สวัสดีครับทุกคน
ขอแนะนำตัวสักนิดครับ ผมเป็นนักศึกษาคณะแอนิเมชันครับ ว่างหลังจากรอเกรด ก็เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองครับ เอาไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเด็ก ๆ หนู ๆ ที่ใฝ่อยากเป็นแอนิเมเตอร์ครับ ภาษาที่ใช้จะเป็นกันเองสักหน่อย อาจหยาบเล็กน้อยครับ
ขอเริ่มเล่าเลยละกันครับ
*ตอน เด็กกระสันใคร่ให้การ์ตูนตัวเองขยับได้*
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กสายวิทย์คณิตคนหนึ่งมีงานอดิเรกเป็นนักวาดการ์ตูนที่เว็บอ่านการ์ตูน มีเพื่อนเป็นรุ่นพี่ทั้ง 7
แนะนำตัวละครที่มีบทบาทแปปครับ
พี่เงิน <- แข่งศิลป์สร้างสรรค์ ปัจจุบันเข้าดิจิทัลอาร์ตครับ
ไอดอล <- ตามมาทีหลัง จะมีบทบาทต่อไปในอนาคต
จุดที่อยากเรียนแอนิเมชัน เกิดมาจากวาดการ์ตูนในเว็บอ่านการ์ตูนเจ้าหนึ่ง (ตอนนี้ทิ้งร้างไว้ครับ เทรนด์คนอ่านปัจจุบันชอบอ่านอะไรลามก ๆ ครับ)
แล้วอยากให้การ์ตูนตัวเองขยับได้ครับ
ว่ากันว่านักรบที่ดีต้องศึกษากลยุทธ์ข้าศึกล่วงหน้า
นี่ก็เหมือนกันครับคุยกับพี่ ๆ กัน ก็เมาท์แตกกันว่า
พี่เงิน “พี่อยากเข้าดิจิอาร์ตอะ ว่าจะไปเข้าที่ ม.รัฐคล้าย เอ้ มันมีแอนิชันด้วยนะ”
นี่ก็ตอบ“ใช่ ๆ นี่ว่าจะเข้า 2 ที่ ม.รัฐคล้าย เอ้ กับ ม.ดอกบัว อะ แต่ว่าจะเล็งชิงทุน เพชรของ ม.รัฐคล้าย เอ้ อะ”
ผ่านไป 1 ปี พี่เงิน เข้าเรียนดิจิอาร์ตได้ตามที่ต้องการ ไอดอลแป้ก ม.รัฐคล้าย เอ้ เข้าเรียน แอนิเมชัน ม.ดอกบัว แทน
หลังจากพี่เงินเรียนไปเรื่อย ๆ ผมก็เก็บผลงานไปเรื่อย ๆ ครับเก็งทุนเพชรฯเต็มที่ คิดว่าต้องได้แน่ ๆ พี่เงินก็มาเล่าชีวิตหลังจากเรียนไปครับ
หนีไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป
กี้ดด ผมนี่แบบ นะ น้า นี๊
พี่เงินก็เล่าว่า เจอเรื่องประเภทการล่วงละเมิด และเรื่องยิบย่อยหลายอย่าง แนะให้ไปชิงทุน 100% ที่ ม.ดอกบัวแทน โอโหความ... นะ
แต่ตัวเองก็ค่อนข้างมีใจให้ ม.คล้าย เอ้ มากกว่าครับ เพราะมีความเชื่อว่า ม.รัฐ ดูน่าเชื่อกว่า ม.เอกชน
ก็เผื่อใจไว้แล้วว่า การแข่งขันชิงทุนค่อนข้างสูง ก็เลยทำผลงานตัวเองออกมาให้ดีที่สุดครับ
*ตอน ยื่นเข้าสมัคร ม. ในฝัน*
ก่อนอื่น บอกก่อนว่า ตัวเองมีเพื่อนแล้วก็รุ่นพี่ที่ได้เข้าเรียนดิจิอาร์ตและแอนิเมชันในเขตภาคกลางครับ มี ม.ดอกบัว ม.คล้าย เอ้ ม.พิฆเนศเพชรบุรี และแพทย์แผนจีนที่ ม. Nest สิต ครับ เลยได้ความเป็นอยู่มาบ้างครับ
มา ๆ เข้าเรื่อง
