เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงปีพศ.2540เป็นยุคสมัยที่การถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มยังเป็นที่นิยม แน่นอนร้านรับอัดรูปก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดอยู่ทั่วทุกหัวระแหง และกลยุทธในการดึงดูดลูกค้าและเพื่อการแสดงผลงานให้ประจักษ์ต่อสายตาลูกค้าก็คือการติดรูปสีใบใหญ่โชว์ไว้ที่หน้าร้าน บ้างก็รูปครอบครัว รูปพรีเว็ดดิ้ง รูปรับปริญญา รวมถึงรูปถ่าย2นิ้วติดบัตรทั้งหลาย วันนึงสายตาผมในวัย14มองผ่านไปสะดุดตากับรูปสุภาพสตรีท่านนึงเป็นรูปติดบัตร เธอหวีผมแสกข้างเชิ๊ตขาว สวมทับด้วยสูทคลุมไหล่ที่ค่อนข้างทันสมัยถ้าเทียบกับยุคนั้น จากครั้งแรกที่แค่หางตาสังเกตุเห็น วันต่อๆมาผมเริ่มมองพินิจพิเคราะห์อย่างตั้งอกตั้งใจ ใบหน้าเคร่งขรึมตามแบบฉบับของรูปถ่ายติดบัตรในยุคนั้น แต่ทำไมน๊อมันถึงมีอะไรดึงดูดสายตาเด็กหนุ่มอายุ14จัง จนทำให้ผมอดหยุดมองทุกครั้งที่เดินผ่านไม่ได้ ผมไม่ทันได้เอะใจ ไม่ทันได้สงสัยจากวันเป็นเดือนผ่านไปอีกปี ผมย่างเข้า16 ได้เวลาย้ายโรงเรียนสักที คราวนี้ทางกลับจากโรงเรียนไม่ผ่านร้านล้างรูปแล้วสิ!ผ่านเวลาไปสัก2-3วันเห็นจะได้ที่ผมไม่ได้เห็นรูปหญิงสาวคนนั้นอีก ใจมันหวิวแปลกๆ ผมตัดสินใจเดินอ้อมอีกนิดใช้เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีกหน่อยเพื่อที่จะได้แวะส่งยิ้มให้รูปเธอคนนั้นที่มองไปกี่ทีๆสีหน้าเธอก็ยังคงเข้มขรึมตลอด วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหนผมเองก็ชักจะไม่แน่ใจ ผมเริ่มมีแฟนมีรักครั้งแรกผมรีบกลับบ้านไวขึ้นเพื่อที่จะมารีบโทรศัพท์คุยกับแฟน ลืมไปเลยว่าครั้งนึงตัวเองเคยยอมเสียเวลาเดินอ้อมเพื่อไปส่งยิ้มให้กับผู้หญิงในรูปที่ไม่รู้จักกันและอย่างที่ทุกคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ รักแรก มักจะอยู่กับเราแค่ช่วงระยะเวลานึง ผมไม่ต้องรีบกลับบ้านแล้วไม่มีใครให้ต้องรีบโทรหาอีกต่อไป ผมเริ่มกลับมาเดินอ้อมอีกครั้งเริ่มใช้เวลามองรูปเธอนานขึ้นเริ่มพูดคุยส่งยิ้มมากขึ้นหลายครั้งทีเดียวที่ผมเกือบจะใช้ความกล้าหาญที่มีเดินเข้าไปถามร้านอัดรูปว่าเธอคือใครแต่ ผมก็ไม่เคยได้ทำเช่นนั้น จนวันนึงที่ผมมีแฟนอีกครั้งครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรผมมากนักผมไม่ต้องรีบกลับบ้าานไม่ต้องรีบโทรหาแต่ ผมก็เลือกที่จะไม่เดินอ้อมไปทักทายส่งยิ้มพูดคุยกับเธอคนที่อยู่ในรูปอยู่ดี นานเท่านาน ยุคสมัยเปลี่ยนผ่านร้านล้างรูปถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านถ่ายเอกสารไม่มีการโชว์รูปสีสดใสอีกต่อไปแทนที่ด้วยฟร้อนท์ตัวใหญ่ๆจับใจความได้ว่า รับถ่ายเอกสาร ปริ้นงาน เข้าเล่ม ทำใบปลิว โบว์ชัวร์ สแกนเอกสารฯลฯ พร้อมกับการจากไปของแฟนคนที่เท่าไหร่ผมก็ไม่ได้จำ ผมเพิ่งสำเหนียกได้ว่าวันนี้ต่อให้ผมจะเดินอ้อมอีกกี่กิโล จะโสดหรือมีแฟน เธอ ก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ความรู้สึกคล้ายอกหักจู่โจมผมอีกครั้งมันงงมันเอ๋อๆบอกไม่ถูก ไม่นานผมก็เลิกคิดถึงเลิกสนใจ เธอ ในรูปภาพนั้นอีกต่อไปภาพสีของเธอถูกเปลี่ยนเป็นภาพในหัวที่บางคราวก็ชัดเจนราวกับว่าผมได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กหนุ่มที่ยืนจ้องภาพเธอต่อหน้าอีกครั้ง แต่บางคราวภาพเธอก็เรือนรางเหลือเกิน แต่สิ่งนึงที่ผมได้จากเรื่องนี้ก็คือ ทุกครั้งที่ความรักของผมไม่สมหวัง บางครั้งที่ใจบางๆไปแอบตกหลุมรักใครไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือใครสักคนที่จังหวะเวลาหรือเหตุผลร้อยแปดบอกกับเราว่าไม่คู่ควร ผมจะเปลี่ยนเธอเหล่านั้นเป็นรูปภาพเก็บเอาไว้ในมุมเล็กๆในใจ ท่องเอาไว้ว่า "แค่รูปภาพ" และใช้ชีวิตต่อไปโดยวันดีคืนดีก็จินตนาการว่าเรากำลังเดินอ้อมจากเส้นทางประจำเพื่อที่จะได้ใช้เวลากับคนแปลกหน้าที่ครั้งนึง ฉันรักเธอเหลือเกิน 🥰
ตกหลุมรักคนแปลกหน้า