สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้จะมารีวิวทริปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว

เริ่มกันที่การอบรมเกี่ยวกับเส้นทางการเดินศึกษาธรรมชาติครึ่งวันก่อนวันเดินจริง ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนต้องตรวจ ATK ก่อนเข้าอบรม จะนำมาเองหรือมาซื้อที่เทศบาลตำบลแม่นะ (สถานที่จัดอบรม) ก็ได้

เมื่ออบรมเสร็จจะได้รับบัตรประจำตัวว่าผ่านการอบรมแล้ว มีอายุ 2 ปี ถ้าปีหน้ามาอีกก็ไม่ต้องอบรมสามารถขึ้นได้เลย และบัตรนี้เราจะใช้ลงทะเบียนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ในตอนเช้าก่อนเดินทาง

เริ่มลงทะเบียนเวลา 8 โมงเช้า มีมัดจำขยะคนละ 500 บาท และชั่งของลูกหาบ 1 คนจะแบกได้ 20 กิโล (ลูกหาบจองตั้งแต่ที่จองทริปในระบบ) และเจ้าหน้าที่จะแจกถุงที่บรรจุอุปกรณ์การเข้าห้องน้ำ เนื่องจากดอยหลวงเชียงดาวเป็นเขตพื้นที่สงวนชีวมณฑล จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายหนักถ่ายเบาลงบนพื้นโดยเด็ดขาดเพราะจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ ในถุงประกอบด้วย ถุงปัสสาวะ (สีชมพู) 2 ถุง ถุงดำที่ย่อยสลายได้สำหรับถ่ายหนัก 4 ถุง และทิชชู่แห้ง 2 ห่อ

จากนั้นเราก็ขึ้นรถกระบะเพื่อออกเดินทางไปยังจุดสกัดทางเดินขึ้น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง บอกเลยว่าเมาตั้งแต่ยังไม่เดิน ไม่รู้กี่โค้งต่อกี่โค้ง โยกซ้ายโยกขวา ถึงกับมึนฝุ่นตลบเลยทีเดียว 

กายไม่พร้อม ใจไม่พร้อม เราก็ต้องทำให้ได้มาขนาดนี้แล้ว 555555 มาดูกันกันว่าจะใช่ 8.5 กิโลแบบที่ป้ายบอกหรือเปล่า เวลาออกเดินประมาณ 10 โมงครึ่ง ลุย!!!! ป.ล.ข้างบนไม่มีน้ำโปรดเตรียมไปให้เพียงพอ

เส้นทางช่วงแรกเดินง่าย เดินชิลๆ ฟลูเทิร์นได้แบบสบายๆ เจอวิวสวยๆก็แวะถ่ายรูป

กลุ่มนี้เรื่องกินเรื่องใหญ่ เดินได้ชั่วโมงเดียวหิวข้าวยกแก๊ง จอดสิครับรออะไร เนื่องจากกินก่อนชาวบ้านชาวเมืองทำให้อยู่รั้งท้ายสุด เจ้าหน้าที่นักสื่อความหมายที่ปิดท้ายนักท่องเที่ยวจึงเดินมาบอกว่าถ้าถึงช้าจะไม่ได้ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตก เท่านั้นแหละ จ้ำอ้าว 

อ่อนแอก็แพ้ไป คำเตือน ไม่ควรใส่กางเกงขาสั้นเวลาเดินป่า แมลงกัดขาไปสิ

เธอๆ เห็นเต่างอย เอ้ย เต่าล้านปีไหม จินตนาการมีค่ามากกว่าคำสอน

ถึงสามแยกปากวัวนั่นหมายความว่าท่านได้เดินมาครึ่งทางแล้ว ทีมอื่นก็พักกินข้าวไป ทีมเรากินมาแล้วก็เดินต่อจ้าาา 

ดงกล้วยก็มา

มาถึงฟอสซิลหอยก็อีกไม่ไกลแล้วสินะ

ในที่สุด ความพยายามอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่นั่นแหละ เหนื่อยโฮกกกกกก บ่ายสามครึ่งเราก็มาถึงจุดกางเต๊นสักที ตับแตก แต่ม้าเร็วทีมเรามาถึงตั้งแต่บ่ายสอง มาถึงก่อนลูกหาบอีก รีบไปไหนกันหรอ รู้จักการแวะถ่ายรูปริมทางมะ 555555

เดี๋ยวน้องจะกลายเป็นเจล

กางเต๊นเสร็จก็ไปทำธุระส่วนตัวกันเถอะ ถุงชมพูไม่ย่อยสลายต้องเอาลงมาทิ้งข้างล่าง ส่วนถุงดำหย่อนน้องเบาๆ ลงหลุมดำได้เลยจ้า เมื่อพร้อมแล้วก็ไปขึ้นยอดชมพระอาทิตย์ตกกันเถอะ

นั่งรอน้องดวงลับขอบภูเขา

ยืนส่งน้องสวยๆ

เดินขึ้นอีกประมาณ 2 กิโล ขนาดเดินตัวเปล่าก็เหนื่อยเอาเรื่องมาก ขึ้นๆ ดึงๆ ปีนๆ วิวจริงคือสวยกว่าในกล้องเป็นพันเท่า แฮปปี้กันถ้วนหน้า พอตกปุ๊บหนาวปั๊ป เตรียมเสื้อกันหนาวกันขึ้นไปด้วยน้าา พรุ่งนี้เจอกันตี 5 ลงไปกินข้าวที่เราหิวกันเถอะ บ๊ายบายน้องดวง

ที่นี่ห้ามก่อกองไฟ ใช้เตาแก๊สปิกนิกได้ อาหารก็จะเป็นอะไรง่ายๆ น้ำพริก ปลากระป๋อง หมูแดดเดียว อากาศหนาวและน้ำค้างแรงบวกกับความเหนื่อยล้าเกินกว่าจะนั่งเม้ามอยต่อกันได้ สามทุ่มจึงพากันแยกย้ายนอนหลับฝันหาหวย 

น้องมาตามนัด

น้องกวางก็มา 7 องศา เบาๆ

แล้วเจอกันใหม่นะเชียงดาว

ขากลับให้พี่คนขับแวะสวนส้มและร้านกาแฟอีกสักกะนิดสักกะหน่อย ปิดจบทริปสวยๆ ขอบคุณทุกค่ะ ส่วนใครที่อยากได้ข้อมูลรายละเอียดการจองต่างๆ ติดตามที่เพจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวได้เลยค่ะ เจอกันใหม่ทริปหน้าจ้าาา