เรื่องสั้น : หลังม่าน

กระทู้สนทนา

.

             ถนนสายนี้มีผู้คนสัญจรไม่ขาดระยะ เสียงมอเตอร์ไซค์ท่อดัง ๆ เสียงรถยนต์แต่งท่อดังล้อล้นวิ่งไม่ขาดระยะ คนเดินเท้าริมฟุตบาท และ รถรับส่งพนักงานวิ่งสวนกันให้วุ่นวาย

              แสงไฟตึกรามบ้านช่องเปิดให้ความสว่างไสวแทนดวงอาทิตย์ในยามค่ำคืน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ณ เวลานี้มันคือเหตุการณ์ปกติ ภาพเหตุการณ์จราจรทั้งรถและคนเป็นภาพเหตุการณ์ซ้ำ ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้เห็นทุกวัน

              ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวชายหนุ่มกำลังก้มหน้าก้มตาทานอย่างคนหิวข้าว ร้านนี้เป็นร้านประจำของเขาที่มาทานทุกครั้งเมื่อเบื่อข้าว จำต้องมาฝากท้องที่นี่ จนเจ้าของร้านสนิทและคุ้นเคยด้วย

              ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาทานอย่างไม่แคร์สายตาของใคร เขามักมานั่งทานคนเดียวประจำ จนเจ้าของร้านแซวว่าไม่หาสาวมานั่งทานเป็นเพื่อนสักคน ใครจะมาชอบเขา เพราะทำงานหาเช้ากินค่ำแบบนี้ แต่เขาก็มีหญิงในใจอยู่หนึ่งคน พอนึกถึงเธอเขาก็คลี่ยิ้ม สักวันจะพาเธอหลบไปอยู่ที่ ๆ สงบไม่วุ่นวายเช่นนี้

              ระหว่างนั่งทานไปเรื่อย มีลูกค้าทยอยเข้าทยอยออกร้านอยู่เนือง ๆ คืนนี้รู้สึกจะขายดี ลูกค้าเข้าร้านเรื่อย ๆ เลย เขาสังเกตพร้อมปรายตามองเจ้าของร้านสองผัวเมีย เผยยิ้มให้อย่างคนคุ้นเคย เพราะเขาเป็นลูกค้าประจำ

              เขาทานแบบไม่รีบร้อนอย่างคนสบายใจ เขาเป็นคนหน้าตาธรรมดา ไม่ถือว่าขี้เหร่ อย่างน้อย ๆ ผู้หญิงในใจก็ไม่รังเกียจเขาล่ะ “เฮียเล็กเนื้อธรรมดาเพิ่มอีกชามครับ” เขายกมือตะโกนสั่ง

              “รอแป๊บไอ้น้อง คิวยาวนิด ๆ รอแป๊บนะ” เจ้าของร้าน คนเป็นสามีตอบกลับมา

              “ครับพี่! ผมรอได้” เขาตกลง ทานชามแรกหมดไป ระหว่างรอชามที่สองจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา

              “พี่คะ ๆ พี่ช่วยอุดหนุนซื้อขนมกับหนูหน่อยนะคะ หนูอยากกลับบ้านค่ะ ถ้าขายไม่หมดหนูไม่ได้กลับบ้าน” เด็กหญิงตัวผอม ทำสายตาละห้อยกับเขา หน้าตาค่อนข้างดูมอมแมม ผมยาวหลุดลุ้ย ถือตะกร้าขนมยืนจ้องหน้าของเขาอยู่ อ้อนให้เขาซื้อขนมด้วย

              “ครับ! งั้นพี่เอาสองถุง” เขามักจะซื้อช่วยเด็กประจำ ทุกครั้งที่มานั่งทานก๋วยเตี๋ยวหากเจอแบบนี้ เขาก็ช่วยซื้อเป็นประจำ

              “นี่น้องเราอย่าไปอุดหนุนมันมาก เดี๋ยวมันจะได้ใจ” ผู้เป็นภรรยาเจ้าของร้านพูดกับเขา เพราะมักจะเห็นเขาช่วยซื้อแบบนี้ประจำ “อย่าใจดีมาก”

              “คนหน้าตาดีแถมยังใจดีก็งี้ ฮา” เจ้าของร้านผู้เป็นสามีแซวเขา เพราะเป็นลูกค้าประจำจึงดูสนิทกัน พอเขาช่วยซื้อเด็กคนนั้นก็กลับไป เขานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือต่อ ข้าง ๆ มีกระเป๋ากีตาร์วางอยู่พร้อมกระเป๋าเป้วางอยู่ด้วยกัน

