สวัสดีครับ ผมจะมีแชร์ประสบการณ์ขายของกับทางชอปปี้ครับ เผื่อใครอยากเป็นคนขายในชอปปี้ จะได้มีข้อมูลนี้ติดตัวไว้เผื่อเจอกับตัวเองครับ
ผมขายอะไหล่รถ ร้านผมร้านนี้อยู่บนชอปปี้ประมาณต้นปี 2564 ช่วงโควิดกำลังบูม คนออกไปไหนไม่ได้ กดซื้อของกันออนไลน์ ผลการตอบรับก็ดีครับ สินค้าผมบางอย่างเป็นชุดคิทสำหรับสร้างรถทั้งคันเพื่อใช้งานอเนกประสงค์เช่น ปีกนก พวงมาลัย เพลา ฯลฯ ซึ่งมันเป็นชิ้นหลายๆชิ้นจำเป็นต้องแยกกล่องแล้วส่งเป็น Lot (เลขพัสดุเดียวแต่แยกหลายกล่อง) ซึ่งมีแต่เคอรี่เท่านั้นที่ทำได้ นอกนั้นไม่ว่าค่ายไหนคือต้องส่ง 1 กล่องต่อ 1 เลขพัสดุ
เรื่องแรก เรื่องขนส่ง
------------------------------------
เดิมทีผมได้ขนส่ง J&T ซึ่งทางชอปปี้บังคับไม่ให้เราเลือกเอง สำหรับผมแล้ว แย่มาก คือ เอาพัสดุไปส่งไม่มีหลักฐานอะไรให้เลยผมต้อง่ถายรูปเอาไว้ว่ามีกล่องไหนอะไรบ้าง จริงๆมันควรจะสแกนแล้วพิมพ์ใบเสร็จให้ว่าร้านเอาอะไรไปส่งบ้างกี่กล่อง แย่ถัดมาคือ ของล่าช้ากว่าค่ายอื่นๆ (ผมขายหลายที่รู้ว่าขนส่งไหนไว ส่งวันเดียวกันบางเจ้าพรุ่งนี้ถึงแล้ว แต่ J&T ข้ามวันพึ่งถึงศูนย์คัดแยกก็มี คนอื่นถึงบ้านลูกค้าแล้ว)
จึงได้ทำการร้องเรียนขอเปลี่ยนขนส่งใหม่ เพราะบางออเดอร์ต้องแพ๊คกล่องแยกล็อต แต่ขายไม่ได้ เอาออเดอร์นั้นไปแจ้งขอเปลี่ยนขนส่งกับทางชอปปี้เขาเห็นว่าเราเสียหาย J&T ไม่ยอมส่งออเดอร์นี้ เขาจึงยอมเปลี่ยนเป็น Kerry ให้ แล้วหลังจากนั้น การขายของก็ราบรื่นดีไม่ติดขัดอะไร สะดวกมากเพราะเคอรี่อยู่หน้าบ้านผม เดินไปส่งได้เลยไม่ต้องขับรถ ส่งได้ถึงสี่โมงเย็นด้วย ดังนั้นทุกคำสั่งซื้อที่มาก่อนสี่โมงเย็นส่วนใหญ่ของถึงมือลูกค้าวันรุ่งขึ้นเลย
แต่แล้วมาวันหนึ่ง อยู่ๆ ขนส่งที่เคยได้ส่งกับทางเคอรี่ ก็จับร้านเปลี่ยนขนส่งโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเรา บังคับเลยล่ะ ให้ไปส่ง NinjaVan กับ ShopeeExpress ซึ่งกระทบต่อการดำเนินการขายของร้านมากเลยครับ คือ NinjaVan นี้ไม่มีจุด DropOff ต้องนัดรถเข้ามารับสินค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งปัญหาก็เกิดขึ้นเลยเนื่องจากเราทำหลายอย่างไม่ใช่แค่ขายของ วิ่งติดต่อลูกค้า ลงของ ซื้อของ ไปไหนไม่ได้เลยต้องมานั่งรอรถ NinjaVan เข้ามารับ จากเดิมที่ส่งเมื่อไหร่ก็ได้เพราะเคอรี่อยู่หน้าบ้าน ส่งแล้วเราก็ออกไปธุระอื่นต่อได้ ส่วน ShopeeExpress นี่มีจุด DropOff แต่ประเด็นคือ จากเดิมเคยเดินไปส่งหน้าบ้านแค่ไม่กี่ก้าว ต้องขับรถออกไปส่งเองข้างนอก แล้วถนนเส้นนั้นเขาสร้างสะพานรถติดมาก ฝุ่นเยอะมาก ไปกลับลำบากต้องกลับรถตรงที่ก่อสร้าง แถมเสียเวลาทำงานอย่างอื่นอีกอย่างน้อย 40นาที-1ชั่วโมง กลายเป็นว่า เอาความลำบากมาเพิ่มให้ร้านค้า ขอร้องเท่าไรก็ไม่ยอมมเปลี่ยนขนส่งให้ จะนัดให้มารับก็ออกไปไหนไม่ได้เลยต้องนั่งรอไม่รู้จะมารับกี่โมง ตายๆทำงานอย่างอื่นกันไม่ได้เลย
ชอปปี้คงคิดว่ายอดขายของร้านมีมากแล้วจะเสียดาย จะบังคับให้เราทำอะไรก็ได้มังครับ สุดท้าย ผมขาย 3 ออเดอร์สุดท้ายเมื่อวาน แล้วเอาสินค้าลงจากร้านทั้งหมด รอยอดเงินที่ค้างแล้วปิดบัญชีเลิกขายครับ เหมือนโดนมัดมือชก อ้างแต่นโยบายมาตรฐานอะไรไม่รู้ของทางชอปปี้ แต่ไม่ดูเลยว่ากระทบต่อรูทีนการทำงานของร้านขนาดไหน จริงๆบางร้านอาจจะโชคดีที่ชอปปี้เปลี่ยนให้ แต่สำหรับร้านผมมันเป็นการเพิ่มภาระในการขายครับ
-----------------------------------
เรื่องที่สอง เรื่อง แคชเบ็ค ส่งฟรี ที่ให้ลูกค้าจากการกดซื้อของ
------------------------------------
เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้ว่ามันคืออะไร เห็นเขาเอาป้ายมาติดหน้าสินค้าผมทุกรายการ ว่ามี CoinCashback กับ ส่งฟรี ผมก็ว่า เออดีเนอะลูกค้าได้ด้วย พอขายๆไปบางรายการโดนหักเงินต่างหากจาก %ส่วนแบ่งสินค้าที่ขายได้แล้ว ยังมีหักเพิ่มเป็นอะไรไม่รู้หลายร้อยบาท กดเข้าไปดูเขียนว่า โปรแกรมส่งฟรี กับ คอนแคชแบ็ค โอโห ถึงบางอ้อ รู้แล้วว่าลูกค้าเอาค่าส่งกับคอนที่ไหน คือทางชอปปี้หักจากร้านไปให้ลูกค้าครับ ผมติดต่อไปทางชอปปี้แจ้งว่า จับเข้าโปรแกรมนี้อัตโนมัติ หากต้องการยกเลิก ให้กรอกแบบฟอร์มขอยกเลิก แล้วใช้เวลายกเลิกให้แค่เดือนละครั้ง (ตอนปลายเดือน) ใครไปขอยกเลิกต้นเดือนต้องรอจนถึงปลายเดือนถึงจะยกเลิกให้ครับ ร้านไม่ได้ยินยอมที่จะใช้โปรแกรมนี้เลย จับใส่ให้แบบไม่มีสอบถามความสมัครใจ แต่เวลาจะออกจากโปรแกรมต้องกรอกฟอร์มขอและรอเกือบเดือน ผมนั่งไล่นับดูยอดเงินตรงนี้รวมๆแล้วทั้งหมดที่หักไปเป็นหลักหมื่นครับ ตรงนี้ไม่ต้องโดนหักก็ได้เพราะชอปปี้ก็หักส่วนแบ่งจากการขายได้ไปแล้ว ยังมาเอาตรงนี้อีก สุดยอดไปเลยครับเนียนๆเลยนี่ถ้าผมไม่กดเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละบิลก็คงไม่รู้และโดนหักไปเรื่อยๆ ที่หักไปนั่นซื้อมอเตอร์ไซค์ได้ทั้งคันเลย
สรุป
- โปรชอปปี้คอนแคชแบ็ค กับ ส่งฟรี ยังมีช่องทางให้ยกเลิกได้ แต่ต้องทำให้ถูกจังหวะไม่งั้นต้องรอไปอีกเดือน ครับ
- ส่วนเรื่องขนส่งไม่สามารถทำการเลือกขนส่งได้เอง ต่อให้มีสาขาตั้งอยู่หน้าบ้านก็ตาม จนปัญญาครับ เขาไม่สนใจว่าเราจะลำบากในการขนส่งหรือกระทบต่อการทำงานอย่างไร
ผมพิจารณาดูแล้ว นโยบายบังคับบริษัทขนส่งเป็นการบีบบังคับและคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนแบ่งจากการขนส่งของชอปปี้ จนไม่สนใจว่าร้านจะมีผลกระทบอย่างไร จริงๆคุณควรให้ลูกค้า หรือ ร้านค้าเขาเลือกเองได้ว่าจะส่งขนส่งไหน คุณภาพบริการแต่ละค่ายไม่เหมือนกันให้สิทธิ์ผู้ใช้งานเขาได้เลือก มาเลือกแทนเขาจะดีกว่าเขาเลือกเองได้อย่างไรถ้าไม่มองแต่ผลกำไรการขนส่งของตตัวเอง จริงไหม?? ถือเป็นการใช้อำนาจความเป็นเจ้าของแพลทฟอร์มสั่งให้ร้านทำอะไรก็ได้ ประมาณว่าไม่พอใจก็ไม่ต้องขายอย่างนั้นแหล่ะ ในอีเมล์แจ้งว่าไม่อนุมัติให้เปลี่ยนแต่ให้ลองใช้ขนส่งที่ยัดเยียดให้สัก 30 วันดูก่อน ไม่ต้องทดลองหรอกครับ จากเดิมเคยเดินส่งหน้าบ้านสองสามก้าว อยู่ๆเปลี่ยนให้ขับรถออกไปส่งไปกลับเกือบสิบกิโลชีวิตมันจะดีกว่าได้อย่างไร แถมถ้านัดรับสินค้าก็ออกไปทำงานอย่างอื่นข้างนอกไม่ได้เลยคนที่จ้างมาแพ๊คของกลับบ้านไปธุระหนึ่งอาทิตย์ไม่มีคนอยู่นัดรับพัสดุ ลำบากจริงๆ ตัดสินใจปิดฉากการขายร้านนี้ในชอปปี้ล่ะครับ ช่องทางอื่นที่เราขายได้และเดินไปส่งหน้าบ้านยังพอมีลาซาด้าก็ยังส่งหน้าบ้านได้อยู่
ไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนคิดจะขายนะครับ ระวังโปรคอนแคชแบ็ค กับเช็คขนส่งที่เขากำหนดให้เราให้ดีๆ หากท่านไม่ได้รับผลกระทบอะไรก็ไม่มีปัญหาน่าจะขายได้ครับ ขอให้โชคดีครับ
ปล.ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษีกับ VAT จ่ายทุกปีครับ ยอดการขายแบ่งเงินกับหุ้นส่วนแต่ละคนแล้ว ยอดแต่ละคนไม่ถึงต้องจด VAT ครับ
