.
(จิ้งจกตัวร้ายกับควายตัวนึง)
‘….มีความต้องการแพทย์สูง ช่วยพยุงผมขึ้นเตียงหน่อย เจ็บจริง ๆ ไม่ได้สำออย…’
ฉันเปิดเพลงในโทรศัพท์ฟังไปพร้อมล้างจานไปด้วย ล้างไปฮัมเพลงไปอย่างสบายอารมณ์ วันนี้มันได้หยุดแล้ว ได้พักผ่อนสักทีจากที่ทำงานลากยาวมาสิบเก้าวันเต็ม ๆ สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง วันที่รอคอยมานานแสนนานได้มาถึงแล้ว ยิ้มให้กับตนเองที่อึดขนาดนี้เลย
ฉันหยิบจานที่ยังไม่ได้ล้างมาล้างขัด ๆ ถู ๆ ด้วยน้ำยาล้างจาน ไม่ทันได้มองอะไร เพราะไม่คิดว่ามันจะมีอะไร แค่จานที่ยังไม่ได้ล้างจากเมื่อคืนเท่านั้น แต่ว่ามีบางอย่างมันเกาะอยู่ที่จาน และ มันกระโจนมาเกาะหน้าอกของฉัน ‘เอเลี่ยนสายพันธุ์ไทย!’ มันคือสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย
ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อมีบางอย่างกระโจนมาใส่ตัว ค่อย ๆ ก้มหน้าลงมามองที่หน้าอกของตนเองช้า ๆ สิ่งที่ได้เห็นคือ หน่วยตาสีดำ ๆ เล็ก ๆ ถลนออกจากเบ้าตานิดหน่อย จ้องหน้าฉันตาแป๋วเลย
กรี๊ด!!!!! ฉันกรี๊ดสุดเสียงดังสิบเดซิเบลกันเลย ร้องลั่นหอพักกันเลย ฉันไม่กล้ายกมือขึ้นมาปัดเอเลี่ยนออก ฉันกลัวมาก! ฉันกลัวสุดชีวิต หัวใจของฉันกำลังจะหยุดเต้น ฮือ… ช่วยฉันด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันที พ่อจ๋าแม่จ๋า
ฉันทำอะไรไม่ถูก! ช่วยด้วยเอเลี่ยนมันบุกห้องฉัน มันมาซุ่มที่อ่างล้างจานของฉัน มันแอบอยู่ที่จานของฉัน สีของมันออกครีม ๆ มันมีความสามารถอำพลางตัวให้เหมือนผนังห้องได้ ฉันจึงมองไม่เห็นมัน ผนวกกับฉันเป็นคนสายตาสั้นด้วย แต่ไม่ยอมใส่แว่น จึงมองไม่เห็นสัตว์ร้ายที่แอบซุ่มอยู่บนจาน ซ้ำร้ายมันกำลังเกาะที่หน้าอกของฉันอยู่
อี่พ่ออี่แม่ช่วยบอสด้วย บอสกลัว! ฮือ… ช่วยบอสด้วย! บอสย่านขี้เกี้ยม!…
ฉันเอาแต่กรี๊ดลั่นห้องสะบัดตัว ร้องไห้ลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้น จากนั้นเอเลี่ยนมันรีบกระโจนหนีไปอย่างเร็ว ส่วนฉันร้องไห้ใช้มือปัดป้องที่หน้าอกของตนเองไม่หยุด หลังจากที่มันกระโจนหนีไปแล้ว ไม่มีแก่ใจจะล้างจานอีกต่อไป กลัวมันมีพรรคพวกมาด้วย
“บักฮาหนิกินแล้วกะบ่อล้างจาน ฮือ… ให้กูล้างจานเฮ็ดหยัง ฮ่วย!” ฉันบ่นทั้งน้ำตา โมโหที่วันนี้ทำไมต้องเป็นฉันที่ล้างจาน บ่นให้เพื่อนร่วมห้อง ทำให้ฉันต้องมาเจอเอเลี่ยนหน้าตาประหลาดนั่น
ตาสวด ๆ อุ้งตีนเล็ก ๆ เย็น ๆ ตัวเล็ก ๆ นิ่ม ๆ สีครีม ๆ ยิ่งนึกถึงไม่ใช่ยิ่งคิดถึงนะ ยิ่งขนลุก แง่… กลัว! แหกปากให้ตายใครก็ช่วยไม่ได้ เพราะฉันอยู่คนเดียว นี่มันวันอะไรของฉัน!
