Asakusa Kid (2021): เด็กอาซากุสะ
" แม้จะมีแผ่วในบางช่วงบ้าง แต่ต้องยอมรับว่า หนังเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างคิตาโนะและอาจารย์ได้อย่างกินใจ "
ในวันสบายๆ ช่วงปีใหม่นี้ หลายๆ ท่านคงมีโอกาสเข้าไปดูหนังใน Netflix ผมมีหนังที่อยากจะแนะนำเช่นกัน อาจจะเป็นหนัง Underrated นิดนึงและไม่ได้เป็นหนังที่อยู่ในระดับ Perfect สมบูรณ์ แต่หลังจากได้ชมแล้ว ก็รู้สึกว่าหนังทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจ ซึ่งก็คือเรื่อง Asakusa Kid (2021) ครับ
เรื่องย่อ
Asakusa Kid | Netflix
Asakusa Kid (2021) ได้รับการกำกับโดย
Gekidan Hitori โดยเนื้อเรื่องพูดถึงชีวประวัติของ
Takeshi Kitano (Yuya Yagira) ซึ่งเป็นตลก / นักแสดง / ผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวหนังได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของคิตาโนะในฐานะเด็กกดลิฟต์ของสถานบันเทิงย่าน Asakusa ยุค 60 และพัฒนาตัวเองจนมากลายเป็นหนึ่งในตลกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยในการก้าวมาสู่การเป็นตลกชื่อดังในครั้งนี้ตัวคิตาโนะได้รับการฝึกสอนมาจาก
Senzaburo Fukami (Yo Oizumi) ที่เป็นตลกชื่อดังย่านอาซาคุสะ
ความรู้สึกหลังได้รับชม
- หลังจากได้ชม ดูๆ ไปก็คล้ายกับสารคดีถ่ายทอดเสี้ยวความทรงจำของ Takeshi Kitano ระหว่างตัวเขากับอาจารย์ โดยฉายภาพทางเดินชีวิตจากจุดเริ่มต้นสู่จุดที่สูงสุดในอาชีพตลก จุดที่ผมชอบที่สุดของหนังคือ
"การสะท้อนบรรยากาศย่าน Asakusa ในยุค 60" ซึ่งเป็นสถานที่เริ่มต้นชีวิตการเป็นตลกของคิตาโนะ หนังสร้างบรรยากาศอาซาคุสะได้ดูสวยงาม สมจริง เพื่อบิ้วอารมณ์คนดูให้มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร และจากจุดนี้หนังก็ทำได้สำเร็จ เราสามารถเห็นภาพบรรยากาศในยุคนั้นได้อย่างชัดเจน จนบางทีก็อยากจะย้อนอดีตเพื่อไปชมด้วยตาตัวเองเลย
1966年の東京 [60fps HD] Tokyo in 1966 | 銀座, 皇居, 羽田空港, etc.
(ภาพบรรยากาศกรุงโตเกียวในยุค 60)
- จุดที่น่าประทับใจที่สองคือ
"การโฟกัสถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ที่ทำได้ค่อนข้างลึก" ถึงแม้ว่าหนังอาจจะมีจุดยืด / แผ่วบ้างในบางช่วง ซึ่งส่งผลให้หนังดูแบนในบางจังหวะ แต่โดยรวมแล้ว หนังสามารถเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์ได้ค่อนข้างดี ทำให้เหล่าคนดูซาบซึ้งไปกับมิตรภาพระหว่างศิษย์และอาจารย์ และจุดนี้เองก็ทำให้หนังน่าประทับใจเป็นพิเศษเลย
- จุดน่าสนใจอีกอย่างคือ
"การเจาะลึกถึงอาชีพตลกในประเทศญี่ปุ่น" เนื่องจากหนังโฟกัสที่อาชีพตลกในประเทศญี่ปุ่นในช่วงยุค 60 เราจึงได้เห็นวิถีชีวิตของอาชีพที่พวกเราคงจะไม่คุ้นเคยมาก ทำให้ได้รับรู้ถึงความเป็นไปของอาชีพนี้ นอกจากนี้หนังยังเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านจากยุคเล่นตลกในโรงละครสู่การเล่นตลกไมโครโฟนบนจอทีวีหรือที่เรียกว่า
