บทแทรกเกี่ยวกับไหมอีรี่ เสริมเรื่อง Chiang Mai Design Week 2021 ในเรื่อง "ฝ้าย ซอ คำ"
ในการเขียนกระทู้ที่แล้วในเรื่องของ Chiang Mai Design Week 2021 ผมได้ระบุไว้ว่า หากเรื่องใดที่จะเขียนเสริม
จะขอแยกออกมาเป็นบทความใหม่ ด้วยเหตุผลก็คือ
ไม่ต้องการให้กระทู้นั้นดูไม่เป็นการชมงานสักเท่าไร
...จนเมื่อมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับบางท่าน ที่ถามเกี่ยวกับจุดแสดงในงานที่มีการย้ายก็คือ "ฝ้าย ซอ คำ"
มันจึงเป็นแรงผลักดันให้คิดอยากจะเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาทันที
เพราะผู้เข้าชมต่างก็ถามกันว่า ผ้าไหมอีรี่ มันอะไร ยังไง และอีกสารพัดเกี่ยวกับผ้าไหมอีรี่
ผมจึงคิดว่าควรทำความเข้าใจกับเรื่องนี้กันเสียก่อนจะดีกว่า จึงเขียนกระทู้นี้ขึ้นมานั่นเองครับ
......................................................................................................................................................................................................
เรามารู้จักกับเจ้าไหมอีรี่นี่ว่ามันเป็นอย่างไรกันดีกว่า ส่วนรูปของ "ฝ้าย ซอ คำ" ที่มีไหมอีรี่ และผีเสื้อ นั้นขอให้ดูในกระทู้ที่กล่าวถึงก่อนหน้าครับ
............................................
ไหมป่าอีรี่ (Eri silkworm : Philosamia ricini Boisd.)
แมลงเศรษฐกิจ แนวทางเพิ่มรายได้และความยั่งยืนให้ชาวไร่มันสำปะหลัง
เป็นไหมป่าชนิดฟักตลอดปี (Polyvoltine) สามารถเลี้ยงได้ด้วยใบมันสำปะหลัง
ในประเทศไทยพบไหมป่าชนิดนี้ที่จังหวัดยะลา เชียงใหม่ นครราชสีมา และนครนายก
ปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยเพื่อนำไหมชนิดนี้มาใช้ประโยชน์โดยหลายหน่วยงาน
เพราะในประเทศไทยมีเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังจำนวนมากและยังไม่มีการนำใบมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง
สถาบันหม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้วิจัยและพัฒนาไหมป่าอีรี่แบบครบวงจร ในโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาไหมป่าอีรี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยได้รับงบประมาณจากกองทุนสนับสนุนงานวิจัยด้านการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพื่อศึกษาและรวบรวมเชื้อพันธุกรรมของไหมป่าอีรี่ในประเทศไทย การผลิตไข่ไหม วิธีการเลี้ยงและอุปกรณ์ที่เหมาะสม
ตลอดจนการสาวเส้นและแนวทางการนำมาใช้ประโยชน์
ผลงานวิจัยดังกล่าวจะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการเลี้ยงไหมป่าอีรี่ รองรับการขยายผลสู่เกษตรกรในอนาคต
คุณค่าไหมป่าอีรี่ในทางเศรษฐกิจ
...กระแสโลกปัจจุบันต้องการผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติและปลอดสารพิษ
ทำให้ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เป็นเส้นใยธรรมชาติโดยเฉพาะเส้นใยอินทรีย์ (Organic fiber) เป็นที่ต้องการมากในตลาด
เส้นไหมป่าอีรี่จึงเป็นเส้นใยชนิดหนึ่งที่มีโอกาสขยายตัวในตลาดโลกได้สูง
ส่วนปริมาณการผลิตเส้นไหมป่าอีรี่ยังมีน้อย คือ ประเทศอินเดีย ผลิตได้มากที่สุด ประมาณ 1,283 ตัน
รองลงมาคือประเทศจีน ในประเทศอื่นๆ มีการเลี้ยงกันน้อยมาก
