สวัสดีค่ะ
.
อยากจะขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ส่วนตัวไม่ค่อยรู้เรื่องรถ เรื่องกฎหมายอะไรเท่าไหร่
.
เรื่องมีอยู่ว่า.....
.
ผ่อนรถกับธนาคารหนึ่งอยู่ รถเป็นชื่อเราค่ะ ส่วนคนใช้คือน้องชาย ( แม่มาขอให้เราทำเรื่องซื้อรถค่ะ เพราะใช้ชื่อพ่อกับแม่ไม่ได้แล้ว น้องชายตอนนั้นยังเรียนมัธยมอยู่ โดยสัญญาว่าจะไม่ให้เรามีปัญหาอะไรงี้ ) รถเป็นรถกระบะมือสองราคา 7 แสนกว่าบาท ตอนนี้ผ่อนมาแล้ว 5 แสนกว่า เหลือประมาณ 2 แสนกว่าๆ
โดยทางบ้านผ่อน จนกระทั้งกลายเราเป็นคนผ่อนบ้างๆ บางครั้งไม่ไหวช่วยกันคะละครึ่ง ส่วนตัวขับรถไม่เป็นค่ะ
.
จนกระทั้งสองสามปีก่อน ผ่อนไม่ไหวค่ะ (รถเคยโดนยึดไปแล้ว 1 รอบ ก็ชำระหนี้ไปแล้วก็เอากลับมาใช้ต่อ)
ขาดจ่ายมาสามเดือนแล้ว ก็คุยกับแม่ว่าจะให้รถโดนไฟแนนซ์ยึดไปขายทอดตลาดเลยแล้วยอมจ่ายส่วนต่างเอาดีกว่า เพราะตอนนี้มีภาระมากมายที่จะต้องจ่าย แถมรถคันนี้ไม่ได้ใช้ยังจะต้องมาจ่ายแทน....... (น้องชายไม่มีปัญญาผ่อนต่อด้วย ทำเรื่องโอนสิทธิ์ก็ไม่ได้) จนวันหนึ่งน้องชายนำรถเราไปชนมา แล้วก็ขับรถเข้าอู่เพื่อน ณ. เวลานั้น น้องชายบอกแค่ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงรถ...เพื่อนซ่อมให้แล้ว...
หลังจากนั้น.... เหมือนน้องจะรู้ว่าเราผ่อนต่อไม่ไหว น้องก็เสนอมาว่า เพื่อนจะซื้อต่อ.... (เพื่อนคนไหนเราไม่ร็จักเลยค่ะ แล้วไม่บอกเบอร์ติดต่ออะไรด้วย)
.
เรารู้จากแฟนน้องว่ารถอยู่ที่อู่เพื่อนคนนี้ เลยหาเฟสบุ๊คจนเจอค่ะ คุยกันไปคุยกันมา ได้ความว่า น้องเอารถไปชนคน บาดเจ็บ แล้วขับรถหนี้เข้าอู่เพื่อน แล้วก็อยู่ๆ ถามขายกันเลย ตกลงราคากันที่ แสนกว่าๆ และน้อง..ขอเงินเพื่อนล่วงหน้าก่อน 2 หมื่น เพื่อเอาไปจ่ายคู่กรณี ..... เอาเป็นว่าพวกเขาไปดีลราคากันเอง เราไม่ยอมค่ะ เพราะไปตกลงราคากันได้ยังไง เราที่เป็นเจ้าของควรเป็นคนเจรจา ก็ไม่ยอมกันค่ะ สุดท้ายไม่ขาย เพื่อนน้องเลย ขอเงินค่าซ่อมรถและเงินที่น้องชายขอไปล่วงหน้าคืน รวม 50,000 บาท ถึงจะคืนรถให้
.
เราเลยบอกเพื่อนน้องไปว่า เราไม่เอารถคันนี้อยู่แล้วเพราะผ่อนต่อไม่ไหว จะคืนรถให้ไฟแนนซ์ไปเลย และจะให้น้องชายหาเงินมาจ่ายหนี้เพื่อนเอง (ตอนนี้เพื่อนน้องเอารถเป็นตัวประกันอยู่) เราบอกเพื่อนน้องไปว่าจะไม่รับผิดชอบจ่ายให้ เราแจ้งไฟแนนซ์ไปแล้วว่ารถอยู่ทีน้องคนนี้ ไฟแนนซ์บอกว่าให้ไปตามรถกลับมาเอง เขาไม่ไป.... ไปแจ้งความแล้วตำรวจบอกให้เคลียร์กันก่อน เพราะคู่กรณ์คือน้องชาย น่าจะคุยกันง่ายกว่า เราก็เห็นใจเพื่อนน้องที่ไม่รู้เรื่อง... และไม่อยากฟ้องน้อยชายตัวเอง....
