เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ช่วงเช้าเราได้โพสขายรถยนต์ Honda Civic FC 1.8 EL ปี 2017 สีขาว ในราคา 639,000 บาท ทาง Facebook Marketplace ซึ่งเป็นรถของเราเอง ชื่อเรา มีเล่มพร้อมโอน
และได้มีบุคคลหนึ่ง ทักมาสอบถามทาง inbox facebook และขอไอดีไลน์เรา เราจึงให้ไอดีไลน์ไป และแอดมา ชื่อว่า (โต รับเหมาก่อสร้าง) จากนั้นคนชื่อโต ก็ได้โทรไลน์หาเราและบอกกับเราว่า เดี๋ยวจะติดต่อเพื่อนให้มาซื้อรถนะ แต่ผมต่อราคาเหลือ 600,000 ได้ไหม ผมจะขายเพื่อน 630,000 อ้างว่าจะขอค่านายหน้า 30,000 บาท เราก็โอเค ตกลง แต่นายโตก็บอกว่า ให้เราแจ้งกับคนที่จะมาซื้อว่า เรา2คนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ และจะขอเขียนในใบสัญญาซื้อขายแค่ 600,000 นะ เพราะเดี๋ยวพ่อแม่ผู้ซื้อบ่นว่าซื้อราคาแพง เรื่องราคาให้คุยกะโตเลย เราก็โอเค ตกลงตามนั้น
สักพัก มีผู้หญิงโทรมา บอกว่าติดต่อมาจากพี่โต เดี๋ยวมีเจ้านายหนูโทรหานะคะ สักพักใหญ่ๆ ผู้ซื้อรถก็โทรมาหาเรา และสอบถามข้อมูลรถต่าง ๆ หลายอย่าง จนตกลงว่าจะขายให้ และนัดเวลา นัดสถานที่ดูรถ (คือบ้านเรา)
และเวลา 17.00 น. เราเลิกงานพอดี นายโต ก็โทรไลน์มาหา ขอโลเคชั่นที่บ้าน เพราะจะส่งต่อให้ผู้ซื้อ สักพักผู้ซื้อก็โทรถามเส้นทางบ้านเรา จนเจอกัน
ผู้ซื้อก็ขอดูรถ ขอลองรถ และสอบถามเราว่าเรากับพี่โตเป็นพี่น้องกันหลอ เราก็ตอบใช่ (ตามที่คนชื่อโตบอกเราไว้ เพราะเราก็คิดว่าเขารู้จักกัน) และผู้ซื้อก็โทรไลน์หาคนชื่อโตตกลงราคา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันบ้าง เพราะคิดว่ารู้จักกัน ในขณะที่กำลังทำเรื่องตกลงซื้อขาย คนที่เป็นพ่อผู้ซื้อก็ถ่ายรูปบ้านเราตลอดเวลา ถ่ายรูปเราตอนกำลังทำสัญญา และผู้ซื้อ หยิบใบสัญญาซื้อขายออกมาเป็นเล่ม (คาดว่าเป็นเต็นท์รถ) และเขียนๆๆ และถามเราว่า นามสกุลนี้ มีญาตเป็นตำรวจมั้ย เราก็บอกไม่มี และช่วงเวลาชุลมุน คนชื่อโตก็โทรหาผู้ซื้อ และโทรหาเรา สลับไปมา และเราเริ่มสังเกตเห็นในใบสัญญาซื้อขายลงราคาแค่ 510,000 เราก็ งง เลยไลน์ไปถามคนชื่อโตว่า ทำไมเขียนแค่นั้น เขาก็บอกว่า เดี๋ยวทำสัญญาอีกอันนึง อันนี้เอาไว้หลอกพ่อเขา สุดท้ายเราก็เซ็นต์โอนลอยและเซ็นต์สัญญาซื้อขายเรียบร้อย **ใต้สัญญาซื้อขายระบุด้วยว่า โอนเข้าบัญชี XXX (คนชื่อโต) ** และถ้าเซ็นโอนเสร็จส่งรูปสัญญาให้ผมดูด้วยนะ และคนชื่อโตก็ไลน์เลขบัญชีไปให้กับผู้ซื้อ และผู้ซื้อเหมือนเงินไม่พอ จึงโทรหาแม่ โทรหาเพื่อน ให้โอนตังมาหน่อย เงินไม่พอ เรารอ 10-15 นาที และช่วงเวลานั้น เราก็เริ่มแปลกใจ จึงถามผู้ซื้อไปว่า พี่รู้จักคนชื่อโตใช่ไหม ผู้ซื้อตอบว่า รู้จักแต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เราก็ไม่ได้อะไร และผู้ซื้อก็โอนเงินไปให้คนชื่อโต 510,000 บาท (ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี อรรถพX ทาคX เลขบัญชี 23409530XX) และโชว์สลิปให้เราดู ผู้ซื้อก็ส่งสลิปโอนไปให้นายโต (ซึ่งเขาก็มีไลน์กัน) เราก็ขอถ่ายรูปไว้และส่งให้คนชื่อโต พร้อมทั้งรูปสัญญาซื้อขายรถ เราก็รอให้คนชื่อโตโอนเงินกลับมาหาเรา เวลาเริ่มผ่านไป 2-3 นาที คนชื่อโตไม่อ่านไลน์เรา โทรก็ไม่รับ ทางผู้ซื้อได้สัญญาเรียบร้อยแล้วก็จะเตรียมตัวกลับ ผู้ซื้อขอเราให้ถ่ายรูปเซลฟี่หน้ารถด้วย พอเขาจะกลับ เราก็บอกว่า พี่เดี๋ยวก่อน!! คนชื่อโตยังไม่เห็นโอนเงินให้ผมเลย ผู้ซื้อก็หันมาบอกเราว่า อ่าว สรุปรถใคร ไหนว่าเป็นพี่น้องกัน เราก็บอกว่า ก็เขาให้ผมแจ้งคุณแบบนั้น คุณไม่ใช่เพื่อนกันหลอ ผู้ซื้อบอก ป่าว!! เซลของผมเขาติดต่อมาให้ (ใจเราลอยเลย ตัวลอย หน้าชา โดนแล้วเรา) เราก็ให้เขาโทรหาคนชื่อโตทันที สรุปคนชื่อโตก็บล็อคไปหมดแล้ว ,, เราตัวสั่นมาก พูดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวว่าโดนเล่นแล้ว ผู้ซื้อจึงโทรหาธนาคารที่โอนเงินเพื่ออาญัติ แต่คำตอบคือต้องแจ้งความ
สุดท้ายคือ ผู้ซื้อบอกว่า ผมเอารถกลับนะครับ เพราะผมทำตามขั้นตอนหมดถูกต้องทุกอย่างแล้ว เรื่องคดี ต้องเป็นเราแจ้งเอง แต่ผู้ซื้อก็จะยอมเป็นพยานให้ทำนองนี้
**มันเป็นความโง่ของเราเอง เราไม่ได้คุยให้ชัดเจนเรื่องการโอนเงิน ตอนเเรกเราเข้าใจว่าเงินจะโอนเข้าบัญชีเรา เเล้วเราค่อยโอนส่วนต่าง30,000ให้นายโต แต่พอถึงช่วงเวลาขายจริง เรารู้สึกงงสับสนไปหมด ตั้งแต่สัญญา 510,000 เเล้วก็บอกจะทำสัญญาอีกหนึ่งฉบับ การคุยสลับไปมา เรานึกว่าเขารู้จักกันจริงๆ เราก็เลยเชื่อใจ สุดท้ายเราก็ยอมเซ็นสัญญาซื้อขาย และใบโอนลอย ยอมให้โอนเงินเข้านายโต(นายหน้า) ยิ่งคิดเรายิ่งเกลียดตัวเองทำไมโง่มากขนาดนี้ ที่ไหวตัวไม่ทัน**
เรากอดพ่อกะแม่ ร้องไห้กัน 3 คน นั่งมองเขาเอารถเราไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
คืนนั้นจึงโทรหาเพื่อนให้พาไปโรงพักแจ้งความ และได้ไปแจ้งที่ โรงพักบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพราะผู้ซื้ออยู่แถวนั้นพอดี (เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ เราอยากได้รถคืนมาก่อน) และเราก็เจอผู้ซื้อพาเพื่อนมา 1 คน และบอกให้เราไปแจ้งความเอง เขาไม่ได้เกี่ยวอะไร ทำไมต้องไป โรงพักนครปฐมด้วย ตำรวจที่บ้านโป่งก็ให้ความว่า ผู้ซื้อไม่เกี่ยวข้องแล้ว สัญญาเซ็นต์หมดแล้ว และที่นี่ก็รับแจ้งไม่ได้ เขาให้ไปแจ้งที่ นครปฐม คืนนั้นเราเลยขับรถกลับมานครปฐมและเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ตำรวจฟัง ตำรวจบอกพรุ่งนี้ให้มาแจ้งตอนเที่ยง
จนวันรุ่งขึ้น 16 ธันวาคม 2564 เวลาเที่ยง เราก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ลงบันทึกประจำวัน และแจ้งความเอาใบแจ้งไปให้ธนาคารปลายทางอายัติบัญชีและขอข้อมูลบุคคลมาดำเนินคดีต่อไป ณ เวลานี้ 23 ธันวาคม 2564 ยังไม่รู้ผลใดใดเลย
ใครพอจะช่วยให้คดีนี้ไม่เงียบได้บ้างครับ อยากได้เงินคืน
เรื่องนี้ไม่รู้มีเงื่อนงำใดใดหรือป่าว แต่ตัวเราเองก็(โง่) ไม่มีสติ ไม่รอบคอบเอง เงินครึ่งล้านหายไปกับตา รถก็ไม่อยู่ เงินก็ไม่ได้
ฝากเรื่องนี้ไว้เป็น อุทาหรณ์ คนไม่เคยมีประสบการณ์ขายรถเลย เข็ดไปจนวันตาย !!!
ขายรถ 6 แสน สุดท้ายโดนหลอก ไม่ได้เงินสักบาท !!
และได้มีบุคคลหนึ่ง ทักมาสอบถามทาง inbox facebook และขอไอดีไลน์เรา เราจึงให้ไอดีไลน์ไป และแอดมา ชื่อว่า (โต รับเหมาก่อสร้าง) จากนั้นคนชื่อโต ก็ได้โทรไลน์หาเราและบอกกับเราว่า เดี๋ยวจะติดต่อเพื่อนให้มาซื้อรถนะ แต่ผมต่อราคาเหลือ 600,000 ได้ไหม ผมจะขายเพื่อน 630,000 อ้างว่าจะขอค่านายหน้า 30,000 บาท เราก็โอเค ตกลง แต่นายโตก็บอกว่า ให้เราแจ้งกับคนที่จะมาซื้อว่า เรา2คนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ และจะขอเขียนในใบสัญญาซื้อขายแค่ 600,000 นะ เพราะเดี๋ยวพ่อแม่ผู้ซื้อบ่นว่าซื้อราคาแพง เรื่องราคาให้คุยกะโตเลย เราก็โอเค ตกลงตามนั้น
สักพัก มีผู้หญิงโทรมา บอกว่าติดต่อมาจากพี่โต เดี๋ยวมีเจ้านายหนูโทรหานะคะ สักพักใหญ่ๆ ผู้ซื้อรถก็โทรมาหาเรา และสอบถามข้อมูลรถต่าง ๆ หลายอย่าง จนตกลงว่าจะขายให้ และนัดเวลา นัดสถานที่ดูรถ (คือบ้านเรา)
และเวลา 17.00 น. เราเลิกงานพอดี นายโต ก็โทรไลน์มาหา ขอโลเคชั่นที่บ้าน เพราะจะส่งต่อให้ผู้ซื้อ สักพักผู้ซื้อก็โทรถามเส้นทางบ้านเรา จนเจอกัน
