สวัสดีคะ เพื่อนๆวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ความรักที่ทำให้เราเจ็บปวด จนไม่มีแรงเดิน....
เรื่องมันมีอยู่ว่าเราแต่งงานกับสามีมา1ปีนิดๆตลอดระยะเวลา1ปีที่อยู่ด้วยกันมาไม่มีวันไหนเลยที่เรามีความสุขเขาเป็นคนขี้เกียจมากและเห็นแก่ตัวที่สุด เขาทำงานเงินก็ไม่เคยให้เราส่วนเงินเราเขาเอาไปใช้จ่ายซื้อของใช้เข้าบ้านคือเงินเราทั้งหมด จนกระทั่งญาติพี่น้องเขาลงเล่นการเมืองเขาก็ได้ไปช่วยหาเสียงและไม่ค่อยกลับบ้านพอเราถาม คำตอบที่ได้คือหาเสียงเหนื่อยทั้งวันเลยนอนบ้านญาติ ซึ่งตอนนั้นเราได้ออกจากงานเนื่องจากโควิดตอนนั้นเรามีเงินเหลือติดตัว1500บาทเราพยายามทำขนมหารายได้พิเศษตอนนั้นเราแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลยเพราะต้องหาเงินเข้าบ้านซึ่งสามีเราก็ไม่เคยเอ่ยปากเราสักคำว่ามีเงินใช้ไหมเราเหนื่อยมากโทรหาแม่ร้องไห้กับแม่แถบทุกวัน คำพูดที่ออกจากปากแม่เราคือ "อดทน" ทำให้เราแถบจะไม่มีคำพูดต่อเลย ทุกคนให้เราอดทนแต่ไม่มีใครถามเราเลยว่าไหวไหม
จนมาถึงวันที่เราเลิกเป็นควายคือสามีเรากลับบ้านมาเอาเสื้อผ้าแต่บังเอิญเรามองผ่านหน้าต่างเห็นมีผู้หญิงนั่งอยู่ในรถข้างคนขับ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรพอสามีเราขับรถออกไปเราก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ตามไปจนเราเห็นสามีเราขับรถเข้าไปในรีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งมาก็อยู่ใกล้กับบ้านเราแท้ๆพอเราเห็นแบบนั้นเราก็ขับรถกลับมาที่บ้านรอให้ถึงเช้าแล้วไปบ้านแม่ยายเราแล้วพาแม่ยายเราไปที่รีสอร์ทแห่งนั้น แต่สิ่งที่แม่ยายเห็นกลับไม่ตกใจอะไรเลยที่เห็นลูกตัวเองเดินออกมากับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช้เรา แต่กลับหันหน้ามาหาเราแล้วพูดว่า"เรื่องไร้สาระ" ซึ่งตอนนั้นเราน้ำตาไหลจนพูดอะไรไม่ออก ตกใจกับคำพูดของแม่ยาย ที่ว่าลูกตัวเองมีชู้กลายเป็นเรื่องไร้สาระ และคำพูดที่สามีพูดกับเราคือ "รู้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องโกหกอีก"เราแทบจะไม่มีแรงเดินเลยตอนนั้นจนเราเป็นลม มารู้สึกตัวอีกทีคือเรานอนอยู่ที่บ้านแม่ยาย เราลุกขึ้นมาบอกกับสามีและแม่ยายว่าเราจะเลิกมาทำแบบนี้กับเราได้ไง แต่คำพูดที่ออกจากปากแม่ยายเราคือเรื่องแค่นี้เองอย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลย พอเราฟังจบเราเลยถามกลับไปว่าแม่รู้เรื่องนี้มาตลอดใช้ไหม แม่ยายเราตอบว่า "ใช้ รู้ตั้งนานแล้ว มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย" ซึ่งตอนนั้นที่เรารู้ความจริงเราโครตเสียใจเสียความรู้สึกกับครอบครัวสามีเรามากไม่คิดเลยว่าคนทีเรารักเหมือนแม่แท้ๆของเราจะทำแบบนี้กะบเราได้ลง และตลอดระยะเวลาที่เราทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวคือสามีเราก็เอาเงินไปเลี้ยงเมียน้อยทำให้เรารู้สึกว่าตอนนั้นเราโครตโง่เลยที่จากครอบครัวหวังมาสร้างครอบครัวของตัวเองแต่สิ่งที่ได้คือคำโกหกจากครอบครัวสามี