.
ผ่านไปสัก 1 ปี น้องชายนำเงินไปคืนเพื่อน 3 หมื่น เพื่อนน้องชายบอกว่า ขอเพิ่มอีก 1 หมื่น เป็น 3 หมื่น (ทั้งๆที่เหลือ 2 หมื่น) ไม่มีจดหมายจากไฟแนนซ์ หรือ เจ้าหน้าที่ติดต่อมาเลยระหว่างนี้ ไม่มีหมายศาลอะไรเลย....
.
จนมาถึงปีนี้ เราอยากรู้ว่ารถเป็นยังไง พอไม่มีหมายอะไรส่งมา เลยไปตามรถที่เพื่อนน้อง
.
เพื่อนน้องบอกว่าถ้าจะเอารถคืน ต้องจ่าย 4 หมื่น เพราะมีดอกเบี้ยไปกู้มาจากที่อื่น และรถก็อยู่ที่เขานานแล้ว ไม่ยอมมาเอา ทีนี้ก็งงเลยไหนบอกว่าเหลือ 2 หมื่น หรือ 3 หมื่น นี่ทำไมเอาเพิ่มละ
.
เพื่อนน้องส่งรูปรถมา เอารถไปทำสีใหม่ แล้วบอกว่า ถ้าจะเอาสีเดิมจ่าย 4 หมื่น ถ้าจะเอาสีปัจจุบันก็จ่าย 3 หมื่น ถ้าไม่พอใจให้ไปฟ้องศาล....
เราเลยถามว่ามีสิทธิอะไรเอารถไปทำสี เขาบอกว่า "เรื่องของผมคับ " (เอาจริงไม่มีสิทธิ์อยู่แล้วรึเปล่าคะ) แล้วบอกว่า มีสัญญาซื้อขายรถระหว่างเขากับน้องชาย .........เราเลยไหนขอดูหน่อย ก็เงียบ....ไม่มีมาให้ดู ไหนจะค่าซ่อมรถ ซ่อมอะไรไปบ้างเท่าไหร่ ขอดูสัญญาเงินกู้เพื่อนน้องบอกว่าไปกู้มาเพื่อมาเป็นค่าซ่อมรถ ก็ไม่มีให้ดู.....
.
หลังจากนั้น 1 วัน มี จดหมายจาก บ. หนึ่งแจ้งมาว่า ทางไฟแนนซ์ได้มอบหมายให้ บ. นี้ ทำเรื่องติดต่อชำค่างวดแทน ( ประมาณนี้ค่ะ )
.
วันนี้ทาง บ. นี้โทรมา เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เขาก็บอกว่า ให้น้องชายไปเคลียร์กับเพื่อนและเอารถออกมาก่อน แล้วให้เราโทรแจ้ง บ. เขาจะเอาไปขายทอดตลาดและให้เราจ่ายส่วนต่างที่เหลือ ถ้าให้ศาลฟ้องเราอาจจะจ่ายแพงกว่าค่าส่วนต่างก็ได้นะ.... (เคยได้ยินจากเพื่อน เคยขึ้นศาลบอกว่า ศาลอาจจะช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายค่าปรับหรือดอกเบี้ยเพิ่มก็ได้ )
.
ส่วนญาติบอกว่า ให้ไปคืนรถที่ศาล ปัญหาคือ บ. ไม่ฟ้องนี่สิคะ
.
ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ แต่ละคนบอกไม่เหมือนกัน...
.
เราควรจะทำอย่างไรดี ส่วนตัวไม่อยากติดหนี้บูโรค่ะ จริงตอนนี้ทำธุรกรรมอะไรก็ไม่ได้อยู่แล้ว กู้อะไรก็ไม่ได้ บัตรเครดิตก็ไม่มี
ควรทำแบบไหนดีคะ ? มีวิธีที่ทำให้ จ่าย จบ และ เจ็บน้อยที่สุดมั๊ยคะ
เอารถไปคืนศาล หรือ ให้ไฟแนนซ์นำรถไปขายทอดตลาดดีคะ?
