เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พระเทพปฏิภาณวาที หรือ ‘เจ้าคุณพิพิธ’ วัดสุทัศนเทพวราราม เปิดเผยต่อ ‘มติชน’ ว่า ขณะนี้เกิดความไม่สบายใจในหมู่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ต่อกรณีที่พระภิกษุบางรูปลาสิกขาแล้ววิพากษ์วิจารณ์คณะสงฆ์
เจ้าคุณพิพิธกล่าวว่า มีพระสงฆ์ที่สึกแล้วจำนวนไม่น้อยที่กลับมาทำลายคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งประเด็นการสร้างวัตถุมงคลและตำแหน่งของพระสงฆ์ ซึ่งทำให้พระเถระเกิดความเครียด จึงฝากมาเตือนผู้ที่กระทำการดังกล่าวให้ยุติ อย่าลืมว่าเติบโตมาจากไหน
เวลาจะวิจารณ์คณะสงฆ์จะต้องมีมโนธรรมสำนึกว่าเราเติบโตมาในพระบารมีของพระพุทธเจ้า ของพระสงฆ์ที่ส่งเรามาจากต่างจังหวัด บางรูปก็สร้างวัตถุมงคล ส่งรูปพระ รูปเณรมาเรียนในกรุงเทพฯ วัตถุมงคลนั้นก็อาจจะเป็นปลัดขิก ตะกรุด พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง วัตถุมงคล วัดต่างๆ ซึ่งเป็นสำนักใหญ่ๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีการจำลองพระพุทธรูปมา ท่านเจ้าอาวาสก็สร้างวัตถุมงคลก็ได้เงินมาเลี้ยงพระเณร เมื่อพระเณรมากขึ้นก็ต้องหาให้อยู่ ให้ฉัน สร้างอาคาร สร้างกุฏิให้อยู่ ต้องรู้สึกตัวว่าจะตอบแทนคุณของวัดและพระพุทธศาสนาอย่างไร
ถ้าคนต่างศาสนา คนภายนอกเขาวิพากษ์วิจารณ์ไม่เป็นไร แต่ผู้ที่บวชมาเป็นตั้งแต่เป็นสามเณร เป็นภิกษุ มาวิจารณ์ว่าคณะสงฆ์เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ วิ่งหาตำแหน่งกัน สร้างวัตถุมงคลกัน ต้องถามตัวเองว่าเราโตมาเพราะอะไร หากพระรูปไหนมีความประพฤติไม่ดีวิจารณ์ส่วนตัวได้เลย จะไปพูดเป็นสาธารณะก็ได้แต่พึงระวังกฎหมาย การสาดใส่ร้ายคณะสงฆ์ซึ่งเป็นองค์กรโดยอดีตนักบวช จะต้องตรวจสอบความประพฤติตัวเองด้วยว่าตั้งแต่บวชมามีความประพฤติเป็นอย่างไร ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ทางคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาอย่างไร เขาไม่แฉเรื่องของเราก็บุญแล้ว” เจ้าคุณพิพิธกล่าว
https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_3091474
เจ้าคุณกลัวอะไร แล้วพระผู้ใหญ่กลัวอะไรกลัวจะถูกแฉหรือไง
เขาไม่แฉเรื่องของเราก็บุญแล้ว : เจ้าคุณพิพิธ
เจ้าคุณพิพิธกล่าวว่า มีพระสงฆ์ที่สึกแล้วจำนวนไม่น้อยที่กลับมาทำลายคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งประเด็นการสร้างวัตถุมงคลและตำแหน่งของพระสงฆ์ ซึ่งทำให้พระเถระเกิดความเครียด จึงฝากมาเตือนผู้ที่กระทำการดังกล่าวให้ยุติ อย่าลืมว่าเติบโตมาจากไหน
เวลาจะวิจารณ์คณะสงฆ์จะต้องมีมโนธรรมสำนึกว่าเราเติบโตมาในพระบารมีของพระพุทธเจ้า ของพระสงฆ์ที่ส่งเรามาจากต่างจังหวัด บางรูปก็สร้างวัตถุมงคล ส่งรูปพระ รูปเณรมาเรียนในกรุงเทพฯ วัตถุมงคลนั้นก็อาจจะเป็นปลัดขิก ตะกรุด พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง วัตถุมงคล วัดต่างๆ ซึ่งเป็นสำนักใหญ่ๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีการจำลองพระพุทธรูปมา ท่านเจ้าอาวาสก็สร้างวัตถุมงคลก็ได้เงินมาเลี้ยงพระเณร เมื่อพระเณรมากขึ้นก็ต้องหาให้อยู่ ให้ฉัน สร้างอาคาร สร้างกุฏิให้อยู่ ต้องรู้สึกตัวว่าจะตอบแทนคุณของวัดและพระพุทธศาสนาอย่างไร
ถ้าคนต่างศาสนา คนภายนอกเขาวิพากษ์วิจารณ์ไม่เป็นไร แต่ผู้ที่บวชมาเป็นตั้งแต่เป็นสามเณร เป็นภิกษุ มาวิจารณ์ว่าคณะสงฆ์เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ วิ่งหาตำแหน่งกัน สร้างวัตถุมงคลกัน ต้องถามตัวเองว่าเราโตมาเพราะอะไร หากพระรูปไหนมีความประพฤติไม่ดีวิจารณ์ส่วนตัวได้เลย จะไปพูดเป็นสาธารณะก็ได้แต่พึงระวังกฎหมาย การสาดใส่ร้ายคณะสงฆ์ซึ่งเป็นองค์กรโดยอดีตนักบวช จะต้องตรวจสอบความประพฤติตัวเองด้วยว่าตั้งแต่บวชมามีความประพฤติเป็นอย่างไร ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ทางคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาอย่างไร เขาไม่แฉเรื่องของเราก็บุญแล้ว” เจ้าคุณพิพิธกล่าว
https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_3091474
เจ้าคุณกลัวอะไร แล้วพระผู้ใหญ่กลัวอะไรกลัวจะถูกแฉหรือไง