พอเรารู้เรื่องกระจ่างเราก็โทรหาแม่เราและเล่าทุกอย่างที่เราเจอ พอพ่อกับแม่เรารู้เรื่องก็จะมารับเรากลับบ้านเราดีใจมากเลยที่พ่อกับแม่เราจะมารับกลับบ้าน พอแม่ยายเรารู้ว่าพ่อกับแม่เราจะมากลับบ้านแกก็โทรไปบอกว่าไม่ต้องมารับเดียวจะไปส่งเอง พอถึงวันที่ต้องไปส่งแม่ยายเราก็สร้างเรื่องว่าป่วยบอกว่ารอให้แม่หายก่อนแล้วค่อยกลับ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ยอมให้เรากลับพอพ่อแม่เราจะมารับแกล้งป่วยเข้าโรงบาล คืออะไรหรออยากให้เราอยู่แต่เห็นดีเห็นงามกับนิสัยชั่วๆของลูกตัวเอง เอาเรามาเป็นคนรับใช้พอเรารู้ความจริงก็ไม่ให้เรากลับบ้าน(พ่อแม่เรามาหาจะพากลับ แม่ยายเราแกล้งล้มจนต้องเข้าโรงบาลพ่อแม่เราสงสารเพราะไม่มีคนเฝ้าเลยให้เราอยู่เฝ้าให้แกหายดีก่อนแล้วจะมารับกลับ)ถ้าออกจากโรงบาลแล้วเราคงได้กลับบ้านสักที ส่วนความสัมพันธ์ของเรากับสามีคือเราย้ายออกจากบ้านมาอยู่บ้านแม่ยายและเราก็ไม่พูดกับสามีเรานับตั้งแต่เรารู้เรื่อง และสามีเราก็พยายามง้อเราน่ะอยู่บ้านทำงานน่ะทุกวันนี้ส่งข้าวให้เราบ้างที่อยู่โรงพยาบาลแต่เราคงไม่กลับไปแล้วแหละ เราอยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆเราไม้อยากเจอคนพวกนี้เราไม่อยากเป็นคนดีที่ต้องมาดูแลคนที่ทำร้ายความรู้สึกเราแบบนี้แต่เราก็ทิ้งไม่ได้เพราะสงสาร เพื่อนๆพอจะมีคำแนะนำเราได้ไหมคะว่าเราควรทำยังไงเราจะได้ออกไปจากตรงนี้
อยู่ต่อหรือพอแค่นี้
เรื่องมันมีอยู่ว่าเราแต่งงานกับสามีมา1ปีนิดๆตลอดระยะเวลา1ปีที่อยู่ด้วยกันมาไม่มีวันไหนเลยที่เรามีความสุขเขาเป็นคนขี้เกียจมากและเห็นแก่ตัวที่สุด เขาทำงานเงินก็ไม่เคยให้เราส่วนเงินเราเขาเอาไปใช้จ่ายซื้อของใช้เข้าบ้านคือเงินเราทั้งหมด จนกระทั่งญาติพี่น้องเขาลงเล่นการเมืองเขาก็ได้ไปช่วยหาเสียงและไม่ค่อยกลับบ้านพอเราถาม คำตอบที่ได้คือหาเสียงเหนื่อยทั้งวันเลยนอนบ้านญาติ ซึ่งตอนนั้นเราได้ออกจากงานเนื่องจากโควิดตอนนั้นเรามีเงินเหลือติดตัว1500บาทเราพยายามทำขนมหารายได้พิเศษตอนนั้นเราแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลยเพราะต้องหาเงินเข้าบ้านซึ่งสามีเราก็ไม่เคยเอ่ยปากเราสักคำว่ามีเงินใช้ไหมเราเหนื่อยมากโทรหาแม่ร้องไห้กับแม่แถบทุกวัน คำพูดที่ออกจากปากแม่เราคือ "อดทน" ทำให้เราแถบจะไม่มีคำพูดต่อเลย ทุกคนให้เราอดทนแต่ไม่มีใครถามเราเลยว่าไหวไหม
จนมาถึงวันที่เราเลิกเป็นควายคือสามีเรากลับบ้านมาเอาเสื้อผ้าแต่บังเอิญเรามองผ่านหน้าต่างเห็นมีผู้หญิงนั่งอยู่ในรถข้างคนขับ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรพอสามีเราขับรถออกไปเราก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ตามไปจนเราเห็นสามีเราขับรถเข้าไปในรีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งมาก็อยู่ใกล้กับบ้านเราแท้ๆพอเราเห็นแบบนั้นเราก็ขับรถกลับมาที่บ้านรอให้ถึงเช้าแล้วไปบ้านแม่ยายเราแล้วพาแม่ยายเราไปที่รีสอร์ทแห่งนั้น