆก็ใช่ที่ เลยเสี่ยงเข้าไปร้านอาหารอีกร้าน ที่เค้าดูสนใจเรา ทั้งที่เราไม่ใช่ฝรั่ง มือนี้จึ่งเป็นปูปัดผงกระหรี่+ข้าวเปล่า 2 จาน โคกอีกหนึ่ง หมดไป 490 บาท
จึ่งได้เดินกลับที่พัก (มืดบ้าง สว่างบ้าง หลงบ้าง ถามไปเรื่อย เด๋วก็ถึงเอง 5555)
21.00 น.ได้เวลาไปนอนดูดาว เคล้าเสียงคลื่นรีสอร์ทจะมีพวกเตียง ซุ้มที่นั่งสวยงาม ให้เราไปนั่งเล่นอยู่แล้ว ลมก็ช่างพัดได้ตลอดเวลา อยากจะหยุดเวลาแล้วนั่งอยู่ตรงนี้ซัก 2 วันจริงๆ
เกือบเที่ยงคืนก็เข้านอน เปิดหน้าต่างทุกบาน เพื่อรับลมทะเลนี้ตลอดทั้งคืนไปเล้ย
6.00 น.ได้เวลาไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว แต่เอ้ เหมือนเราจะมาช้าไปหน่อยนะ
7.00 น.ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว มาคนเดียว แต่เค้าให้คูปองอาหารมา 2 ใบ ก็จัดมัน 2 ใบไปเลย
ใบแรก เลือกอาหารไทย ได้เข้าต้มหมูมา 1 ชามใหญ่ รสชาติดีทีเดียวเชียว
ใบที่ 2 ก็เป็น breakfast ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก แฮมตามเรื่อง เดินไปกดกาแฟ 3 รอบเลย (กลัวไม่คุ้ม 555)
8.00 น. ออกเดินชายหาด สำรวจเกาะด้านอื่นๆบ้าง ถ่ายรูปเก็บความทรงจำ
11.00 น.เช็คเอ้า แจ้งแท็กซี่ว่าเรามาเรือบริษัทไหน เพราะมี 3 จุดจอดเรือบนหาดพัทยา เมื่อถึงแล้วก็ไปลงชื่อ โหลดกระเป๋า รับบัตรคิวขึ้นเรือ เรามาช้าเลยได้ขึ้นเรือคนท้ายๆ เลยมาจบตรงที่นั่งท้ายเรือนี่แหล่ะ จะเมาเรือ จนต้องให้อาหารปลามั้ยว้า 5555 (ว้าวเจอสาวน้อยน่ารักคนนั้นอีกแล้ว อยู่ตรงนี้แอบมองได้ตลอดเค้าไม่รู้หรอก)
11.30 น.เรือออกจากหลีเปะ เกือบบ่ายโมงถึงท่าเรือปากบารา เดินกลับไปที่พลอยสยามทัวร์ เพื่อขึ้นรถตู้ไปลงสนามบิน แต่เนื่องจากจองไฟท์ 4 ทุ่มไว้ (มันราคาถูก) เลยให้คนขับไปส่งที่ตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อเดินเที่ยวฆ่าเวลา (เพิ่งจะบ่าย 3) แล้วก็ไปจบที่การนั่งตากแอร์เย็นๆที่เซ็นทรัลหาดใหญ่
18.00 น.เดินหารถมินิบัส สายหาดใหญ่-สนามบิน ที่ บขส ซึ่งอยู่ไกล้ๆกับห้าง เมื่อถึงทางเข้า บขส.ก็มีพี่ผู้ชาย รับเหมาไปส่ง ร่วมกับน้องที่รออยู่ก่อนแล้ว 1 คน ค่าโดยสารคนละ 100 บาท
19.00 น.ถึงสนามบินหาดใหญ่ นั่งเล่นรอเช็คอินตอน 20.00 น. จอง ไทยเวียจเจ็ท กับ airpaz ไว้ได้ในราคา 1,400 บาท ไฟท์ออกตรงเวลา
22.05 น. (นั่งเครื่องบินครั้งแรกเลยนะเนี่ย โชคดีได้ติดหน้าต่างด้วย มองกรุงเทพตอนกลางคืนจากข้างบนนี่มันสวยจริง ไรจริง)
