สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
บอกตรงๆนะคะ เหมือนคุณกลัวผู้ชายคนนี้หลุดมืออ่ะ เลยอยากรีบจดทะเบียนเร็วๆ
แต่ผู้ชายเค้าไม่ได้รีบและไม่จำเป็นต้องรีบไง เค้าเลยยังเฉย
อีกอย่างนึงคือตกลงกันแล้วว่าจะแต่งภายในปี 65 มันไม่ใช่การคบแบบเรื่อยเปื่อย ไร้จุดหมาย
แล้วระหว่างรอให้ถึงวันนั้นก็ใช้เวลาศึกษาดูใจกันไปด้วย
นี่พึ่งเข้าปี 65 มา 10 วันเอง ยังไม่เกินกำหนดเวลาเลย ทำไมเธอรีบจัง
(ซึ่งกรณีนี้ เราว่าผู้ชายไม่ได้เห็นแก่ตัวค่ะ คุณเป็นฝ่ายบีบเค้าเกิน)
ซึ่งคุณอยากจะเลิกก็เลิกได้ค่ะ
ผู้ชายการงานมั่นคง เงินเดือนพอมี อายุเท่านี้นี่กำลังเป็นหนุ่มเนื้อหอมเลยนะ หาสาวใหม่ได้สบายมากกกกกกก เค้าไม่น่าซีเรียสหรอก
แต่คุณนี่แหละ คิดว่าจะหาหนุ่มคนใหม่สเปคประมาณนี้ได้ทันแต่งในปี 65 มั้ย เพราะกำหนดเดิมคือปี 65 อยู่แล้ว แล้วคุณดูรีบ อยากแต่งมากอ่ะ
ถ้าคิดว่าไม่ ก็ไม่ต้องเลิกค่ะ ไปคุยกันให้เข้าใจ ปัญหานี้มันเคลียร์กันได้ ไม่ร้ายแรง
หากทุกอย่างเป็นไปได้ดี ไม่เกินปีนี้ เดี๋ยวก็ได้แต่งแล้ว
อย่ารีบวิ่งให้ถึงเส้นชัยจนสะดุดขาตัวเองล้มก่อน ช้าๆได้พร้าเล่มงามค่ะว่าที่เจ้าสาว
แต่ผู้ชายเค้าไม่ได้รีบและไม่จำเป็นต้องรีบไง เค้าเลยยังเฉย
อีกอย่างนึงคือตกลงกันแล้วว่าจะแต่งภายในปี 65 มันไม่ใช่การคบแบบเรื่อยเปื่อย ไร้จุดหมาย
แล้วระหว่างรอให้ถึงวันนั้นก็ใช้เวลาศึกษาดูใจกันไปด้วย
นี่พึ่งเข้าปี 65 มา 10 วันเอง ยังไม่เกินกำหนดเวลาเลย ทำไมเธอรีบจัง
(ซึ่งกรณีนี้ เราว่าผู้ชายไม่ได้เห็นแก่ตัวค่ะ คุณเป็นฝ่ายบีบเค้าเกิน)
ซึ่งคุณอยากจะเลิกก็เลิกได้ค่ะ
ผู้ชายการงานมั่นคง เงินเดือนพอมี อายุเท่านี้นี่กำลังเป็นหนุ่มเนื้อหอมเลยนะ หาสาวใหม่ได้สบายมากกกกกกก เค้าไม่น่าซีเรียสหรอก
แต่คุณนี่แหละ คิดว่าจะหาหนุ่มคนใหม่สเปคประมาณนี้ได้ทันแต่งในปี 65 มั้ย เพราะกำหนดเดิมคือปี 65 อยู่แล้ว แล้วคุณดูรีบ อยากแต่งมากอ่ะ
ถ้าคิดว่าไม่ ก็ไม่ต้องเลิกค่ะ ไปคุยกันให้เข้าใจ ปัญหานี้มันเคลียร์กันได้ ไม่ร้ายแรง
หากทุกอย่างเป็นไปได้ดี ไม่เกินปีนี้ เดี๋ยวก็ได้แต่งแล้ว
อย่ารีบวิ่งให้ถึงเส้นชัยจนสะดุดขาตัวเองล้มก่อน ช้าๆได้พร้าเล่มงามค่ะว่าที่เจ้าสาว
แสดงความคิดเห็น
หมั้นแล้วขอแฟนจดทะเบียนสมรสแฟนบอกไม่พร้อม ควรไปต่อไหมคะ
เราอายุ 32 เท่ากันกับแฟน เรารับราชการ แฟนรัฐวิสาหกิจคบหากัน 1ปี หมั้นแล้วรอแต่งภายในปี 65 การใช้ชีวิตปกติทั้วไปค่ะ มีวันหนึ่งเราพูดคุยกันเรื่องจดทะเบียนสมรส เราคุยกับแฟนบอกว่า เธอ ที่แม่เธอกับพี่ชายเรียกเราคุยวันนั้นให้จดทะเบียนสมรสกับเธอ เพราะ เห็นว่าเราดูแลชีวิตเธอ เป็นคู่ครอง จดวันนี้หรือจดหลังแต่งก็คุณค่าเท่ากัน แม่แฟนบอก แล้วพอดีวันนั้นแฟนอยู่ด้วย เราเลยถามแฟนว่า เธอเห็นว่าไง เค้าตอบรับคำต่อหน้าแม่เค้าและพี่ชายว่า ไม่ติดอะไร 14 กุมภา65 ค่อยไปจด ผ่านมา หลังจากที่คุยไป2-3 เดือน เราเลยถามอีกทีว่า