กระทู้ลำดับที่ 5,555 + ของ CGM48

ตามที่ผมเคยบอกไว้เมื่อปลายปีก่อนว่าจะมาถอดรหัส สิ่งที่เพลงผูกพันนิรันดร์ ได้บอกเอาไว้
บางเรื่องก็บอกกันตรงๆ แต่บางเรื่องก็ต้องตีความหมายกัน ดังนั้นนี่คือการถอดรหัสเพลงในความคิดของผม
เริ่มกันเลย

เกริ่นนำ เพลงนี้ต้องการบอกถึงความกดดันที่เกิดจากการถูกเลือก และ การต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ความถูกคาดหวัง และ โอกาส กับ เวลา ในการที่จะพิสูจน์ตัวเอง เมื่อได้มาเป็นเมมเบอร์แล้ว

ท่อนแรกของเพลง

เวลาเธอมองมาก็เหมือนว่าใจมันสั่น (ใจมันสั่น)
ผู้หญิงที่เธออยากเจอดังฝัน ฉันไม่ใช่ อย่ามั่นใจฉันเลยเธอ Pressure

สายตาที่มองมามากับความรู้สึกหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือความคาดหวัง ซึ่งคนที่เป็นตัวเราย่อมรู้ดีว่าเราเองก็มีข้อเสีย
และไม่เพอร์เฟคอาจไม่ดีเหมือนคนอื่น หรือ มีคนอื่นที่ดีกว่ามากมายด้วยซ้ำ ดังนั้นอย่าเพิ่งมั่นใจกันมากไป
เป็นความรู้สึกของผู้ถูกเลือกที่พยายามปกป้องคนที่เลือกเราไมให้บาดเจ็บเกินไป
จากการไม่เผื่อใจให้ข้อเสียของเรา ที่อาจจะต้องเจอในอนาคต และ นี่คือความกดดัน รูปแบบหนึ่งนั่นเอง

ลมหนาวเวียนไป ก็ล่องลอยผ่านสายแม่ปิง ไม่รู้ก็เพราะลมแรงจนไม่ทันตั้งตัว

ลมที่เกิดจากความแตกต่างของอากาศร้อนและอากาศเย็น ได้นำพาเอาความหนาวเข้ามาด้วยโดยไม่ทันตั้งตัว
เหมือนช่วงที่ลมหนาวเริ่มพัดเข้ามาให้เรารับรู้ได้ว่าถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงฤดูอีกครั้ง ซึ่งการเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวนั้น
ก็เหมือนกับว่าไม่เตรียมพร้อมต่อการรับมือ จึงทำให้เราได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงนั้นได้มากกว่า

เพราะอะไร จู่จู่เธอบอกรัก make sure ไม่รู้ว่าทำไมเธอเลือกฉัน

การถูกเลือก (Senbatsu) ในที่นี้เมมเบอร์ทุกคนได้รับการถูกเลือก หลังจากออดิชั่นรอบสุดท้าย
คนที่ถูกเลือกก็คงมีการตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราถูกเลือกเข้ามาเพราะอะไร ?

เปื้อนสนิทตี้เตวเตวโตยกั๋น หนังก้าหาจบอู้กันม่วนแต้แต้
อ้ายตี้เตวตางข้างหันมาแล้วจู่จู่ กระซิบเบาเบา (บอกชอบเรา)
พูดเบาเบา (ใจมันสั่น) ไม่เคยคิด ไม่เคยเลยสักนิดเหมือนฝัน

ในมุมมองความรักของหญิงสาว การถูกบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัว นำมาซึ่งความรู้สึกตื่นเต้น กดดัน
แต่นั่นเกิดขึ้นกับคนๆเดียวที่มาบอกรักกัน แตกต่างกับการที่เมื่อถูกเลือกให้มาเป็นเมมเบอร์แล้ว
จะต้องเจอกับการบอกรักจากแฟนคลับมากมายในรูปแบบต่างๆ