              ไม่นานก๋วยเตี๋ยวชามที่สองก็ถูกยกมาเสิร์ฟ “เล่นดนตรีไหนวะน้องคืนนี้” เจ้าของร้านถาม

              “อ่อคืนนี้ไม่ได้เล่นครับพี่ ผมพึ่งกลับมาจากซ้อมดนตรีมาน่ะ” เขาตอบปนยิ้มพร้อมปรุงก๋วยเตี๋ยวไปด้วย จากนั้นก็นั่งทานอย่างคนสบายใจ

              “ช่วยซื้อกล้วยให้ช้างหน่อยครับ” จู่ ๆ ก็มีคนเดินจูงช้างมาตามถนน เดินแวะเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวที่เขาทานอยู่ เพื่อหวังจะขายได้สักคน “พี่ช่วยซื้อกล้วยให้ช้างหน่อยครับ” คนเลี้ยงช้างถือกล้วยมาจ่อตรงหน้าเขา

              เขาหันไปสบตาเจ้าของร้าน เห็นแววตาทั้งสองคนห้าม แต่พอเขาหันมามองช้างก็เกิดความน่าสงสาร เขายิ้มและตัดสินใจซื้อกล้วยให้ช้างไป จากนั้นทั้งคนและช้างจึงเดินจากไปอย่างสงบ

              “เอ็งนี่นา! จะใจดีไปถึงไหน คนพวกนี้มันเห็นแก่ตัว ใช้ช้างหาเงินให้ตนเอง หากินกับสัตว์ เอ็งไม่น่าไปสนับสนุนพวกมันเลย” เจ้าของร้านผู้เป็นสามีเดินมาบ่นกับเขา

              “สงสารช้างน่ะพี่” เขาตอบแบบไม่ใส่ใจ พร้อมทานก๋วยเตี๋ยวไป จะมีอะไรมาขายอีกไหม แต่แล้วก็มาจริง ๆ

              “เอารางวัลมั้ยจ๊ะ ช่วยป้าซื้อหน่อยเหลือสองชุดเอามั้ยพ่อหนุ่ม” แม่ค้าขายล็อตเตอรี่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าของเขา

              “ช่วยป้าสักชุดหน่อย สามร้อยบาทสามใบเนี่ย” คนขายกล่าว เขาเองก็อยากเสี่ยงดวงอยู่พอดี รางวัลที่หนึ่งมันยิ่งชอบมากับล็อตเตอรี่เหลือ ๆ แบบนี้

              “คนละชุดน้อง!”เจ้าของร้านเอาด้วย สรุปแล้วเขาก็ได้ล็อตเตอรี่หนึ่งชุดมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ระหว่างนั้นเขาก็แช็ตคุยกับผู้หญิงในใจ ทานก๋วยเตี๋ยวไปด้วย

              “ทำอะไรอยู่ คุยกับสาวคนไหน” เขายิ้มให้กับข้อความของผู้หญิงในใจ คนอย่างเขาเหรอจะเจ้าชู้เป็น มีแฟนแล้วก็รักเดียวใจเดียวเท่านั้น

              “เราทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ครับ ไม่ได้อยู่กับใครเลย พรุ่งนี้ไปทำบุญกันมั้ย วันเกิดเรา” พิมพ์ไปพร้อมถ่ายรูปชามก๋วยเตี๋ยวให้ผู้หญิงในใจดูไปด้วย จะได้เชื่อใจกัน

              ทั้งเขาและคนที่เขารักส่งข้อความคุยกัน กุ๊กกิ๊กกัน ทานก๋วยเตี๋ยวไปด้วย ยิ้มไปด้วย คุยแช็ตกันไปด้วย โดยไม่สนใจสายตาของลูกค้าในร้านเลย

              “อย่าลืมเป้าหมายคืนนี้ ต้องสำเร็จภายในคืนนี้เท่านั้น” ข้อความปริศนาส่งมายังไลน์ของเขา เขาเพียงอ่านไม่ได้ตอบกลับไป

              พอเขาได้รับข้อความปริศนานั้น เขาก็รีบทานก๋วยเตี๋ยวให้หมด “ไปแล้วนะพี่ ค่าก๋วยเตี๋ยววางอยู่นี่นะ” เขาตะโกนพูดกับเจ้าของร้านพร้อมวางเงินไว้ให้ จากนั้นก็ไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย

