แรกๆของหนูไม่ได้เป็นคนกลัวอะไรแบบนี้เลย ออกไปทางแนวชอบชู้เล่นคนอื่นจนกรรมตามสนองมั้งคะ5555
ขอใช้คำว่าเราแทนตัวนะคะ เรามีปมที่หนักในสมัยเด็กกับการที่พ่อแม่ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องใหญ่ พอถึงมันจะหายแล้วแต่มันก็ยังตราตึงในใจอยู่เลย
ตัวเราไม่ค่อยได้คิดอะไรเท่าไหร่ค่ะ
เพราะช่วงนั้นมัน5-6ขวบจำไม่ได้มาก
ตอนเด็กเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง,มีแต่งานค้าง,คอยทำให้คนอื่นลำบาก,งี่เง่าเกเรกับคนอื่นบ่อยพอควร จึงทำให้ไม่มีเพื่อนบ้างแหละ (แต่พอจะเข้ากับใครก็ได้นะคะไม่ได้เกเรมากขนาดนั้น)
แล้วก็เรียกร้องความสนใจโดยการ
อยากจะมีแฟนค่ะ เพราะคิดว่าใครๆก็มีความสุขเมื่อได้มีความรัก
แต่พอเรามีจริงๆกับเป็นความรู้สึกที่เฉยชา และก็กำลังเรียนอยู่ เขาก็คงโกรธมากที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ตัวเราเลยคิดไปว่า เรายังไม่มีความรับผิดชอบพอที่จะใช้ชีวิตกับใคร เราพาเขาให้อยู่ห้วงแห่งนี้เองไม่ได้รับรู้เลยว่าเขาอยากอยู่ด้วยกันไหม?
มันทำให้เรามีทัศนคติ-1ติดมา
พอขึ้นชั้นปีมัธยมเราเลยคิดว่าจะปรับตัวให้ดีกว่าแต่ก่อน ในช่วงเวลานั้นเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆค่ะ เพราะเราได้ตั้งใจเรียนและทำในสิ่งที่อยากทำมากขึ้น จนผลการเรียนดี ได้ทำอะไรที่พิเศษหลายๆอย่าง จนทำให้คนบางคนมาชอบเราค่ะ
โดยเป็นเพื่อนในห้องเราเขาเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆและเฟรนลี่กับทุกคน
จนหนูเผลอไปชอบเขาค่ะ5555
แต่ความรู้สึกและความคิดมันบอกตัวเองไปว่า
"เธอน่ะยังไม่เหมาะกับเขาหรอก เขาก็ไปหาคนดีๆคนอื่นก็ได้ เธออยากทำในสิ่งที่ทำก่อนนิ ตัดใจซะเถอะ"
เลยทำให้ติดอยู่ในใจตลอด พยายามถอยห่าง พยายามไม่คุยกับเขา
ไม่สนเขา
จนเขาเศร้าแล้วก็ไม่กลับมาเป็นดั่งเดิมอีกค่ะ
ถึงอาจจะเป็นเรื่องดีแต่กับทำให้เราเสียใจมากกว่าเดิม แล้วพวกเราจะทนอย่างงี้ในห้องต่อไปหรอ? ทัศนคติ-10เลยค่ะ
มันทำให้เราโดนกดด้วยแรงไรบางอย่างเราไม่ได้กลับมาเป็นดั่งเดิมได้แล้ว ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองในวันวานเลยจนซึมอยู่หลายสัปดาห์ค่ะ
พอเราขออยู่กับตัวเองสักพักใหญ่ก็มีเพื่อนคนนึงเข้ามาในชีวิตเราค่ะ ช่วงแรกไม่ได้ชอบนางเท่าไหร่หรอก
แต่พอปลีกตัวอยู่คนเดียวก็เหงา เลยสนิทกับเขาเป็นเพื่อนค่ะ คอยเป็นที่พึ่งเราในการลอกการบ้าน555666
และคุยเรื่องราวทุกข์ๆมาด้วยกัน
เราควรจะพอกับเรื่องอะไรแบบนี้ได้แล้วเราก็พึ่งเขาจนน่าเกลียดเกินไปและอย่าไปไว้ใจจริงใจกับใครให้มาก
และเราก็ได้มีเพื่อนเพิ่ม5-6คน แล้วเราก็บอกพวกเขาชัดเจนกับพวกเขาว่า
"เราไม่ต้องการจะมีแฟนเพราะฉะนั้นถ้าคิดจะเลยเถิดเราคงเผลอตัดเพื่อนไปเลยเพื่อจะได้จบปัญหา"