เป้าหมายของตัวเองคือ ส่ง ม.คล้าย เอ้ และ ม.เอ้ ครับครับ วางแผนว่าถ้าไม่ติดรอบทุนเพชรก็เอารอบที่ 1 portfolio ครับ
พร้อมลงสอบ gatpat เพื่อวางแผนกันเหนียวครับ
ตอนยื่นส่งคิดอย่างดีว่ามีโอกาสติด ถึงหลุดก็ติดรอบ port แหละวะ
แหมก็แบบว่า อุตส่าห์ไปแข่งศิลปหัตถกรรมระดับประเทศได้ แถมมีผลงานวาดฉากละครคุณธรรมต่าง ๆ แถมมีงาน render 3d อีกป้าด ไม่พลิกโผไปหรอก
นี่ก็เลยส่งแบบรีบ ๆ ด้วย เพราะเรื่องการทำเรื่องสมัครในเว็บและการส่งเอกสารครับ ม.คล้าย เอ้ นี่ส่งทันครับ เป็นไปตามแผน
แต่ม.เอ้ ต้องทำใบรับรองแพทย์ก่อนครับ
คือ ม.เอ้ แอนิมชัน จะไปอยู่ในคณะภาพยนตร์ครับ จำชื่อที่ถูกไม่ชัด จะมีวิชาที่เป็นแอนิเมชันไว้อยู่ครับ
ทีนี้ก็ทำใบรับรองแพทย์เสร็จ ก็ไปติดต่อสอบถามทางม.ครับ เพราะเอกสารที่ต้องส่งระบุว่า ส่งใบรับรองแพทย์ คือจะให้ส่งตัวจริงหรือสำเนาละค้าบบบบ
ก็กดเบอร์ ม. ไป ก็เป็นโอเปอเรเตอร์ต่าง ๆ ก็กด ๆ ไป รอเพลง พอมีคนรับ
“ไม่ทราบว่าต้องการติดต่อคณะไหนค่ะ” ก็พูดชื่อคณะไป นางก็บอก รอสักครู่นะคะ
มีคนรับต่อ ผมก็ถามใช่คณะ… ใช่ไหมครับ
“นี่คณะศิลปะศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษค่ะ”
.
.
.
สรุปไม่ได้อะไรเลยครับ ก็เลยคิดว่าส่งสำเนาไปนั่นแหละ ม. เขาจะเอาตัวจริงไปทำไม กลับบ้านก็เตรียมจะสมัครพร้อมส่งเพราะวันนี้ส่งวันสุดท้าย
วันสุดท้ายที่รับสมัคร คือ ก่อนวันส่งเอกสารวันสุดท้าย 1 วัน
แสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
แป้กเลยครับ แพ้ตั้งแต่ตอนสมัคร
ต่อ ๆ
คือ รอบทุนเพชร ม.คล้าย เอ้ นี่ จะมี 2 รอบ รอบแรก ส่งแค่ port ไป ถ้างานดูมีอนาคต ก็จะผ่านเข้ารอบต่อไป รอบสอง เหมือน Miss universe เป็นรอบสัมภาษณ์วัดปฏิภาณไหวพริบ ถ้าสัมถูกใจ จารย์ประจำคณะ ก็มงลงไปเลยยยย
ขอให้กำลังใจสำหรับน้องไว้ก่อนว่า เวลาจะยื่นสมัคร ยื่นไปก่อน เพราะยื่นก็มีโอกาสได้ แต่ถ้าไม่ยื่นเพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ ก็ไม่มีโอกาสได้เลยนะ
และตอนส่ง ไม่ต้องคิดไกลว่า ถ้าได้แล้วจะทำไง ๆ ต่อ จะบอกให้ว่า
“ติดให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิด”
ตอนส่งก็ส่ง port ไปครับ พร้อมใบshort memo เล็กน้อย (อาชีพเสริมของผมคือ ทำportfolio ให้คนอื่น ก็ได้ดิบได้ดีกันไป ก็หวังว่าผลบุญนั้นจะส่งมากับตัวเองบ้าง)
อันนี้ของผมครับ
เอาไปใส่ได้นะครับ แต่งานไม่ถึงเกณฑ์ของนะครับ โดนปัดตก แต่ถ้ายื่นเข้าม.ที่ผมเรียน เสร็จแน่ ๆ อ. คณะผมเป็นอะไรไม่รู้ตาดีชิหัย(เดี๋ยวเล่าวีรกรรมอีกทีครับ)
