คิดว่าตัวเองน่าจะโรคจิตตั้งแต่เกิด

ไม่รู้จะเกริ่นหรือว่าอธิบายยังไงดี เอาเป็นว่าขอเล่าเป็นช่วงๆไปเลยดีกว่า

ตอนประมาณอนุบาลเคยจับแมงมุมหลายๆตัวมาเด็ดขาออกทีละข้างแล้วก็ปล่อยมันทิ้งไป

ตอนประมาณประถมต้นไม่ก็อนุบาลเวลาดูการ์ตูน Tom and Jerry ก็ชอบคิดในใจว่าถ้าเจอร์รี่โดนทอมฆ่าตายไปจริงๆก็คงจะดี(แต่พอมาเห็นตอนที่ทั้ง 3 ตัวเป็นมิตรกันก็รู้สึกดีใจที่พวกมันอยู่อย่างสงบนะ) กับการ์ตูนเรื่องอื่นอย่างเช่นไอ้เขี้ยวเงินก็คิดในแนวๆนี้เหมือนกัน ประมาณว่าอยากให้ตัวเอกของเรื่องเข้าด้านมืดแล้วก็ไล่ฆ่าทุกคนไม่ก็ทำให้ทุกตัวในเรื่องหวาดกลัว
แล้วเวลาโดนใครแกล้งหรือไม่ชอบใครก็มักจะชอบจินตนาการตอนที่ได้เอาคืนพวกเขาโดยการทรมานคนที่เขารักที่สุดจนตายต่อหน้าเค้าด้วย ชอบเห็นคนอื่นเจ็บปวด (เป็นแค่ตอนประถมต้นถึงประถมปลายนิดๆ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว)
ตอน ป.1 เคยผลักเพื่อนสนิทล้มแล้วก็กระทืบซ้ำเพราะเค้าชอบมาแย่งขนมและของกินอยู่บ่อยๆจนเริ่มทนไม่ไหวด้วย พอทำเสร็จก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจที่ถูกแย่งขนมไปแล้วก็เดินหนีไป(หลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาคืนดีกันแบบปกติเลย)

ตอนประถมปลายเคยทำร้ายเพื่อนเพราะเขาด่าเราด้วยถ้อยคำรุนแรง(ตอนนั้นยังใสๆอยู่แล้วก็ไม่เคยพูดคำหยาบด้วยเลยรับไม่ได้อย่างรุนแรงเลย)
มันเริ่มจากการที่เค้าด่าเราว่าแรด ซึ่งเราไม่ได้แรดไง เราเลยโกรธเพื่อนเค้ามาก แล้วเค้าก็ดันเป็นคนที่ชอบแกล้งแล้วก็ล้อเรามาโดยตลอดพอดีเลยด้วย เราก็เลยคิดว่าจะหาอะไรมาแทงคอเค้า แล้วตอนนั้นเราก็มีดินสออยู่ในมือพอดี แต่มันไม่แหลมก็เลยบอกให้เพื่อนอีกคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรช่วยเหลาดินสอให้ จำได้ว่าตอนนั้นพูดกับเค้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแบบปกติแต่น้ำเสียงไม่ค่อยมั่นคงเพราะความโกรธ พอเพื่อนคนนั้นเหลาเสร็จเราก็หยิบดินสอแล้วก็เดินไปจิ้มคอเพื่อนคนที่ด่าเราจากด้านหลัง จิ้มเข้าจนเลือดออกแต่ไม่ค่อยแรงเพราะเราสะดุ้งกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แล้วก็รู้สึกผิดที่ทำเพื่อนคนนั้นร้องไห้มั้ง แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าในห้องที่เราอยู่มีเพื่อนอยู่เต็มห้องเลยด้วย เราเลยไปนั่งน้ำตาคลอแล้วก็เกาะข้างๆโต๊ะเค้าแล้วก็พูดขอโทษเค้าไป ส่วนเพื่อนในห้องคนอื่นก็ดูจะไม่ยุ่งหรือสนใจอะไรเลย มีแค่คนเดียวที่เข้ามาถามว่าทำไมถึงร้องไห้แล้วก็เดินจากไป ไม่มีใครไปฟ้องครูเลย ส่วนเพื่อนคนที่เหลาดินสอให้เราก็ดูแปลกๆไปเหมือนพยายามจะตีตัวออกห่างไม่ก็อะไรสักอย่าง เราไม่เข้าใจว่าทำไมก็เลยทำตัวสนิทกับเค้าตามปกติในวันต่อมา รอดจากเหตุการณ์นั้นมาได้แบบไม่มีปัญหาอะไร
ตอน ป.6 คือช่วงที่เริ่มกรีดแขนตัวเองแล้วพบว่ามันรู้สึกดี(ทำตามที่คนอื่นที่ไม่รู้ว่าเป็นซึมเศร้าจริงๆมั้ยแนะนำมา) เริ่มมีอาการเรียกร้องความสนใจจากคนที่รัก

