ปีหน้า BNK48 จะกลับมาอยู่ในแสงสปอตไลท์เหมือน 4-5 ปีที่แล้วหรือไม่?

กระทู้คำถาม
เวลานี้เราจะได้เห็นเมมเบอร์ BNK48 หลายคนได้กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากที่ต้องหยุดชะงักไปเพราะโควิดที่แพร่ระบาดมาอย่างยาวนานซึ่งกินเวลาจนแทบจะหมดปี 64 เมื่อสถานการณ์กลับมาดีขึ้น การทำงานตามแผนงานของวงก็กลับมาดำเนินงานได้อีกครั้ง หากยังจำกันได้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทาง Iam ได้นำเสนอแผนงานของเมมเบอร์ที่เน้นไปในด้านการแสดงภาพยนตร์และซีรีส์เป็นส่วนใหญ่ แถมยังมีงานลับอีกหลายสิบงานที่เราคงได้เห็นเมมเบอร์หลายคนลงโพสต์เป็นน้ำจิ้มให้ได้เห็นกันอย่างต่อเนื่องแล้ว โดยเฉพาะรุ่น 1 หลายคนที่ลงรูปที่ถ่ายจากห้องเดียวกันพร้อมกับตุ๊กตาน้องไก่ แก๊งชราไลน์ที่ยกทีมไปเชียงใหม่และอีกที่หนึ่ง  และแก๊งเห้ยที่ยกขบวนไปถ่ายตู้ปลาที่จันทบุรีและอีกหลายยูนิตที่น่าจะไปถ่ายตู้ปลาที่ต่างจังหวัดหรืออย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ แน่นอนว่าอฟช.ก็ยังคงกั๊กงานลับเหล่านั้นไว้และไม่สปอยออกมาเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า 2565 จะเป็นปีที่เราได้เห็นผลงานหลากหลายรูปแบบจาก BNK48 กันอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้งปี ปีหน้าจะมีงานไหนบ้างที่ทำให้ BNK48 กลับมาดังเป็นกระแสก็ไม่ทราบ แผนงานของ Iam ในปีหน้าจะมีอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้หรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้เช่นเดียวกัน 
นี่ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้บรรยากาศในตามวงกลับมาคึกคักมากขึ้นก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ทราบว่าจะคึกคักอย่างที่จขกท.คาดเดาไว้จริงหรือไม่ จะสามารถดึงแฟนคลับหน้าใหม่เข้ามาได้มากน้อยแค่ไหน สามารถดึงคนที่เลิกตามวงไปแล้วให้กลับมาตามอีกครั้งได้จริงไหม ทุกคำถามที่ถามมา คำตอบที่ได้ก็คือ คงทำได้แค่รอ

            ล่าสุด เฌอปรางได้กล่าวในไลฟ์ว่า แผนงานของ nasa กำลังจะกลับมาแล้ว ถ้ายังจำกันได้นี่เป็นการศึกษาดูงานด้านอวกาศที่อเมริกา  ซึ่งยูนิตนี้มี เฌอปราง น้ำหนึ่ง น้ำใส และมายยู อีกยูนิตหนึ่งที่จะได้ไปอเมริกาเหมือนกันก็คือ VYRA ถ้ายังจำกันได้นี่เป็นแผนที่มีมาตั้งแต่แรกเริ่มตอนที่ยังใช้ชื่อว่า LYRA คือการนำเมมเบอร์ 5 คน (เนยถอนตัวไปแล้ว) ไปฝึกซ้อมเป็นเวลา 1 เดือนถ้าจำไม่ผิด ถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดเจือจางลงและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แน่นอนว่ายูนิต nasa  และ VYRA ก็จะต้องเดินทางไปอเมริกาอยู่แล้ว แต่จะได้เมื่อไหร่ ได้ไปพร้อมกันทั้งสองยูนิตหรือไม่ ยูนิตไหนใครจะไปก่อนไปหลังก็ไม่อาจทราบได้