...นับเป็นโอกาสดีของเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทยที่มีจำนวนมากและได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น
เพื่อตอบสนองโครงการผลิตเอธานอลให้พอใช้ภายในประเทศ
หากมีการส่งเสริมให้เกษตรกรเหล่านี้สนใจมาเลี้ยงไหมป่าอีรี่เพิ่มขึ้น
โดยเริ่มจากการส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงไหมป่าอีรี่เป็นอาชีพเสริมเพื่อผลิตผ้าไหมป่าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ
โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ช่วยให้เกษตรกรมีงานทำตลอดปีโดยสามารถเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรได้ไร่ละ 2,000-3,000 บาท/รุ่น
จะช่วยให้อาชีพปลูกมันสำปะหลังมีความมั่นคงและยั่งยืนเพิ่มขึ้น
การเลี้ยงไหมป่าอีรี่ในประเทศไทยจึงมีโอกาสขยายตัวเป็นอุตสาหกรรมได้ในอนาคต
การศึกษาและรวมรวม เชื้อพันธุกรรมของไหมป่าอีรี่ในประเทศไทย
...การศึกษารวบรวมและปรับปรุงพันธุ์ไหมป่าอีรี่ได้รวบรวมพันธุ์แท้ไว้จำนวน 3 สายพันธุ์ คือ
สายพันธุ์จีน สายพันธุ์ไทย และสายพันธุ์เชียงใหม่
กำลังคัดเลือกพันธุ์เพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงเป็นพันธุ์ไหมลูกผสมที่ดี สำหรับส่งเสริมการเลี้ยงในภาคเกตรกรต่อไป
...ไหมอีรี่ เป็นไหมชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงได้เช่นเดียวกับไหมบ้าน แต่ง่ายกว่า ทนโรคทนแมลงได้มากกว่ามาก
กินพืชอาหารได้หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบมันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชทนแล้งและดินเลว ที่มีแหล่งปลูกแหล่งใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และเนื่องจากภูมิภาคนี้เป็นแหล่งที่เกษตรกรมีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมมายาวนาน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ ศ.ดร.สุธรรม อารีกุล และ รศ.ดร.ทิพย์วดี อรรถธรรม จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
จึงได้ริเริ่มทดลองเลี้ยงไหมอีรี่ โดยใช้ใบมันสำปะหลังเป็นพืชอาหาร
และเล็งเห็นว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งเลี้ยงไหมชนิดนี้
ต่อมาภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้ศึกษาและพัฒนาเพื่อนำไหมอีรี่มาทดลองเพาะเลี้ยง
และสร้างผลิตภัณฑ์ไหมชนิดนี้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 จนถึงปัจจุบัน
พืชอาหาร
...ไหมชนิดนี้กินพืชอาหารได้หลายชนิด เช่น ละหุ่ง มันสำปะหลัง มะละกอ มะยมป่า หรือมะยมหางไก่ อ้อยช้าง เป็นต้น
แต่พืชอาหารหลักที่สามารถทำให้ไหมชนิดนี้เจริญเติบโตได้ครบวงจรชีวิต คือ ละหุ่ง และมันสำปะหลัง
...การศึกษาวิธีการที่เหมาะสมในการเลี้ยงไหมป่าอีรี่เพื่อหาชนิดพืชอาหารและจำนวนมื้อที่เหมาะสม
ผลการทดลองพบว่า การเลี้ยงไหมป่าด้วยใบมันสำปะหลังหรือใบละหุ่ง วันละ 2 และ 3 ครั้ง ไม่มีผลต่อความแข็งแรงของไหมป่าอีรี่มากนัก
คือการเลี้ยงไหมเพียง 2 มื้อทำให้น้ำหนักรังสดและน้ำหนักรังเปล่ามีแนวโน้มลดลง
แต่ไม่แตกต่างกันในทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับการเลี้ยงไหมวันละ 3 มื้อ