แต่สิ่งที่แม่ยายเห็นกลับไม่ตกใจอะไรเลยที่เห็นลูกตัวเองเดินออกมากับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช้เรา แต่กลับหันหน้ามาหาเราแล้วพูดว่า"เรื่องไร้สาระ" ซึ่งตอนนั้นเราน้ำตาไหลจนพูดอะไรไม่ออก ตกใจกับคำพูดของแม่ยาย ที่ว่าลูกตัวเองมีชู้กลายเป็นเรื่องไร้สาระ และคำพูดที่สามีพูดกับเราคือ "รู้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องโกหกอีก"เราแทบจะไม่มีแรงเดินเลยตอนนั้นจนเราเป็นลม มารู้สึกตัวอีกทีคือเรานอนอยู่ที่บ้านแม่ยาย เราลุกขึ้นมาบอกกับสามีและแม่ยายว่าเราจะเลิกมาทำแบบนี้กับเราได้ไง แต่คำพูดที่ออกจากปากแม่ยายเราคือเรื่องแค่นี้เองอย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลย พอเราฟังจบเราเลยถามกลับไปว่าแม่รู้เรื่องนี้มาตลอดใช้ไหม แม่ยายเราตอบว่า "ใช้ รู้ตั้งนานแล้ว มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย" ซึ่งตอนนั้นที่เรารู้ความจริงเราโครตเสียใจเสียความรู้สึกกับครอบครัวสามีเรามากไม่คิดเลยว่าคนทีเรารักเหมือนแม่แท้ๆของเราจะทำแบบนี้กะบเราได้ลง และตลอดระยะเวลาที่เราทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวคือสามีเราก็เอาเงินไปเลี้ยงเมียน้อยทำให้เรารู้สึกว่าตอนนั้นเราโครตโง่เลยที่จากครอบครัวหวังมาสร้างครอบครัวของตัวเองแต่สิ่งที่ได้คือคำโกหกจากครอบครัวสามี พอเรารู้เรื่องกระจ่างเราก็โทรหาแม่เราและเล่าทุกอย่างที่เราเจอ พอพ่อกับแม่เรารู้เรื่องก็จะมารับเรากลับบ้านเราดีใจมากเลยที่พ่อกับแม่เราจะมารับกลับบ้าน พอแม่ยายเรารู้ว่าพ่อกับแม่เราจะมากลับบ้านแกก็โทรไปบอกว่าไม่ต้องมารับเดียวจะไปส่งเอง พอถึงวันที่ต้องไปส่งแม่ยายเราก็สร้างเรื่องว่าป่วยบอกว่ารอให้แม่หายก่อนแล้วค่อยกลับ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ยอมให้เรากลับพอพ่อแม่เราจะมารับแกล้งป่วยเข้าโรงบาล คืออะไรหรออยากให้เราอยู่แต่เห็นดีเห็นงามกับนิสัยชั่วๆของลูกตัวเอง เอาเรามาเป็นคนรับใช้พอเรารู้ความจริงก็ไม่ให้เรากลับบ้าน(พ่อแม่เรามาหาจะพากลับ แม่ยายเราแกล้งล้มจนต้องเข้าโรงบาลพ่อแม่เราสงสารเพราะไม่มีคนเฝ้าเลยให้เราอยู่เฝ้าให้แกหายดีก่อนแล้วจะมารับกลับ)ถ้าออกจากโรงบาลแล้วเราคงได้กลับบ้านสักที ส่วนความสัมพันธ์ของเรากับสามีคือเราย้ายออกจากบ้านมาอยู่บ้านแม่ยายและเราก็ไม่พูดกับสามีเรานับตั้งแต่เรารู้เรื่อง และสามีเราก็พยายามง้อเราน่ะอยู่บ้านทำงานน่ะทุกวันนี้ส่งข้าวให้เราบ้างที่อยู่โรงพยาบาลแต่เราคงไม่กลับไปแล้วแหละ เราอยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆเราไม้อยากเจอคนพวกนี้เราไม่อยากเป็นคนดีที่ต้องมาดูแลคนที่ทำร้ายความรู้สึกเราแบบนี้แต่เราก็ทิ้งไม่ได้เพราะสงสาร เพื่อนๆพอจะมีคำแนะนำเราได้ไหมคะว่าเราควรทำยังไงเราจะได้ออกไปจากตรงนี้