สรุปเราจดทะเบียนสมรสกันไหม เค้าตอบลังเลไปมา ว่า แต่งก่อนค่อยจดกะได้ การหมั้นคือการคบหาดูใจกันไปก่อน เค้าถามว่าทำไมเราอยากจด เราเลยตอบไปว่า จดทะเบียนสมรสเพราะเราเป็นคู่ชีวิตกันเดินไปข้างหน้าด้วยกัน มีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นสามีภรรยาที่ดีต่อกันในทางกฎหมาย เค้าบอกกับเราว่าเค้ามองเฉยๆกับเรื่องนี้แล้วก็หัวเราะ เราเลย เสียใจ แล้วก็ถกเถียงกัน เราเลยถามว่า ทำไมดูเหมือนไม่อยากจดทะเบียนสมรส เค้าตอบมาทำเราอึ้งมาก ไม่พร้อมจดทะเบียนสมรส และยังไม่มั่นใจ เราได้ยินแค่นั้น เราเลย ถอดแหวนหมั้นคืนเค้า แล้วเราก็อธิบายบอกเค้าว่า ทุกอย่างที่เราตั้งใจทำหน้าที่ของเราถึงวันนี้ คือเราทำด้วยความรักและความตั้งใจ แต่คำพูดที่เธอพูดออกมา ไม่ได้แสดงออกถึงการให้เกียรติกันเลย เราเลยตัดสินใจบอกเค้าว่า เราขอกลับบ้านนะ เราเดินต่อไม่ได้ เค้ากะบอกว่า ไม่ได้อยากให้กลับ แต่แค่มองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเฉยๆสำหรับเค้า เราเลยบอกว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่เฉยสำหรับเรา เราเสียใจเราขอถอยไปตั้งหลักที่บ้าน เค้ากะ คุกเข่าลง เอาแหวน มาสวมคืนให้ เรากะใส่นะ แล้วก็เหมือนเค้าหนีปัญหาสวมแหวนเสร็จจะเข้าบ้านนอนเลย เราเลยบอก ว่าปัญหาควรคุยให้จบไม่อยากให้ข้ามวัน เค้าเลยบอกเฉยๆนะถ้าจะถามเรื่องจดไหม บอกไปแล้ว เราเลยตัดสินใจหยิบมือถือกะเสื้อแขนยาวเดินออกจากบ้านไป สักแปบ เค้าก็เดินมาตาม แต่ไม่เห็นเรา เรายืนอยู่ที่รถ นฝเค้าเลยกลับไปบ้านโทรหา 7-8 สาย และทิ้งข้อความว่า ( ไม่ได้อยากให้ไป แค่อยากอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่คาดหวังอะไรกันจริงๆ เสียใจ กลับมาได้ไหม ) แต่เราก็ไม่รับสายไม่ตอบ ไม่อ่าน เค้าโทรจนเค้าเผลอหลับไป เพราะ เค้สอาจจะง่วง เราเลยเดินกลับมาที่บ้าน เห็นเค้าหลับ
เราเลยไปนอนอีกห้องหนึ่ง เหตุผลที่กลับมา คือเราคิดว่า ถ้าเรา กลับบ้านไป นี่คือ การที่เราเลิกกันโดยสิ้นเชิง เราเลย คิดว่า ให้มันเป็นเรื่องที่เราไม่ไหวจริงๆเราถึงจะก้าวออกไป พี่พี่ มองเรื่องนี้ยังไงกันบ้างค่ะ รายละเอียด คือ หมั้น หนูไมไ่ด้ ให้นางออกคนเดียวนะคะ ทุกอย่างหารครึ่ง หมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตร่วมกัน ก็ครึ่งๆหมด กินข้าว น้ำมันรถ ของใช้ในบ้าน อาหาร ทุกสิ่งทุกอย่าง เราคิดว่า เราไม่เอาเปรียบนะ ก็หารครึ่งให้หมด แม้กระทั่งเงินที่จะไปแต่ง เราบอก ว่าการแต่งงานเป็นการใช้ชีวิตคู่และก้าวไปด้วยกันไม่อยากลำบากครอบครัวทั้งสองฝ่าย เก็บหอมรอมริบกันเอง ทำไม เค้าถึงกล้าตอบว่าไม่อยากจดและยังไม่พร้อม และไม่มั่นใจในตัวเรา หนูควรไปต่อไหมคะ หรือ หนูควรเลิก และถอยออกไปอยูกับตัวเองสะ ให้เค้าไปเจอคนที่เค้าพร้อมจริงๆ และมั่นใจในคนคนนั้น หรือหนูควรจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี คะ ขอบคุณมากค่ะ