23.30 น.ถึงสุวรรณภูมิ วื่งหน้าตั้งไปขึ้นรถไฟแอร์พอร์ท ขบวนสุดท้ายตอนเที่ยงคืนเพื่อกลับที่พักย่านรามคำแหง
ปล.รูปถ่ายบ้าง ลืมบ้าง ขอยืมรูปจากอินเตอร์เน็ตมาใช้บ้างนะคร้าบ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ
นั่งรถไฟ ไปหลีเปะ 2565
จนวันหนึ่งได้มีโอกาสนั่งรถไฟอุตรวิถีไปเที่ยวเชียงใหม่จึงคิดได้ว่า เอ้....ถ้ารถไฟแบบนี้ นี่มันจะไปอันดามันได้มั้ยหว่า จนมาหาข้อมูลจนพบว่า ตรัง นี่รถไฟไปถึงนี่หว่า ส่วนสตูลกับกระบี่ดูจากแผนที่ก็ไม่ไกลทะเลนี่ เลยหาข้อมูลอีก อ่านจากรีวิวหลายๆอันต่างเชียร์ว่า ต้องหลีเปะอ่ะน่ะไม่ผิดหวัง จึงเป็นที่มาของรีวิวอันนี้ล่ะครับ ผิดถูกประการใดก็ขออภัย จขกท.มีวัตถุประสงค์เพียงอยากแบ่งปันสิ่งที่ได้ไปเที่ยวมาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและข้อมูลคร่าวๆ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวแบบผมด้วยตัวคนเดียวครับ
เริ่มแรกก็จองรถไฟออนไลน์ ขบวนทักษิณารัถย์
(รถด่วนพิเศษรุ่นใหม่เหมือนอุตรวิถี-เชียงใหม่) รถออกจากหัวลำโพงวันศุกร์ 14.30 น.ถึงหาดใหญ่ตามกำหนดการ 7.25 น. ถึงจริง ณ เช้าวันเสาร์ที่ 8/1/65 เวลา 8.45 น.ค่าตั๋วตู้นอนชั้น 2 เตียงล่าง 1,105 บาท เนื่องจากออกช่วงบ่ายจึงมีเวลาได้เพลิดเพลินกับวิวข้างทาง ทอดถอนอารมย์ฟังเพลงชิวๆ ตามสเน่ห์ที่น่าหลงไหลของการนั่งรถไฟ แต่ก่อนขึ้นอย่าลืมซื้ออาหารและน้ำดื่มขึ้นไปด้วยน๊า แต่ถ้าพลาด สถานีราชบุรี จะมีแม่ค้าขึ้นมาขาย โดยจะยืนเรียกตรงประตูรถไฟแต่ละคัน ไม่เดินเข้าไปในตู้โดยสาร จขกท.เองก็จัดก๋วยเตียวแห้งไป 4 กล่องๆละ 10 บาท
เมื่อถึงสถานีหาดใหญ่ ก็รีบโทรหารถตู้ของบริษัททัวร์ให้มารับโดยด่วน เพื่อให้ทันเรือไปหลีเปะเที่ยวแรก 11.30 น. ผู้เขียนใช้บริการของ พลอยสยาม สปีดโบ้ท (ขอบคุณ ททท.สตูล ที่ให้ข้อมูลบริษัททัวร์ที่น่ารักนี้มา) ค่าเรือและค่ารถตู้ไปกลับ 1,600 บาท(โอนตอนจอง 800 จ่ายวันลงเรือ 800) วันนี้รถไฟมาถึงช้ากว่ากำหนดมาก พี่บริษัททัวร์ ก็ส่งรถตู้มารับเราคนเดียว นั่งคนเดียวเหมาคัน ชั่วโมงครึ่งไปท่าเรือปากบารา (แอบเกรงใจจัง พี่เค้าจะขาดทุนมั้ยเนี่ย 555)
10.40 น.รถตู้มาส่งถึงท่าเรือปากบารา แวะกินข้าวแกงปักต์ใต้ด้านหน้าซักหน่อย+โอเลียง 1 แก้ว=70 บาท
11.00 น.เข้าไปเอาตั๋วเรือจาก สนง.พลอยสยาม(ด้านหน้าท่าเรือ) แล้วไปเช็คอินเพื่อขึ้นเรือ ซึ่งจะมีมาตรการคัดกรองโควิทเข้มงวด จขกท.ได้เข็ม 3 ไปแล้ว จึงผ่านฉลุย ซื้อของกินติดไปด้วยก็ดีนะ เพราะซื้อจากนี่ราคายังปกติอยู่