แชร์ประสบการณ์ ขายของบน Shopee ยอดขายดีปีล้านกว่าๆ สุดท้ายต้องปิดร้านนี้เพราะนโยบายบังคับบริษัทจัดส่ง
ผมขายอะไหล่รถ ร้านผมร้านนี้อยู่บนชอปปี้ประมาณต้นปี 2564 ช่วงโควิดกำลังบูม คนออกไปไหนไม่ได้ กดซื้อของกันออนไลน์ ผลการตอบรับก็ดีครับ สินค้าผมบางอย่างเป็นชุดคิทสำหรับสร้างรถทั้งคันเพื่อใช้งานอเนกประสงค์เช่น ปีกนก พวงมาลัย เพลา ฯลฯ ซึ่งมันเป็นชิ้นหลายๆชิ้นจำเป็นต้องแยกกล่องแล้วส่งเป็น Lot (เลขพัสดุเดียวแต่แยกหลายกล่อง) ซึ่งมีแต่เคอรี่เท่านั้นที่ทำได้ นอกนั้นไม่ว่าค่ายไหนคือต้องส่ง 1 กล่องต่อ 1 เลขพัสดุ
เรื่องแรก เรื่องขนส่ง
------------------------------------
เดิมทีผมได้ขนส่ง J&T ซึ่งทางชอปปี้บังคับไม่ให้เราเลือกเอง สำหรับผมแล้ว แย่มาก คือ เอาพัสดุไปส่งไม่มีหลักฐานอะไรให้เลยผมต้อง่ถายรูปเอาไว้ว่ามีกล่องไหนอะไรบ้าง จริงๆมันควรจะสแกนแล้วพิมพ์ใบเสร็จให้ว่าร้านเอาอะไรไปส่งบ้างกี่กล่อง แย่ถัดมาคือ ของล่าช้ากว่าค่ายอื่นๆ (ผมขายหลายที่รู้ว่าขนส่งไหนไว ส่งวันเดียวกันบางเจ้าพรุ่งนี้ถึงแล้ว แต่ J&T ข้ามวันพึ่งถึงศูนย์คัดแยกก็มี คนอื่นถึงบ้านลูกค้าแล้ว)
จึงได้ทำการร้องเรียนขอเปลี่ยนขนส่งใหม่ เพราะบางออเดอร์ต้องแพ๊คกล่องแยกล็อต แต่ขายไม่ได้ เอาออเดอร์นั้นไปแจ้งขอเปลี่ยนขนส่งกับทางชอปปี้เขาเห็นว่าเราเสียหาย J&T ไม่ยอมส่งออเดอร์นี้ เขาจึงยอมเปลี่ยนเป็น Kerry ให้ แล้วหลังจากนั้น การขายของก็ราบรื่นดีไม่ติดขัดอะไร สะดวกมากเพราะเคอรี่อยู่หน้าบ้านผม เดินไปส่งได้เลยไม่ต้องขับรถ ส่งได้ถึงสี่โมงเย็นด้วย ดังนั้นทุกคำสั่งซื้อที่มาก่อนสี่โมงเย็นส่วนใหญ่ของถึงมือลูกค้าวันรุ่งขึ้นเลย
แต่แล้วมาวันหนึ่ง อยู่ๆ ขนส่งที่เคยได้ส่งกับทางเคอรี่ ก็จับร้านเปลี่ยนขนส่งโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเรา บังคับเลยล่ะ ให้ไปส่ง NinjaVan กับ ShopeeExpress ซึ่งกระทบต่อการดำเนินการขายของร้านมากเลยครับ คือ NinjaVan นี้ไม่มีจุด DropOff ต้องนัดรถเข้ามารับสินค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งปัญหาก็เกิดขึ้นเลยเนื่องจากเราทำหลายอย่างไม่ใช่แค่ขายของ วิ่งติดต่อลูกค้า ลงของ ซื้อของ ไปไหนไม่ได้เลยต้องมานั่งรอรถ NinjaVan