JJNY : ติดเชื้อ2,305 เสียชีวิต32│ตัวกำหนดความรุนแรง"โอมิครอน"ในไทย│คลังชี้GDPปี64โตได้1-1.2%│‘2564’ ปีแห่งศึก ‘อปท.’

โควิดวันนี้หายป่วยเพิ่ม 3,070 คน ติดเชื้อใหม่ 2,305 ราย เสียชีวิต 32 ศพ
https://www.dailynews.co.th/news/613026/
  

 
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 32 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 2,305 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,185,849 ราย

สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 28 ธ.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 2,305 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,251 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 54 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 มีจำนวน 2,185,849 ราย หายป่วยกลับบ้าน 3,070 ราย หายป่วยสะสม 2,132,017 ราย กำลังรักษา 33,639 ราย
 
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 32 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 21,630 ราย
 

  
สัปดาห์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตัวกำหนดความรุนแรง "โอมิครอน" ในไทย
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/100543/

"หมอธีระ" ชี้สัปดาห์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้เป็นตัวกำหนดความรุนแรงของการระบาดของโควิดโอมิครอนในไทย ขอให้ใส่หน้ากากเสมอ เลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น

วันนี้ (28ธ.ค.64) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า 
 
28 ธันวาคม 2564 ทะลุ 281 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 665,907 คน ตายเพิ่ม 4,424 คน รวมแล้วติดไปรวม 281,615,934 คน เสียชีวิตรวม 5,422,009 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 89.82 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 92.13
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 52.12 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 62.88
 
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก

...สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 2,437 คน สูงเป็นอันดับ 31 ของโลก
หากรวม ATK อีก 505 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 29 ของโลก
ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 6 ของเอเชีย
...อัพเดต Omicron
 
ตอนนี้ระบาดกระจายไปแล้ว 119 ประเทศ (BNO Omicron tracker) และมีสัดส่วนของการตรวจพบในผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกทวีป (GISAID)
ประเทศต่างๆ มีสถิติการติดเชื้อใหม่รายวันสูงขึ้นกว่าทุกระลอกที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประเทศในยุโรปอย่างสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ รวมถึงแถบโอเชียเนีย เช่น ออสเตรเลีย
 
...มองไปยาวอีก 3-6 เดือนถัดจากนี้ น่าจะมีจุดเปลี่ยนของลักษณะการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก รวมถึงการตอบสนองต่อการระบาดของแต่ละประเทศ
ด้วยความรู้จนถึงปัจจุบัน ชัดเจนว่าการฉีดวัคซีนนั้นจะช่วยในแง่การกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดและระดับเซลล์ เพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อ โดยช่วยลดโอกาสเจ็บป่วยรุนแรง และลดโอกาสเสียชีวิต
 
แต่ระยะเวลาผ่านไป ระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือด หรือแอนติบอดี้จะลดลง และจำเป็นต้องได้รับการฉีดกระตุ้นเป็นระยะ แต่จะถี่บ่อยแค่ไหนในระยะยาวคงต้องรอผลการติดตามศึกษาต่อไป
 
ทั้งนี้การระบาดของ Omicron ที่ทั่วโลกรวมถึงไทยเรากำลังเผชิญอยู่นั้น ปัจจัยแวดล้อมเป็นตัวกำหนดให้มีลักษณะการตอบสนองคล้ายกันคือ
 
หนึ่ง ผู้ใหญ่ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น
 
สอง นำเด็กและเยาวชนที่อายุอยู่ในเกณฑ์ที่จะสามารถรับวัคซีนได้ไปฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
 
สาม ในเด็กเล็ก ช่วงวัยที่ยังไม่มีวัคซีนที่อนุมัติให้ใช้ คงจำเป็นต้องให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองช่วยกันดูแล ป้องกันให้ดี หากโตหน่อยก็ใส่หน้ากาก ล้างมือ ดูแลที่ทางให้ระบายอากาศให้ดี สังเกตอาการหากไม่สบายก็ตรวจรักษาโดยไม่ไปปะปนกับเด็กคนอื่นๆ
 
สี่ การป้องกันตัวส่วนบุคคลยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นกิจวัตร ให้คุ้นชินจนเป็นนิสัย จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อโควิด-19 และโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากาก ล้างมือ อยู่ห่างคนอื่นเกินหนึ่งเมตร เลี่ยงที่แออัด ไม่แชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น
 
และที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะวัยเรียน วัยทำงาน และวัยสูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นนายจ้าง และลูกจ้าง คือ การหมั่นสำรวจตนเอง หากมีอาการไม่สบาย ควรหยุดเรียน หยุดงาน และรีบไปตรวจรักษาให้หายดีก่อนแล้วค่อยปฏิบัติภารกิจในชีวิตประจำวันได้ แต่การจะทำเช่นนี้ได้ นอกจากการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องการรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมแล้ว อุปสรรคสำคัญคือ กฎระเบียบขององค์กร หน่วยงาน กิจการต่างๆ ต้องเอื้อให้คนที่ไม่สบายสามารถที่จะลาเรียน ลางานได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลผลกระทบต่อตัวเขา แม้จะเป็นการเสี่ยงที่จะเกิดการใช้เป็นช่องทางลาโดยไม่เหมาะสมบ้าง แต่จำเป็นต้องทำในช่วงที่โรคระบาดยังกระจายทั่วและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อประคับประคองให้ระบบต่างๆ ในสังคมสามารถก้าวข้าวช่วงเวลาครึ่งปีถัดจากนี้ไปได้
...สัปดาห์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้เป็นตัวกำหนดความรุนแรงของการระบาดของ Omicron ในไทย
 
ขอให้ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า
อยู่ห่างคนอื่นเกินหนึ่งเมตร
เลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนส่งสาธารณะ
งดตะลอนท่องเที่ยว
งดปาร์ตี้สังสรรค์กันเป็นกลุ่ม ฉลองกับคนในครอบครัวในบ้านจะปลอดภัยกว่า
หากทำได้พร้อมเพรียง จะช่วยลดโอกาสระบาดรุนแรงไปได้ไม่มากก็น้อย
ด้วยรักและห่วงใย
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223651572989851
 


คลังชี้GDPปี64โตได้1-1.2%ไม่ประมาทโอไมครอน
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_262863/
 
ปลัดกระทรวงการคลังเผยเศรษฐกิจไทยปี64 ขยายตัวได้ 1-1.2% จากมาตรการรัฐ,ย้ำไม่ประมาทโอไมครอน
  
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะยังคงขยายตัวได้ที่ร้อยละ 1-1.2 เนื่องจากการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19ไม่ได้เข้มงวดเหมือนในปีที่ผ่านมา รวมทั้งการจับจ่ายจากโครงการภาครัฐดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ขยายตัวได้และมียอดการจัดเก็บได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาทำให้มองว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ตามเป้าที่คาดการณ์ไว้
  
อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาการแพร่ระบาดของ โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งทุกภาคส่วนของต้องมีการคุมเข้ม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและไม่ประมาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่