"มันไซ (Manzai)" โดยนักแสดงต้องอาศัยไหวพริบอย่างมากในการแสดง ดูๆ แล้วก็คล้ายคลึงกับสมัยที่มีการเล่นตลกคาเฟ่ในประเทศไทย รวมถึงการเล่นตลกออกทีวีในยุคสมัยก่อน
The Two Beats Manzai Takeshi Kitano and Kiyoshi Kaneko vol 2
(การแสดง Manzai ของคิตาโนะ)
- หนังเลือกใช้เพลงเปิดปิดเรื่องได้น่าสนใจ โดยเลือกใช้เพลง "
Asakusa Kid" ที่คิตาโนะแต่งขึ้นมาและร้องเอง เนื้อเพลงเล่าถึงชีวิตอันยากลำบากของเขาในเส้นทางอาชีพตลก ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นเพลงที่เพราะและเข้ากับหนังอย่างลงตัว
Asakusa Kid - Takeshi Kitano
- คิตาโนะได้เข้ามาร่วมแสดงทั้งฉากเปิดและปิดเรื่องด้วย ทำให้ทั้งฉากเปิดและปิดกลายเป็นช็อตที่ทรงพลังและน่าจดจำของผู้ชม
สรุป
Asakusa Kid (2021) ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจใน Netflix ผมไม่มั่นใจว่า ตัวหนังดัดแปลงประวัติของคิตาโนะไปมากแค่ไหน แต่โดยรวมแล้วถือเป็นหนังที่สนุกสไตล์หนังดราม่าญี่ปุ่น ตัวหนังพอจะมีข้อผิดพลาดโดยเฉพาะการมีมิติที่แบนในบางช่วง ทำให้การขับเคลื่อนหนังดูดร็อปบ้าง อย่างไรก็ตามหนังเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างคิตาโนะกับอาจารย์ของเขาได้ค่อนข้างกินใจ และทำให้ตัวหนังน่าจดจำในฐานะบันทึกชีวิตของ
ทาเคชิ คิตาโนะ
_________________________________
(เพิ่มเติม) Takeshi Kitano กำกับภาพยนตร์คุณภาพเยี่ยมมาหลายเรื่อง อย่าง
Sonatine (1990),
Kikujiro (1999) และ
Zatôichi (2000) โดยเอกลักษณ์ของแกคือ หนังที่มีอารมณ์รุนแรงและสะท้อนชีวิตอันมืดมนของมนุษย์ ใครที่สนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์ของคิตาโนะ โดยเฉพาะ
Sonatine สามารถดูวิเคราะห์ได้ใน Link ที่ผมแปะไว้ด้านล่างนี้นะครับ
Nihilism and violence in Sonatine | BFI video essay
TARANTINO on Beat Takeshi Kitano's Sonatine
(เควินติน ทารันติโน พูดถึงเรื่อง Sonatine ของคิตาโนะ)
- รวม 5 หนังสุดเจ๋งจาก Takeshi Kitano (กระทู้จากคุณ จ๊อด บัวเต็ง)
_________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผมนะครับ
[CR] [Netflix] Asakusa Kid (2021) - บันทึกเสี้ยวชีวิตของ Takeshi Kitano จากเด็กกดลิฟต์สู่ตลกผู้ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น
เรื่องย่อ
ความรู้สึกหลังได้รับชม
- จุดน่าสนใจอีกอย่างคือ "การเจาะลึกถึงอาชีพตลกในประเทศญี่ปุ่น" เนื่องจากหนังโฟกัสที่อาชีพตลกในประเทศญี่ปุ่นในช่วงยุค 60 เราจึงได้เห็นวิถีชีวิตของอาชีพที่พวกเราคงจะไม่คุ้นเคยมาก ทำให้ได้รับรู้ถึงความเป็นไปของอาชีพนี้ นอกจากนี้หนังยังเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านจากยุคเล่นตลกในโรงละครสู่การเล่นตลกไมโครโฟนบนจอทีวีหรือที่เรียกว่า "มันไซ (Manzai)" โดยนักแสดงต้องอาศัยไหวพริบอย่างมากในการแสดง ดูๆ แล้วก็คล้ายคลึงกับสมัยที่มีการเล่นตลกคาเฟ่ในประเทศไทย รวมถึงการเล่นตลกออกทีวีในยุคสมัยก่อน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้