แต่เรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ กลับทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เหตุการณ์คล้ายกัน เหมือนกันเลยล่ะ แต่ต่างกันที่เวลาและสถานที่เท่านั้นเอง พอนึกได้มันกลับทำให้ยิ้มออกมาได้ท่ามกลางความเป็นความตายตอนนี้ ฉันมีความสุขที่ได้นึกถึงเรื่องราวของตนเอง เฉพาะเรื่องราวดี ๆ ที่ควรจดจำ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบเก้าปีก่อน
ณ ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นเสี้ยวของโรงเรียน บอสกับจ๋อมและสองฝาแฝดนั่งเล่นรอเลิกเรียนเช่นทุกวัน ระหว่างนั้นมีนักเรียนคนอื่น ๆ วิ่งเล่นกันเสียงดังมาก พวกเธอกำลังเล่นตุ๊กตากระดาษกันอยู่ ก็ไม่ได้สนใจใครเลย
แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกกลุ่มเดินมาหาพวกเธอ มาขอนั่งเล่นด้วย พวกเธอก็ไม่ว่าอนุญาตให้นั่งด้วย
“บอส แฝด จ๋อมพวกเราขอนั่งด้วยคนนะ เดินหาม้าหินอ่อนว่างก็ไม่มีเลยอ่ะ” เจนเอ่ยขอนั่งกับพวกเธอ ซึ่งเหลือโต๊ะว่างสามโต๊ะพอดี กลุ่มของเจนมีสามคน เจน ก้อย และก็นุ่น
“เชิญ!” บอสตอบ ก็ยังเล่นตุ๊กตากระดาษกันอยู่ ไม่ได้สนใจเพื่อนที่มาใหม่เลย อยากนั่งก็นั่งไม่หวงอยู่แล้ว
“พวกเธอไปไหนกันมาเหรอ” จ๋อมถาม
“ไปปั่นจักรยานที่บ้านพักครูสมพงษ์มาน่ะ” ก้อยเป็นคนตอบ จากนั้นพวกเธอก็คุยกันไปเรื่อย มีเพื่อนมาเพิ่มก็สนุกกว่าเดิม จู่ ๆ ก้อยก็นิ่งมองไปยังต้นเสี้ยวที่อยู่ใกล้ ๆ
ก้อยจ้องมองตาไม่กะพริบ แต่พวกเธอก็ไม่ใส่ใจมาก ยังคงพากันเล่นตุ๊กตากระดาษกันไปเรื่อย กว่าครูใหญ่จะตีระฆังกลับบ้านก็อีกหลายนาที ขณะนั้นก้อยก็ลุกขึ้นยืน สายตายังจ้องมองไปยังต้นเสี้ยว พวกเธอก็ไม่มีใครสนใจเหมือนเดิม ส่วนเธอเองมองก้อยว่าทำอะไรแต่ก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน
ก้อยค่อย ๆ หย่องไปยังต้นเสี้ยว ก้อยใช้มือตะครุบไปยังต้นเสี้ยว จับตัวอะไรสักอย่าง ก้อยแสยะยิ้มบอสมองเห็นว่าก้อยยิ้มอย่างมีเลศนัยมาที่ตนเอง มือไขว้หลังเอาไว้ ก้อยซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง
“อี่ก้อยอะไรอยู่ในมือมืง” บอสอุทาน เพราะมองเห็นพอดีว่าก้อยตะครุบจิ้งจกเมื่อครู่นี้ ก้อยเองก็หัวเราะชอบใจที่โดนจับได้
“ไม่มีอะไร ฮา” ก้อยปฏิเสธทั้งหัวเราะ คราวนี้พวกเธอทุกคนตื่นตัวระแวงกันไปหมด จากนั้นก้อยก็รีบหย่อนจิ้งจกลงไปในเสื้อนักเรียนของเธอทันที
“กรี๊ด!!!!! อี่ก้อย จิ้งจก! ฮือ… ช่วยด้วย ฮือ… จิ้งจก! อี้ก้อยเอาขี้เกี้ยมใส่กู ฮือ” บอสร้องไห้ ตัวจิ้งจกมันก็ดิ้น ๆ อยู่ในเสื้อ ก้อยหย่อนมันลงไปในเสื้อซับของบอสกันเลย