ท่อนฮุค 1

พอเธอมองตาก็เหมือนดังกับ pressure (pressure)
พอเธอมองมาไม่คุ้นเคยเลย ทำไง (wow wow wow wow)
เวลาเธอมองตาอย่าคิดอะไรมากมาย (pressure)
ฉันคงไม่ดี อย่างที่เธอคิดและเฝ้าคอย
ขอเวลาให้ฉันสักหน่อย pressure

เมื่อเราก็รู้ข้อดีข้อเสียของตัวเอง ดังนั้นความกังวลต่อความไม่เพอร์เฟคของตัวเองจึงเกิดขึ้น
ว่าจะเป็นดังใจหรือเป็นคนที่ดีพอเหมาะสมกับเขาแล้วหรือยัง เมื่อตัวเองก็รู้ข้อเสียของตัวเอง
โดยไม่ถามแค่ว่า เธอชอบฉันตรงไหน แต่อยากบอกให้รู้ว่าฉันก็ไม่ได้ดีอะไรมากนะ ฉันก็มีข้อเสีย
ขอเวลาให้ฉันได้พัฒนาตัวเอง เพื่อจะดีพอกับโอกาสที่เธอมอบให้ นั่นคือฉันต้องพยายามพัฒนาตัวเองต่อไป

เหมือนกับการที่เมมเบอร์ที่ถูกเลือกเข้ามา ด้วยพื้นฐานด้านต่างๆที่แตกต่างกัน
ทั้งการร้องการเต้น การบริหารจัดการเวลาของชีวิต แล้วยังมีข้อเสียที่ยังไม่เห็นในวันที่ถูกเลือกอีก
ต่างคนก็มีสิ่งที่ต้องปรับปรุง เพื่อการอยู่ร่วมกันได้ซึ่งจะกล่าวถึงในท่อนที่ 2

ท่อนที่ 2

เมื่อสัญญาณไฟ เปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวทันใด เมื่อพร้อมแล้วเราก็คงก้าวไปด้วยกัน

เพลงไอดอลเพลงนี้ เขาพูดถึงเรื่องสัญญาณไฟจราจรครับ ซึ่งเป็นตัวแทนของ กฏ กติกา ในการใช้ถนนร่วมกัน
ซึ่งสำหรับการอยู่ร่วมกันนั้น สิ่งจำเป็นที่ต้องมี คือ กฏ ที่มีไว้เพื่อให้ทุกคนทำในแบบเดียวกัน
เพื่อให้ไม่มีใครใช้เสรีของตัวเองจนมากเกินไป
จนไปล้ำเส้นของคนอื่น เปรียบเหมือน การใช้รถใช้ถนน ที่มีเลนให้รถวิ่ง

ถ้าไม่เคารพกฏ ใช้เสรีไปวิ่งเลนคนอื่น หรือไปคร่อมเลน ก็จะเกิดความวุ่นวายไปทั้งระบบของการเดินรถ กระทบโดยรวม
ดังนั้นการทำตามกฏเหล่านี้ ไม่ใช่เราถูกตีกรอบ แต่เราทำเพื่อแสดงความเคารพไม่ให้เราไปทำลายความสงบในการอยู่ร่วมกัน

การเดินข้ามแยกที่มีไฟเขียวไฟแดง หรือ ข้อห้ามต่างๆในการใช้ถนนก็เช่นกัน
กฏ เองก็มีข้อที่สามารถปฏิบัติได้ ข้อห้าม แต่บางอย่างก็เป็นข้อที่สมควรทำ
ซึ่งเป็นการแสดงออกถึง น้ำใจ มากกว่าแค่ที่ฏกเขียนไว้
กฏ ที่ว่ามาก็เทียบเคียงได้กับคำว่า กฏของวง นั่นเอง

