ถ้าเป็นปีที่แล้วก็ The Penthouses ของช่องSBS ที่ผลงานเรตติ้งทะลุ 30% นักแสดงโด่งดังเป็นพลุแตก จนมีseason 2,3 กระแสก็ยังดีต่อเนื่อง
ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่มีซีรีส์ที่เป็นม้ามืด ที่ฉายออกมาอยู่ดีๆก็ดังเปรี้ยงสุดๆขึ้นมา เราให้ 5 อันดับแรก คือ

1. Netflix 'Squid game' ไม่ต้องพูดอะไรมาก ดังสุดในระดับทั่วโลกจริงๆ เรียกได้ว่าสะนั่นทั้งในจอหนังและโซเชี่ยล นักแสดงจากโนเนมกลายเป็นคนดังในพริบตา เอาจริงๆพล็อตอาจดูเหมือนซีรีส์แนวเซอร์ไววัลธรรมดาทั่วไปเล่นเกมเอาตัวรอดเพื่อล่าเงินมีเยอะแยะ งบในการสร้างฉากชุดตัวละครโดยรวมคือไม่น่าดัง แต่ Squid Game มีความแตกต่างด้วย บทที่ไร้ความปราณี ความง่ายของกติกาที่ทำให้เกมน่ากลัวกว่าเดิม งานอาร์ตไดเรกชั่น มุมกล้อง และการจัดแสงที่โดดเด่น เพลงประกอบที่ชวนกดดันและเพิ่มความเหนือจริง และความหมายแฝงที่อัดแน่นในทุกอณูทำให้ยิ่งดูยิ่งเห็นภาพของชีวิตจริงซ้อนทับกับเหตุการณ์ในเรื่อง เพราะทุกด่านและกฏกติกาต่างเป็นภาพสะท้อนของโลกภายนอก จึงเป็นจุดพลิกผันของวงการซีรีส์เกาหลีอีกระดับหนึ่ง



2.tvN 'Vincenzo' ไม่แน่ใจจะเรียกว่าม้ามืดได้ไหม555 ได้พระเอกแถวหน้าอย่างซงจงกิที่กลับมาคัมแบคอย่างยิ่งใหญ่จริงๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะดังขนาดนี้ ด้วยแนวซีรีส์เป็นแนว Black comedy พระเอกลุคมาเฟียอิตาลีสุดโหดสุดเก๊กออกแนวตลกโอเวอร์แอ็กติ้งจัดเต็ม แต่เนื้อเรื่องเข้มข้นพลิกกลับไปมาเข้มข้นดาร์คบีบหัวใจมาก จิกกัดเสียดสีได้เจ็บแสบ แนะนำให้ดูเพราะไม่สามารถเดาทางที่จะเกิดในตอนต่อ ๆ ไปได้เลย เรตติ้งสูงสุดอยู่ที่16.2 ถือว่าเยอะมากสำหรับช่องเคเบิ้ล



3.tvN 'Hometown Cha-Cha-Cha' ขออวยเรื่องนี้สุดๆยกให้เรื่องนี้เป็นระดับ A list เป็นเรื่องเดียวในปีนี้ที่ทำใหเราลงแดงต้องดูทุกสัปดาห์
ดูรวม ๆ แล้ว ‘โฮมทาวน์ ชะชะช่า’ ก็ดูคล้ายกับซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ทั่วๆ ไป ที่ขายความน่ารักกุ๊กกิ๊ก เคมีของพระเอกนางเอก เหมือนที่ผู้กำกับยูเจวอนเคยพูดไว้ตอนแถลงข่าวว่า “นี่ไม่ใช่ซีรีส์ที่มีเหตุการณ์ มีปมใหญ่ ๆ แต่เป็นเรื่องราวเล็กๆ ของชีวิตประจำวัน” เสน่ห์ของเรื่องเลยไม่ใช่ความแปลกใหม่ แต่เป็นความอบอุ่นที่ช่วยเยียวยาหัวใจในวันที่เรารู้สึกเหนื่อยล้า จริงอยู่ว่าเรื่องนี้เล่นมุขซ้ำ ๆ ที่เราเห็นในซีรีส์อยู่บ่อย ๆ ให้หลายจุด ความบังเอิญจนเกือบน้ำเน่า และในบางครั้งเหตุผลของตัวละครอาจจะดูอ่อน ๆ ไปบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่เมื่อมีตัวละครที่เข้าถึงง่าย ชวนให้หลงรัก นักแสดงที่มีเสน่ห์ เคมีล้นจอ และบทที่มีข้อดี ๆ ให้เราคิดตามได้ทุกตอนโดยไม่รู้สึกว่ายัดเยียด ไปจนถึงองค์ประกอบศิลป์ที่ดีงาม ฉากสวย มุมกล้องและงานภาพก็สบายตา และเพลงประกอบซีรีส์ที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษว่าเพราะทุกเพลง 