            รู้สึกว่าเวลานี้เหมือนเมมเบอร์จะสปอยงานลับกันออกมาบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ แค่ปูเป้โพสต์รูปอวยพรวันเกิดน้ำหนึ่งที่เป็นรูปคู่ คนในทวิตก็เดากันแล้วว่าเป็นงานลับอีกหรือไม่ ผมเห็นแบบนั้นผมก็ตามเช็คนะครับว่าเป็นภาพเก่าหรือเปล่า ปรากฏว่าดูไปดูมาไม่น่าจะใช่ภาพเก่าแน่ ๆ แบบตอนไปถ่ายทำไทบ้านก็ดูแล้วไม่น่าจะใช่ เพราะในรูปดังกล่าวเมมดูเป็นปัจจุบันมาก ในไลฟ์ของปูเป้เมื่อรอบล่าสุดก็เห็นพูดหลุดออกมาว่าทำสีผมเพื่อไปทำงานลับอะไรบางอย่าง ซึ่งในภาพนั้นปูเป้ก็ดูเหมือนจะทำสีผมเพื่องานที่ว่านั้นจริง ๆ หรืออย่างเมื่อวานนี้วันเกิดน้องนาย เจนนิษฐ์ผู้ซึ่งไม่ได้โพสต์อะไรเลยทั้งวันก็มาโพสต์ราว ๆ 5ทุ่ม-เที่ยงคืน เป็นสตอรี่ร้องเพลงอวยพรวันเกิดน้องนาย ขณะเดียวกันนายก็อยู่กับน้องฟ้อนต์ด้วย ใครเห็นแบบนี้ก็อดสงสัยว่าเป็นงานลับไม่ได้อีกสิครับ ผมเดาเลยว่า “ตู้ปลาออนทัวร์”

            หากในปีหน้า ประชาชนได้รับวัคซีนคุณภาพกันครบทั้งประเทศ การระบาดของโควิดจางลงมากพอที่จะทำให้ประชาชนไม่ต้องสวมใส่หน้ากากและมีระยะห่างอีกต่อไป โควิดจางลงมากพอที่จะทำให้จัดงานที่สามารถรวมคนเป็นจำนวนมากได้ดังเดิม เช่น งานกีฬาสี งานจับมือ งาน 2-shot งานมีตติ้ง และงานอีเว้นท์ของทางอฟช.ก็ควรที่จะต้องกลับมาจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนเสิร์ตก็เช่นเดียวกัน เนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่างรวมทั้งสัจธรรมที่ทำให้ BNK48 ในเวลานี้ไม่ได้รับความนิยมอย่างมากดังเช่นเมื่อ 4-5 ปีก่อน การจัดคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบที่ราชมังคลากีฬาสถานซึ่งเป็นความฝันของเมมเบอร์และอฟช. อาจทำให้ริบหรี่ลงไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นแล้วหากในปีหน้าสถานการณ์โควิดกลับมาระบาดหนักอีก งานคอนเสิร์ตและทุกงานอีเว้นท์ที่มีการรวมตัวผู้คนจำนวนมากก็ไม่มีทางหรือยากที่จะจัดได้ โดยเฉพาะเมมเบอร์รุ่น 1 หลายคนที่สัญญาใกล้จะหมดลงเต็มทีแล้ว หากมีตัวท็อปส่วนหนึ่งตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญา และถ้าถึงวันที่ BNK48 ไร้เมมเบอร์รุ่น 1 ตัวท็อป โอกาสที่วงจะได้ไปขึ้นแสดงที่ราชมังตามความฝันนั้น อาจจะติด 0 หรือไม่ก็เป็นไปได้น้อย หากปีหน้าสถานการณ์ดีขึ้นจริง ๆ หรือเกิดมีปาฏิหาริย์อะไรบางสิ่งบางอย่างที่ช่วยให้ BNK48 ได้ไปขึ้นเวทีแสดงที่ราชมังได้ ผมคิดว่า BNK48 จะต้องกลับมาเป็นที่พูดถึงในสังคมอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะในวงการดนตรีบ้านเรานั้น มีศิลปินแค่เพียงไม่กี่ท่านเท่านั้นที่ได้แสดงคอนเสิร์ตที่ราชมัง ศิลปินไทยที่ได้มาแสดงที่ราชมังนั้น ล้วนแต่เป็นระดับตัวท็อป ระดับแม่เหล็ก และระดับตำนานที่ได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงทั้งสิ้น เช่น อัสนี-วสันต์ คาราบาว เสก โลโซ และ บอดี้สแลม เป็นต้น ลองคิดดูนะครับถ้า BNK48 ได้มีโอกาสนั้นจริง ๆ แฟนคลับและเมมเบอร์ทุกคนจะภูมิใจขนาดไหน 