คำว่า วง เช่น วงกลม วงรี คือรูปที่มีเส้นขอบโค้งชนต่อกัน เกิดเป็นขอบเขต ในวง และ นอกวง เกิดขึ้น
การอยู่นอกวง กับ ในวง จึงต่างกัน หากว่าในวงเป็นพื้นที่ของการอยู่ร่วมกันของคนที่แตกต่าง
ในวงนั้นๆก็จำเป็นต้องมีกฏกติกาให้คนในวงได้ทำตามเช่นกัน
ซึ่งหากใครในวงไม่เคารพกฏกติกาก็จะทำให้ในวงนั้นเกิดความวุ่นวาย หรือ วงแตก ได้

ก็หวังว่าเธอ ได้เจอะเจอกับคนที่ใช่ ไม่รู้ฉันเป็นอย่างนั้นไหม

ความคาดหวังที่ถูกตีกลับไปให้คนที่คาดหวัง ก็หวังว่าเธอ ได้เจอะเจอกับคนที่ใช่ ไม่รู้ฉันเป็นอย่างนั้นไหม

เมื่อเมมเบอร์ถูกเลือกเข้ามาพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นทีม เป็นวง วงที่ต้องมีกฏกติกาให้ทำตามทั้งเมมเบอร์ และ แฟนคลับ
เมมเบอร์ก็หวังว่าตัวเองนั้นจะทำได้ตามกฏซึ่งนั่นคือความคาดหวังแรกของคนที่เลือกเมมเบอร์ และ แฟนคลับที่เลือกเมมเบอร์
เป็นคามิ หรือ โอชิ เพราะ เส้นทางนี้ยังต้องผ่านอุปสรรคอีกมากและใช้เวลาถึง 6 ปีต่อ 1 สัญญา
ไม่มีใครรู้อนาคตว่าฉันจะเป็นได้ตามที่คาดหวังตลอดสัญญานั้นไหม เพราะ ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
และ เวลาจะเป็นคำตอบเรื่องเหล่านี้เองในที่สุด

ก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลาที่มีแต่ดอกไม้
แต่ฉันก็ไม่ชอบถูกมองว่าเป็นดอกไม้ของใคร

เพลง มะลิ ซิงเกิล 3 ของ CGM48 ได้แทนตัวเมมเบอร์เป็นดอกไม้ นั่นคือ ดอกมะลิ
แล้วดอกมะลินี้จะเป็นดอกไม้ของใครแค่คนใดคนหนึ่ง หรือเป็นดอกไม้ของคนมากมาย ที่เรียกว่า แฟนคลับ
การเป็นเมมเบอร์ ของหญิงสาวคนนึงที่เกิดมาในโลกนี้ จะเลือกเส้นทางแค่เป็นคนรักของใครสักคน
หรือเลือกเส้นทางที่จะได้อยู่ท่ามกลางความรักของคนมากมาย ที่คอยรักเป็นกำลังใจ สนับสนุน
ให้ทำตามสิ่งที่รัก ทั้งการร้องการเต้น การแสดงต่อหน้าผู้คน
นี่คือความแตกต่างของการเป็นเด็กสาวธรรมดาที่มีชีวิตเกี่ยวข้องกับคนไม่มาก โดยเฉพาะเรื่องความรัก
กับเมื่อตอนได้มาเป็นเมมเบอร์แล้ว ซึ่งจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากไหน

แม้จะไม่มีกฏข้อห้ามที่เกี่ยวข้องกับการเป็นแฟนของใคร เขียนไว้ในสัญญา
มีแต่เรื่องของการห้ามไม่ให้ไปกัน 2 ต่อ 2 กับผู้ชาย หรือมีภาพหลุดว่าไปเดทกันแบบส่วนตัว
เพราะการมีภาพคู่หลุดออกมานอกจากเรื่องงานของวงนั้นกระทบกับงานที่เมมเบอร์ต้องทำให้วงคือ ทูช๊อต
แต่หากเมมเบอร์เองรักษาความรู้สึกว่า ฉันอยากเป็นดอกไม้ของแฟนคลับทุกคนด้วยใจจริง ไม่ใช่ เป็นแค่แฟนของคนใดคนหนึ่ง
ในช่วงเวลาที่เป็นเมมเบอร์ได้ ก็เท่ากับเมมเบอร์ได้สอบผ่านหนึ่งในความคาดหวังของคนที่เลือกเมมเบอร์เข้ามา
รวมถึงสอบผ่านในความคาดหวังของแฟนคลับด้วย

