ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนหรือ AFF Championship เริ่มแข่งครั้งแรกในปี 1996 โดยมีสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ และมีทีมเข้าร่วม 10 ชาติ
ในการแข่งขัน 4 ครั้งแรก (1996,1998,2000,2002) ยังไม่มีการแข่งขันในระบบเหย้า-เยือน(รอบ Semifinal, Final)
จนกระทั่งเริ่มมีการเปลี่ยนกฏการแข่งเป็นระบบนี้ในปี 2004 จนถึงปัจจุบัน
จากผลการแข่งขัน ไทย 4-0 อินโดนีเซีย ในเลกแรก ของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2020 ที่แทบจะการันตีแชมป์แล้วสำหรับเรา เกมส์ในเลก 2 คืนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่นให้ครบโปรแกรมเท่านั้น แต่ยังมีความหมายมากกว่านั้นในเรื่องของสถิติที่จะได้จารึกไว้ในวงการฟุตบอลอาเซียน
สถิติที่ 1 หากคืนนี้ไทยไม่เสียประตู ไทยจะเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่เสียประตูในนัดชิงในระบบการเตะแบบเหย้า-เยือน นับตั้งแต่มีการใช้กฏนี้ครั้งแรกในปี 2004 (หากนับสถิติรวมทั้งหมด จะมีไทย-ปี 1996 และสิงคโปร์-ปี 1998 ที่ไม่เสียประตูในนัดชิง(เตะแบบนัดเดียว)
สถิติที่ 2 หากคืนนี้ไทยไม่เสียประตู ไทยจะเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียน นับตั้งแต่แข่งขันครั้งแรกในปี 1996 (สถิติก่อนหน้านั้นเป็นของสิงคโปร์ ที่เสียไป 2 ประตูในปี 1998)
สถิติที่ 3 หากผลการแข่งขันรวม 2 นัด ไทยชนะด้วยผลต่าง 4 ประตูขึ้นไป จะเป็นการชนะในนัดชิงด้วยผลต่างประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียน (สถิติตอนนี้เป็นของสิงคโปร์ในปี 2004 ที่ชนะอินโด สกอร์รวม 5-2)
สถิติที่ 4 หากไทยยิงประตูในคืนนี้ได้ 2 ลูกขึ้นไปจะทำสถิติยิงประตูสูงที่สุดในนัดชิงฟุตบอลอาเซียน ทำลายสถิติของสิงคโปร์ที่ยิงได้ 5 ลูกในนัดชิงปี 2004
สถิติที่ 5 หากคืนนี้ไทยเสียประตูไม่เกิน 2 ลูก ไทยจะเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียน ในการเตะแบบเหย้าเยือน (ก่อนหน้านี้สถิติเป็นของไทยและเวียดนาม ที่เสียแค่ 4 ประตูตลอดทัวร์นาเม้นต์)
หากเสียแค่ 1 ประตู ก็จะเทียบเท่าสถิติของสิงคโปร์ในปี 1998 ที่เสียไป 2 ลูก
สถิติที่ 6 หากคืนนี้ธีรศิลป์หรือชนาธิปยิงได้ หรือมีนักเตะไทยคนอื่น (เช่น สุภโชค) ที่เป็นดาวซัลโว ไทยจะสร้างสถิติเป็นแชมป์และนักเตะในทีมแชมป์เป็นดาวซัลโว เป็นครั้งที่ 3 = มากที่สุดในอาเซียน (สถิติเดิมมีไทย,สิงคโปร์,มาเลเซีย ที่เคยทำได้ ไทย = 2 ครั้ง / สิงคโปร์,มาเลเซีย = 1 ครั้ง)
จากสถิติ สิงคโปร์ชุดปี 2004 และ 2007 แทบจะเป็นชุดที่ดีที่สุดของฟุตบอลอาเซียนในศึก AFF Championship ในหลายๆด้าน
แต่ถ้าผลการแข่งขันในคืนนี้ ทีมไทยเราทำได้ดีกว่าหรือดีเทียบเท่านัดชิงนัดแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทีมชาติไทยชุดนี้มีสิทธิ์ที่จะได้จารึกชื่อว่าเป็นทีมชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียนก็ว่าได้ครับ