เข้ามารับ จากเดิมที่ส่งเมื่อไหร่ก็ได้เพราะเคอรี่อยู่หน้าบ้าน ส่งแล้วเราก็ออกไปธุระอื่นต่อได้ ส่วน ShopeeExpress นี่มีจุด DropOff แต่ประเด็นคือ จากเดิมเคยเดินไปส่งหน้าบ้านแค่ไม่กี่ก้าว ต้องขับรถออกไปส่งเองข้างนอก แล้วถนนเส้นนั้นเขาสร้างสะพานรถติดมาก ฝุ่นเยอะมาก ไปกลับลำบากต้องกลับรถตรงที่ก่อสร้าง แถมเสียเวลาทำงานอย่างอื่นอีกอย่างน้อย 40นาที-1ชั่วโมง กลายเป็นว่า เอาความลำบากมาเพิ่มให้ร้านค้า ขอร้องเท่าไรก็ไม่ยอมมเปลี่ยนขนส่งให้ จะนัดให้มารับก็ออกไปไหนไม่ได้เลยต้องนั่งรอไม่รู้จะมารับกี่โมง ตายๆทำงานอย่างอื่นกันไม่ได้เลย
ชอปปี้คงคิดว่ายอดขายของร้านมีมากแล้วจะเสียดาย จะบังคับให้เราทำอะไรก็ได้มังครับ สุดท้าย ผมขาย 3 ออเดอร์สุดท้ายเมื่อวาน แล้วเอาสินค้าลงจากร้านทั้งหมด รอยอดเงินที่ค้างแล้วปิดบัญชีเลิกขายครับ เหมือนโดนมัดมือชก อ้างแต่นโยบายมาตรฐานอะไรไม่รู้ของทางชอปปี้ แต่ไม่ดูเลยว่ากระทบต่อรูทีนการทำงานของร้านขนาดไหน จริงๆบางร้านอาจจะโชคดีที่ชอปปี้เปลี่ยนให้ แต่สำหรับร้านผมมันเป็นการเพิ่มภาระในการขายครับ
-----------------------------------
เรื่องที่สอง เรื่อง แคชเบ็ค ส่งฟรี ที่ให้ลูกค้าจากการกดซื้อของ
------------------------------------
เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้ว่ามันคืออะไร เห็นเขาเอาป้ายมาติดหน้าสินค้าผมทุกรายการ ว่ามี CoinCashback กับ ส่งฟรี ผมก็ว่า เออดีเนอะลูกค้าได้ด้วย พอขายๆไปบางรายการโดนหักเงินต่างหากจาก %ส่วนแบ่งสินค้าที่ขายได้แล้ว ยังมีหักเพิ่มเป็นอะไรไม่รู้หลายร้อยบาท กดเข้าไปดูเขียนว่า โปรแกรมส่งฟรี กับ คอนแคชแบ็ค โอโห ถึงบางอ้อ รู้แล้วว่าลูกค้าเอาค่าส่งกับคอนที่ไหน คือทางชอปปี้หักจากร้านไปให้ลูกค้าครับ ผมติดต่อไปทางชอปปี้แจ้งว่า จับเข้าโปรแกรมนี้อัตโนมัติ หากต้องการยกเลิก ให้กรอกแบบฟอร์มขอยกเลิก แล้วใช้เวลายกเลิกให้แค่เดือนละครั้ง (ตอนปลายเดือน) ใครไปขอยกเลิกต้นเดือนต้องรอจนถึงปลายเดือนถึงจะยกเลิกให้ครับ ร้านไม่ได้ยินยอมที่จะใช้โปรแกรมนี้เลย จับใส่ให้แบบไม่มีสอบถามความสมัครใจ แต่เวลาจะออกจากโปรแกรมต้องกรอกฟอร์มขอและรอเกือบเดือน ผมนั่งไล่นับดูยอดเงินตรงนี้รวมๆแล้วทั้งหมดที่หักไปเป็นหลักหมื่นครับ ตรงนี้ไม่ต้องโดนหักก็ได้เพราะชอปปี้ก็หักส่วนแบ่งจากการขายได้ไปแล้ว ยังมาเอาตรงนี้อีก สุดยอดไปเลยครับเนียนๆเลยนี่ถ้าผมไม่กดเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละบิลก็คงไม่รู้และโดนหักไปเรื่อยๆ ที่หักไปนั่นซื้อมอเตอร์ไซค์ได้ทั้งคันเลย