ผู้ซื้อก็ขอดูรถ ขอลองรถ และสอบถามเราว่าเรากับพี่โตเป็นพี่น้องกันหลอ เราก็ตอบใช่ (ตามที่คนชื่อโตบอกเราไว้ เพราะเราก็คิดว่าเขารู้จักกัน) และผู้ซื้อก็โทรไลน์หาคนชื่อโตตกลงราคา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันบ้าง เพราะคิดว่ารู้จักกัน ในขณะที่กำลังทำเรื่องตกลงซื้อขาย คนที่เป็นพ่อผู้ซื้อก็ถ่ายรูปบ้านเราตลอดเวลา ถ่ายรูปเราตอนกำลังทำสัญญา และผู้ซื้อ หยิบใบสัญญาซื้อขายออกมาเป็นเล่ม (คาดว่าเป็นเต็นท์รถ) และเขียนๆๆ และถามเราว่า นามสกุลนี้ มีญาตเป็นตำรวจมั้ย เราก็บอกไม่มี และช่วงเวลาชุลมุน คนชื่อโตก็โทรหาผู้ซื้อ และโทรหาเรา สลับไปมา และเราเริ่มสังเกตเห็นในใบสัญญาซื้อขายลงราคาแค่ 510,000 เราก็ งง เลยไลน์ไปถามคนชื่อโตว่า ทำไมเขียนแค่นั้น เขาก็บอกว่า เดี๋ยวทำสัญญาอีกอันนึง อันนี้เอาไว้หลอกพ่อเขา สุดท้ายเราก็เซ็นต์โอนลอยและเซ็นต์สัญญาซื้อขายเรียบร้อย **ใต้สัญญาซื้อขายระบุด้วยว่า โอนเข้าบัญชี XXX (คนชื่อโต) ** และถ้าเซ็นโอนเสร็จส่งรูปสัญญาให้ผมดูด้วยนะ และคนชื่อโตก็ไลน์เลขบัญชีไปให้กับผู้ซื้อ และผู้ซื้อเหมือนเงินไม่พอ จึงโทรหาแม่ โทรหาเพื่อน ให้โอนตังมาหน่อย เงินไม่พอ เรารอ 10-15 นาที และช่วงเวลานั้น เราก็เริ่มแปลกใจ จึงถามผู้ซื้อไปว่า พี่รู้จักคนชื่อโตใช่ไหม ผู้ซื้อตอบว่า รู้จักแต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เราก็ไม่ได้อะไร และผู้ซื้อก็โอนเงินไปให้คนชื่อโต 510,000 บาท (ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี อรรถพX ทาคX เลขบัญชี 23409530XX) และโชว์สลิปให้เราดู ผู้ซื้อก็ส่งสลิปโอนไปให้นายโต (ซึ่งเขาก็มีไลน์กัน) เราก็ขอถ่ายรูปไว้และส่งให้คนชื่อโต พร้อมทั้งรูปสัญญาซื้อขายรถ เราก็รอให้คนชื่อโตโอนเงินกลับมาหาเรา เวลาเริ่มผ่านไป 2-3 นาที คนชื่อโตไม่อ่านไลน์เรา โทรก็ไม่รับ ทางผู้ซื้อได้สัญญาเรียบร้อยแล้วก็จะเตรียมตัวกลับ ผู้ซื้อขอเราให้ถ่ายรูปเซลฟี่หน้ารถด้วย พอเขาจะกลับ เราก็บอกว่า พี่เดี๋ยวก่อน!! คนชื่อโตยังไม่เห็นโอนเงินให้ผมเลย ผู้ซื้อก็หันมาบอกเราว่า อ่าว สรุปรถใคร ไหนว่าเป็นพี่น้องกัน เราก็บอกว่า ก็เขาให้ผมแจ้งคุณแบบนั้น คุณไม่ใช่เพื่อนกันหลอ ผู้ซื้อบอก ป่าว!! เซลของผมเขาติดต่อมาให้ (ใจเราลอยเลย ตัวลอย หน้าชา โดนแล้วเรา) เราก็ให้เขาโทรหาคนชื่อโตทันที สรุปคนชื่อโตก็บล็อคไปหมดแล้ว ,, เราตัวสั่นมาก พูดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวว่าโดนเล่นแล้ว ผู้ซื้อจึงโทรหาธนาคารที่โอนเงินเพื่ออาญัติ แต่คำตอบคือต้องแจ้งความ