เสื้อซับคือเสื้อกล้ามตัวเล็ก ๆ บาง ๆ มียางยืดที่ชายเสื้อเหมือนยางหัวกางเกง เพื่อที่จะได้รัดตัวให้เสื้อกระชับ ยาวแค่ใต้ราวนม ใช้สวมทับเสื้อนักเรียน มันก็ดิ้น ๆ อยู่ในเสื้อของบอสเพราะมันหาทางออกไม่ได้ กงเล็บเล็ก ๆ ของมันข่วนตัวบอสไม่หยุด
ทั้งจ๋อม พิมพ์ แพรว ทุกคนหัวเราะเธอ รวมทั้งคนก่อเรื่องด้วย ก้อยเองก็หัวเราะเยาะเธอ ทุกคนเห็นเป็นเรื่องตลก ส่วนเธอกลัวแทบช็อกไปแล้ว เธอร้องไห้กระโดดเขย่า ๆ ไม่หยุด จิ้งจกมันก็ไม่ยอมหล่นสักที เพราะมันเข้าไปในเสื้อซับของเธอเลย มันก็เที่ยววิ่งหาทางออกของมัน
“ฮือ… ช่วยกูแหน่ กูย่านขี้เกี้ยม มันไต่กู ฮือ..” บอสร้องไห้จ้า มีนักเรียนคนอื่น ๆ หันมามอง บางคนก็เดินมาดูเธอร้องไห้เลย “แพรวช่วยกูแหน่ เอาออกให้กูแหน่ ฮือ กูย่าน” ทั้งร้องไห้ ทั้งดิ้นเวลามันไต่ตัวของเธอ กงเล็บเล็ก ๆ ของมันสัมผัสที่ผิวหนังของเธอ มันขยะแขยงมาก มันจั๊กจี้ มันน่าขนลุกที่สุด
เธอร้องไห้ขอให้แพรวช่วยเพราะในจิตสำนึกของเธอ แพรวคือพี่สาวของเธอ พี่คือคนที่เก่งกว่า จะปกป้องเธอได้ เธอร้องไห้หันมองแพรวด้วยแววตาอ้อนวอน
แพรวเลิกหัวเราะ เดินเข้ามาหาเธอ เธอยืนตัวสั่นไม่อยากดิ้นเพราะกลัวจิ้งจกมันดิ้นตาม เธอขยะแขยงมันมากที่สุด
“อยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ” แพรวบอกกับเธอ จากนั้นแพรวก็ใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อนักเรียนของเธอ ควานหาตัวจิ้งจกในเสื้อซับของเธอ ไอ้เจ้าจิ้งจกตัวปัญหาเมื่อเจอมือของแพรว มันก็ยิ่งไต่เพราะเอาตัวรอดจากศัตรูเช่นกัน
แพรวใช้มือควานหาไม่นานก็จับตัวมันได้ แพรวไม่กลัวจิ้งจกเลย จับจิ้งจกออกจากตัวของเธอ ชูให้เพื่อน ๆ ดูก่อนจะโยนมันทิ้งไป “อี่ฮาก้อยเฮ็ดให้อี่บอสไปทั่วทีป มันแฮงย่านขี้เกี้ยมอยู่” พอโยนจิ้งจกทิ้งแล้วแพรวก็หันมาเอ็ดก้อย
ส่วนเธอเมื่อแพรวช่วยได้สำเร็จแล้ว แค้นนี้ต้องชำระ “อี่ก้อย! มืงต้องเจอตีนกู” บอสพูดจบ ด้วยความโมโหสุดฤทธิ์ กะจะตบกับก้อยจริง ๆ กะจะแตกหักกันไปข้างเลย แต่ก้อยไหวตัวทัน รีบวิ่งหนีเธอไป วิ่งไปยังสนามฟุตบอล ส่วนเธอก็วิ่งตาม กลายเป็นว่าเรียกเสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ ไปอีก
ก้อยวิ่งไปด้วย ทำหน้าทะเล้นกวนเธอไปด้วย ยิ่งเพิ่มความแค้นใจให้เธอไปอีก พยายามวิ่งไล่ก้อยให้ทัน ก้อยก็วิ่งหนีสุดกำลัง วิ่งวนรอบสนามฟุตบอลอยู่อย่างนั้น เหนื่อยหอบทั้งสองคน จากนั้นเธอก็เดิน! ก้อยก็เดิน เธอวิ่งก้อยก็วิ่ง ถึงอย่างไรเธอต้องตามเอาคืนก้อยให้ได้ แค้นนี้ต้องชำระ