สรุป
- โปรชอปปี้คอนแคชแบ็ค กับ ส่งฟรี ยังมีช่องทางให้ยกเลิกได้ แต่ต้องทำให้ถูกจังหวะไม่งั้นต้องรอไปอีกเดือน ครับ
- ส่วนเรื่องขนส่งไม่สามารถทำการเลือกขนส่งได้เอง ต่อให้มีสาขาตั้งอยู่หน้าบ้านก็ตาม จนปัญญาครับ เขาไม่สนใจว่าเราจะลำบากในการขนส่งหรือกระทบต่อการทำงานอย่างไร
ผมพิจารณาดูแล้ว นโยบายบังคับบริษัทขนส่งเป็นการบีบบังคับและคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนแบ่งจากการขนส่งของชอปปี้ จนไม่สนใจว่าร้านจะมีผลกระทบอย่างไร จริงๆคุณควรให้ลูกค้า หรือ ร้านค้าเขาเลือกเองได้ว่าจะส่งขนส่งไหน คุณภาพบริการแต่ละค่ายไม่เหมือนกันให้สิทธิ์ผู้ใช้งานเขาได้เลือก มาเลือกแทนเขาจะดีกว่าเขาเลือกเองได้อย่างไรถ้าไม่มองแต่ผลกำไรการขนส่งของตตัวเอง จริงไหม?? ถือเป็นการใช้อำนาจความเป็นเจ้าของแพลทฟอร์มสั่งให้ร้านทำอะไรก็ได้ ประมาณว่าไม่พอใจก็ไม่ต้องขายอย่างนั้นแหล่ะ ในอีเมล์แจ้งว่าไม่อนุมัติให้เปลี่ยนแต่ให้ลองใช้ขนส่งที่ยัดเยียดให้สัก 30 วันดูก่อน ไม่ต้องทดลองหรอกครับ จากเดิมเคยเดินส่งหน้าบ้านสองสามก้าว อยู่ๆเปลี่ยนให้ขับรถออกไปส่งไปกลับเกือบสิบกิโลชีวิตมันจะดีกว่าได้อย่างไร แถมถ้านัดรับสินค้าก็ออกไปทำงานอย่างอื่นข้างนอกไม่ได้เลยคนที่จ้างมาแพ๊คของกลับบ้านไปธุระหนึ่งอาทิตย์ไม่มีคนอยู่นัดรับพัสดุ ลำบากจริงๆ ตัดสินใจปิดฉากการขายร้านนี้ในชอปปี้ล่ะครับ ช่องทางอื่นที่เราขายได้และเดินไปส่งหน้าบ้านยังพอมีลาซาด้าก็ยังส่งหน้าบ้านได้อยู่
ไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนคิดจะขายนะครับ ระวังโปรคอนแคชแบ็ค กับเช็คขนส่งที่เขากำหนดให้เราให้ดีๆ หากท่านไม่ได้รับผลกระทบอะไรก็ไม่มีปัญหาน่าจะขายได้ครับ ขอให้โชคดีครับ
ปล.ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษีกับ VAT จ่ายทุกปีครับ ยอดการขายแบ่งเงินกับหุ้นส่วนแต่ละคนแล้ว ยอดแต่ละคนไม่ถึงต้องจด VAT ครับ