เห้ย ติดรอบสัมภาษณ์ว่ะ กี้ดดดดด ตอนนั้นดีใจใหญ่ ก็เรียนต่อไปรอวันสัมภาษณ์ครับ
วันสัมภาษณ์ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยครับ(ข้อเสียห้ามเลียนแบบ) เตรียมไฟล์ภาพต่าง ๆ แต่งตัวอยู่บ้านครับ ใช่ครับ 555
ผมอยู่คิวรองท้ายครับ พอถึงคิวก็สัมภาษณ์ครับ ก็ขายตัวเองไป พอเสร็จ อาจารย์ก็แนะว่า “งานคุณ น่าจะไปนิเทศศิลป์นะ” ว้าวไปไม่เป็นเลยครับ
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ เพื่อนที่อยู่คิวสุดท้ายก็มาถามครับว่าสัมฯ เสร็จแล้วหรือยัง ก็คุยกันไปพร้อมต่างอวยพรกันและกันครับ
วันประกาศผลทุน เพื่อนคิวสุดท้ายที่คุยกันได้ไปครับ ยินดีด้วย
ชวดไปหนึ่งเหลืออีก 2 ครับ คือยื่นรอบ 1 tcas และ ยื่นทุน 100% ม.ดอกบัว ไปครับ
นี่คิดแล้วครับ ได้รอบ 1 แน่ ๆ ไม่น่าพลาด
ยื่นรอบ port ไป เห้ยติดรอบสัมภาษณ์อีกแล้ววววว ใจมันมาแล้วเริ่มฟู
พอถึงวันสัมภาษณ์ ก็เตรียมตัวแต่งชุดนักเรียนอย่างดี รอหน้าคอมอย่างใจจดใจจ่อ พอถึงคิวก็สัมภาษณ์ พร้อมเผยงานเพิ่มเติม
แต่รอบนี้ขายตัวเองไวมากครับ ไวจนรู้สึกว่าไวไปหรือเปล่า หวังไว้ว่าติดแน่ๆ
ประกาศผล tcas รอบ 1 ตอนเช้าครับ เรียนไปครับเช็คดูหาชื่อ
“แป้ก”ครับผม
หูยรอบนี้ กังวลกว่าเดิมมากครับ รอบ port ไม่ติดได้ไงเนี้ยยยยย
แต่ตอนบ่าย ก็มีประกาศผลคนติดสัมภาษณ์ ทุน100% ม.ดอกบัว มาเหมือนรู้เวลา
ป้าด ติดสัมภาษณ์อีกแล้วครับท่านครับ แต่รอบสัมภาษณ์ของ ม. ดอกบัว ต้องไปสัมภาษณ์ที่ม. ครับ
สาระ: การสัมภาษณ์ที่ม.คล้าย เอ้ หลังจากติดรอบสัมจะต้องไปที่ม. เพื่อไปสัมภาษณ์ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็จะมีสอบวาดภาพดรออิ้งครับ
ปีพี่เงิน ได้โจทย์เป็นที่หนีบกระดาษครับ แต่ตอนปีผมโควิดมา เลยสัมภาษณ์ที่ zoom แทนครับ
มารอบนี้ ชิงทุน 100% ม. ดอกบัว เตรียมตัวอย่างดี สวมลายนาตาชา สืบความภายในม. ผ่านรุ่นพี่ครับ คือ ไอดอล ครับ
(ที่เรียกพี่คนนี้ว่า ไอดอล เพราะพี่เขามีการวาดการ์ตูนแนวเดียวกับผมครับ) ซึ่งเรียน ม. ดอกบัวพอดีครับ เลยไปสืบสาย
แถมพี่เขาก็เล่าชีวิตหลังจากเข้าเรียนด้วยครับ
โฮ่ ๆ ๆ ๆ ๆ รอบนี้ ไอ จะ ขยี้ ยู ให้ แหลกคึ
เนื่องจากใกล้วันสัมภาษณ์ พี่เขาทำชิ้นงานออกแบบชิ้นงานอะคริลิกพอดี ธีม ฤดูร้อน เลยอยากจะทำงานชิ้นนี้ยื่นส่งด้วย
ตอนใกล้วันสัมภาษณ์ ขออาจารย์โดดวิชาอังกฤษไปเลยสิครับ!!!