สุดท้ายคือ ผู้ซื้อบอกว่า ผมเอารถกลับนะครับ เพราะผมทำตามขั้นตอนหมดถูกต้องทุกอย่างแล้ว เรื่องคดี ต้องเป็นเราแจ้งเอง แต่ผู้ซื้อก็จะยอมเป็นพยานให้ทำนองนี้
**มันเป็นความโง่ของเราเอง เราไม่ได้คุยให้ชัดเจนเรื่องการโอนเงิน ตอนเเรกเราเข้าใจว่าเงินจะโอนเข้าบัญชีเรา เเล้วเราค่อยโอนส่วนต่าง30,000ให้นายโต แต่พอถึงช่วงเวลาขายจริง เรารู้สึกงงสับสนไปหมด ตั้งแต่สัญญา 510,000 เเล้วก็บอกจะทำสัญญาอีกหนึ่งฉบับ การคุยสลับไปมา เรานึกว่าเขารู้จักกันจริงๆ เราก็เลยเชื่อใจ สุดท้ายเราก็ยอมเซ็นสัญญาซื้อขาย และใบโอนลอย ยอมให้โอนเงินเข้านายโต(นายหน้า) ยิ่งคิดเรายิ่งเกลียดตัวเองทำไมโง่มากขนาดนี้ ที่ไหวตัวไม่ทัน**
เรากอดพ่อกะแม่ ร้องไห้กัน 3 คน นั่งมองเขาเอารถเราไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
คืนนั้นจึงโทรหาเพื่อนให้พาไปโรงพักแจ้งความ และได้ไปแจ้งที่ โรงพักบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพราะผู้ซื้ออยู่แถวนั้นพอดี (เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ เราอยากได้รถคืนมาก่อน) และเราก็เจอผู้ซื้อพาเพื่อนมา 1 คน และบอกให้เราไปแจ้งความเอง เขาไม่ได้เกี่ยวอะไร ทำไมต้องไป โรงพักนครปฐมด้วย ตำรวจที่บ้านโป่งก็ให้ความว่า ผู้ซื้อไม่เกี่ยวข้องแล้ว สัญญาเซ็นต์หมดแล้ว และที่นี่ก็รับแจ้งไม่ได้ เขาให้ไปแจ้งที่ นครปฐม คืนนั้นเราเลยขับรถกลับมานครปฐมและเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ตำรวจฟัง ตำรวจบอกพรุ่งนี้ให้มาแจ้งตอนเที่ยง
จนวันรุ่งขึ้น 16 ธันวาคม 2564 เวลาเที่ยง เราก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ลงบันทึกประจำวัน และแจ้งความเอาใบแจ้งไปให้ธนาคารปลายทางอายัติบัญชีและขอข้อมูลบุคคลมาดำเนินคดีต่อไป ณ เวลานี้ 23 ธันวาคม 2564 ยังไม่รู้ผลใดใดเลย
ใครพอจะช่วยให้คดีนี้ไม่เงียบได้บ้างครับ อยากได้เงินคืน
เรื่องนี้ไม่รู้มีเงื่อนงำใดใดหรือป่าว แต่ตัวเราเองก็(โง่) ไม่มีสติ ไม่รอบคอบเอง เงินครึ่งล้านหายไปกับตา รถก็ไม่อยู่ เงินก็ไม่ได้
ฝากเรื่องนี้ไว้เป็น อุทาหรณ์ คนไม่เคยมีประสบการณ์ขายรถเลย เข็ดไปจนวันตาย !!!