.
อยากจะขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ส่วนตัวไม่ค่อยรู้เรื่องรถ เรื่องกฎหมายอะไรเท่าไหร่
.
เรื่องมีอยู่ว่า.....
.
ผ่อนรถกับธนาคารหนึ่งอยู่ รถเป็นชื่อเราค่ะ ส่วนคนใช้คือน้องชาย ( แม่มาขอให้เราทำเรื่องซื้อรถค่ะ เพราะใช้ชื่อพ่อกับแม่ไม่ได้แล้ว น้องชายตอนนั้นยังเรียนมัธยมอยู่ โดยสัญญาว่าจะไม่ให้เรามีปัญหาอะไรงี้ ) รถเป็นรถกระบะมือสองราคา 7 แสนกว่าบาท ตอนนี้ผ่อนมาแล้ว 5 แสนกว่า เหลือประมาณ 2 แสนกว่าๆ
โดยทางบ้านผ่อน จนกระทั้งกลายเราเป็นคนผ่อนบ้างๆ บางครั้งไม่ไหวช่วยกันคะละครึ่ง ส่วนตัวขับรถไม่เป็นค่ะ
.
จนกระทั้งสองสามปีก่อน ผ่อนไม่ไหวค่ะ (รถเคยโดนยึดไปแล้ว 1 รอบ ก็ชำระหนี้ไปแล้วก็เอากลับมาใช้ต่อ)
ขาดจ่ายมาสามเดือนแล้ว ก็คุยกับแม่ว่าจะให้รถโดนไฟแนนซ์ยึดไปขายทอดตลาดเลยแล้วยอมจ่ายส่วนต่างเอาดีกว่า เพราะตอนนี้มีภาระมากมายที่จะต้องจ่าย แถมรถคันนี้ไม่ได้ใช้ยังจะต้องมาจ่ายแทน....... (น้องชายไม่มีปัญญาผ่อนต่อด้วย ทำเรื่องโอนสิทธิ์ก็ไม่ได้) จนวันหนึ่งน้องชายนำรถเราไปชนมา แล้วก็ขับรถเข้าอู่เพื่อน ณ. เวลานั้น น้องชายบอกแค่ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงรถ...เพื่อนซ่อมให้แล้ว...
หลังจากนั้น.... เหมือนน้องจะรู้ว่าเราผ่อนต่อไม่ไหว น้องก็เสนอมาว่า เพื่อนจะซื้อต่อ.... (เพื่อนคนไหนเราไม่ร็จักเลยค่ะ แล้วไม่บอกเบอร์ติดต่ออะไรด้วย)
.
เรารู้จากแฟนน้องว่ารถอยู่ที่อู่เพื่อนคนนี้ เลยหาเฟสบุ๊คจนเจอค่ะ คุยกันไปคุยกันมา ได้ความว่า น้องเอารถไปชนคน บาดเจ็บ แล้วขับรถหนี้เข้าอู่เพื่อน แล้วก็อยู่ๆ ถามขายกันเลย ตกลงราคากันที่ แสนกว่าๆ และน้อง..ขอเงินเพื่อนล่วงหน้าก่อน 2 หมื่น เพื่อเอาไปจ่ายคู่กรณี ..... เอาเป็นว่าพวกเขาไปดีลราคากันเอง เราไม่ยอมค่ะ เพราะไปตกลงราคากันได้ยังไง เราที่เป็นเจ้าของควรเป็นคนเจรจา ก็ไม่ยอมกันค่ะ สุดท้ายไม่ขาย เพื่อนน้องเลย ขอเงินค่าซ่อมรถและเงินที่น้องชายขอไปล่วงหน้าคืน รวม 50,000 บาท ถึงจะคืนรถให้
.
เราเลยบอกเพื่อนน้องไปว่า เราไม่เอารถคันนี้อยู่แล้วเพราะผ่อนต่อไม่ไหว จะคืนรถให้ไฟแนนซ์ไปเลย และจะให้น้องชายหาเงินมาจ่ายหนี้เพื่อนเอง (ตอนนี้เพื่อนน้องเอารถเป็นตัวประกันอยู่) เราบอกเพื่อนน้องไปว่าจะไม่รับผิดชอบจ่ายให้ เราแจ้งไฟแนนซ์ไปแล้วว่ารถอยู่ทีน้องคนนี้ ไฟแนนซ์บอกว่าให้ไปตามรถกลับมาเอง เขาไม่ไป.... ไปแจ้งความแล้วตำรวจบอกให้เคลียร์กันก่อน เพราะคู่กรณ์คือน้องชาย น่าจะคุยกันง่ายกว่า เราก็เห็นใจเพื่อนน้องที่ไม่รู้เรื่อง... และไม่อยากฟ้องน้อยชายตัวเอง....