จนพวกเราจบชั้นมัธยมต้นจะขึ้นมัธยมปลาย ด้วยสถานะการโควิดมันทำให้มีเรื่องอะไรหลายๆอย่างก็เครียดไปหมด ด้วยทางเงินแล้วอะไรหลายๆอย่าง
เราก็คุยกับเขาอย่างปกติ จนแล้วจนเล่านางได้บอกกับมาว่า
"เราเป็นโลกซึมเศร้านะ"
ซึ่งมันก็ทำให้เราตกใจพอควรเพราะนางก็ไม่ใช่คนแบบนี้ที่จ่ะเศร้าได้ตลอด
เราก็ทำได้แค่คอยช่วยปลอบ และเป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอ หาเรื่องอะไรสนุกให้เธอ เราจะพยายามไม่คุยเรื่องทุกข์ให้เขาฟังแล้ว
เพราะกลัวว่าจะทำให้เขาทุกข์กว่าเดิมอีก
(ในที่รร.ของเราสนิทกัน3-4คน จะมีบุคคลที่3คอยช่วยเราอีกแรง)
จนตอนนี้นางได้บอกชอบเพื่อนคนที่3
ของเราเอง ดูจะเลื่อนสถานะเป็นแฟนงี้
ซึ่งเราhappyและจี้กับเขามากๆ ไอตัวคนที่3มันก็ไม่ได้ชอบนางขนาดนั้น เราก็รู้ว่าเธอก็ฝืนๆรึเปล่าเพราะนางก็ดูพูดแบบนั้นไปไม่มีเหตุผลอะไรที่ชอบเขามากขนาดนั้นเลย เราดูออกว่าเขาหวังว่าจะให้อยู่ด้วยกันไรกับเขาไปตลอด
เราเลยพูดไปตามตรงคือ
"แกก็ไม่ได้ชอบเขาจริงจังเลยนะ แกฝืนหรือหวังอะไรกันแน่"
นางจึงบอกความจริงว่า
"เราไม่ได้ชอบเขาแต่นางชอบเรามากกว่า"
พูดไม่ทันไรรีบปฏิเสธโดยทันทีมันทำให้เราโกรธมากว่า อยากจะเลยเถิดสถานะเพื่อนทำไมในเมื่อเราก็ชัดเจนกันแล้วว่าเพื่อนกันก็ดีอยู่ละ
เราไม่ได้อยากอยู่ใต้ความหวังของเธอ
เราไม่ได้จ่ะอยู่คอยดูแลได้ขนาดนั้น
และเรื่องราวที่ผ่านๆมามันเกินจะทนมากๆละ
ทัศนคติ-1,11111111111111111111111111111111^
เราเลยทำร้ายนางให้เขากลัวเรื่องแบบนี้ไปอีกยาว
พูดตรงๆว่า"สุดจะทนแล้ว"เลยจะตัดเพื่อนทุกคนในชีวิต
แต่เรายังคุยกับคนที่3อยู่ นางก็เศร้ามากๆส่งข้อความทางเพื่อนเราต่างๆว่าเราเครียดมากกว่าเดิมนะ เพื่อนบูลลี่เรา
เลยมาย้ายรร.เดียวกัน ซึ่งรร.ที่เพื่อนคนอื่นก็มีคล้ายๆ ทำไมต้องเป็นรร.เรา
(ซึ่งเราไม่ได้เรียนที่นี่แล้วขอไม่บอกเหตุผลเรื่องนี้นะคะ)
นางสารภาพยังตั้งใจว่าอยากจะอยู่ด้วยกันอย่างเพื่อนดังเดิม
แต่ต่อให้เรากลับไปก็มองหน้าก็ไม่ติดแล้วหรือผิดหวังมาแล้วไม่ได้ไว้ใจได้ดังเดิมอีกต่อไป
เราเลยคิดว่าจะปลีกคนเดียวไปเลย เพราะสามารถอยู่คนเดียวได้ถึงแม้จะเหงา แต่พอเข้าสังคมได้ประปราย จะไม่ไปจริงใจกับใครให้หนักใจเรามากมายอีก
แต่เราอดห่วงเพื่อนไม่ได้เลยเพราะนางก็จะไม่มีเพื่อนอย่างเราคอยดูแลได้อีกแล้ว แต่ยังมีเพื่อนคนอื่นคอยเคียงข้างอยู่นะ
แต่ไม่ได้สนิทกับใครมากแล้วไว้ใจได้เท่าเรา
เรารู้คำตอบของตัวเองแล้วค่ะแค่อยากถามว่าทุกคนจะคิดเห็นหรือติด่าเรามาว่ายังไงคะ?(เพราะเคยบอกเพื่อนว่าถ้ามันทุกข์มากขนาดนี้เลยตายดีไหม?ถึงแม้มันไม่ควรทำแบบนี้กับเพื่อน ถ้าสิ่งที่เขาเจอไม่ไหวก็ปล่อยตามตัวเธอค่ะ)จะพยายามรับฟังให้ได้นะคะ😥
เราที่เป็นคนกลัวเรื่องความรักมากๆกับเพื่อนที่เป็นโลกซึมเศร้าบอกชอบ?