จนสุดท้ายครูใหญ่ตีระฆังกลับบ้าน เธอก็ยังไม่ได้เอาคืนก้อยเลย เพื่อน ๆ ก็ยืนมองพร้อมหัวเราะพวกเธอสองคน หารู้ไม่ว่าเธอแค้นจริง ก้อยก็เดินหนีเธอ
คราวนี้เหมือนก้อยจะจวนตัว เพราะต้องไปเข้าแถวไหว้พระสวดมนต์กลับบ้าน คิดว่าเธอต้องตามทันแน่ ๆ ต้องโดนเธอเอาคืนจนได้ และ เธอก็หัวเราะสะใจ เพราะสุดท้ายก้อยก็หนีเธอไม่พ้น
ส่วนเธอไม่มีวันให้อภัยถ้าไม่ได้เอาคืน เธอยังเดินตามก้อยไปเรื่อย ๆ หวังจะได้เอาคืน ระยะห่างระหว่างเธอกับก้อยก็ไม่ไกลกัน แต่มันเหนื่อยบวกกับก้อยเดินหนีเรื่อย ๆ จึงทำให้ตามไม่ทันสักที ถึงอย่างไรก็ต้องตามให้ทัน ขณะนี้เหนื่อยกันทั้งคู่ ทั้งคู่กำลังเดินไล่กันมาเอากระเป๋านักเรียนที่ม้าหินอ่อน
“อะบอสกูให้ทำคืน กูขอโทษ หายกัน ตีกูคืนเลย” เพราะจวนตัวก้อยจึงยอม หยุดยืนยื่นแขนให้เธอตี
บอสไม่รีรอ ตีไปที่แขนของก้อยแรง ๆ แต่ก้อยยังยิ้มหน้าบาน แถมบอกว่าไม่เจ็บอีกด้วย “จากหนิไปหายกัน” บอสพูด แค่นี้จริง ๆ ที่บอสต้องการ ที่วิ่งไล่กันรอบสนามฟุตบอล แค่ได้ตีคืนที่ก้อยเอาจิ้งจกมาใส่ตนเองก็พอใจ
จากนั้นพวกเธอก็เดินไปเข้าแถวสวดมนต์ด้วยกัน พูดคุยหัวเราะกันเหมือนเดิม เธอไม่งอนก้อย และ ก้อยก็ไม่งอนที่โดนเธอตีแขนคืน คราวนี้ก็กลายเป็นเรื่องที่สองฝาแฝดกับจ๋อมหยิบยกมาเล่าแซวเธอไปอีก แซวให้เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ในห้องเรียนฟัง แซวอยู่นานกว่าจะเลิกพูดเรื่องนี้
……………………………….
เพราะไอ้จิ้งจกตัวร้ายนั่นมันกระโดดมาเกาะหน้าอกของฉัน ทำให้ฉันหวนระลึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาดื้อ ๆ จู่ ๆ เรื่องนั้นมันก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย
ตอนเด็ก ๆ แพรวเป็นคนที่ปกป้องน้อง ๆ เก่งมาก เป็นคนที่ปกป้องฉันกับพิมพ์เสมอที่โรงเรียน ไม่กลัวแม้กระทั่งจิ้งจก ส่วนฉันกลัวเป็นบ้าเลย แค่เห็นมันอยู่สิบเมตร ฉันก็ผวาแล้ว ยิ่งเมื่อครู่กระโดดมาเกาะฉันด้วย ยึ๋ย! ขนลุกไม่หาย
เพราะเพื่อนร่วมห้องตัวดีของฉัน มันไม่ยอมล้างจานเมื่อคืน ถ้ามันล้างไปตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ยอมทิ้งไว้ให้ฉันเป็นคนล้างวันนี้ ฉันก็ไม่โดนเอเลี่ยนบุก หึหึ แค้นนี้ต้องชำระ ไอ้เพื่อนร่วมห้องมันจะต้องตาย! ต้องโดนเหมือนอี่ก้อยเพื่อนวัยเด็กของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะนอนไม่หลับแน่ ๆ
“กลับมาจากทำงานก่อนเถอะแก…” ฉันกระตุกยิ้ม คิดแก้แค้นได้แล้ว… “โดนแน่! ที่ทำหัวใจฉันเกือบวายตาย มันต้องโดน!” ฉันยิ้มกริ่ม แผนของของฉันผุดขึ้นมาในหัว
จบ…..