การเลี้ยงไหมป่าวัยอ่อนด้วยใบละหุ่งและวัยแก่เลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลัง วันละ 3 มื้อ มีแนวโน้มให้ผลผลิตสูงสุด
รองมาคือการเลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลังตลอดวันละ 3 มื้อ
โดยช่วงเวลาระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม เหมาะสมต่อการเลี้ยงไหมป่าอีรี่มากที่สุดคือไหมป่าอีรี่จะมีผลผลิตดีและระยะเวลาเลี้ยงไหมสั้น
ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง
เมื่อหนอนไหมสุกเกษตรกรสามารถใช้วัสดุที่สามารถจัดหาในท้องถิ่นและมีช่องทำรังขนาดเหมาะสมมาทำจ่อ เช่น จ่อไม้ไผ่ จ่อกระด้ง หรือจ่อลวด
ประเด็นสำคัญคือ ไม่ควรใส่หนอนไหมให้แน่นเกินไป
ไหมป่าจะทำรังเป็นก้อน รังไหมสีคล้ำ และต้องมีตาข่ายหรือผ้าบางมาคลุมจ่อ เพื่อป้องกันหนอนไหมหนีออกไป
การผลิตไข่ไหม
...ระยะเวลาที่เหมาะสมของการผสมผีเสื้อและการวางไข่ไหมที่ให้ปริมาณไข่ไหมมาก
คือในเวลากลางคืนถึงเช้าตรู่และมีเปอร์เซนต์ฟักของไข่ไหมสูงสุด
ในการกกไข่ไหมที่อุณหภูมิ 24-25 องศาเซลเซียส ความชื่นสัมพัทธ์ 80-85%
ส่วนการเก็บไข่ไหม ควรเก็บในห้องเย็นอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 20 วัน หลังจากวางไข่ไหม
วงจรชีวิตไหมอีรี่
...ปัจจัยหลักที่มีผลต่อวงจรชีวิตของไหมอีรี่นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชอาหาร สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอุณหภูมิและความชื้น
การเพาะเลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลัง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่ามีวงจรชีวิตประมาณ 47-59 วัน
การสาวเส้นไหม
การศึกษาเทคนิคการสาวไหมป่าอีรี่มี 2 วิธี คือ
1. การสาวไหมโดยใช้เครื่องสาวพื้นบ้าน นำรังไหมป่ามาต้มในสารละลายด่าง 5-7 นาทีแล้วนำรังไหมสาวกลุ่มละ 10 รัง จะได้เส้นไหมขนาดใหญ่
2. การดึงเส้นไหมโดยใช้เครื่องปั่นดึงเส้นใย โดยการนำรังไหมเปล่ามาต้มในน้ำด่าง ล้างให้สะอาด แผ่เป็นแผ่นบางๆ ผึ่งแดดให้แห้ง ปั่นให้ฟูแล้วนำไปดึงเป็นเส้นไหม
คุณลักษณะและประโยชน์
* เพาะเลี้ยงได้ง่ายโดยใช้หลักการและอุปกรณ์คล้ายกับที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงไหมบ้าน แต่ง่ายและประหยัดแรงงานกว่า และเพาะเลี้ยงได้ตลอดปี
* ทนโรคทนแมลงศัตรู ในการเพาะเลี้ยงจึงไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ
* กินพืชอาหารได้หลายชนิด
* เส้นใยจากไหมอีรี่มีความเหนียว มัน แต่ไม่แวววาว ทนเหงื่อไคลได้ดีกว่าไหมบ้าน
* ผลิตภัณฑ์ผ้าที่ได้ มีลายในเนื้อผ้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ สวยนุ่มแปลกตาคล้ายผสมด้วยขนสัตว์
* การผลิตเส้นใยจากไหมอีรี่ ไม่จำเป็นต้องฆ่าตัวไหม จึงจัดเป็นผ้า "เจ"
และในขบวนการเพาะเลี้ยงไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมี (Green Product)
* ดักแด้แห้งหรือสุกมีไขมัน 25% โปรตีน 50% ดักแด้เมื่อป่นแล้วมีไนโตรเจน 11% จึงประยุกต์ใช้เป็นอาหารคนและสัตว์ได้ดี
* ตัวหนอนไหมสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ รวมทั้งใช้เพาะเลี้ยงแมลงที่มีประโยชน์ (ตัวห้ำ)
* ไข่สามารถใช้ในการเพาะเลี้ยงแมลงที่มีประโยชน์ (ตัวเบียน) ได้ดี
* ผงไหมป่าอีรี่ นำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอาง สบู่ผงไหม