11.30 น.เรือออกจากท่า ว้าวดีจังได้นั่งไกล้สาวน่ารักซะด้วย
12.20 น.เรือแวะจุดแรก เกาะตะรุเตา 15 นาที ตอนลงเรือก็จำชื่อเรือของตัวเองให้ดีนะครับ ลำที่ผมนั่งตอนออกจากเกาะผู้โดยสารไม่ครบ ตามหาไม่เจอ คาดว่าจะติดไปกับเรือลำอื่นแล้วล่ะ
13.30 น.เรือแวะจุดที่ 2 เกาะไข่ ไฮไลน์ของเกาะนี้ก็คือซุ้มประตูหินแห่งรัก ซึ่งเชื่อกันว่าคู่รักจับมือกันเข้าประตูนี้ ความรักจะยืนยาวมั่นคง (จขกท.โสด เกรงว่าถ้าเดินลอดซุ้มนี้คนเดียวจะกลายเป็นโสดตลอดชีวิต เลยแก้เคล็ดด้วยการไขว้นิ้วไว้ข้างหลังตอนเดินลอด คงพอช่วยได้มั่ง 5555)
14.20 น.ถึงจนได้เกาะสวรรค์ที่ฝันหา โอ้วมันช่างสวยจริงๆ ลงเรือที่หาดพัทยา เสร็จก็เดินไป 7-11 ก่อนเลยเพื่อซื้อครีมกันแดด หลังจากนั้นขึ้นแท็กซี่หลีเปะ(มอไซด์พ่วงข้าง) ค่าบริการ 50 บาทไปยังรีสอร์ทที่จองไว้ ที่นี่ไม่มีมอไซด์เช่านะ หรือจะเดินก็ไม่ไกลมากขึ้นอยู่กับว่าที่พักอยู่ส่วนไหนของเกาะ
14.30 น.เข้าเช็คอินที่ หลีเปะ บีช รีสอร์ท ซึ่งเข้าไปจองไว้กับ อโกด้า 1,350 บาท หาดอยู่ติดกับหาดซันไรท์ ที่เลือกที่นี่เพราะราคาไม่แพงมาก ติดหาด คะแนนและรีวิวดีเยี่ยม ไม่สนเรื่องสระว่ายน้ำหรือวิวอลังการจากห้องพักหรอก เพราะเดินจากห้องพักไม่ถึงยี่สิบก้าวก็เป็นชายหาดแล้ว เรามาช่วงบ่าย ดังนั้นพระอาทิตย์จะไปตกอีกฟากของเกาะ แดดจึงไม่แรงมาก ลงเล่นน้ำได้เลย
ยืนงงในดงฝรั่ง เราเป็นคนไทยคนเดียวในรีสอทนี้รึเปล่า ว้า 555
19.00 น.หิวละ ได้เวลาไปสตีทฟูด ซึ่งอยู่ตรงกลางเกาะ ดู gps บ้าง ถามชาวบ้านบ้าง ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็ให้รีสอท เรียกแทกซี่ให้ได้ครับ คนละ 50 บาทตลอดสาย ขึ้นคนเดียวก็ 50 บาท จากที่เดินดู ราคาอาหารไกล้เคียงกัน ค่อนข้างสูงตามปกติแหล่งท่องเที่ยว และค่าขนส่งสำหรับเกาะที่ห่างไกลฝั่งชั่วโมงครึ่งแบบนี้
อย่างแรกที่ต้องกินตามธรรมเนียม(มั้ง) คือโรตี กับชาชัก หมดไป 90 บาท อาหารจารเดี่ยวก็มีนะ เห็นป้าคนหนึ่งเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้านว่า "ผัดกระเพาจานละ 80 บาท" แต่แหม่ มาทะเลทั้งทีจะกินผัดกระเพาแบบเดิมๆก็ใช่ที่ เลยเสี่ยงเข้าไปร้านอาหารอีกร้าน ที่เค้าดูสนใจเรา ทั้งที่เราไม่ใช่ฝรั่ง มือนี้จึ่งเป็นปูปัดผงกระหรี่+ข้าวเปล่า 2 จาน โคกอีกหนึ่ง หมดไป 490 บาท
จึ่งได้เดินกลับที่พัก (มืดบ้าง สว่างบ้าง หลงบ้าง ถามไปเรื่อย เด๋วก็ถึงเอง 5555)