            การที่ BNK48 นั้น จะสามารถกลับมาอยู่ในแสงสปอตไลท์เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่โด่งดังจากคุกกี้เสี่ยงทายได้อีกหรือไม่ ต้องดูที่ผลงานต่าง ๆ ที่จะออกมาในปีหน้าด้วยว่าจะถูกจริตคนไทยมากน้อยแค่ไหน และรวมไปถึงการบริหารงานที่ปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้นของ Iam ด้วย ถ้าวันไหนที่ Iam เกิดกลับตัวกลับใจขึ้นมา แล้วรู้จักมีความรอบคอบ มีความซื่อตรง รู้จักใส่ใจทุกฝ่ายและทุกอย่างให้ดีกว่านี้ นี่ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ BNK48 กลับมาอยู่ในความสนใจของทุก ๆ คนก็เป็นได้
 จขกท.เองก็ดูทรงดูลักษณะอะไรต่าง ๆ และพิจารณาดูแล้วว่า ยังไงก็ต้องมีสักวันที่ BNK48 กลับมาดังได้ เพราะทุกวันนี้ BNK48 ก็น่าจะเป็นวงที่ยังคงยืนหนึ่งอยู่ เพราะเมมเบอร์ยังคงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ออกรายการวาไรตี้เกมโชว์อยู่เรื่อย ๆ ยังคงน่าจับตามอง ไม่เพียงเท่านั้นก็ต้องมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญอีก 2 ประการ

 ปัจจัยที่จะช่วยให้วงกลับมาดังอย่างแรกก็คือ “เพลง”
 อย่างที่แฟนคลับหลายคนท้วงติงอฟช.ว่าทีมประจำอย่างทีมครูเอ๊ะ ยังทำเพลงไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่ อย่างซิง 10 “ดีอะ” ซึ่งเป็น Original Song เพลงหลักเพลงแรกของวง เมื่อ BNK48 จะออกซิงหลักเป็นของตัวเอง ไม่ใช้เพลงวงพี่ หลายคนตั้งความหวังว่ามันจะต้องออกมาดีและแมส แต่เมื่อออกมา ก็อย่างที่คนบางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์นั่นแหละครับว่าการใช้คำร้องหรือทำนองที่ดูเหมือนจะเชย หรือจะไม่ลงตัวอะไรบางอย่าง ในขณะที่วงน้องอย่าง CGM48 ที่ออก Original Song เป็นซิงเกิลที่ 3 “มะลิ” ใครที่ได้ฟังก็จะรู้เลยว่าเพลงนี้ทำออกมาได้รสชาติขนาดไหน นี่คือการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมภาคเหนือกับวัฒนธรรมไอดอลญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวและลงรอย ในซิงเกิล 11 ซิงถัดไปของวง เท่าที่รู้มาว่าเวลานี้ยังไม่มีแพลนที่จะกำหนดออก มีประกาศภายในกันไปแล้วบ้างหรือยังก็ไม่ทราบ และเช่นเดียวกัน เราก็ไม่อาจทราบได้อีกว่าทางวงจะเลือกใช้เพลงจากวงพี่หรือแต่งเองอีก สิ่งที่จะตามมาพร้อมซิง 11 นั้นก็คือการเลือกตั้งครั้งที่ 3 อยู่แล้ว เราก็ไม่ทราบอีกว่าเมมเบอร์คนไหนจะลงหรือไม่ลง เมื่อถึงเวลาของการออกซิง 11 ยิ่งเป็นช่วงเวลาอันน้อยนิดของรุ่น 1 อีกด้วย หากรุ่น 1 ทุกคนลงเลือกตั้งจริง ๆ นี่ก็อาจเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในนาม BNK48 ของรุ่น 1 บางคนที่จะไม่ต่อสัญญาก็ได้ จขกท.คิดว่าเริ่องราวของซิง 11 และการเลือกตั้งครั้งที่ 3 นั้น จะเกิดขึ้นภายในปีหน้าหากสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ในประเทศมีทิศทางที่ดีขี้น