ขอใช้คำว่าเราแทนตัวนะคะ เรามีปมที่หนักในสมัยเด็กกับการที่พ่อแม่ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องใหญ่ พอถึงมันจะหายแล้วแต่มันก็ยังตราตึงในใจอยู่เลย
ตัวเราไม่ค่อยได้คิดอะไรเท่าไหร่ค่ะ
เพราะช่วงนั้นมัน5-6ขวบจำไม่ได้มาก
ตอนเด็กเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง,มีแต่งานค้าง,คอยทำให้คนอื่นลำบาก,งี่เง่าเกเรกับคนอื่นบ่อยพอควร จึงทำให้ไม่มีเพื่อนบ้างแหละ (แต่พอจะเข้ากับใครก็ได้นะคะไม่ได้เกเรมากขนาดนั้น)
แล้วก็เรียกร้องความสนใจโดยการ
อยากจะมีแฟนค่ะ เพราะคิดว่าใครๆก็มีความสุขเมื่อได้มีความรัก
แต่พอเรามีจริงๆกับเป็นความรู้สึกที่เฉยชา และก็กำลังเรียนอยู่ เขาก็คงโกรธมากที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ตัวเราเลยคิดไปว่า เรายังไม่มีความรับผิดชอบพอที่จะใช้ชีวิตกับใคร เราพาเขาให้อยู่ห้วงแห่งนี้เองไม่ได้รับรู้เลยว่าเขาอยากอยู่ด้วยกันไหม?
มันทำให้เรามีทัศนคติ-1ติดมา
พอขึ้นชั้นปีมัธยมเราเลยคิดว่าจะปรับตัวให้ดีกว่าแต่ก่อน ในช่วงเวลานั้นเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆค่ะ เพราะเราได้ตั้งใจเรียนและทำในสิ่งที่อยากทำมากขึ้น จนผลการเรียนดี ได้ทำอะไรที่พิเศษหลายๆอย่าง จนทำให้คนบางคนมาชอบเราค่ะ
โดยเป็นเพื่อนในห้องเราเขาเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆและเฟรนลี่กับทุกคน
จนหนูเผลอไปชอบเขาค่ะ5555
แต่ความรู้สึกและความคิดมันบอกตัวเองไปว่า
"เธอน่ะยังไม่เหมาะกับเขาหรอก เขาก็ไปหาคนดีๆคนอื่นก็ได้ เธออยากทำในสิ่งที่ทำก่อนนิ ตัดใจซะเถอะ"
เลยทำให้ติดอยู่ในใจตลอด พยายามถอยห่าง พยายามไม่คุยกับเขา
ไม่สนเขา
จนเขาเศร้าแล้วก็ไม่กลับมาเป็นดั่งเดิมอีกค่ะ
ถึงอาจจะเป็นเรื่องดีแต่กับทำให้เราเสียใจมากกว่าเดิม แล้วพวกเราจะทนอย่างงี้ในห้องต่อไปหรอ? ทัศนคติ-10เลยค่ะ
มันทำให้เราโดนกดด้วยแรงไรบางอย่างเราไม่ได้กลับมาเป็นดั่งเดิมได้แล้ว ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองในวันวานเลยจนซึมอยู่หลายสัปดาห์ค่ะ
พอเราขออยู่กับตัวเองสักพักใหญ่ก็มีเพื่อนคนนึงเข้ามาในชีวิตเราค่ะ ช่วงแรกไม่ได้ชอบนางเท่าไหร่หรอก
แต่พอปลีกตัวอยู่คนเดียวก็เหงา เลยสนิทกับเขาเป็นเพื่อนค่ะ คอยเป็นที่พึ่งเราในการลอกการบ้าน555666
และคุยเรื่องราวทุกข์ๆมาด้วยกัน
เราควรจะพอกับเรื่องอะไรแบบนี้ได้แล้วเราก็พึ่งเขาจนน่าเกลียดเกินไปและอย่าไปไว้ใจจริงใจกับใครให้มาก
และเราก็ได้มีเพื่อนเพิ่ม5-6คน แล้วเราก็บอกพวกเขาชัดเจนกับพวกเขาว่า
"เราไม่ต้องการจะมีแฟนเพราะฉะนั้นถ้าคิดจะเลยเถิดเราคงเผลอตัดเพื่อนไปเลยเพื่อจะได้จบปัญหา"