ระลึกถึง
.
(จิ้งจกตัวร้ายกับควายตัวนึง)
‘….มีความต้องการแพทย์สูง ช่วยพยุงผมขึ้นเตียงหน่อย เจ็บจริง ๆ ไม่ได้สำออย…’
ฉันเปิดเพลงในโทรศัพท์ฟังไปพร้อมล้างจานไปด้วย ล้างไปฮัมเพลงไปอย่างสบายอารมณ์ วันนี้มันได้หยุดแล้ว ได้พักผ่อนสักทีจากที่ทำงานลากยาวมาสิบเก้าวันเต็ม ๆ สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง วันที่รอคอยมานานแสนนานได้มาถึงแล้ว ยิ้มให้กับตนเองที่อึดขนาดนี้เลย
ฉันหยิบจานที่ยังไม่ได้ล้างมาล้างขัด ๆ ถู ๆ ด้วยน้ำยาล้างจาน ไม่ทันได้มองอะไร เพราะไม่คิดว่ามันจะมีอะไร แค่จานที่ยังไม่ได้ล้างจากเมื่อคืนเท่านั้น แต่ว่ามีบางอย่างมันเกาะอยู่ที่จาน และ มันกระโจนมาเกาะหน้าอกของฉัน ‘เอเลี่ยนสายพันธุ์ไทย!’ มันคือสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย
ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อมีบางอย่างกระโจนมาใส่ตัว ค่อย ๆ ก้มหน้าลงมามองที่หน้าอกของตนเองช้า ๆ สิ่งที่ได้เห็นคือ หน่วยตาสีดำ ๆ เล็ก ๆ ถลนออกจากเบ้าตานิดหน่อย จ้องหน้าฉันตาแป๋วเลย
กรี๊ด!!!!! ฉันกรี๊ดสุดเสียงดังสิบเดซิเบลกันเลย ร้องลั่นหอพักกันเลย ฉันไม่กล้ายกมือขึ้นมาปัดเอเลี่ยนออก ฉันกลัวมาก! ฉันกลัวสุดชีวิต หัวใจของฉันกำลังจะหยุดเต้น ฮือ… ช่วยฉันด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันที พ่อจ๋าแม่จ๋า
ฉันทำอะไรไม่ถูก! ช่วยด้วยเอเลี่ยนมันบุกห้องฉัน มันมาซุ่มที่อ่างล้างจานของฉัน มันแอบอยู่ที่จานของฉัน สีของมันออกครีม ๆ มันมีความสามารถอำพลางตัวให้เหมือนผนังห้องได้ ฉันจึงมองไม่เห็นมัน ผนวกกับฉันเป็นคนสายตาสั้นด้วย แต่ไม่ยอมใส่แว่น จึงมองไม่เห็นสัตว์ร้ายที่แอบซุ่มอยู่บนจาน ซ้ำร้ายมันกำลังเกาะที่หน้าอกของฉันอยู่
อี่พ่ออี่แม่ช่วยบอสด้วย บอสกลัว! ฮือ… ช่วยบอสด้วย! บอสย่านขี้เกี้ยม!…
ฉันเอาแต่กรี๊ดลั่นห้องสะบัดตัว ร้องไห้ลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้น จากนั้นเอเลี่ยนมันรีบกระโจนหนีไปอย่างเร็ว ส่วนฉันร้องไห้ใช้มือปัดป้องที่หน้าอกของตนเองไม่หยุด หลังจากที่มันกระโจนหนีไปแล้ว ไม่มีแก่ใจจะล้างจานอีกต่อไป กลัวมันมีพรรคพวกมาด้วย
“บักฮาหนิกินแล้วกะบ่อล้างจาน ฮือ… ให้กูล้างจานเฮ็ดหยัง ฮ่วย!” ฉันบ่นทั้งน้ำตา โมโหที่วันนี้ทำไมต้องเป็นฉันที่ล้างจาน บ่นให้เพื่อนร่วมห้อง ทำให้ฉันต้องมาเจอเอเลี่ยนหน้าตาประหลาดนั่น
ตาสวด ๆ อุ้งตีนเล็ก ๆ เย็น ๆ ตัวเล็ก ๆ นิ่ม ๆ สีครีม ๆ ยิ่งนึกถึงไม่ใช่ยิ่งคิดถึงนะ ยิ่งขนลุก แง่… กลัว! แหกปากให้ตายใครก็ช่วยไม่ได้ เพราะฉันอยู่คนเดียว นี่มันวันอะไรของฉัน!