ปัจจัยที่ 2 ที่จะช่วยให้วงกลับมาดังก็คือ “งานแสดง” 
Girl’s Don’t Cry – หนังสารคดีเรื่องแรกของวง ที่มีเนื้อหาบอกเล่าถึงความพยายาม ความเหน็ดเหนื่อย การต่อสู้ และการแข่งขันของเมมเบอร์รุ่น 1 สร้างความประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อย เพราะออกฉายในช่วงเวลาที่ BNK48 กำลังคงได้รับความนิยมอยู่ หนังเรื่องดังกล่าวได้รับโอกาสออกฉายตามงานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศไปทั่วทุกมุมโลก 
Where we belong - อีก 1 เรื่องที่ประสบความสำเร็จในไทยและเทศ หลังจากที่หนังออกฉาย 2 นักแสดงนำอย่างมิวสิค เจนนิษฐ์ และผู้กำกับอย่างพี่เล็ก คงเดช เดินสายรับรางวัลไปแทบจะทั่วทุกมุมโลก พร้อมกันนั้นก็นำออกฉายตามเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศอีกเหมือนเคย ในช่วงต้นปี หนังเรื่องนี้ได้กวาดรางวัลในงานสุพรรณหงส์ไปแทบจะทุกรางวัลที่งานสุพรรณหงส์ได้กำหนดไว้จริง ๆ 
 ไทบ้าน X BNK48 - ประสบความสำเร็จในด้านของเพลงประกอบอย่าง “โดดดิด่ง” ซึ่งตอนนี้ยอดวิวทะยานไป 170 กว่าล้านวิวแล้ว เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงที่หลายคนตั้งใจจะนำมาเปิดในช่วงสงกรานต์ ซึ่งก็ผ่านมา 2 สงกรานต์แล้วยังไม่มีโอกาสได้เปิดซักที ยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ถูกจริตคนไทยเป็นอย่างมาก ด้วยจังหวะมันส์ ๆ สไตล์อีสานที่ได้รับความนิยมกันอยู่แล้ว ที่สำคัญเพลงดังกล่าวได้รับรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในงานสุพรรณหงส์เมื่อต้นปีอีกด้วย ถือเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของเพลงโดดดิด่ง

            ในปีหน้า จะมีภาพยนตร์และซีรีส์ที่มีเมมเบอร์ BNK48 ร่วมแสดงประมาณ 10 กว่าเรื่อง หากในแผนงานปี 65 ของ BNK48 Iam มีการนำเสนอผลงานการแสดงชิ้นใหม่ ๆ ของเมมเบอร์เพิ่มเติมเข้ามาอีกนอกเหนือจากนี้ และมีมากมายหลายเรื่องพอ ๆ กับของปีนี้ ก็แทบจะกล่าวได้ว่า ในปี 2565 เราจะได้เห็นผลงานการแสดงของเมมเบอร์วงนี้ทะลุ 20 เรื่องก็อาจจะเป็นไปได้ ซึ่งผมเองก็หวังว่าจะได้เห็นเมมเบอร์คนอื่นที่นอกเหนือจากเฌอปราง มิวสิค เจนนิษฐ์ ปัญ อร โมบายล์ ร่วมอยู่ในงานแสดงชิ้นใหม่ของปีหน้านี้ด้วย 

            ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงที่เมมเบอร์หลายคนฝึกซ้อม และ ซุ่มทำงานลับต่าง ๆ กันอย่างต่อเนื่องไม่เว้นวัน เชื่อว่าในปีหน้านี้เราคงจะได้เห็นผลงานของเมมเบอร์และวงในรูปแบบต่าง ๆ ตามช่องทางต่าง ๆ กันอย่างเต็มอิ่มชนิดที่ทำให้ต้องตามไม่ทันแน่ๆ ทำให้จขกท.อดนึกถึงช่วงคุกกี้ไม่ได้จริง ๆ ครับ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนหันไปทางไหนก็เจอแต่ BNK48 ทั้งนั้น ผมหวังว่า บรรยากาศยุคทองของ BNK48 แบบเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วจะหวนกลับคืนมาอีกครั้งในปี 2565 นะครับ แต่ไม่แน่ชัดว่าจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ หรือไม่

ปล. ถ้าหากว่า BNK48 มีความคืบหน้าหรือมีเรื่องราวอะไรที่น่าชวนให้คิด ชวนให้ติดตาม ผมจะขออนุญาตลงบทความวิเคราะห์ BNK48 แบบนี้ทุกวันศุกร์นะครับ หรือถ้าสะดวก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่