หลง...มรณะ
ล. วิลิศมาหรา
บ้านหลังเล็กตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางไร่ข้าวโพดกว้างหลายเอเคอร์ ชานเมืองสตอต ซิตี้ รัฐเคนเคราส์ บรรยากาศยามค่ำในหน้าร้อนเงียบสงบ ถนนลาดยางผ่านหน้าบ้านลดเลี้ยวหายไปทางใต้ เหนือทุ่งข้าวโพดไกลออกไปคือไร่ปศุสัตว์ขนาดใหญ่ และโรงเก็บธัญพืชของโรเจอร์ แมนนิ่ง คหบดีผู้ร่ำรวยที่สุดของเมืองนี้
แคทเธอรีน วิลสัน กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการตัดต่อพันธุกรรมพืชของ ดร.จอห์น แมคไฮน์ หัวหน้าคณะชีววิทยาของพืช ในมหาวิทยาลัยเกรกเด็น ผู้กำลังจะนำเอาโครงการส่งเสริมการเกษตรมาทำการทดลองที่นี่อยู่ภายในบ้านของเธอ แคทเธอลีนเห็นด้วยกับ ดร.จอนห์น เต็มที่ หลายปีมานี้ผู้คนในเมืองเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับงานสังสรรค์ของบริษัทแมนนิ่งแบล็กเพิร์ล และกิจกรรมในโบสถ์ของศาสนาจารย์เวย์ แม็คเคร ไม่มีใครให้ความสนใจกับปัญหาพืชพันธุ์ที่เสียหายมากขึ้นทุกปี หรืออนาคตขององค์การเกษตรกรแห่งสต็อต์ ซิตี้ ที่ซบเซามากว่าเจ็ดปี เพราะมีผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์จะนำพาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าสักเท่าไหร่
แม้เธอจะเป็นเพียงหญิงหม้ายวัยไม้ใกล้ฝั่ง ผู้อาศัยอยู่ในเมืองนี้แบบตัวคนเดียว แต่เธอก็รักเมืองนี้มาก และอยากเห็นความเจริญของเมืองที่ตัวเองเติบโตมา ก่อนไปทอดตัวนอนในสุสาน เคียงข้างกับสามีผู้ล่วงหน้าไปนานแล้ว เพราะถ้าหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นที่นี่จริง สตอตต ซิตี้ก็คงได้เวลาเปลี่ยนแปลงตัวเอง หลังจากเสื่อมโทรมลงทุกขณะ จนจะกลายเป็นเหมือนเมืองร้างไปแล้ว เริ่มด้วยมีตึกร้างเพิ่มขึ้นทุกปี โรงเรียนปิดตัวลง ตามด้วยร้านขายของชำหลายแห่ง เกษตรกรขาดวิทยาการใหม่ ๆ ที่จะให้ผลิตผลมีคุณภาพ สุดท้ายก็คงเป็นผับบาร์และร้านอาหารพร้อมเครื่องดื่มของไลลานั่นแหละ ที่จะต้องเลิกกิจการไปด้วยในที่สุด
เหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก หญิงวัยเจ็ดสิบห้าเลื่อนสายตาจากหน้าหนังสือไปมองที่หน้าต่างห้องนั่งเล่น ในแสงไฟส่องสลัวของโคมไฟหน้าบ้าน เธอเห็นร่างผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาหา คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นแมทธิว สวีท หรือไม่ก็พี่ชายฝาแฝดของเขาที่ชื่อโรเบิร์ต ซึ่งอยู่บ้านหลังถัดไป ห่างจากบ้านหลังสุดท้ายของเธอกว่าห้าร้อยเมตร
สงสัยว่าเขามาทำไมในยามค่ำมืดแบบนี้ แต่เมื่อเห็นเขาเดินมาถึงหน้าประตู แล้วเคาะประตูบ้านเรียก หญิงชราก็ลุกไปเปิดประตูรับโดยดี เด็กหนุ่มพวกนี้นิสัยดี มักมานั่งเล่นนอนเล่นในบ้านของเธอเป็นประจำ บางทีก็มาอ้อนขอให้ทำขนมให้กิน แต่เมื่อประตูถูกเปิดออก แคทเธอรีนก็มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ก่อนเผยยิ้มต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ มีอะไรกับฉันหรือคะ...”
