[บทความพิเศษ] ก้าวสู่ปี 2022 ปีสุดท้ายแห่งความ "ภาคภูมิใจ?" ของสมาชิกรุ่น 1 ในฐานะ BNK48

กระทู้สนทนา
(1/2)

อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่คือปี 2022 และเป็นปีที่แฟนคลับ BNK48 หลายคนมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่า “เป็นปีที่เมมเบอร์รุ่น 1 หมดสัญญา” แฟนคลับทุกคนน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าเมมเบอร์รุ่น 1 บางส่วน ไม่ต้องการที่จะต่อสัญญา ต้องการที่จะออกไปโบยบิน ต้องการจะออกไปทำในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา และด้วยเหตุผลอีกหลายประการ  ที่ยืนยันชัดเจนว่าจะต่อสัญญาก็มีเพียงแค่ 2 คนคือ “เปี่ยม” และ “ซัทจัง” เท่านั้น ถ้าใครเคยได้ยินได้ฟังจากที่เมมเบอร์รุ่น 1 บางคนเคยพูดในไลฟ์ไว้ว่า ได้มีการเข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่ของอฟช.ในเรื่องของสัญญากันแล้ว แล้วสัญญาใหม่ที่ทางผู้บริหารจะยื่นเสนอให้กับเมมเบอร์รุ่น 1 นั้นจะมีข้อเสนอข้อไหนบ้างที่จะสามารถโน้มน้าวใจให้รุ่น 1 ตัดสินใจต่อสัญญาในฐานะสมาชิก BNK48 ต่อไปได้ แล้วหากสมมติว่าเมมเบอร์เลือกที่จะไม่ต่อจะกลายเป็นศิลปินในสังกัด iam หรือไม่ หรือไม่ต่อแล้วเป็นอิสระได้เลย นั่นก็คือสิ่งที่ยังไม่กระจ่างชัด หรือเราอาจจะพอทราบมาบ้างแล้ว
          เรื่องการต่อสัญญาของรุ่น 1 คือเรื่องที่แฟนคลับลือและพูดถึงกันเป็นวงกว้างมาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว เมื่อเรื่องสะพัด แฟนคลับก็เข้าไปถามเมมให้หายข้องใจ เมมบางคนก็ตอบตรงบ้าง อ้อมบ้าง ไม่ก็สงวนท่าทีแล้วอ้างว่าต้องดูสัญญาใหม่ก่อน อย่างนั้นอย่างนี้ก่อน ถึงแม้เรื่องราวการต่อสัญญาในขณะนี้จะดูยังไม่ชัดเจนมากเท่าไหร่ เพราะยังเหลือเวลาอีก 1 ปีเต็ม กว่าที่เมมเบอร์รุ่น 1 จะหมดสัญญา และที่สำคัญ ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของเมมเบอร์ และทัศนคติของตัวเมมเบอร์ทั้งสิ้น เราคงทำได้แค่รอดูท่าทีกันต่อไปว่าระหว่างนี้เมมเบอร์คนไหนออกมาพูดถึงเรื่องต่อสัญญาว่ายังไงบ้าง และคำตอบที่ดีที่สุดที่เราจะได้รู้ว่าใครจะอยู่ ใครจะไป อยู่ในอีก 1 ปีข้างหน้า ปลายปี 2022
            อย่างที่ทราบกันมาว่า ปี 2022 จะเป็นปีที่เราได้เห็นงานแสดงต่าง ๆ ของสมาชิก BNK48 กันอย่างท่วมท้น ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์รวมแล้วเป็น 10 กว่าเรื่อง และยังมีคอนเท้นต์กับกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ซิงเกิลใหม่ งานเลือกตั้ง งานกีฬาสี งานจับมือ งาน 2-shot ตู้ปลา เธียเตอร์ และ คอนเสิร์ต หากในปีหน้า ประเทศไทยไม่โดนโควิดระบาดหนักอีกครั้งจนต้องปิดประเทศแล้วส่งผลให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักงันเหมือนอย่างที่ผ่านมา แน่นอนว่าโปรเจ็คต่าง ๆ ของวงก็ต้องหยุดชะงักตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเราก็ต่างภาวนาและคาดหวังว่าโควิดจะไม่กลับมาแพร่งพรายอีกในปีใหม่นี้ เพื่อที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะได้ดำเนินต่อไป 
            ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางอฟช.และเมมเบอร์ยังคงมีความคิดที่จะไปจัดคอนเสิร์ตที่ราชมังคลากีฬาสถานอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ เหมือนกับยูนิต VYRA และซีรีส์ The Girlfriend Planner ที่อฟช.ยังยืนกรานตอบว่ายังคงมีอยู่แม้จะไร้วี่แววและความเคลื่อนไหว ที่ผมต้องเอาเรื่องการจัดคอนเสิร์ตที่ราชมังมาพูดซ้ำซากแทบทุกกระทู้เนี่ย เพราะนี่คือสิ่งที่เป็นความใฝ่ฝันของอฟช.และเมมเบอร์รุ่น 1 มาตั้งแต่ช่วงที่กำลังโด่งดังสุด ๆ จากคุกกี้เสี่ยงทาย และยังเป็นความฝันของแฟนคลับหลายคนด้วย เพราะถ้าหากว่าในปีหน้านี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในประเทศไทยราบรื่น มีแนวโน้มที่ดีขึ้นไปอีก หรือภาครัฐอนุญาตให้มีการจัดคอนเสิร์ตได้แล้ว นี่ถือว่าเป็นโอกาสทองของ IAM ถ้าทาง IAM ต้องการจะจัดคอนเสิร์ตร่วมกันระหว่าง BNK48 กับ CGM48 ก็เตรียมความพร้อมได้เลยถ้ามีการไฟเขียวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเลือกใช้ทีมงานที่เป็นมืออาชีพ มีคุณภาพและมากประสบการณ์มาช่วยทำและจัดการให้ ผลงานคอนเสิร์ตจะได้ออกมาเป็นที่ชื่นชมของแฟนคลับที่เสียเงินเข้าไปรับชม หากรุ่น 1 ตัวท็อปออกจากวงไปเมื่อไหร่โอกาสที่ Iam จะไปจัดคอนเสิร์ตในสถานที่ใหญ่ ๆ อย่างราชมังอาจจะไม่มีทางทำได้อีกเลย ปีสุดท้ายของเมมเบอร์รุ่น 1 กำลังมาเยือนแล้ว ขอให้ iam จัดคอนเสิร์ตใหญ่อีกสักครั้งให้แฟนคลับหายคิดถึง ที่สำคัญต้องจัดให้ดี แสง สี เสียง จัดเต็ม เพื่อให้สมค่ากับที่เมมเบอร์รุ่น 1 เหน็ดเหนื่อย พยายาม ทุ่มเทให้กับวงมาตลอด 6 ปี
 
            ผมเคยคิดไว้ว่าในปีหน้า BNK48 มีงานเยอะขนาดนี้ บรรยากาศในการตามวงจะต้องกลับมาคึกคักเหมือนตอนคุกกี้เสี่ยงทายแน่นอน วงจะต้อง come back กลับมาแมสแน่นอน จนเป็นที่มาของกระทู้ 
ปีหน้า BNK48 จะกลับมาอยู่ในแสงสปอตไลท์เหมือน 4-5 ปีที่แล้วหรือไม่? https://ppantip.com/topic/41097328