.
ผ่านไปสัก 1 ปี น้องชายนำเงินไปคืนเพื่อน 3 หมื่น เพื่อนน้องชายบอกว่า ขอเพิ่มอีก 1 หมื่น เป็น 3 หมื่น (ทั้งๆที่เหลือ 2 หมื่น) ไม่มีจดหมายจากไฟแนนซ์ หรือ เจ้าหน้าที่ติดต่อมาเลยระหว่างนี้ ไม่มีหมายศาลอะไรเลย....
.
จนมาถึงปีนี้ เราอยากรู้ว่ารถเป็นยังไง พอไม่มีหมายอะไรส่งมา เลยไปตามรถที่เพื่อนน้อง
.
เพื่อนน้องบอกว่าถ้าจะเอารถคืน ต้องจ่าย 4 หมื่น เพราะมีดอกเบี้ยไปกู้มาจากที่อื่น และรถก็อยู่ที่เขานานแล้ว ไม่ยอมมาเอา ทีนี้ก็งงเลยไหนบอกว่าเหลือ 2 หมื่น หรือ 3 หมื่น นี่ทำไมเอาเพิ่มละ
.
เพื่อนน้องส่งรูปรถมา เอารถไปทำสีใหม่ แล้วบอกว่า ถ้าจะเอาสีเดิมจ่าย 4 หมื่น ถ้าจะเอาสีปัจจุบันก็จ่าย 3 หมื่น ถ้าไม่พอใจให้ไปฟ้องศาล....
เราเลยถามว่ามีสิทธิอะไรเอารถไปทำสี เขาบอกว่า "เรื่องของผมคับ " (เอาจริงไม่มีสิทธิ์อยู่แล้วรึเปล่าคะ) แล้วบอกว่า มีสัญญาซื้อขายรถระหว่างเขากับน้องชาย .........เราเลยไหนขอดูหน่อย ก็เงียบ....ไม่มีมาให้ดู ไหนจะค่าซ่อมรถ ซ่อมอะไรไปบ้างเท่าไหร่ ขอดูสัญญาเงินกู้เพื่อนน้องบอกว่าไปกู้มาเพื่อมาเป็นค่าซ่อมรถ ก็ไม่มีให้ดู.....
.
หลังจากนั้น 1 วัน มี จดหมายจาก บ. หนึ่งแจ้งมาว่า ทางไฟแนนซ์ได้มอบหมายให้ บ. นี้ ทำเรื่องติดต่อชำค่างวดแทน ( ประมาณนี้ค่ะ )
.
วันนี้ทาง บ. นี้โทรมา เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เขาก็บอกว่า ให้น้องชายไปเคลียร์กับเพื่อนและเอารถออกมาก่อน แล้วให้เราโทรแจ้ง บ. เขาจะเอาไปขายทอดตลาดและให้เราจ่ายส่วนต่างที่เหลือ ถ้าให้ศาลฟ้องเราอาจจะจ่ายแพงกว่าค่าส่วนต่างก็ได้นะ.... (เคยได้ยินจากเพื่อน เคยขึ้นศาลบอกว่า ศาลอาจจะช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายค่าปรับหรือดอกเบี้ยเพิ่มก็ได้ )
.
ส่วนญาติบอกว่า ให้ไปคืนรถที่ศาล ปัญหาคือ บ. ไม่ฟ้องนี่สิคะ
.
ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ แต่ละคนบอกไม่เหมือนกัน...
.
เราควรจะทำอย่างไรดี ส่วนตัวไม่อยากติดหนี้บูโรค่ะ จริงตอนนี้ทำธุรกรรมอะไรก็ไม่ได้อยู่แล้ว กู้อะไรก็ไม่ได้ บัตรเครดิตก็ไม่มี
ควรทำแบบไหนดีคะ ? มีวิธีที่ทำให้ จ่าย จบ และ เจ็บน้อยที่สุดมั๊ยคะ