ช่วยด้วยค่ะ หาคำตอบไม่ได้เลย

พอดีว่ารับราชการได้ประมาณ 2 ปีกว่า และเราอายุ 26 ปีค่ะในตอนนี้ ได้คบหากับหนุ่มชาวสวีเดน อายุ 33 ปีมา 2 ปีกว่าแล้ว เรารู้สึกไม่มั่นคงยังไงก็ไม่รู้ค่ะกับความรัก เขาอยากให้เราไปอยู่กับเขาแต่เขาไม่เข้าใจเรื่องวัฒนธรรมการแต่งงานของไทยที่มีสินสอดค่ะ พยายามอธิบายก็ไม่เข้าใจ ด้วยความที่ครอบครัวเราค่อนข้างมีหน้าตาในสังคม พ่อแม่ ปู่ ย่า รับราชการในระดับผู้บริหารระดับกลางถึงสูง ญาติก็ข้าราชการหมดเลย พอจะพูดเรื่องแต่งงานก็ลำบากใจค่ะ ไม่อยากให้พ่อแม่ ครอบครัวเสียชื่อด้วย เงินเดือนเราก็ไม่ได้เยอะ จะไปกู้เงินมาช่วยแฟนพ่อแม่ก็ไม่อนุญาตค่ะ เราก็รักแฟนเรานะคะ ขนาดช่วงโควิดเขายังนั่งเครื่องมาหาเรา แต่เราก็รักพ่อแม่เราเช่นกัน จะให้ลาออกจากงานเพื่อย้ายไปอยู่กับเขาก็ไม่ไว้ใจเขาขนาดนั้นค่ะ เห็นหลายคนชีวิตพังเพราะรักมาเยอะ ตอนนี้เลยสับสนมากค่ะ ว่าจะคบกับแฟนคนนี้ต่อไปดีไหม เขายืนยันว่าไม่มีทางที่จะให้สินสอดค่ะ พ่อแม่เราเรียกจากเขา 1 ล้านบาท ซึ่งเราก็ว่ามันมากไปค่ะ ควรทำอย่างไรดีคะ หรือว่าจะเลิกแล้วอยู่เป็นโสดไปดีกว่าไหมคะ คิดเรื่องการแต่งงาน ก็ปวดหัวมากเลย ยิ่งญาติๆรู้ว่าเป็นฝรั่ง เขายิ่งยุให้พ่อแม่เรียกมากกว่าล้านค่ะ เราไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เราก็คิดในอีกมุมค่ะ ถ้าเขารักเราจริง เขาน่าจะเข้าใจได้นะคะ เพราะพ่อแม่เราจะให้ทรัพย์สิน แบ่งมรดกให้อยู่ดี มากกว่าค่าสินสอดด้วยซ้ำ เขาบอกว่าเราเห็นแก่เงินค่ะ เขาอายุ 33 ปีแต่ก็ยังไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นของตัวเองเลยค่ะ วันๆเขาก็เล่นแต่เกม รถก็ใช้รถคันเก่าๆ มือสอง แต่เราอยู่ไทย มีบ้าน มีรถ ถึงจะมีหนี้แต่เรามีพร้อมทุกอย่าง จะให้เราลาออกจากงานที่มั่นคงมากๆ ทิ้งทุกอย่างที่มี ไปอยู่กับเขาแบบไม่มีงานทำ แถมยังไม่ยอมรับวัฒนธรรมสินสอดอีกด้วย มันดูไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงเลยค่ะ เราไม่รู้จะตัดสินใจยังไงค่ะ เรียงลำดับคำพูดก็ไม่ถูก ขออภัยด้วยนะคะ รบกวนปรึกษาพี่ๆที่มีประสบการณ์ด้วยค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
วัฒนธรรมการเลี้ยงดูต่างกัน
ฝรั่งพวกนี้ ค่าใช้จ่ายการเรียน รัฐดูแลมาก พ่อแม่จ่ายน้อย เขาฝึกลูกว่า อยากได้อะไรก็ต้องทำงานพิเศษ หาเอา คนไทย พ่อแม่หาให้
ฝรั่งพวกนี้ พอโตหน่อยก็แยกครอบครัวไป ไปหาสร้างตัวเอา ยกเว้น พวกฝรั่งรวยๆ ก็ว่าไปตามกรณี
แต่คนไทย จ่ายไปมาก ในการพัฒนาชีวิตของลูก จึงเป็นที่มาของระบบ สินสอด ที่โบราณเรียกว่า ค่าน้ำนม
ฝรั่งจึงไม่เข้าใจ
         ฝรั่งที่เข้าใจก็มี การเรียนรู้วัฒนธรรม ไม่ใช่เรื่องยาก ที่ยาก คือ ตูไม่มีจะจ่าย
ฝรั่งในต่างประเทศ ที่มีภรรยาคนไทย ใช่ว่าจะมีฐานะทุกคน
      ผมไปเที่ยวสวีเดน เดินซื้อของ ในซุปเปอร์ฯ คุยกันกับเพื่อนเป็นภาษาไทย จะเอาอะไรเพิ่มไหม โน้นนี้นั้น .......