แต่เรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ กลับทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เหตุการณ์คล้ายกัน เหมือนกันเลยล่ะ แต่ต่างกันที่เวลาและสถานที่เท่านั้นเอง พอนึกได้มันกลับทำให้ยิ้มออกมาได้ท่ามกลางความเป็นความตายตอนนี้ ฉันมีความสุขที่ได้นึกถึงเรื่องราวของตนเอง เฉพาะเรื่องราวดี ๆ ที่ควรจดจำ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบเก้าปีก่อน
ณ ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นเสี้ยวของโรงเรียน บอสกับจ๋อมและสองฝาแฝดนั่งเล่นรอเลิกเรียนเช่นทุกวัน ระหว่างนั้นมีนักเรียนคนอื่น ๆ วิ่งเล่นกันเสียงดังมาก พวกเธอกำลังเล่นตุ๊กตากระดาษกันอยู่ ก็ไม่ได้สนใจใครเลย
แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกกลุ่มเดินมาหาพวกเธอ มาขอนั่งเล่นด้วย พวกเธอก็ไม่ว่าอนุญาตให้นั่งด้วย
“บอส แฝด จ๋อมพวกเราขอนั่งด้วยคนนะ เดินหาม้าหินอ่อนว่างก็ไม่มีเลยอ่ะ” เจนเอ่ยขอนั่งกับพวกเธอ ซึ่งเหลือโต๊ะว่างสามโต๊ะพอดี กลุ่มของเจนมีสามคน เจน ก้อย และก็นุ่น
“เชิญ!” บอสตอบ ก็ยังเล่นตุ๊กตากระดาษกันอยู่ ไม่ได้สนใจเพื่อนที่มาใหม่เลย อยากนั่งก็นั่งไม่หวงอยู่แล้ว
“พวกเธอไปไหนกันมาเหรอ” จ๋อมถาม
“ไปปั่นจักรยานที่บ้านพักครูสมพงษ์มาน่ะ” ก้อยเป็นคนตอบ จากนั้นพวกเธอก็คุยกันไปเรื่อย มีเพื่อนมาเพิ่มก็สนุกกว่าเดิม จู่ ๆ ก้อยก็นิ่งมองไปยังต้นเสี้ยวที่อยู่ใกล้ ๆ
ก้อยจ้องมองตาไม่กะพริบ แต่พวกเธอก็ไม่ใส่ใจมาก ยังคงพากันเล่นตุ๊กตากระดาษกันไปเรื่อย กว่าครูใหญ่จะตีระฆังกลับบ้านก็อีกหลายนาที ขณะนั้นก้อยก็ลุกขึ้นยืน สายตายังจ้องมองไปยังต้นเสี้ยว พวกเธอก็ไม่มีใครสนใจเหมือนเดิม ส่วนเธอเองมองก้อยว่าทำอะไรแต่ก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน
ก้อยค่อย ๆ หย่องไปยังต้นเสี้ยว ก้อยใช้มือตะครุบไปยังต้นเสี้ยว จับตัวอะไรสักอย่าง ก้อยแสยะยิ้มบอสมองเห็นว่าก้อยยิ้มอย่างมีเลศนัยมาที่ตนเอง มือไขว้หลังเอาไว้ ก้อยซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง
“อี่ก้อยอะไรอยู่ในมือมืง” บอสอุทาน เพราะมองเห็นพอดีว่าก้อยตะครุบจิ้งจกเมื่อครู่นี้ ก้อยเองก็หัวเราะชอบใจที่โดนจับได้
“ไม่มีอะไร ฮา” ก้อยปฏิเสธทั้งหัวเราะ คราวนี้พวกเธอทุกคนตื่นตัวระแวงกันไปหมด จากนั้นก้อยก็รีบหย่อนจิ้งจกลงไปในเสื้อนักเรียนของเธอทันที
“กรี๊ด!!!!! อี่ก้อย จิ้งจก! ฮือ… ช่วยด้วย ฮือ… จิ้งจก! อี้ก้อยเอาขี้เกี้ยมใส่กู ฮือ” บอสร้องไห้ ตัวจิ้งจกมันก็ดิ้น ๆ อยู่ในเสื้อ ก้อยหย่อนมันลงไปในเสื้อซับของบอสกันเลย
