5 คำถามที่พบบ่อยกับโรคริดสีดวงทวารหนัก

1.การมีติ่งเนื้อบริเวณทวารหนักเป็นอาการของโรคริดสีดวงใช่หรือไม่
     อาการที่แสดงให้สงสัยว่าเป็นโรคริดสีดวงทวารมีอยู่ 2 อย่างคือ มีเลือดสีแดงสด ๆ ออกมาเวลาเบ่งถ่ายอุจจาระ อาจออกมาเป็นเลือดฉาบบนผิวของอุจจาระหรือมีคราบเลือดสดติดอยู่บนกระดาษชำระเวลาที่เช็ดและมีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาจากรูทวารหนัก ลักษณะความรุนแรงของอาการแบ่งออกได้เป็น 4 ระดับด้วยกันดังนี้
     -   ระดับที่หนึ่ง มีเลือดออกให้เห็นโดยไม่มีอาการเจ็บปวดและไม่มีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาจากรูทวารหนักเวลาถ่ายอุจจาระ
     -   ระดับที่สอง มีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาจากทวารหนัก แต่ยุบหายไปเมื่อถ่ายอุจจาระเสร็จ
     -   ระดับที่สาม เมื่อถ่ายเสร็จแล้วหัวริดสีดวงยังคงจุกอยู่ที่ทวารหนัก ต้องใช้นิ้วมือดันจึงจะหายเข้าไป
     -   ระดับที่สี่ หัวริดสีดวงไม่ยอมผลุบเข้าไปแม้ใช้นิ้วมือดัน ทำให้รู้สึกรำคาญจนถึงมีอาการเจ็บปวด
         หากสงสัยว่าอาจเป็นโรคริดสีดวง ควรมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง ว่าไม่ได้เป็นโรคร้ายอื่น ๆ ที่อาจมีอาการบ่งชี้คล้ายคลึงกัน

2.เป็นโรคริดสีดวง จำเป็นต้องรักษาโดนการผ่าตัดอย่างเดียวหรือไม่ 
     วิธีการรักษาโรคริดสีดวงมีหลายวิธี โดยแพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและระยะของโรคของแต่ละบุคคล และพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยสามารถแบ่งการระรักษาดังนี้
     -   ระดับหนึ่งและสอง อาจสามารถใช้เพียงยาทาหรือยาเหน็บในเวลาที่มีอาการเลือดออก ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการขับถ่ายแต่หากใช้ยาแล้วไม่ได้ผล มีทางเลือกในการรักษาอีก 2 วิธีคือ การฉีดยาเข้าไปบริเวณหัวของริดสีดวงทวารหรือการใช้ยางเส้นเล็กๆรัดที่ขั้วของหัวริดสีดวงทวาร หลังการรักษาจะมีอาการปวดเล็กน้อยเพียง 1-2 วันและสามารถรักษาด้วยวิธีการเดิมซ้ำได้
     -   ระดับที่สาม การรักษาด้วยยาฉีดมักไม่ได้ผล แต่ยังสามารถรักษาด้วยวิธีการใช้ยางรัดได้ หากรักษาด้วยวิธีนี้ 2-3 ครั้งแล้วไม่ได้ผล แพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดหัวริดสีดวงออกไป ในปัจจุบันนอกจากการผ่าตัดโดยวิธีธรรมดาแล้ว ยังมีวิธีการผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติที่เรียกว่า staple ช่วยให้สามารถตัดหัวริดสีดวงได้โดยรอบ ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้นลงและเจ็บปวดหลังการผ่าตัดน้อยกว่าวิธีธรรมดา หรืออาจเป็นการใช้ laser หรือการผูกเส้นเลือดริดสีดวงซึ่งจะทำการเจ็บหลังการผ่าตัดน้อยกว่า
    -   ระดับที่สี่ เป็นระยะที่ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บทุกข์ทรมาน พราะหัวริดสีดวงโผล่ บวมและอักเสบอยู่ภายนอกตลอดเวลา ดังนั้นแพทย์มักจะรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด

3.โรคริดสีดวงภายนอกและภายใน แตกต่างกันอย่างไร 
    -   ริดสีดวงภายใน (Internal Hemorrhoids) มันเกิดขึ้นบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่เชื่อมต่อกับทวารหนัก โดยมักไม่มีติ่งเนื้อยื่นออกมาก ยกเว้นในกรณีมีการถ่ายอุจจาระจะยื่นออกมาหรือมีภาวะเลือดออกซึ่งแบ่งเป็นระดับตามที่กล่าวมาแล้ว
    -   ริดสีดวงภายนอก (External Hemorrhoids) มักมีติ่งยื่นออกมาบริเวณรอบๆทวารหนักตลอดเวลา

4.โรคริดสีดวงทวารหนัก สามารถทานยาสมุนไพร เช่นเพชรสังฆาต หัวไชเท้า หรือน้ำผึ้ง เพื่อรักษาให้หายได้หรือไม่
     ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รับรองในการใช้ยาสมนุไพรเพื่อการรักษาโรคริดสีดวงทวาร อย่างไรก็ดีผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้นโดยการปรับฤติกรรมการขับถ่าย ไม่นั่งนาน เบ่งมาก รวมถึงรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้เพิ่มขึ้น

5.โรคริดสีดวงทวารสามารถกลับมาเป็นอีกได้ไหม 
     สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หากไม่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขับถ่าย หรือการรับประทานอาหาร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่