ตอนนี้มีหลานชายในการดูแลอยู่ 1 คน อายุ 15 ปี พื้นฐานครอบครัวหลานปัจจุบันคือมี พ่อ แม่(พี่สาวของเรา) ลูก 3 (ลูกชายทั้งหมด)
โดยหลานชายคนโตเป็นลูกติดสามีเ พื้นฐานการเลี้ยงดู ตอนหลานคนโตยังเล็กๆและยังอยู่กินกับสามีเก่าคือเลี้ยงหลานอยู่แต่ในที่อโคจรไม่ก็อยู่ในร้านเกมส์(นอนตักให้นมกันตรงนั้นเลย) จนได้เลิกราคนไปกัน และมีสามีใหม่มีลูกด้วยกัน 2 คน พอหลานรู้ความแล้วก็จะโดนพี่สาวเราใช้งานบ้านต่างๆ นาๆ ซึ่งตัวหลานก็ขี้เกียจไม่ยอมทำก็จะโดนดุด่าเป็นประจำ ต้องยอมรับว่าตัวคนเป็นแม่ค่อนข้างใช้อารมณ์ให้การเลี้ยงทั้งด่าและตี หนักๆ เข้าพอหลานเริ่มเข้าวัยรุ่นก็ให้คนเป็นพ่อเลี้ยงเป็นคนทำโทษแทน และสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ตั้งแต่ต้นเลยคือพี่สาวเราไม่ได้ทำงานหาเงิน อยู่บ้านเฉยๆ และไม่แทบไม่แตะงานบ้านเลย อยู่ห้องไหน ห้องแทบจะกลายเป็นห้องขยะ และไม่แสดงตัวอย่างที่ดีให้ลูก แต่ตัวเองด่าลูกเอาๆ จนตัวหลานมักจะมีข้ออ้างตลอดว่าทีแม่ละแม่ไม่เห็นทำเลย ทำแม่ด่าได้ไม่มีใครทำอะไร(ที่บ้านเราไม่ด่าแม่ต่อหน้าลูก)... ก็พยายามอธิบายว่าก็รู้ว่าแม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทำไมถึงทำตามเค้า ตัวอย่างในบ้านที่ดีก็มีให้ดู ซึ่งมีผลให้หลานมีพฤติกรรมก้าวร้าว เถียงทุกคำ ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำอะไรผิด ไม่ก็โกหกโยนความผิดให้คนอื่น ลักเล็กขโมยน้อยเป็นพักๆ ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา หรือถูกตอนจนจนมุม คือจะเถียงสุดฤทธิ์และไม่แสดงอาการเหมือนคนโกหกด้วย(เครียดตรงนี้ ไม่มีเลิกลั่กให้จำผิดเลย) ซึ่งพฤติกรรมนี้เราก็เคยเจอมาก่อนจากตัวคนเป็นแม่(พี่สาวเรา) แต่หนักเท่าหลาน มีคนเคยบอกว่าถ้าคนเป็นพ่อเป็นแม่ทำตัวแย่แค่ไหนลูกออกมาจะแย่กว่าหลานเท่า... สำหรับเราคือเรื่องจริงเลย (แต่พี่สาวเราเบาลงมาบ้างแล้ว เพราะโดนสามีคนปัจจุบันคุมอยู่เพราะอาศัยเงินเค้าเลี้ยงปากท้อง)
จนปัจจุบันหลานเรียนจบม.3 แล้ว เราจึงแยกหลานออกมาดูแลเองหวังว่าจะละลายพฤติกรรมหลานได้บ้าง โดยคนดูแลหลักๆจะเป็นยาย(บ้านเราอยู่ตจว.