เสื้อซับคือเสื้อกล้ามตัวเล็ก ๆ บาง ๆ มียางยืดที่ชายเสื้อเหมือนยางหัวกางเกง เพื่อที่จะได้รัดตัวให้เสื้อกระชับ ยาวแค่ใต้ราวนม ใช้สวมทับเสื้อนักเรียน มันก็ดิ้น ๆ อยู่ในเสื้อของบอสเพราะมันหาทางออกไม่ได้ กงเล็บเล็ก ๆ ของมันข่วนตัวบอสไม่หยุด
ทั้งจ๋อม พิมพ์ แพรว ทุกคนหัวเราะเธอ รวมทั้งคนก่อเรื่องด้วย ก้อยเองก็หัวเราะเยาะเธอ ทุกคนเห็นเป็นเรื่องตลก ส่วนเธอกลัวแทบช็อกไปแล้ว เธอร้องไห้กระโดดเขย่า ๆ ไม่หยุด จิ้งจกมันก็ไม่ยอมหล่นสักที เพราะมันเข้าไปในเสื้อซับของเธอเลย มันก็เที่ยววิ่งหาทางออกของมัน
“ฮือ… ช่วยกูแหน่ กูย่านขี้เกี้ยม มันไต่กู ฮือ..” บอสร้องไห้จ้า มีนักเรียนคนอื่น ๆ หันมามอง บางคนก็เดินมาดูเธอร้องไห้เลย “แพรวช่วยกูแหน่ เอาออกให้กูแหน่ ฮือ กูย่าน” ทั้งร้องไห้ ทั้งดิ้นเวลามันไต่ตัวของเธอ กงเล็บเล็ก ๆ ของมันสัมผัสที่ผิวหนังของเธอ มันขยะแขยงมาก มันจั๊กจี้ มันน่าขนลุกที่สุด
เธอร้องไห้ขอให้แพรวช่วยเพราะในจิตสำนึกของเธอ แพรวคือพี่สาวของเธอ พี่คือคนที่เก่งกว่า จะปกป้องเธอได้ เธอร้องไห้หันมองแพรวด้วยแววตาอ้อนวอน
แพรวเลิกหัวเราะ เดินเข้ามาหาเธอ เธอยืนตัวสั่นไม่อยากดิ้นเพราะกลัวจิ้งจกมันดิ้นตาม เธอขยะแขยงมันมากที่สุด
“อยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ” แพรวบอกกับเธอ จากนั้นแพรวก็ใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อนักเรียนของเธอ ควานหาตัวจิ้งจกในเสื้อซับของเธอ ไอ้เจ้าจิ้งจกตัวปัญหาเมื่อเจอมือของแพรว มันก็ยิ่งไต่เพราะเอาตัวรอดจากศัตรูเช่นกัน
แพรวใช้มือควานหาไม่นานก็จับตัวมันได้ แพรวไม่กลัวจิ้งจกเลย จับจิ้งจกออกจากตัวของเธอ ชูให้เพื่อน ๆ ดูก่อนจะโยนมันทิ้งไป “อี่ฮาก้อยเฮ็ดให้อี่บอสไปทั่วทีป มันแฮงย่านขี้เกี้ยมอยู่” พอโยนจิ้งจกทิ้งแล้วแพรวก็หันมาเอ็ดก้อย
ส่วนเธอเมื่อแพรวช่วยได้สำเร็จแล้ว แค้นนี้ต้องชำระ “อี่ก้อย! มืงต้องเจอตีนกู” บอสพูดจบ ด้วยความโมโหสุดฤทธิ์ กะจะตบกับก้อยจริง ๆ กะจะแตกหักกันไปข้างเลย แต่ก้อยไหวตัวทัน รีบวิ่งหนีเธอไป วิ่งไปยังสนามฟุตบอล ส่วนเธอก็วิ่งตาม กลายเป็นว่าเรียกเสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ ไปอีก
ก้อยวิ่งไปด้วย ทำหน้าทะเล้นกวนเธอไปด้วย ยิ่งเพิ่มความแค้นใจให้เธอไปอีก พยายามวิ่งไล่ก้อยให้ทัน ก้อยก็วิ่งหนีสุดกำลัง วิ่งวนรอบสนามฟุตบอลอยู่อย่างนั้น เหนื่อยหอบทั้งสองคน จากนั้นเธอก็เดิน! ก้อยก็เดิน เธอวิ่งก้อยก็วิ่ง ถึงอย่างไรเธอต้องตามเอาคืนก้อยให้ได้ แค้นนี้ต้องชำระ