ตอนมัธยมต้นคือช่วงที่เริ่มดูคลิป gore แล้วก็ทำร้ายตัวเองหนักและบ่อยขึ้น รู้สึกด้านชาแล้วก็ทรมานกับความว่างเปล่าของตัวเองอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายเดือน นอนทั้งวัน กินน้อย ไม่สนใจการเรียน ไม่สนใจการบ้านมากขึ้นจนแทบจะไม่ส่งอะไรเลย แทบจะไม่ทำงานเลยด้วย รู้สึกเบื่อกับชีวิตตัวเองแต่ก็ยังไม่อยากตาย(แต่ก็คิดฆ่าตัวตายบ่อยมากเหมือนกัน) เลยหาทางเข้าคุกโดยการวางแผนฆ่าน้องตัวเองแต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะโดนเพื่อนเข้ามาห้ามก่อนตอนกำลังจะทำ เห็นใจในความพยายามของพวกเขาด้วยแหละ
เคยคิดอยากฆ่าคนแบบไม่มีเหตุผลด้วย นอกจากแค่เพราะอยากฆ่า
***เคยไปเจอรุ่นพี่คนนึงในดิสเกมตอนเพิ่งเข้าโรงเรียน เค้าอยู่ ม.4 แล้วก็ดันบังเอิญอยู่โรงเรียนเดียวกับเราพอดี เราสนใจในตัวเค้าแต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันคืออะไร แล้วก็ตามถ่ายรูปเค้าทุกวันเป็นเวลาประมาณ 1 ปีครึ่งโดยปิดบังตัวตนไปว่าเป็นแค่เด็กประถมที่อยู่โรงเรียนใกล้เคียง พอขึ้น ม.2 เทอม 2 ก็สารภาพกับเค้าไปว่าจริงๆแล้วเราคือใครอยู่ ม.อะไร ก่อนที่จะเริ่มปลงกับเค้าแล้วก็พยายามตัดใจไป ระหว่างนั้นก็หลบหน้าเค้าอยู่ตลอดเพราะรู้สึกอับอายขายหน้าในสิ่งที่ตัวเองเคยทำลงไป หลังจากนั้นก็เริ่มเจอกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆจนได้คบกันตอน ม.3 จนถึงตอนนี้ก็ยังรักกันอยู่เลย เค้าคือคนที่ช่วยมามำให้เรารู้สึกถึงความรักแล้วก็ความอบอุ่น เค้าช่วยให้เราเรียนจบแล้วก็ช่วยเปลี่ยนให้เราไปในทางที่ดี และทำให้เราเลิกดูพวกคลิป gore แล้วก็ช่วยให้เราทำร้ายตัวเองน้อยลงมาก แต่ก็ยังเปลี่ยนได้ไม่หมดอยู่ดี เพราะมันยังมีบางจุดที่ยังเปลี่ยนไม่ได้อยู่ เหมือนมันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว***
เคยรู้สึกตื่นเต้นไม่ก็พอใจกับคลิปรวมคนฆ่าตัวตายและความตายที่มันดูน่าหดหู่ที่เพื่อนส่งมาให้
และรู้สึกตื่นเต้นตอนได้เห็นความตายที่อยู่ตรงหน้าตัวเองเป็นครั้งแรก คนที่เสียเป็นตาเราเอง เค้านอนตายอยู่กลางบ้าน ตอนเปิดออกไปเจอคือตื่นเต้นแบบสุดๆไปเลย แล้วปากมันก็เผลอกระตุกยิ้มขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจด้วย จะหุบยิ้มก็ไม่ได้เลยต้องหันไปยิ้มทางอื่นเพื่อไม่ให้ญาติคนอื่นเห็น แล้วก็รู้สึกรำคาญยายที่ร้องไห้คร่ำครวญแบบโอเวอร์เกินไปมากเลย สำหรับเรามันกูเฟคอะเพราะว่าก่อนหน้านั้นเค้าไม่ลงรอยกันเลย เคยทะเลาะกันอยู่หลายครั้งแล้วก็แทบจะไม่อยากเจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ เราเลยไม่ค่อยชอบที่เค้าทำแบบนั้นสักเท่าไหร่

ล่าสุดอยากทำขนมปังขิงเพราะอยากหักแขนหักขามันต่อหน้าตัวอื่นแล้วก็จินตนาการว่ามันมีชีวิตอยู่จริงๆ
ยังมีการทำร้ายตัวเองแล้วก็คิดค่าตัวตายอยู่บ้าง เคยพยายามกินยาพาราที่เหลืออยู่ไปแล้วแต่มันก็มีไม่มากพอ

ปล.เล่าแค่เหตุการณ์ที่เราคิดว่ามันดูไม่ปกติกับเหตุการณ์ที่ทำให้เราดีขึ้นค่ะ

ตอนนี้จะไปหาหมอก็ไม่มีใครเห็นด้วย พยายามอยู่โดยคิดว่าตัวเองปกติมาตลอด แต่ก็มีหลายครั้งเลยที่รู้ตัวว่ามันไม่ปกติ ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับตัวเองดีเหมือนกัน แล้วก็ไม่อยากเป็นแบบนี้เลยด้วย แง;-;
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่