* ผ้าม่านที่ทำจากไหมป่าอีรี่สามารถป้องกันแสง UV ได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นๆ
ความก้าวหน้าและผลงานวิจัยที่ดำเนินการแล้ว
...สามารถลดแรงงาน โดยการเพาะเลี้ยงด้วยการให้อาหารเพียง 1 ครั้ง/วัน ถ่ายมูล 1 ครั้ง/วัน และการจัดการพืชอาหาร (ศิวิลัย และคณะ,2543,2546)
...สามารถเพาะเลี้ยงได้โดยเกษตรกรภายใต้สภาพแวดล้อมและอุณหภูมิของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ตลอดปี (ศิวิลัย และคณะ,2537,2543,ข้อมูลยังไม่ได้ตีพิมพ์;Sirinungkararat et a1,2002; Atthatorn et a1,2002)
...สามารถใช้เป็นแนวทางในการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยผลผลิตหัวมันไม่ลด รวมทั้งผู้มีอาชีพเลี้ยงไหมบ้าน (ศิวิลัย และคณะ,2543)
...สามารถพัฒนาต่อเพื่อให้เป็นอาหารสำเร็จรูปของปลาสวยงาม (ศิวิลัย และคณะ,2544)
...สามารถทอเป็นผืนผ้าโดยการทอร่วมกับเส้นใยชนิดอื่น ทำให้มีความแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ผ้าทอรวมทั้งซักรีดและดูแลรักษาง่ายขึ้น (Sirinungkararat et a1,2002)
...สามารถนำมาเป็นอาหารคนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปลอดภัยจากสารเคมี รสชาติที่อร่อย และมีโปรตีนสูงถึงประมาณ 66% ซึ่งสูงกว่าไหมบ้าน (ศิวิลัย และคณะ, 2547)
...สามารถเพาะเลี้ยงได้ด้วยพืชอาหารหลายชนิดรวมทั้งมันต้นและมันสาย ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในไทย และเป็นรายงานครั้งแรกของโลก
...สามารถสาวได้คล้ายไหมบ้าน จึงลดแรงงานและต้นทุนการผลิตเส้นไหมอีรี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นรายงานครั้งแรกของโลก และกำลังอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรเรื่องผลิตเส้นไหมต้นแบบซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปี 2546
ลักษณะทางการเกษตร
จำนวนไข่ไหมต่อแม่ 350-400 ฟอง
น้ำหนักรังสด 1 รังโดยเฉลี่ย 2.5 กรัม
น้ำหนักเปลือกรัง 1 รังโดยเฉลี่ย 23 เซนติกรัม
เปอร์เซนต์เปลือกรัง 11-12 เปอร์เซนต์
ผลผลิตรัง/กล่อง (20,000 ฟอง) 20-30 กิโลกรัม
บทแทรกเกี่ยวกับไหมอีรี่ เสริมเรื่อง Chiang Mai Design Week 2021 ในโพสเรื่อง "ฝ้าย ซอ คำ"
ในการเขียนกระทู้ที่แล้วในเรื่องของ Chiang Mai Design Week 2021 ผมได้ระบุไว้ว่า หากเรื่องใดที่จะเขียนเสริม
จะขอแยกออกมาเป็นบทความใหม่ ด้วยเหตุผลก็คือ ไม่ต้องการให้กระทู้นั้นดูไม่เป็นการชมงานสักเท่าไร
...จนเมื่อมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับบางท่าน ที่ถามเกี่ยวกับจุดแสดงในงานที่มีการย้ายก็คือ "ฝ้าย ซอ คำ"
มันจึงเป็นแรงผลักดันให้คิดอยากจะเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาทันที
เพราะผู้เข้าชมต่างก็ถามกันว่า ผ้าไหมอีรี่ มันอะไร ยังไง และอีกสารพัดเกี่ยวกับผ้าไหมอีรี่
ผมจึงคิดว่าควรทำความเข้าใจกับเรื่องนี้กันเสียก่อนจะดีกว่า จึงเขียนกระทู้นี้ขึ้นมานั่นเองครับ
......................................................................................................................................................................................................