จนสุดท้ายครูใหญ่ตีระฆังกลับบ้าน เธอก็ยังไม่ได้เอาคืนก้อยเลย เพื่อน ๆ ก็ยืนมองพร้อมหัวเราะพวกเธอสองคน หารู้ไม่ว่าเธอแค้นจริง ก้อยก็เดินหนีเธอ
คราวนี้เหมือนก้อยจะจวนตัว เพราะต้องไปเข้าแถวไหว้พระสวดมนต์กลับบ้าน คิดว่าเธอต้องตามทันแน่ ๆ ต้องโดนเธอเอาคืนจนได้ และ เธอก็หัวเราะสะใจ เพราะสุดท้ายก้อยก็หนีเธอไม่พ้น
ส่วนเธอไม่มีวันให้อภัยถ้าไม่ได้เอาคืน เธอยังเดินตามก้อยไปเรื่อย ๆ หวังจะได้เอาคืน ระยะห่างระหว่างเธอกับก้อยก็ไม่ไกลกัน แต่มันเหนื่อยบวกกับก้อยเดินหนีเรื่อย ๆ จึงทำให้ตามไม่ทันสักที ถึงอย่างไรก็ต้องตามให้ทัน ขณะนี้เหนื่อยกันทั้งคู่ ทั้งคู่กำลังเดินไล่กันมาเอากระเป๋านักเรียนที่ม้าหินอ่อน
“อะบอสกูให้ทำคืน กูขอโทษ หายกัน ตีกูคืนเลย” เพราะจวนตัวก้อยจึงยอม หยุดยืนยื่นแขนให้เธอตี
บอสไม่รีรอ ตีไปที่แขนของก้อยแรง ๆ แต่ก้อยยังยิ้มหน้าบาน แถมบอกว่าไม่เจ็บอีกด้วย “จากหนิไปหายกัน” บอสพูด แค่นี้จริง ๆ ที่บอสต้องการ ที่วิ่งไล่กันรอบสนามฟุตบอล แค่ได้ตีคืนที่ก้อยเอาจิ้งจกมาใส่ตนเองก็พอใจ
จากนั้นพวกเธอก็เดินไปเข้าแถวสวดมนต์ด้วยกัน พูดคุยหัวเราะกันเหมือนเดิม เธอไม่งอนก้อย และ ก้อยก็ไม่งอนที่โดนเธอตีแขนคืน คราวนี้ก็กลายเป็นเรื่องที่สองฝาแฝดกับจ๋อมหยิบยกมาเล่าแซวเธอไปอีก แซวให้เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ในห้องเรียนฟัง แซวอยู่นานกว่าจะเลิกพูดเรื่องนี้
……………………………….
เพราะไอ้จิ้งจกตัวร้ายนั่นมันกระโดดมาเกาะหน้าอกของฉัน ทำให้ฉันหวนระลึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาดื้อ ๆ จู่ ๆ เรื่องนั้นมันก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย
ตอนเด็ก ๆ แพรวเป็นคนที่ปกป้องน้อง ๆ เก่งมาก เป็นคนที่ปกป้องฉันกับพิมพ์เสมอที่โรงเรียน ไม่กลัวแม้กระทั่งจิ้งจก ส่วนฉันกลัวเป็นบ้าเลย แค่เห็นมันอยู่สิบเมตร ฉันก็ผวาแล้ว ยิ่งเมื่อครู่กระโดดมาเกาะฉันด้วย ยึ๋ย! ขนลุกไม่หาย
เพราะเพื่อนร่วมห้องตัวดีของฉัน มันไม่ยอมล้างจานเมื่อคืน ถ้ามันล้างไปตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ยอมทิ้งไว้ให้ฉันเป็นคนล้างวันนี้ ฉันก็ไม่โดนเอเลี่ยนบุก หึหึ แค้นนี้ต้องชำระ ไอ้เพื่อนร่วมห้องมันจะต้องตาย! ต้องโดนเหมือนอี่ก้อยเพื่อนวัยเด็กของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะนอนไม่หลับแน่ ๆ
“กลับมาจากทำงานก่อนเถอะแก…” ฉันกระตุกยิ้ม คิดแก้แค้นได้แล้ว… “โดนแน่! ที่ทำหัวใจฉันเกือบวายตาย มันต้องโดน!” ฉันยิ้มกริ่ม แผนของของฉันผุดขึ้นมาในหัว
จบ…..