21.00 น.ได้เวลาไปนอนดูดาว เคล้าเสียงคลื่นรีสอร์ทจะมีพวกเตียง ซุ้มที่นั่งสวยงาม ให้เราไปนั่งเล่นอยู่แล้ว ลมก็ช่างพัดได้ตลอดเวลา อยากจะหยุดเวลาแล้วนั่งอยู่ตรงนี้ซัก 2 วันจริงๆ
เกือบเที่ยงคืนก็เข้านอน เปิดหน้าต่างทุกบาน เพื่อรับลมทะเลนี้ตลอดทั้งคืนไปเล้ย
6.00 น.ได้เวลาไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว แต่เอ้ เหมือนเราจะมาช้าไปหน่อยนะ
7.00 น.ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว มาคนเดียว แต่เค้าให้คูปองอาหารมา 2 ใบ ก็จัดมัน 2 ใบไปเลย
ใบแรก เลือกอาหารไทย ได้เข้าต้มหมูมา 1 ชามใหญ่ รสชาติดีทีเดียวเชียว
ใบที่ 2 ก็เป็น breakfast ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก แฮมตามเรื่อง เดินไปกดกาแฟ 3 รอบเลย (กลัวไม่คุ้ม 555)
8.00 น. ออกเดินชายหาด สำรวจเกาะด้านอื่นๆบ้าง ถ่ายรูปเก็บความทรงจำ
11.00 น.เช็คเอ้า แจ้งแท็กซี่ว่าเรามาเรือบริษัทไหน เพราะมี 3 จุดจอดเรือบนหาดพัทยา เมื่อถึงแล้วก็ไปลงชื่อ โหลดกระเป๋า รับบัตรคิวขึ้นเรือ เรามาช้าเลยได้ขึ้นเรือคนท้ายๆ เลยมาจบตรงที่นั่งท้ายเรือนี่แหล่ะ จะเมาเรือ จนต้องให้อาหารปลามั้ยว้า 5555 (ว้าวเจอสาวน้อยน่ารักคนนั้นอีกแล้ว อยู่ตรงนี้แอบมองได้ตลอดเค้าไม่รู้หรอก)
11.30 น.เรือออกจากหลีเปะ เกือบบ่ายโมงถึงท่าเรือปากบารา เดินกลับไปที่พลอยสยามทัวร์ เพื่อขึ้นรถตู้ไปลงสนามบิน แต่เนื่องจากจองไฟท์ 4 ทุ่มไว้ (มันราคาถูก) เลยให้คนขับไปส่งที่ตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อเดินเที่ยวฆ่าเวลา (เพิ่งจะบ่าย 3) แล้วก็ไปจบที่การนั่งตากแอร์เย็นๆที่เซ็นทรัลหาดใหญ่
18.00 น.เดินหารถมินิบัส สายหาดใหญ่-สนามบิน ที่ บขส ซึ่งอยู่ไกล้ๆกับห้าง เมื่อถึงทางเข้า บขส.ก็มีพี่ผู้ชาย รับเหมาไปส่ง ร่วมกับน้องที่รออยู่ก่อนแล้ว 1 คน ค่าโดยสารคนละ 100 บาท
19.00 น.ถึงสนามบินหาดใหญ่ นั่งเล่นรอเช็คอินตอน 20.00 น. จอง ไทยเวียจเจ็ท กับ airpaz ไว้ได้ในราคา 1,400 บาท ไฟท์ออกตรงเวลา
22.05 น. (นั่งเครื่องบินครั้งแรกเลยนะเนี่ย โชคดีได้ติดหน้าต่างด้วย มองกรุงเทพตอนกลางคืนจากข้างบนนี่มันสวยจริง ไรจริง)
23.30 น.ถึงสุวรรณภูมิ วื่งหน้าตั้งไปขึ้นรถไฟแอร์พอร์ท ขบวนสุดท้ายตอนเที่ยงคืนเพื่อกลับที่พักย่านรามคำแหง
ปล.รูปถ่ายบ้าง ลืมบ้าง ขอยืมรูปจากอินเตอร์เน็ตมาใช้บ้างนะคร้าบ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