จนพวกเราจบชั้นมัธยมต้นจะขึ้นมัธยมปลาย ด้วยสถานะการโควิดมันทำให้มีเรื่องอะไรหลายๆอย่างก็เครียดไปหมด ด้วยทางเงินแล้วอะไรหลายๆอย่าง
เราก็คุยกับเขาอย่างปกติ จนแล้วจนเล่านางได้บอกกับมาว่า
"เราเป็นโลกซึมเศร้านะ"
ซึ่งมันก็ทำให้เราตกใจพอควรเพราะนางก็ไม่ใช่คนแบบนี้ที่จ่ะเศร้าได้ตลอด
เราก็ทำได้แค่คอยช่วยปลอบ และเป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอ หาเรื่องอะไรสนุกให้เธอ เราจะพยายามไม่คุยเรื่องทุกข์ให้เขาฟังแล้ว
เพราะกลัวว่าจะทำให้เขาทุกข์กว่าเดิมอีก
(ในที่รร.ของเราสนิทกัน3-4คน จะมีบุคคลที่3คอยช่วยเราอีกแรง)
จนตอนนี้นางได้บอกชอบเพื่อนคนที่3
ของเราเอง ดูจะเลื่อนสถานะเป็นแฟนงี้
ซึ่งเราhappyและจี้กับเขามากๆ ไอตัวคนที่3มันก็ไม่ได้ชอบนางขนาดนั้น เราก็รู้ว่าเธอก็ฝืนๆรึเปล่าเพราะนางก็ดูพูดแบบนั้นไปไม่มีเหตุผลอะไรที่ชอบเขามากขนาดนั้นเลย เราดูออกว่าเขาหวังว่าจะให้อยู่ด้วยกันไรกับเขาไปตลอด
เราเลยพูดไปตามตรงคือ
"แกก็ไม่ได้ชอบเขาจริงจังเลยนะ แกฝืนหรือหวังอะไรกันแน่"
นางจึงบอกความจริงว่า
"เราไม่ได้ชอบเขาแต่นางชอบเรามากกว่า"
พูดไม่ทันไรรีบปฏิเสธโดยทันทีมันทำให้เราโกรธมากว่า อยากจะเลยเถิดสถานะเพื่อนทำไมในเมื่อเราก็ชัดเจนกันแล้วว่าเพื่อนกันก็ดีอยู่ละ
เราไม่ได้อยากอยู่ใต้ความหวังของเธอ
เราไม่ได้จ่ะอยู่คอยดูแลได้ขนาดนั้น
และเรื่องราวที่ผ่านๆมามันเกินจะทนมากๆละ
ทัศนคติ-1,11111111111111111111111111111111^
เราเลยทำร้ายนางให้เขากลัวเรื่องแบบนี้ไปอีกยาว
พูดตรงๆว่า"สุดจะทนแล้ว"เลยจะตัดเพื่อนทุกคนในชีวิต
แต่เรายังคุยกับคนที่3อยู่ นางก็เศร้ามากๆส่งข้อความทางเพื่อนเราต่างๆว่าเราเครียดมากกว่าเดิมนะ เพื่อนบูลลี่เรา
เลยมาย้ายรร.เดียวกัน ซึ่งรร.ที่เพื่อนคนอื่นก็มีคล้ายๆ ทำไมต้องเป็นรร.เรา
(ซึ่งเราไม่ได้เรียนที่นี่แล้วขอไม่บอกเหตุผลเรื่องนี้นะคะ)
นางสารภาพยังตั้งใจว่าอยากจะอยู่ด้วยกันอย่างเพื่อนดังเดิม
แต่ต่อให้เรากลับไปก็มองหน้าก็ไม่ติดแล้วหรือผิดหวังมาแล้วไม่ได้ไว้ใจได้ดังเดิมอีกต่อไป
เราเลยคิดว่าจะปลีกคนเดียวไปเลย เพราะสามารถอยู่คนเดียวได้ถึงแม้จะเหงา แต่พอเข้าสังคมได้ประปราย จะไม่ไปจริงใจกับใครให้หนักใจเรามากมายอีก
แต่เราอดห่วงเพื่อนไม่ได้เลยเพราะนางก็จะไม่มีเพื่อนอย่างเราคอยดูแลได้อีกแล้ว แต่ยังมีเพื่อนคนอื่นคอยเคียงข้างอยู่นะ
เรารู้คำตอบของตัวเองแล้วค่ะแค่อยากถามว่าทุกคนจะคิดเห็นหรือติด่าเรามาว่ายังไงคะ?(เพราะเคยบอกเพื่อนว่าถ้ามันทุกข์มากขนาดนี้เลยตายดีไหม?ถึงแม้มันไม่ควรทำแบบนี้กับเพื่อน ถ้าสิ่งที่เขาเจอไม่ไหวก็ปล่อยตามตัวเธอค่ะ)จะพยายามรับฟังให้ได้นะคะ😥