ไม่ได้ขิงนะครับ แต่อังกฤษโรงเรียนผมมันง่าย ก็เพราะสายวิทย์คณิตด้วยแหละ ก็เลยโดดครับ แต่แอบเสียใจเหมือนกันครับ ONET ได้แค่ 67.** เองครับ (ดันง่วงตอนทำข้อสอบ reading !!!)
พอไปสัมภาษณ์ นึกถึงเด็กแนว ๆ เด็กเบียวที่คิดว่าเป็นตัวเองเป็นพระเอกอนิเมะครับ
ไปกรุงเทพคนเดียว เพื่อเข้าม. สัมภาษณ์ครับ ลงรถที่บางหว้าแล้วก็ต่อ BTS ไปบางบัวโลด เออBTS จอดที่หน้าม. จริงแฮะ
แล้วก็สัมภาษณ์ครับ
การสัมภาษณ์นี้ แค่ส่งพอร์ต แล้วก็ขายตัวเองกันต่อได้เลยครับ
การสัมภาษณ์ครั้งนี้รู้สึกว่า ชิลเป็นพิเศษครับดูไหลลื่นไปหมดครับ
ตอนปลาย ๆ เทอมก็ทำงานทาสีที่โรงเรียนกับเพื่อน ๆ ครับ
ทำ ๆ ไป ผลประกาศทุนก็ออกมา
.
.
.
ได้ทุนแล้วครับบบบบบบบบบบบบบบ กี้ด ๆๆๆๆๆๆๆ
โอ้ย โล่งแล้วครับ ที่เหลือก็แค่ไปรายงานตัวครับ และเก็บเกรดปลายเทอมให้เสร็จสิ้นครับ
เล่ามาค่อนข้างยาวแล้ว ใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็ขอขอบคุณมาก ๆ ครับ
เดี๋ยวต่อไป จะเล่าการสัมภาษณ์ที่ ม. ดอกบัว แบบละเอียดกันครับ
เป็นมือใหม่ในพันทิพย์ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ การเล่าเรื่องอาจจะไม่ชวนอ่านสักเท่าไร แต่จะพยายามให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมให้มากที่สุดครับ
ชีวิตเด็กแอนิเมชัน ปี 2564 สายงานในฝันของเด็กชอบการ์ตูน
สวัสดีครับทุกคน
ขอแนะนำตัวสักนิดครับ ผมเป็นนักศึกษาคณะแอนิเมชันครับ ว่างหลังจากรอเกรด ก็เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองครับ เอาไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเด็ก ๆ หนู ๆ ที่ใฝ่อยากเป็นแอนิเมเตอร์ครับ ภาษาที่ใช้จะเป็นกันเองสักหน่อย อาจหยาบเล็กน้อยครับ
ขอเริ่มเล่าเลยละกันครับ
*ตอน เด็กกระสันใคร่ให้การ์ตูนตัวเองขยับได้*
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กสายวิทย์คณิตคนหนึ่งมีงานอดิเรกเป็นนักวาดการ์ตูนที่เว็บอ่านการ์ตูน มีเพื่อนเป็นรุ่นพี่ทั้ง 7
แนะนำตัวละครที่มีบทบาทแปปครับ
พี่เงิน <- แข่งศิลป์สร้างสรรค์ ปัจจุบันเข้าดิจิทัลอาร์ตครับ
ไอดอล <- ตามมาทีหลัง จะมีบทบาทต่อไปในอนาคต
จุดที่อยากเรียนแอนิเมชัน เกิดมาจากวาดการ์ตูนในเว็บอ่านการ์ตูนเจ้าหนึ่ง (ตอนนี้ทิ้งร้างไว้ครับ เทรนด์คนอ่านปัจจุบันชอบอ่านอะไรลามก ๆ ครับ)
แล้วอยากให้การ์ตูนตัวเองขยับได้ครับ
ว่ากันว่านักรบที่ดีต้องศึกษากลยุทธ์ข้าศึกล่วงหน้า
นี่ก็เหมือนกันครับคุยกับพี่ ๆ กัน ก็เมาท์แตกกันว่า