ความรักภายในใจ (image) หรือคิดผิดไป (damage) ก็สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่คิดใช่ไหม

ความรักภายในใจ คือจิตนาการ หรือ คิดผิดไปคาดหวังแล้วผิดหวัง ก็เกิดเป็นความเสียหายขึ้นกับใจ
หากว่า สิ่งที่เห็นไม่เป็นไปอย่างที่คิด นั่นคือ ความผิดหวังในความคาดหวังของคน
ซึ่งจากเรื่องที่ผ่านมาของ CGM เองก็มีเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่า เออ เราคิดผิดไปนะ
เพราะสิ่งที่เห็นมันไม่ตรงกับสิ่งที่เราคิดจริงๆ
แต่หากมองในอีกมุม เวลาได้พิสูจน์ สิ่งต่างๆให้เราเห็น เมื่อเห็นแล้วก็ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปเท่านั้น
เมื่อมีการลงโทษ เราก็รอเวลาพ้นโทษ เพื่อให้กลับมาเริ่มใหม่ แต่ก็กลับไม่เป็นอย่างที่คิด

ความรักเข้ามาก็เหมือนดังกับ pressure (pressure)
ความรักของเธอหนักหนามากมายเกินไป (wow wow wow wow)

ความรักจากคนๆเดียวก็มากแล้ว แต่เมื่อมาอยู่ตรงนี้ เป็นเมมเบอร์ ก็จะได้เจอกับความรักที่มากกว่าคนทั่วไป
ซึ่งความรักนี้ก็มากับความคาดหวัง และ การถูกเรียกร้องให้ทำตามใจของแต่ละคน ซึ่งมันยากที่จะทำ
เพราะต่างคนก็ชอบต่างกัน ไม่สามารถทำตามใจใครได้หมด และ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ดังนั้น

จะเป็นตัวเราเองไม่คิดอะไรมากมาย (pressure)
ต้องมีสักวัน วันที่ตัวฉันนั้นมั่นใจ จะรอได้ไหมคนดี pressure

อย่าคิดมาก ปล่อยวางบ้าง การเป็นตัวเอง ก็เป็นทางเลือกหนึ่งของการจะอยูต่อไป
รักษาเอกลักษณ์ และ เพิ่มความมั่นใจเพื่อสักวัน จะพัฒนาด้านต่างๆให้ตัวเองดีขึ้น
เพื่อทำตามความต้องการของคนอื่นที่มากขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา
และ คำขอร้องจากผู้ถูกเลือกคือ จะรอได้ไหม คนดี...

ท่อน บริดจ์ ผมชอบท่อนนี้มากๆ

เพราะทุกทุกคนนั้นไม่ว่าใครหรือใคร ก็คงเป็นสีที่ต่างกันไป
เพราะทุกทุกคนนั้นย่อมต่าง แล้วจะให้ใครเหมือนใคร

นี่แหละสิ่งที่เราควรยอมรับในความแตกต่าง ว่ามันคือความจริง และ คือ ธรรมชาติของสรรพสิ่ง
โดยเฉพาะกับคนเรา ความแตกต่าง คือสิ่งกำหนดความไม่เหมือน การมีลำดับต่างๆ การมีตำแหน่งต่างๆ
แต่ความแตกต่างนั้นจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ก็คงต้องย้อนไปอ่านด้านบน เรื่องเกี่ยวกับกฏกติกาที่ว่ามา
ที่ทำให้คนมากมายดำเนินชีวิตไปด้วยกันโดยสงบ เพราะไม่มีใครล้ำเส้นของใครนั่นเอง