(มีต่อ)
หลง...มรณะ
ล. วิลิศมาหรา
บ้านหลังเล็กตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางไร่ข้าวโพดกว้างหลายเอเคอร์ ชานเมืองสตอต ซิตี้ รัฐเคนเคราส์ บรรยากาศยามค่ำในหน้าร้อนเงียบสงบ ถนนลาดยางผ่านหน้าบ้านลดเลี้ยวหายไปทางใต้ เหนือทุ่งข้าวโพดไกลออกไปคือไร่ปศุสัตว์ขนาดใหญ่ และโรงเก็บธัญพืชของโรเจอร์ แมนนิ่ง คหบดีผู้ร่ำรวยที่สุดของเมืองนี้
แคทเธอรีน วิลสัน กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการตัดต่อพันธุกรรมพืชของ ดร.จอห์น แมคไฮน์ หัวหน้าคณะชีววิทยาของพืช ในมหาวิทยาลัยเกรกเด็น ผู้กำลังจะนำเอาโครงการส่งเสริมการเกษตรมาทำการทดลองที่นี่อยู่ภายในบ้านของเธอ แคทเธอลีนเห็นด้วยกับ ดร.จอนห์น เต็มที่ หลายปีมานี้ผู้คนในเมืองเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับงานสังสรรค์ของบริษัทแมนนิ่งแบล็กเพิร์ล และกิจกรรมในโบสถ์ของศาสนาจารย์เวย์ แม็คเคร ไม่มีใครให้ความสนใจกับปัญหาพืชพันธุ์ที่เสียหายมากขึ้นทุกปี หรืออนาคตขององค์การเกษตรกรแห่งสต็อต์ ซิตี้ ที่ซบเซามากว่าเจ็ดปี เพราะมีผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์จะนำพาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าสักเท่าไหร่
แม้เธอจะเป็นเพียงหญิงหม้ายวัยไม้ใกล้ฝั่ง ผู้อาศัยอยู่ในเมืองนี้แบบตัวคนเดียว แต่เธอก็รักเมืองนี้มาก และอยากเห็นความเจริญของเมืองที่ตัวเองเติบโตมา ก่อนไปทอดตัวนอนในสุสาน เคียงข้างกับสามีผู้ล่วงหน้าไปนานแล้ว เพราะถ้าหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นที่นี่จริง สตอตต ซิตี้ก็คงได้เวลาเปลี่ยนแปลงตัวเอง หลังจากเสื่อมโทรมลงทุกขณะ จนจะกลายเป็นเหมือนเมืองร้างไปแล้ว เริ่มด้วยมีตึกร้างเพิ่มขึ้นทุกปี โรงเรียนปิดตัวลง ตามด้วยร้านขายของชำหลายแห่ง เกษตรกรขาดวิทยาการใหม่ ๆ ที่จะให้ผลิตผลมีคุณภาพ สุดท้ายก็คงเป็นผับบาร์และร้านอาหารพร้อมเครื่องดื่มของไลลานั่นแหละ ที่จะต้องเลิกกิจการไปด้วยในที่สุด
เหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก หญิงวัยเจ็ดสิบห้าเลื่อนสายตาจากหน้าหนังสือไปมองที่หน้าต่างห้องนั่งเล่น ในแสงไฟส่องสลัวของโคมไฟหน้าบ้าน เธอเห็นร่างผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาหา คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นแมทธิว สวีท หรือไม่ก็พี่ชายฝาแฝดของเขาที่ชื่อโรเบิร์ต ซึ่งอยู่บ้านหลังถัดไป ห่างจากบ้านหลังสุดท้ายของเธอกว่าห้าร้อยเมตร
สงสัยว่าเขามาทำไมในยามค่ำมืดแบบนี้ แต่เมื่อเห็นเขาเดินมาถึงหน้าประตู แล้วเคาะประตูบ้านเรียก หญิงชราก็ลุกไปเปิดประตูรับโดยดี เด็กหนุ่มพวกนี้นิสัยดี มักมานั่งเล่นนอนเล่นในบ้านของเธอเป็นประจำ บางทีก็มาอ้อนขอให้ทำขนมให้กิน แต่เมื่อประตูถูกเปิดออก แคทเธอรีนก็มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ก่อนเผยยิ้มต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ มีอะไรกับฉันหรือคะ...”
(มีต่อ)