เรามารู้จักกับเจ้าไหมอีรี่นี่ว่ามันเป็นอย่างไรกันดีกว่า ส่วนรูปของ "ฝ้าย ซอ คำ" ที่มีไหมอีรี่ และผีเสื้อ นั้นขอให้ดูในกระทู้ที่กล่าวถึงก่อนหน้าครับ
............................................
ไหมป่าอีรี่ (Eri silkworm : Philosamia ricini Boisd.)
แมลงเศรษฐกิจ แนวทางเพิ่มรายได้และความยั่งยืนให้ชาวไร่มันสำปะหลัง
เป็นไหมป่าชนิดฟักตลอดปี (Polyvoltine) สามารถเลี้ยงได้ด้วยใบมันสำปะหลัง
ในประเทศไทยพบไหมป่าชนิดนี้ที่จังหวัดยะลา เชียงใหม่ นครราชสีมา และนครนายก
ปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยเพื่อนำไหมชนิดนี้มาใช้ประโยชน์โดยหลายหน่วยงาน
เพราะในประเทศไทยมีเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังจำนวนมากและยังไม่มีการนำใบมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง
สถาบันหม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้วิจัยและพัฒนาไหมป่าอีรี่แบบครบวงจร ในโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาไหมป่าอีรี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยได้รับงบประมาณจากกองทุนสนับสนุนงานวิจัยด้านการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพื่อศึกษาและรวบรวมเชื้อพันธุกรรมของไหมป่าอีรี่ในประเทศไทย การผลิตไข่ไหม วิธีการเลี้ยงและอุปกรณ์ที่เหมาะสม
ตลอดจนการสาวเส้นและแนวทางการนำมาใช้ประโยชน์
ผลงานวิจัยดังกล่าวจะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการเลี้ยงไหมป่าอีรี่ รองรับการขยายผลสู่เกษตรกรในอนาคต
คุณค่าไหมป่าอีรี่ในทางเศรษฐกิจ
...กระแสโลกปัจจุบันต้องการผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติและปลอดสารพิษ
ทำให้ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เป็นเส้นใยธรรมชาติโดยเฉพาะเส้นใยอินทรีย์ (Organic fiber) เป็นที่ต้องการมากในตลาด
เส้นไหมป่าอีรี่จึงเป็นเส้นใยชนิดหนึ่งที่มีโอกาสขยายตัวในตลาดโลกได้สูง
ส่วนปริมาณการผลิตเส้นไหมป่าอีรี่ยังมีน้อย คือ ประเทศอินเดีย ผลิตได้มากที่สุด ประมาณ 1,283 ตัน
รองลงมาคือประเทศจีน ในประเทศอื่นๆ มีการเลี้ยงกันน้อยมาก
...นับเป็นโอกาสดีของเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทยที่มีจำนวนมากและได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น
เพื่อตอบสนองโครงการผลิตเอธานอลให้พอใช้ภายในประเทศ
หากมีการส่งเสริมให้เกษตรกรเหล่านี้สนใจมาเลี้ยงไหมป่าอีรี่เพิ่มขึ้น
โดยเริ่มจากการส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงไหมป่าอีรี่เป็นอาชีพเสริมเพื่อผลิตผ้าไหมป่าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ
โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ช่วยให้เกษตรกรมีงานทำตลอดปีโดยสามารถเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรได้ไร่ละ 2,000-3,000 บาท/รุ่น