ส่วนตัวเราอยู่กทม.) ด้วยสภาวะโควิดระบาดและยังหาที่เรียนต่อให้หลานที่เหมาะสมไม่ได้จึงคิดว่าน่าจะพักเรียนสักปีนึงก่อน โดยเงื่อนไขการเลี้ยงตอนนี้ก็คือ ไม่ให้อยู่แบบคุณชายดังนั้นหลานจะมีหน้าที่ช่วยยายทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน และซักเสื้อผ้าของตนเอง แล้วมีโทรศัพท์ให้เครื่องนึงสำหรับให้เล่นเกมส์และติดต่อกัน ถ้าทำงานเสร็จจะเล่นก็เล่นไม่ว่าอะไร มีดุบ้างแต่ดุแบบเหตุผล หลานจะโดนดุบ่นๆ เพราะไม่รับผิดชอบงานของตัวเองพูดง่ายๆ คือขี้เกีขจ จะเล่นแต่มือถืออย่างเดี๋ยว ซึ่งมาอยู่ด้วยสักพักแล้วพฤติกรรมเดิมไม่หายไปเลย และเหมือนคนอดทนหลานจะต่ำลงด้วย เพิ่มเติม คือเดี๋ยวนี้จะเสียบหูฟังตลอดเวลา ถ้ามี net ให้เล่น แทบไม่สนโลกภายนอกคุยกับแต่คนในเกมส์ พอดุหรือบ่นอะไรชักสีหน้าทันที ก็ด่าหยาบลอยๆ กับคนในเกมส์ เช่น เป็น..ห..อะไรหนักหนา ,แ ม่ ง น่าเบื่อว่ะอ้าย..ส... ซึ่งชัดเจนว่าด่ายายด่าเรา พอดุแล้วยึดมือถือจะโว๊ยวายโทษว่าที่เป็นแบบนี้เพราะคนอื่นทันที พอเถียงไม่ได้ก็โมโหน้ำหูน้ำตาไหลไปเลย
วอนผู้มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะหนทางแก้ไขให้ปรับนิสัยหลานให้ดีขึ้นได้ยังไงดี กลัวยิ่งโตไปจะยิ่งคุมไม่อยู่ เรากับแม่เราก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กสูงไม่เคย 150 เลย แต่หลานตัวใหญ่โตมากแล้วด้วยกลัวต่อไปจะไม่แค่สีหน้าท่าทางหรือคำพูดกลัวจะมากกว่านั้น...
จะเลี้ยงดูเด็กที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นอย่างไร ในกรณีที่เด็กมีความก้าวราวในลักษณะทางคำพูดและสีหน้าท่าทาง
โดยหลานชายคนโตเป็นลูกติดสามีเ พื้นฐานการเลี้ยงดู ตอนหลานคนโตยังเล็กๆและยังอยู่กินกับสามีเก่าคือเลี้ยงหลานอยู่แต่ในที่อโคจรไม่ก็อยู่ในร้านเกมส์(นอนตักให้นมกันตรงนั้นเลย) จนได้เลิกราคนไปกัน และมีสามีใหม่มีลูกด้วยกัน 2 คน พอหลานรู้ความแล้วก็จะโดนพี่สาวเราใช้งานบ้านต่างๆ นาๆ ซึ่งตัวหลานก็ขี้เกียจไม่ยอมทำก็จะโดนดุด่าเป็นประจำ ต้องยอมรับว่าตัวคนเป็นแม่ค่อนข้างใช้อารมณ์ให้การเลี้ยงทั้งด่าและตี หนักๆ เข้าพอหลานเริ่มเข้าวัยรุ่นก็ให้คนเป็นพ่อเลี้ยงเป็นคนทำโทษแทน และสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ตั้งแต่ต้นเลยคือพี่สาวเราไม่ได้ทำงานหาเงิน อยู่บ้านเฉยๆ และไม่แทบไม่แตะงานบ้านเลย อยู่ห้องไหน ห้องแทบจะกลายเป็นห้องขยะ และไม่แสดงตัวอย่างที่ดีให้ลูก แต่ตัวเองด่าลูกเอาๆ จนตัวหลานมักจะมีข้ออ้างตลอดว่าทีแม่ละแม่ไม่เห็นทำเลย ทำแม่ด่าได้ไม่มีใครทำอะไร(ที่บ้านเราไม่ด่าแม่ต่อหน้าลูก)... ก็พยายามอธิบายว่าก็รู้ว่าแม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทำไมถึงทำตามเค้า ตัวอย่างในบ้านที่ดีก็มีให้ดู ซึ่งมีผลให้หลานมีพฤติกรรมก้าวร้าว เถียงทุกคำ ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำอะไรผิด ไม่ก็โกหกโยนความผิดให้คนอื่น ลักเล็กขโมยน้อยเป็นพักๆ ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา หรือถูกตอนจนจนมุม คือจะเถียงสุดฤทธิ์และไม่แสดงอาการเหมือนคนโกหกด้วย(เครียดตรงนี้ ไม่มีเลิกลั่กให้จำผิดเลย) ซึ่งพฤติกรรมนี้เราก็เคยเจอมาก่อนจากตัวคนเป็นแม่(พี่สาวเรา) แต่หนักเท่าหลาน มีคนเคยบอกว่าถ้าคนเป็นพ่อเป็นแม่ทำตัวแย่แค่ไหนลูกออกมาจะแย่กว่าหลานเท่า... สำหรับเราคือเรื่องจริงเลย (แต่พี่สาวเราเบาลงมาบ้างแล้ว เพราะโดนสามีคนปัจจุบันคุมอยู่เพราะอาศัยเงินเค้าเลี้ยงปากท้อง)
จนปัจจุบันหลานเรียนจบม.3 แล้ว เราจึงแยกหลานออกมาดูแลเองหวังว่าจะละลายพฤติกรรมหลานได้บ้าง โดยคนดูแลหลักๆจะเป็นยาย(บ้านเราอยู่ตจว.ส่วนตัวเราอยู่กทม.) ด้วยสภาวะโควิดระบาดและยังหาที่เรียนต่อให้หลานที่เหมาะสมไม่ได้จึงคิดว่าน่าจะพักเรียนสักปีนึงก่อน โดยเงื่อนไขการเลี้ยงตอนนี้ก็คือ ไม่ให้อยู่แบบคุณชายดังนั้นหลานจะมีหน้าที่ช่วยยายทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน และซักเสื้อผ้าของตนเอง แล้วมีโทรศัพท์ให้เครื่องนึงสำหรับให้เล่นเกมส์และติดต่อกัน ถ้าทำงานเสร็จจะเล่นก็เล่นไม่ว่าอะไร มีดุบ้างแต่ดุแบบเหตุผล หลานจะโดนดุบ่นๆ เพราะไม่รับผิดชอบงานของตัวเองพูดง่ายๆ คือขี้เกีขจ จะเล่นแต่มือถืออย่างเดี๋ยว ซึ่งมาอยู่ด้วยสักพักแล้วพฤติกรรมเดิมไม่หายไปเลย และเหมือนคนอดทนหลานจะต่ำลงด้วย เพิ่มเติม คือเดี๋ยวนี้จะเสียบหูฟังตลอดเวลา ถ้ามี net ให้เล่น แทบไม่สนโลกภายนอกคุยกับแต่คนในเกมส์ พอดุหรือบ่นอะไรชักสีหน้าทันที ก็ด่าหยาบลอยๆ กับคนในเกมส์ เช่น เป็น..ห..อะไรหนักหนา ,แ ม่ ง น่าเบื่อว่ะอ้าย..ส... ซึ่งชัดเจนว่าด่ายายด่าเรา พอดุแล้วยึดมือถือจะโว๊ยวายโทษว่าที่เป็นแบบนี้เพราะคนอื่นทันที พอเถียงไม่ได้ก็โมโหน้ำหูน้ำตาไหลไปเลย
วอนผู้มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะหนทางแก้ไขให้ปรับนิสัยหลานให้ดีขึ้นได้ยังไงดี กลัวยิ่งโตไปจะยิ่งคุมไม่อยู่ เรากับแม่เราก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กสูงไม่เคย 150 เลย แต่หลานตัวใหญ่โตมากแล้วด้วยกลัวต่อไปจะไม่แค่สีหน้าท่าทางหรือคำพูดกลัวจะมากกว่านั้น...