ซึ่งเป็นกระทู้วิเคราะห์ที่สะท้อนถึง mindset ของตัวเองที่แสดงถึงท่าทีของ BNK48 ที่ในเวลานั้นทางวงมีงานลับหลายสิบงานที่ซุ่มทำไม่ยอมปล่อยออกมา และฟันธงไปว่ามี 2 สิ่งที่จะทำให้วงกลับมาดังคือ งานเพลง และ งานแสดง แล้วคำตอบที่ผมได้รับกลับมาจากทุกท่านในพันทิปก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิดเลย ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เพลงเท่านั้นที่จะทำให้วงกลับมาดังได้” แล้วผมเองก็ได้รับชมคลิปวิเคราะห์เรื่องเดียวกันในยูทูป แล้วสิ่งที่วิเคราะห์ไว้ในคลิปดังกล่าวก็ถูกต้องเป็นไปตามคำตอบในพันทิปเลยครับ เมื่อผมได้คำตอบจากทั้ง 2 ทางมาแล้ว ผมจึงสรุปความได้ว่า

งานแสดง – ถ้าผลงานการแสดงของเมมเบอร์ ถ่ายทอดออกมาดีจนได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ หรือส่งผลให้ภาพยนตร์และซีรีส์นั้นแมสขึ้นมา เมมเบอร์คนนั้นก็จะดัง ได้รับการยอมรับว่ามีฝีมือ และเมมเบอร์คนนั้นก็จะได้รับโอกาสในการแสดงอีกในโอกาสต่อไป เช่น มิวสิค และ เจนนิษฐ์ ที่แสดงนำใน Where we belong เป็นภาพยนตร์ที่มีพล็อตเรื่องที่แหวกแนวหนังไทยเดิม ๆ ตามสไตล์ของผู้กำกับอย่างพี่เล็ก คงเดช ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทุกฝ่ายต่างชื่นชม และตัวนักแสดงกับผู้กำกับก็เดินทางกวาดรางวัลไปทั่วทุกมุมโลก และในไทยด้วย แล้ว 2 คนนี้ก็ได้รับโอกาสในการแสดงอีกคนละ 2-3 เรื่อง 
งานเพลง - อีกไม่นานก็จะถึงเวลาที่อฟช.ต้องปล่อยซิงเกิลที่ 11 ออกมาแทนที่ซิงเกิลที่ 10 ที่โปรโมทมาร่วมครี่งปีแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าซิงเกิลที่ 11 จะเป็น Original Song แต่งเองหรือเพลงแปลจากของวงพี่ก็ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ทีมแปลเพลงหรือทีมเขียนคำร้องจะถ่ายทอดออกมาได้ดี ทำให้เนื้อร้องกลมเกลียวกับทำนองเพลงหรือไม่ อฟช.จะยอมลงทุนจ้างทีมทำเพลงทีมใหม่มาทำตามที่แฟนคลับเรียกร้องกันหรือไม่ ถ้าอฟช.ตัดสินใจที่จะให้ทีมทำเพลงทีมอื่นมาทำซิงเกิลหลักแทนทีมครูเอ๊ะสักครั้งหนึ่ง แล้วถ้าเกิดว่าทีมเพลงใหม่ทำผลงานออกมาดี ถูกใจผู้ฟัง จนแมสและได้รับความนิยมขึ้นมาจริง ๆ นั่นแหละคือสิ่งที่จะทำให้วงและเมมเบอร์กลับมาดังอีกครั้ง นี่คือวัฒนธรรมของ 48 group ที่แท้จริง เพลงจะเป็นประตูสู่การเรียนรู้วัฒนธรรม 48 group แล้วการที่ BNK48 จะกลับมาดังได้เพราะเพลงนั้น ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าอฟช.จะมีแผนอะไรบ้าง แล้วถ้าเซ็นบัตสึเหล่านี้เป็นนาง 12+1 อฟช.จะยื้อเมมเบอร์พวกนี้ไว้หรือไม่ในขณะที่สัญญาใกล้จะหมด
 
            ซิงเกิลที่ 11 และการเลือกตั้งครั้งที่ 3 ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเฌอปรางนี่แหละที่บอกมาว่าซิง 11 จะเริ่มดำเนินการและปล่อยออกมาในปีใหม่นี้ แน่นอนว่าตามธรรมเนียมของ BNK48 ซิง 11 จะมาพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งที่ 3 ของ BNK48 และครั้งที่ 2 ของ CGM48 เรื่องของเพลงนั้น มีกระทู้หนึ่งในพันทิปตั้งคำถามว่า “ซิง11 จะเป็นเพลงแปลหรือเพลง Original “ ก็มีคำตอบมาว่า “Original Song ทางญี่ปุ่นให้ออกแค่ปีละครั้งเท่านั้นเพื่องาน AKB48 Group Asia Fest” แล้วคำตอบส่วนใหญ่ก็ตอบไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นเพลงแปล เพราะฉะนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าในซิงเกิลที่ 11 นั้น อฟช.