             มีฝรั่งทัก พูดไทยปร๋อเลย  มาคุยด้วย เขาว่าเขามีเมียอยู่ที่ไทย คุยไปคุยมา เขาขับรถเมล์อยู่ที่สวีเดน พักร้อน ไม่สิ พักหนาว หนีไปไทย
ก็จะไปอยู่กับภรรยาชาวไทย บางคนมีสองที่
         อีกคนหนึ่ง ก็เจอขับรถบัสทัวร์คันที่ผมนั่ง มาหาเมียที่ไทยทุกปี  พวกนี้ จะมี 2 แบบ คือ แบบที่มีภรรยาอยู่สวีเดน พอหนาวมากๆ จะหนีเมียที่ดน้น มาหาเมียที่ไทย อันนี้แบบหนึ่ง ก็มี ส่วนอีกแบบหนึ่งคือ มามีเมียเป็นคนไทยเลย แล้วพาไปอยู่สวีเดนด้วย
         ผมเคยไปเที่ยวที่ Kiruna เจอหัวหน้าแม่บ้านเป็นคนไทย เอาของมาให้เพียบเลย อีกวันไปเดินในเมืองเล็กๆ เจอก๊วนแม่บ้านไทย ที่มีสามีเป็นสวีเดน 7-8 คน ทักทายคุยกันสนุกมาก
                    สรุปคือ 1. ฝรั่งสวีเดน ไม่ได้มีฐานะดีทุกคน การงานอะไร?
                              2. ในส่วนพ่อแม่คุณ เรียกมากไปหน่อย แต่อย่างว่าหล่ะ แต่ละครอบครัว ก็มีภูมิหลังต่างกัน
                                  ยิ่งคุณรับราชการ พ่อแม่ก็อาจมองว่า เขามีต้นทุนมาก อยากมีหลักประกัน หากโดนทิ้ง คุณลำบาก
                                  พ่อแม่ก็จะได้เอาเงินก้อนนี้ให้คุณ

        วิธีคิดต่างกัน ใช่ว่าใครจะถูกผิด หากรัฐไทย เป็นรัฐสวัสดิการแบบสวีเดน ระบบสินสอดก็อาจหายไปจากสังคมไทยก็ได้ เพราะไม่จำเป็นต้องจ่ายเพื่ออนาคตลูกมากๆ รัฐจัดการให้ ................... ปัญหาคือ วันนี้ ไม่ใช่ไง
          พ่อแม่หลายครอบครัว จ่ายเงินส่งลูกเรียนดีๆ แพงๆ ต่อนอก หมดไปหลายสิบล้าน แล้วก็ไปอยู่กับฝรั่งเฉยเลย
          คนรุ่นเก่า เขาไม่เข้าใจ เขาจึงต้องมีหลักประกัน ว่า ไม่เอาลูกสาวเขาไปลำบากไง
                                              สุดท้าย แล้วแต่วาสนา เน๊อะๆๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่