              เขาสะพายเป้ที่หลัง ถือกระเป๋ากีตาร์เดินไปยืนรอขึ้นรถสองแถว ไปยังสถานที่ทำงาน ระหว่างทางรถสองแถวจอดรับผู้คนไปตามทาง ทำให้มีผู้โดยสารค่อนข้างแน่น มียายคนหนึ่งเดินมาขึ้นรถสองแถว ทว่าที่นั่งเต็ม เขาเห็นดังนั้นจึงรีบลุกให้ยายนั่งทันที

              “ยายครับ มานั่งที่ผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมยืนเอง” เขาลุกให้ยายนั่ง ยืนห้อยโหนรถสองแถวไปจนถึงที่ทำงานสำหรับคืนนี้

              เขาสวมหมวกแก็ป ขณะนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าตึกสูงสามสิบกว่าชั้น ในมือถือกระเป๋ากีตาร์อยู่ ภารกิจในวันนี้ของเขาต้องสำเร็จเท่านั้น เขาถอนหายใจ ทำสมองให้โล่ง ไม่นึกถึงใครทั้งนั้น พ่อแม่ แม้กระทั่งหญิงคนรัก ในหัวของเขาไม่มีใคร มีแต่คำว่าเงินและความสบายเท่านั้น

              เขาเดินเข้าไปในตึก ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นดาดฟ้าของตึก “ตัวเอง เราติดงานด่วน พอดีโดนพี่เรียกตัวด่วนอ่ะ ตัวเองอย่างอนเรานะ” เขาพิมพ์แช็ตหาผู้หญิงในใจ ก่อนจะปิดเครื่อง

              “ไปดื่มอีกแล้วอ่ะดิ” หญิงในดวงใจตอบกลับมา แล้วเขาก็เล่นตามน้ำไป จากนั้นก็ปิดเครื่องเอาไว้ ก่อนจะเปิดกระเป๋ากีตาร์ออก หยิบสไนเปอร์ขึ้นมาตั้ง อำพลางตัว เตรียมส่องเหยื่อที่กำลังจะมา

              เขาเป็นมือปืนนอกเครื่องแบบ ถูกจ้างให้กำจัดมาแล้วหลายคน ตำรวจก็ยังตามล่าหาตัวเขาไม่เจอ วันนี้เขาถูกจ้างมากำจัดนักการเมืองคนหนึ่ง และ จะต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น จากนั้นเขาก็จะได้รับเงินก้อนใหญ่

              เมื่อเขาทำงานนี้เสร็จ เขาคิดว่าจะพาผู้หญิงในใจไปอยู่ต่างประเทศ เขาสามารถทำพลาสปอร์ตได้ ตำรวจยังตามจับเขาไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

              เวลาสองทุ่มเหยื่อจะมาที่นี่ เขาก็แค่รอจังหวะเหยื่อลงมาจากรถเท่านั้นเอง แล้วเขาจะทำหน้าที่เป็นมัจจุราชปลิดชีพ เขาไม่สนใจว่าใครเป็นคนดีหรือคนเลว เขาสนใจแค่ว่าถูกจ้างให้มาเก็บใคร ค่าหัวเท่าไหร่เท่านั้นเอง

              ในกระเป๋าสะพายมีปืนพกเก็บเสียงมาด้วย เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น จะได้นำออกมาใช้ป้องกันตนเองได้

              และแล้วเป้าหมายก็มาถึงสักที เขานอนเล็งสไนเปอร์ส่องกล้องไปยังเป้าหมาย ขณะนี้เป้าหมายกำลังลงจากรถ หากเปิดประตูรถลงมาเขาจะลั่นไกในทันที

              พอเป้าหมายลงมาจากรถ ไม่เป็นการให้เสียเวลา เขาส่องสไนเปอร์ไปยังศีรษะของเหยื่อ เหนี่ยวไกปืนทันที นัดเดียวจอดสนิท เป้าหมายล้มลงไปกองกับพื้น เขารีบเก็บปืนเข้ากระเป๋า รีบเพ่นไปจากที่นี่ให้โดยเร็ว ก่อนที่จะมีคนเห็นและจับได้ งานนี้เขาทำสำเร็จ ได้รับเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง

              ………………………………..