วันนี้ไทยมีโอกาสสร้างสถิติใหม่หลายสถิติในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียน - AFF Championship
ในการแข่งขัน 4 ครั้งแรก (1996,1998,2000,2002) ยังไม่มีการแข่งขันในระบบเหย้า-เยือน(รอบ Semifinal, Final)
จนกระทั่งเริ่มมีการเปลี่ยนกฏการแข่งเป็นระบบนี้ในปี 2004 จนถึงปัจจุบัน
จากผลการแข่งขัน ไทย 4-0 อินโดนีเซีย ในเลกแรก ของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2020 ที่แทบจะการันตีแชมป์แล้วสำหรับเรา เกมส์ในเลก 2 คืนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่นให้ครบโปรแกรมเท่านั้น แต่ยังมีความหมายมากกว่านั้นในเรื่องของสถิติที่จะได้จารึกไว้ในวงการฟุตบอลอาเซียน
สถิติที่ 1 หากคืนนี้ไทยไม่เสียประตู ไทยจะเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่เสียประตูในนัดชิงในระบบการเตะแบบเหย้า-เยือน นับตั้งแต่มีการใช้กฏนี้ครั้งแรกในปี 2004 (หากนับสถิติรวมทั้งหมด จะมีไทย-ปี 1996 และสิงคโปร์-ปี 1998 ที่ไม่เสียประตูในนัดชิง(เตะแบบนัดเดียว)
สถิติที่ 2 หากคืนนี้ไทยไม่เสียประตู ไทยจะเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียน นับตั้งแต่แข่งขันครั้งแรกในปี 1996 (สถิติก่อนหน้านั้นเป็นของสิงคโปร์ ที่เสียไป 2 ประตูในปี 1998)
สถิติที่ 3 หากผลการแข่งขันรวม 2 นัด ไทยชนะด้วยผลต่าง 4 ประตูขึ้นไป จะเป็นการชนะในนัดชิงด้วยผลต่างประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียน (สถิติตอนนี้เป็นของสิงคโปร์ในปี 2004 ที่ชนะอินโด สกอร์รวม 5-2)
สถิติที่ 4 หากไทยยิงประตูในคืนนี้ได้ 2 ลูกขึ้นไปจะทำสถิติยิงประตูสูงที่สุดในนัดชิงฟุตบอลอาเซียน ทำลายสถิติของสิงคโปร์ที่ยิงได้ 5 ลูกในนัดชิงปี 2004
สถิติที่ 5 หากคืนนี้ไทยเสียประตูไม่เกิน 2 ลูก ไทยจะเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียน ในการเตะแบบเหย้าเยือน (ก่อนหน้านี้สถิติเป็นของไทยและเวียดนาม ที่เสียแค่ 4 ประตูตลอดทัวร์นาเม้นต์)
หากเสียแค่ 1 ประตู ก็จะเทียบเท่าสถิติของสิงคโปร์ในปี 1998 ที่เสียไป 2 ลูก
สถิติที่ 6 หากคืนนี้ธีรศิลป์หรือชนาธิปยิงได้ หรือมีนักเตะไทยคนอื่น (เช่น สุภโชค) ที่เป็นดาวซัลโว ไทยจะสร้างสถิติเป็นแชมป์และนักเตะในทีมแชมป์เป็นดาวซัลโว เป็นครั้งที่ 3 = มากที่สุดในอาเซียน (สถิติเดิมมีไทย,สิงคโปร์,มาเลเซีย ที่เคยทำได้ ไทย = 2 ครั้ง / สิงคโปร์,มาเลเซีย = 1 ครั้ง)
จากสถิติ สิงคโปร์ชุดปี 2004 และ 2007 แทบจะเป็นชุดที่ดีที่สุดของฟุตบอลอาเซียนในศึก AFF Championship ในหลายๆด้าน
แต่ถ้าผลการแข่งขันในคืนนี้ ทีมไทยเราทำได้ดีกว่าหรือดีเทียบเท่านัดชิงนัดแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทีมชาติไทยชุดนี้มีสิทธิ์ที่จะได้จารึกชื่อว่าเป็นทีมชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาเซียนก็ว่าได้ครับ