แม้จะแปลกไปอาจไม่เหมือนอย่างใครเขา แต่คงเป็นตัวเรา

ท่อนนี้ก็สำคัญครับ เพราะความแตกต่าง กับ ความแปลก มันเป็นสิ่งที่ไปทางเดียวกัน
นั่นคือไม่เหมือนใคร แต่แปลกนี่จะไปทางไม่เหมือนใครมากๆหน่อย
แต่หากความไม่เหมือนมากๆนั้นคือคงความเป็นตัวตนของเราจริงๆ
มันจะกลายเป็นเอกลักษ์ไปในที่สุด แบบที่เพลงของ 48 มีเอกลักษณ์ในเนื้อหาของเพลง
ที่ให้กำลังใจ และ มุมมองหลากหลายในการใช้ชีวิตและการอยู่ร่วมกัน แตกต่างจากเพลงรักของเด็กสาวทั่วๆไป

ไม่เก่งอย่างใครใคร แต่คงมีสักวันใช่ไหม

ท่อนนี้เข้ากับเซนเตอร์มากๆ นั่นคือ แชมพู ที่ไม่ได้เก่งในการร้องเต้นมากตั้งแต่แรก แต่ก็ยังคงพัฒนาตัวเอง
จนวันหนึ่ง เมื่อความพัฒนานั้นมากพอ โอกาสก็จะเข้ามาเป็นของคนที่พร้อมแล้วเช่นกันใน สักวัน

ซึ่งคำว่า สักวัน ของแต่ละคน มันมีเวลาไม่เท่ากัน
แต่คำว่าสักวันนั้นคือสิ่งที่เป็นเป้าหมายของความหวัง

ในเพลงของ 48 ก็มีการใช้คำว่า สักวัน อยู่หลายเพลง เช่น
ฉันมั่นใจว่าเราจะเป็นดังฝันในวันแห่งความรัก สักวันหนึ่ง >> เพลงคุกกี้เสี่ยงทาย
ปล่อยไป ต้องปล่อยไป ในสักวัน ฉันคงลืมได้เอง >> เพลงคิดถึง
สักวัน เธอคงถึงที่ปลายทางที่เธอหวัง >> เพลง River
และคงต้องมีสักวัน จะได้ดั่งใจสมปรารถนา >> เพลงวันแรก
สักวันนะ จะให้ทุก ๆ คน ได้เห็นนะ ได้รู้นะ ว่าฉันต้องอดทน >> เพลงมะลิ
สักวันทั้งฉันและเธอ คงมีวันพบกัน ใหม่ สักวัน อยากให้เธอภูมิใจในตัวของฉัน >> เพลงบ้านแห่งหัวใจ

ท่อนฮุกสุดท้าย

พอเธอมองตาก็เหมือนดังกับ pressure (pressure)
พอเธอมองมาไม่คุ้นเคยเลย ทำไง (wow wow wow wow)
เวลาเธอมองตาอย่าคิดอะไรมากมาย (pressure)
ฉันคงไม่ดี อย่างที่เธอคิดและเฝ้าคอย ขอเวลาให้ฉันสักหน่อย pressure

ท่อนจบ

รักเธอเหลือเกิน อยากบอกให้รู้นะสักวัน ฉันจะรักเธอชั่วนิรันดร์ pressure

ความกดดันนี้ยังต้องใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ ว่าฉันจะเป็นคนที่ดีแบบที่เธอคิด และ เฝ้าคอยได้จริงๆไหม
ซึ่งต้องอาศัยกำลังใจมากมาย ใครจะคิดว่าเพลง ไอดอล เด็กสาววงหนึ่ง มันจะซ่อนอะไรไว้มากมายขนาดนี้
และนี่คือเหตผลที่ผมชอบพลงของ 48TH แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ เพลงที่เนื้อหาดีๆลึกซึ้ง ที่อยากให้คนได้ฟังมากๆ


ของขวัญปีใหม่ของแชมๆ อีกชิ้นคือ ยอดวิว เพลง ผูกพันนิรันดร์ ถึง 6 แสนวิวแล้ว