4.Netflix ‘My Name’ เป็นซีรีส์แนว revenge drama หรือแนว ‘ข้ามาเพื่อแก้แค้น’ ที่เล่าเรื่องเรียงไปแบบคลาสิคเรียงลำดับไปตั้งแต่ต้นจนจบ แต่มีเสน่ห์ที่การผสมองค์ประกอบของหลาย ๆ แนว อย่าง แอคชั่น ไขปริศนา ทริลเลอร์ที่มีเรื่องให้ลุ้นอยู่เรื่อย ๆ และโดดเด่นด้วยความองค์ประกอบของความเป็นฟิลม์นัวร์ ที่สะท้อนด้านมืดของจิตใจมนุษย์ผ่านทางงานภาพที่ใช้สีสันโทนค่อนข้างมืด เหมาะสมกับความดาร์คของเรื่อง เข้าคู่กันได้ดีกับเพลงประกอบที่มีจังหวะหนักหน่วง ซีรีส์เล่าเรื่องได้สนุกให้ความรู้สึกแปลกใหม่ แม้จะมีเส้นเรื่องที่คุ้นเคย เพราะถึงเรื่องจะอยู่ในกรอบของละครแนวแก้แค้น แต่พอเปลี่ยนตัวนำ เอาผู้หญิงมาเป็นตัวเดินเรื่อง และ ฉีกภาพเดิม ๆวางให้ตัวละครจีอูเน้นต่อสู้ด้วยการใช้กำลัง My Name จึงเป็นการเหมือนประกาศว่าตัวละครหญิงสามารถนำหนังแอคชั่นได้ และเรื่องก็ออกมาสนุกไม่แพ้เรื่องที่ผู้ชายเป็นตัวนำ


5.tvN 'Yumi's cell' ขอแหวก เป็นซีรีส์น้ำดีอีก1เรื่องที่เราต้องเก็บไว้ในลิส เล่าถึงชีวิตธรรมดาของ ‘ยูมี’ ที่ถูกเล่าอย่างไม่ธรรมดา ผ่านเซลล์ต่างๆในสมองของเธอ ซีรีส์ที่สนุก น่ารัก ดูเพลิน ย่อยง่าย คลายเครียด แถมแฝงไว้ด้วยเนื้อหาดี ๆ ฮีลหัวใจในวันที่อ่อนล้า ผสมผสานความเป็น Live-Action เข้ากับ Animation ได้อย่างลงตัว และเป็นครั้งแรกของซีรีส์เกาหลีที่นำเสนอในรูปแบบนี้ด้วย เป็นซีรีส์ที่เรียลมากจริงๆ ได้เห็นความรักความสัมพันธ์ในมุมมองของแต่ละฝ่ายทั้งชายหญิง ดูแล้วได้ข้อคิดในเรื่องความสัมพันธ์ของคู่รักมาก เราดูเรื่องนี้คือมีทั้งความสุข ความเศร้า ยิ้มหัวเราะร้องไห้ไปจริงๆ


เพื่อนๆคนไหนอยากแนะนำซีรีส์สนุกๆแนะนำได้เลยนะคะ ไม่จำเป็นต้องเรตติ้งดีก็ได้ ขอแค่สนุกในใจของแต่ละคน
ขอบพระคุณรีวิวบางส่วนจาก https://workpointtoday.com/writer/วาดฝัน-คุณาวงศ์/