จะช่วยให้อาชีพปลูกมันสำปะหลังมีความมั่นคงและยั่งยืนเพิ่มขึ้น
การเลี้ยงไหมป่าอีรี่ในประเทศไทยจึงมีโอกาสขยายตัวเป็นอุตสาหกรรมได้ในอนาคต
การศึกษาและรวมรวม เชื้อพันธุกรรมของไหมป่าอีรี่ในประเทศไทย
...การศึกษารวบรวมและปรับปรุงพันธุ์ไหมป่าอีรี่ได้รวบรวมพันธุ์แท้ไว้จำนวน 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์จีน สายพันธุ์ไทย และสายพันธุ์เชียงใหม่
กำลังคัดเลือกพันธุ์เพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงเป็นพันธุ์ไหมลูกผสมที่ดี สำหรับส่งเสริมการเลี้ยงในภาคเกตรกรต่อไป
...ไหมอีรี่ เป็นไหมชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงได้เช่นเดียวกับไหมบ้าน แต่ง่ายกว่า ทนโรคทนแมลงได้มากกว่ามาก
กินพืชอาหารได้หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบมันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชทนแล้งและดินเลว ที่มีแหล่งปลูกแหล่งใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และเนื่องจากภูมิภาคนี้เป็นแหล่งที่เกษตรกรมีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมมายาวนาน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ ศ.ดร.สุธรรม อารีกุล และ รศ.ดร.ทิพย์วดี อรรถธรรม จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
จึงได้ริเริ่มทดลองเลี้ยงไหมอีรี่ โดยใช้ใบมันสำปะหลังเป็นพืชอาหาร
และเล็งเห็นว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งเลี้ยงไหมชนิดนี้
ต่อมาภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้ศึกษาและพัฒนาเพื่อนำไหมอีรี่มาทดลองเพาะเลี้ยง
และสร้างผลิตภัณฑ์ไหมชนิดนี้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 จนถึงปัจจุบัน
พืชอาหาร
...ไหมชนิดนี้กินพืชอาหารได้หลายชนิด เช่น ละหุ่ง มันสำปะหลัง มะละกอ มะยมป่า หรือมะยมหางไก่ อ้อยช้าง เป็นต้น
แต่พืชอาหารหลักที่สามารถทำให้ไหมชนิดนี้เจริญเติบโตได้ครบวงจรชีวิต คือ ละหุ่ง และมันสำปะหลัง
...การศึกษาวิธีการที่เหมาะสมในการเลี้ยงไหมป่าอีรี่เพื่อหาชนิดพืชอาหารและจำนวนมื้อที่เหมาะสม
ผลการทดลองพบว่า การเลี้ยงไหมป่าด้วยใบมันสำปะหลังหรือใบละหุ่ง วันละ 2 และ 3 ครั้ง ไม่มีผลต่อความแข็งแรงของไหมป่าอีรี่มากนัก
คือการเลี้ยงไหมเพียง 2 มื้อทำให้น้ำหนักรังสดและน้ำหนักรังเปล่ามีแนวโน้มลดลง
แต่ไม่แตกต่างกันในทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับการเลี้ยงไหมวันละ 3 มื้อ
การเลี้ยงไหมป่าวัยอ่อนด้วยใบละหุ่งและวัยแก่เลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลัง วันละ 3 มื้อ มีแนวโน้มให้ผลผลิตสูงสุด
รองมาคือการเลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลังตลอดวันละ 3 มื้อ