จะเลือกใช้เพลงอะไรจากวงพี่มาเป็นซิงหลัก แล้วจะมีใครเป็นเซ็นบัตสึบ้าง จะเป็นนาง 12+1 ตามสูตรอีกหรือไม่ แล้วในซิงรองอีก 2 เพลงนั้น เชื่อว่าจะต้องมีซิงเกิลเปิดตัวรุ่น 3 และเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ”ผ้าผีบอก” อยู่ในชุดเดียวกันนี้ด้วย 
 
            ในส่วนของการเลือกตั้ง จขกท.ก็เคยได้ยินมาว่าในวงพี่นั้น ถ้าเมมเบอร์คนไหนที่ไม่ต่อสัญญา คนนั้นจะไม่ลงเลือกตั้ง จขกท.ขอยอมรับก่อนเลยว่าไม่ได้ตามวงตระกูล 48 group วงไหนนอกจาก 48 group ของไทยเลย จขกท.ก็ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ เห็นเขาบอกมายังไงผมก็บอกต่อมาแบบนั้น ที่แน่ ๆ ในงานเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมมเบอร์ที่ไม่ลงเลือกตั้งมี 5 คน 2 คนที่ยังอยู่ คือ เปี่ยม กับ เคท อีก 3 คนที่แกรดออกไปแล้วก็คือ นิ้ง,อุ้ม และ แนทเธอรีน ผมคิดว่า งานเลือกตั้งครั้งที่ 3 ของ BNK48 อาจเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของรุ่น 1 ที่ไม่ต่อสัญญาก็ได้ เมมเบอร์รุ่น 1 จะตัวท็อปหรืออันเดอร์ยังไงก็ต้องมีคนตัดสินใจที่จะลงอยู่แล้ว รุ่น 2 ยังเหลืออีกครึ่งทางก็คงจะต้องลง รุ่น 3 น่าจะโดนบังคับลงตามสูตรเพราะนี่คือครั้งแรกของรุ่น 3 แต่เปี่ยมกับเคทจะลงเลือกตั้งครั้งที่ 3 หรือเปล่าก็ยังไม่ทราบเช่นกัน เมมเบอร์คนไหนเลือกที่จะลงหรือไม่ลง เราก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของเมมเบอร์
             เมมเบอร์ที่ผมคิดว่าน่าจับตามอง คือ น้ำหนึ่ง ถือเป็นเมมเบอร์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากทุกครั้งที่น้ำหนึ่งมาไลฟ์ในแอพ IAM48 คนดูทะลุ 2,000 ทุกครั้งที่ไลฟ์ ในขณะที่ท็อปเมมรุ่น 1 คนอื่นยอดคนดูก็อาจจะใกล้เคียงกัน บ้างก็พันกว่า ๆ ต่ำสุดก็ 900 ลงไปจนถึงต่ำกว่า 500 และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อฟช.