พี่เงิน “พี่อยากเข้าดิจิอาร์ตอะ ว่าจะไปเข้าที่ ม.รัฐคล้าย เอ้ มันมีแอนิชันด้วยนะ”
นี่ก็ตอบ“ใช่ ๆ นี่ว่าจะเข้า 2 ที่ ม.รัฐคล้าย เอ้ กับ ม.ดอกบัว อะ แต่ว่าจะเล็งชิงทุน เพชรของ ม.รัฐคล้าย เอ้ อะ”
ผ่านไป 1 ปี พี่เงิน เข้าเรียนดิจิอาร์ตได้ตามที่ต้องการ ไอดอลแป้ก ม.รัฐคล้าย เอ้ เข้าเรียน แอนิเมชัน ม.ดอกบัว แทน
หลังจากพี่เงินเรียนไปเรื่อย ๆ ผมก็เก็บผลงานไปเรื่อย ๆ ครับเก็งทุนเพชรฯเต็มที่ คิดว่าต้องได้แน่ ๆ พี่เงินก็มาเล่าชีวิตหลังจากเรียนไปครับ
หนีไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป
กี้ดด ผมนี่แบบ นะ น้า นี๊
พี่เงินก็เล่าว่า เจอเรื่องประเภทการล่วงละเมิด และเรื่องยิบย่อยหลายอย่าง แนะให้ไปชิงทุน 100% ที่ ม.ดอกบัวแทน โอโหความ... นะ
แต่ตัวเองก็ค่อนข้างมีใจให้ ม.คล้าย เอ้ มากกว่าครับ เพราะมีความเชื่อว่า ม.รัฐ ดูน่าเชื่อกว่า ม.เอกชน
ก็เผื่อใจไว้แล้วว่า การแข่งขันชิงทุนค่อนข้างสูง ก็เลยทำผลงานตัวเองออกมาให้ดีที่สุดครับ
*ตอน ยื่นเข้าสมัคร ม. ในฝัน*
ก่อนอื่น บอกก่อนว่า ตัวเองมีเพื่อนแล้วก็รุ่นพี่ที่ได้เข้าเรียนดิจิอาร์ตและแอนิเมชันในเขตภาคกลางครับ มี ม.ดอกบัว ม.คล้าย เอ้ ม.พิฆเนศเพชรบุรี และแพทย์แผนจีนที่ ม. Nest สิต ครับ เลยได้ความเป็นอยู่มาบ้างครับ
มา ๆ เข้าเรื่อง
เป้าหมายของตัวเองคือ ส่ง ม.คล้าย เอ้ และ ม.เอ้ ครับครับ วางแผนว่าถ้าไม่ติดรอบทุนเพชรก็เอารอบที่ 1 portfolio ครับ
พร้อมลงสอบ gatpat เพื่อวางแผนกันเหนียวครับ
ตอนยื่นส่งคิดอย่างดีว่ามีโอกาสติด ถึงหลุดก็ติดรอบ port แหละวะ
แหมก็แบบว่า อุตส่าห์ไปแข่งศิลปหัตถกรรมระดับประเทศได้ แถมมีผลงานวาดฉากละครคุณธรรมต่าง ๆ แถมมีงาน render 3d อีกป้าด ไม่พลิกโผไปหรอก
นี่ก็เลยส่งแบบรีบ ๆ ด้วย เพราะเรื่องการทำเรื่องสมัครในเว็บและการส่งเอกสารครับ ม.คล้าย เอ้ นี่ส่งทันครับ เป็นไปตามแผน
แต่ม.เอ้ ต้องทำใบรับรองแพทย์ก่อนครับ
คือ ม.เอ้ แอนิมชัน จะไปอยู่ในคณะภาพยนตร์ครับ จำชื่อที่ถูกไม่ชัด จะมีวิชาที่เป็นแอนิเมชันไว้อยู่ครับ
ทีนี้ก็ทำใบรับรองแพทย์เสร็จ ก็ไปติดต่อสอบถามทางม.ครับ เพราะเอกสารที่ต้องส่งระบุว่า ส่งใบรับรองแพทย์ คือจะให้ส่งตัวจริงหรือสำเนาละค้าบบบบ
ก็กดเบอร์ ม. ไป ก็เป็นโอเปอเรเตอร์ต่าง ๆ ก็กด ๆ ไป รอเพลง พอมีคนรับ
“ไม่ทราบว่าต้องการติดต่อคณะไหนค่ะ” ก็พูดชื่อคณะไป นางก็บอก รอสักครู่นะคะ
มีคนรับต่อ ผมก็ถามใช่คณะ… ใช่ไหมครับ
“นี่คณะศิลปะศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษค่ะ”
.