              “เราคบกันมานานแล้วนะเบียร์ ฝ้ายก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝัน” แฟนสาวของเขาพูด ขณะนี้เขาพาแฟนมาเที่ยวต่างจังหวัด ตำรวจก็ยังตามแกะรอยของเขาไม่ได้

              “งั้นเราแต่งงานกันนะ กลับไปเบียร์จะให้พ่อแม่มาสู่ขอ” เขาพูด ผู้หญิงคนที่เขารักมาก เขาเป็นแค่พนักงานร้านสะดวกซื้อจน ๆ คนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคยดูถูกเขาเลยสักนิด เธอเป็นพยาบาลที่ไม่เคยรังเกียจคนจน ๆ อย่างเขา

              “พ่อแม่ฝ้ายไม่รังเกียจเบียร์นะ แค่เบียร์จริงใจและซื่อสัตย์กับฝ้ายก็พอ” แฟนสาวของเขาพูด

              “ครับ! “

              งานแต่งงานของเขาจัดขึ้นท่ามกลางความยินดีของทั้งสองครอบครัว แขกหนึ่งในนั้นคือเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่เขาเที่ยวไปฝากท้องด้วยอยู่บ่อย ๆ ทั้งสองคนก็ได้การ์ดเชิญให้มาร่วมแสดงความยินดีกับเขาด้วย

              “เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีหน่อยครับ อยากให้เจ้าบ่าวเล่าถึงความประทับใจของเจ้าสาว และ เจ้าสาวเล่าในความประทับในตัวเจ้าบ่าวครับ” พิธีกรกล่าวเชิญเขากับแฟนสาวที่กำลังจะกลายเป็นภรรยาในไม่ช้านี่ ขึ้นมายังบนเวที “เชิญเจ้าบ่าวก่อนเลยครับ”

              เขารับไมค์โครโฟนจากพิธีกรมาพูด “เบียร์เป็นแค่พนักงานร้านสะดวกซื้อ ฝ้ายเป็นพยาบาล เบียร์อยากขอบคุณฝ้ายที่รักในตัวเบียร์ ขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ของฝ้ายที่ไม่รังเกียจในตัวลูกเขยคนนี้ ผมสัญญาว่าผมจะดูแลฝ้า…”

              กรี๊ด!!!! เสียงกรี๊ดของแขกที่มาร่วมงานร้องสนั่นหวั่นไหวด้วยความตื่นตะหนก เมื่อเจ้าบ่าวถูกยิงกลางหน้าผากเป็นรูโหว่ กระโหลกศีรษะแตกกระจาย ทุกคนหนีตายกันจ้าระหวั่น แต่แล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น นอกจากเจ้าบ่าวโดนยิงตายคนเดียว ลูกปืนปริศนามาจากที่ไหนไม่มีใครทราบได้

              เหตุการณ์ยิงเจ้าบ่าวคางานแต่งกระจายทั่วทุกช่องทีวี แต่ว่าพอมีการค้นประวัติของผู้ตาย สืบค้นไปสืบค้นมา ก็พบว่า ‘นายพุทธชาติ เอนกนันต์ หรือ เบียร์’ เป็นมือปืนรับจ้าง เข้าขั้นมือฉมัง รับจ้างฆ่าคนมาแล้วหลายราย ล่าสุดรับจ้างยิงนักการเมืองท่านหนึ่งตายไปเมื่อสองปีที่แล้วนี่เอง

              การที่นายพุทธชาติโดนยิงไม่ใช่ฝีมือของตำรวจนะครับคุณใจดี อาจจะเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ได้ เพราะนายพุทธชาติฆ่าไว้หลายคน…

              เสียงผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวในทีวี ฝ้ายนั่งฟังทั้งน้ำตา ทุกคนอึ้งกับข้อมูลของเบียร์มาก สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เป็นมันคนละอย่างกันเลย ฝ้ายจะคัดค้านก็ไม่ได้ หลักฐานที่มีก็ชัดแล้วว่าเบียร์สามีของตนเองเป็นมือปืนรับจ้าง

              กระเป๋ากีตาร์ใบนั้นที่ฝ้ายเห็น ที่แท้เป็นกระเป๋าปืน! ฝ้ายไม่อยากจะเชื่อ สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เบียร์เป็นมันสวนทางกัน มันคนละมุมคนละขั้วกันเลย ฝ้ายนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว

              “ถึงเบียร์จะโหดร้ายแค่ไหน จำไว้นะ ฝ้ายรักเบียร์ ทำไม! ทำไมเบียร์ต้องทำกับฝ้ายแบบนี้ ทำไมต้องหลอกฝ้าย หลอกทุกคน เบียร์คือมือปืน!” ฝ้ายเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเสียใจคนเดียว

              …………………………………….

              “สุดท้ายกูก็ตามมืงจนเจอไอ้เบียร์หลังม่าน” ตำรวจนายหนึ่งพูด กระตุกยิ้มให้กับข่าวในทีวี ปิดตำนานเบียร์หลังม่าน ที่ตำรวจตามตัวมานานสักที…

จบ…
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่