ได้ปล่อย PV High Tension ในโปรเจ็คชราไลน์ออกมา ยอดคนดูทะลุ 1 แสนวิวตั้งแต่ทุ่มครึ่งเวลาที่ปล่อยจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เทรนทวิตเตอร์ก็แรงติดอันดับต้น ๆ ถ้าสมมติว่าน้ำหนึ่งตัดสินใจที่จะลงเลือกตั้งครั้งที่ 3 ผมเชื่ออย่างสุดหัวใจเลยว่าน้ำหนึ่งจะได้เป็นคามิ 7 อย่างแน่นอน ซึ่งผมเองก็หวังมาตั้งแต่เลือกตั้งครั้งที่แล้ว เห็นได้จากน้ำหนึ่งที่ได้เป็นเซ็นเตอร์ 2 เพลง คือ High Tension และ โดดดิด่ง บวกกับความนิยมจากแฟนคลับที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนั้น แต่น้ำหนึ่งติด 7 อันดับแรกแค่ประกาศผลด่วนครั้งแรกเท่านั้นคืออันดับ 5 ผลด่วนรอบสองและประกาศผลอย่างเป็นทางการก็หลุด 7 อันดับแรกไปเสียแล้ว น้ำหนึ่งผมถือว่าเป็นเมมเบอร์ที่น่าจับตามองที่สุดว่าจะติด 1 ใน คามิ 7 หรือไม่ถ้าเธอเลือกที่จะลงเลือกตั้งรอบนี้ เป็นเมมเบอร์อีกหนึ่งคนที่มีฐานแฟนคลับที่แน่นมาก 
            สถานการณ์ในประเทศยังไม่ทราบว่าจะมีทีท่าจะกลับไปชะงักงันเพราะโควิดอีกหรือไม่ ดูเหมือนว่าแฟนคลับ BNK48 ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเปย์หนักเท่าตอนที่วงกำลังพีคขั้นสุดแล้ว พวกที่มีกำลังเปย์หนัก ๆ ประเภทม้ามืดก็น่าจะยังอยู่ คนเหล่านี้อาจจะกลับมาสำแดงเดชอีกครั้งเมื่อถึงเวลางานเลือกตั้งครั้งที่ 3 ของวงก็เป็นได้
 แล้วบรรยากาศในการเลือกตั้งจะคึกคักยังไงต้องดูที่เมมเบอร์ที่จะลงเลือกตั้งด้วย ถ้านาง 12+1 ลงกันทุกคน หรือตัวท็อปสักคนไม่ลง บรรยากาศในการลุ้นและเลือกตั้งก็ต้องสนุกไปคนละแบบ ซึ่งผมวิเคราะห์ดังนี้
1.    ถ้า นาง12+1 ทุกคนลง บรรยากาศในการเลือกตั้งก็คงจะเช่นเดียวกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา ถ้าหากเฌอปรางลงเลือกตั้งรอบนี้ อาจจะมีความพยายามของด้อมเฌอปรางที่จะเอาเฌอปรางกลับมาเป็นอันดับ 1 ก็ได้ หลังจากที่เฌอพลาดไปในรอบที่ 2 เนื่องจากว่าเฌอได้อันดับ 2 ผมเชื่อว่านาง 12+1 น่าจะยังยืนหนึ่งใน 16 อันดับแรกเหมือนเดิม แต่อาจมีบางคนได้ไต่ขึ้นมาเป็นคามิ 7 หรืออาจมีการพลิกแพลงอันดับร่วงลงมาบ้าง อย่างมากก็เป็นอันเดอร์แต่น่าจะไม่กี่คน เมมเบอร์คนไหนที่อันดับคงที่ ก็อาจจะยังคงที่เช่นเคย อันดับของเมมเบอร์จะขึ้นจะลงยังไงนั้นก็สุดแล้วแต่ความนิยมของเมมเบอร์และการเปย์ของแฟนคลับ สุดท้ายแล้วผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการออกมาก็น่าจะไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในลำดับของเมมเบอร์แต่ละคนเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมาก็ตาม 
2.     หรือถ้าสมมติว่าท็อปเมมสัก 1-2 คนไม่ลงเลือกตั้ง (ขอไม่บอกชื่อจะดีกว่า เพราะท็อปเมมมีอยู่ไม่น้อยและเดี๋ยวจะเป็นการพาดพิง) บรรยากาศก็น่าจะดุเด็ดเผ็ดมันส์เพื่อช่วงชิงเมมเบอร์ตัวท็อปที่ลงที่คู่ควรกับอันดับ 1 จริงๆ โอกาสในการติดอันดับสูง ๆ งาม ๆ ของอันเดอร์เมมอาจมีมากขึ้น อันเดอร์เมมคนไหนที่ได้รับความนิยมจริงอาจเดชะบุญได้ขึ้นมาเป็น 1 ใน 16 อันดับแรกก็ได้
(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่