.
.
สรุปไม่ได้อะไรเลยครับ ก็เลยคิดว่าส่งสำเนาไปนั่นแหละ ม. เขาจะเอาตัวจริงไปทำไม กลับบ้านก็เตรียมจะสมัครพร้อมส่งเพราะวันนี้ส่งวันสุดท้าย
วันสุดท้ายที่รับสมัคร คือ ก่อนวันส่งเอกสารวันสุดท้าย 1 วัน
แสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
แป้กเลยครับ แพ้ตั้งแต่ตอนสมัคร
ต่อ ๆ
คือ รอบทุนเพชร ม.คล้าย เอ้ นี่ จะมี 2 รอบ รอบแรก ส่งแค่ port ไป ถ้างานดูมีอนาคต ก็จะผ่านเข้ารอบต่อไป รอบสอง เหมือน Miss universe เป็นรอบสัมภาษณ์วัดปฏิภาณไหวพริบ ถ้าสัมถูกใจ จารย์ประจำคณะ ก็มงลงไปเลยยยย
ขอให้กำลังใจสำหรับน้องไว้ก่อนว่า เวลาจะยื่นสมัคร ยื่นไปก่อน เพราะยื่นก็มีโอกาสได้ แต่ถ้าไม่ยื่นเพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ ก็ไม่มีโอกาสได้เลยนะ
และตอนส่ง ไม่ต้องคิดไกลว่า ถ้าได้แล้วจะทำไง ๆ ต่อ จะบอกให้ว่า
“ติดให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิด”
ตอนส่งก็ส่ง port ไปครับ พร้อมใบshort memo เล็กน้อย (อาชีพเสริมของผมคือ ทำportfolio ให้คนอื่น ก็ได้ดิบได้ดีกันไป ก็หวังว่าผลบุญนั้นจะส่งมากับตัวเองบ้าง)
อันนี้ของผมครับ
เอาไปใส่ได้นะครับ แต่งานไม่ถึงเกณฑ์ของนะครับ โดนปัดตก แต่ถ้ายื่นเข้าม.ที่ผมเรียน เสร็จแน่ ๆ อ. คณะผมเป็นอะไรไม่รู้ตาดีชิหัย(เดี๋ยวเล่าวีรกรรมอีกทีครับ)
เห้ย ติดรอบสัมภาษณ์ว่ะ กี้ดดดดด ตอนนั้นดีใจใหญ่ ก็เรียนต่อไปรอวันสัมภาษณ์ครับ
วันสัมภาษณ์ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยครับ(ข้อเสียห้ามเลียนแบบ) เตรียมไฟล์ภาพต่าง ๆ แต่งตัวอยู่บ้านครับ ใช่ครับ 555
ผมอยู่คิวรองท้ายครับ พอถึงคิวก็สัมภาษณ์ครับ ก็ขายตัวเองไป พอเสร็จ อาจารย์ก็แนะว่า “งานคุณ น่าจะไปนิเทศศิลป์นะ” ว้าวไปไม่เป็นเลยครับ
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ เพื่อนที่อยู่คิวสุดท้ายก็มาถามครับว่าสัมฯ เสร็จแล้วหรือยัง ก็คุยกันไปพร้อมต่างอวยพรกันและกันครับ
วันประกาศผลทุน เพื่อนคิวสุดท้ายที่คุยกันได้ไปครับ ยินดีด้วย
ชวดไปหนึ่งเหลืออีก 2 ครับ คือยื่นรอบ 1 tcas และ ยื่นทุน 100% ม.ดอกบัว ไปครับ
นี่คิดแล้วครับ ได้รอบ 1 แน่ ๆ ไม่น่าพลาด
ยื่นรอบ port ไป เห้ยติดรอบสัมภาษณ์อีกแล้ววววว ใจมันมาแล้วเริ่มฟู
พอถึงวันสัมภาษณ์ ก็เตรียมตัวแต่งชุดนักเรียนอย่างดี รอหน้าคอมอย่างใจจดใจจ่อ พอถึงคิวก็สัมภาษณ์ พร้อมเผยงานเพิ่มเติม
แต่รอบนี้ขายตัวเองไวมากครับ ไวจนรู้สึกว่าไวไปหรือเปล่า หวังไว้ว่าติดแน่ๆ
ประกาศผล tcas รอบ 1 ตอนเช้าครับ เรียนไปครับเช็คดูหาชื่อ
“แป้ก”ครับผม
หูยรอบนี้ กังวลกว่าเดิมมากครับ รอบ port ไม่ติดได้ไงเนี้ยยยยย
แต่ตอนบ่าย ก็มีประกาศผลคนติดสัมภาษณ์ ทุน100% ม.ดอกบัว มาเหมือนรู้เวลา
ป้าด ติดสัมภาษณ์อีกแล้วครับท่านครับ แต่รอบสัมภาษณ์ของ ม. ดอกบัว ต้องไปสัมภาษณ์ที่ม. ครับ
สาระ: การสัมภาษณ์ที่ม.คล้าย เอ้ หลังจากติดรอบสัมจะต้องไปที่ม. เพื่อไปสัมภาษณ์ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็จะมีสอบวาดภาพดรออิ้งครับ
ปีพี่เงิน ได้โจทย์เป็นที่หนีบกระดาษครับ แต่ตอนปีผมโควิดมา เลยสัมภาษณ์ที่ zoom แทนครับ
มารอบนี้ ชิงทุน 100% ม. ดอกบัว เตรียมตัวอย่างดี สวมลายนาตาชา สืบความภายในม. ผ่านรุ่นพี่ครับ คือ ไอดอล ครับ
(ที่เรียกพี่คนนี้ว่า ไอดอล เพราะพี่เขามีการวาดการ์ตูนแนวเดียวกับผมครับ) ซึ่งเรียน ม. ดอกบัวพอดีครับ เลยไปสืบสาย
แถมพี่เขาก็เล่าชีวิตหลังจากเข้าเรียนด้วยครับ
โฮ่ ๆ ๆ ๆ ๆ รอบนี้ ไอ จะ ขยี้ ยู ให้ แหลกคึ
เนื่องจากใกล้วันสัมภาษณ์ พี่เขาทำชิ้นงานออกแบบชิ้นงานอะคริลิกพอดี ธีม ฤดูร้อน เลยอยากจะทำงานชิ้นนี้ยื่นส่งด้วย
ตอนใกล้วันสัมภาษณ์ ขออาจารย์โดดวิชาอังกฤษไปเลยสิครับ!!!
ไม่ได้ขิงนะครับ แต่อังกฤษโรงเรียนผมมันง่าย ก็เพราะสายวิทย์คณิตด้วยแหละ ก็เลยโดดครับ แต่แอบเสียใจเหมือนกันครับ ONET ได้แค่ 67.** เองครับ (ดันง่วงตอนทำข้อสอบ reading !!!)
พอไปสัมภาษณ์ นึกถึงเด็กแนว ๆ เด็กเบียวที่คิดว่าเป็นตัวเองเป็นพระเอกอนิเมะครับ
ไปกรุงเทพคนเดียว เพื่อเข้าม. สัมภาษณ์ครับ ลงรถที่บางหว้าแล้วก็ต่อ BTS ไปบางบัวโลด เออBTS จอดที่หน้าม. จริงแฮะ
แล้วก็สัมภาษณ์ครับ
การสัมภาษณ์นี้ แค่ส่งพอร์ต แล้วก็ขายตัวเองกันต่อได้เลยครับ
การสัมภาษณ์ครั้งนี้รู้สึกว่า ชิลเป็นพิเศษครับดูไหลลื่นไปหมดครับ
ตอนปลาย ๆ เทอมก็ทำงานทาสีที่โรงเรียนกับเพื่อน ๆ ครับ
ทำ ๆ ไป ผลประกาศทุนก็ออกมา
.
.
.
ได้ทุนแล้วครับบบบบบบบบบบบบบบ กี้ด ๆๆๆๆๆๆๆ
โอ้ย โล่งแล้วครับ ที่เหลือก็แค่ไปรายงานตัวครับ และเก็บเกรดปลายเทอมให้เสร็จสิ้นครับ
เล่ามาค่อนข้างยาวแล้ว ใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็ขอขอบคุณมาก ๆ ครับ
เดี๋ยวต่อไป จะเล่าการสัมภาษณ์ที่ ม. ดอกบัว แบบละเอียดกันครับ
เป็นมือใหม่ในพันทิพย์ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ การเล่าเรื่องอาจจะไม่ชวนอ่านสักเท่าไร แต่จะพยายามให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมให้มากที่สุดครับ