โดยช่วงเวลาระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม เหมาะสมต่อการเลี้ยงไหมป่าอีรี่มากที่สุดคือไหมป่าอีรี่จะมีผลผลิตดีและระยะเวลาเลี้ยงไหมสั้น
ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง
เมื่อหนอนไหมสุกเกษตรกรสามารถใช้วัสดุที่สามารถจัดหาในท้องถิ่นและมีช่องทำรังขนาดเหมาะสมมาทำจ่อ เช่น จ่อไม้ไผ่ จ่อกระด้ง หรือจ่อลวด
ประเด็นสำคัญคือ ไม่ควรใส่หนอนไหมให้แน่นเกินไป
ไหมป่าจะทำรังเป็นก้อน รังไหมสีคล้ำ และต้องมีตาข่ายหรือผ้าบางมาคลุมจ่อ เพื่อป้องกันหนอนไหมหนีออกไป
การผลิตไข่ไหม
...ระยะเวลาที่เหมาะสมของการผสมผีเสื้อและการวางไข่ไหมที่ให้ปริมาณไข่ไหมมาก
คือในเวลากลางคืนถึงเช้าตรู่และมีเปอร์เซนต์ฟักของไข่ไหมสูงสุด
ในการกกไข่ไหมที่อุณหภูมิ 24-25 องศาเซลเซียส ความชื่นสัมพัทธ์ 80-85%
ส่วนการเก็บไข่ไหม ควรเก็บในห้องเย็นอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 20 วัน หลังจากวางไข่ไหม
วงจรชีวิตไหมอีรี่
...ปัจจัยหลักที่มีผลต่อวงจรชีวิตของไหมอีรี่นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชอาหาร สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอุณหภูมิและความชื้น
การเพาะเลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลัง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่ามีวงจรชีวิตประมาณ 47-59 วัน
การสาวเส้นไหม
การศึกษาเทคนิคการสาวไหมป่าอีรี่มี 2 วิธี คือ
1. การสาวไหมโดยใช้เครื่องสาวพื้นบ้าน นำรังไหมป่ามาต้มในสารละลายด่าง 5-7 นาทีแล้วนำรังไหมสาวกลุ่มละ 10 รัง จะได้เส้นไหมขนาดใหญ่
2. การดึงเส้นไหมโดยใช้เครื่องปั่นดึงเส้นใย โดยการนำรังไหมเปล่ามาต้มในน้ำด่าง ล้างให้สะอาด แผ่เป็นแผ่นบางๆ ผึ่งแดดให้แห้ง ปั่นให้ฟูแล้วนำไปดึงเป็นเส้นไหม
คุณลักษณะและประโยชน์
* เพาะเลี้ยงได้ง่ายโดยใช้หลักการและอุปกรณ์คล้ายกับที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงไหมบ้าน แต่ง่ายและประหยัดแรงงานกว่า และเพาะเลี้ยงได้ตลอดปี
* ทนโรคทนแมลงศัตรู ในการเพาะเลี้ยงจึงไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ
* กินพืชอาหารได้หลายชนิด
* เส้นใยจากไหมอีรี่มีความเหนียว มัน แต่ไม่แวววาว ทนเหงื่อไคลได้ดีกว่าไหมบ้าน
* ผลิตภัณฑ์ผ้าที่ได้ มีลายในเนื้อผ้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ สวยนุ่มแปลกตาคล้ายผสมด้วยขนสัตว์
* การผลิตเส้นใยจากไหมอีรี่ ไม่จำเป็นต้องฆ่าตัวไหม จึงจัดเป็นผ้า "เจ"
และในขบวนการเพาะเลี้ยงไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมี (Green Product)
* ดักแด้แห้งหรือสุกมีไขมัน 25% โปรตีน 50% ดักแด้เมื่อป่นแล้วมีไนโตรเจน 11% จึงประยุกต์ใช้เป็นอาหารคนและสัตว์ได้ดี
* ตัวหนอนไหมสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ รวมทั้งใช้เพาะเลี้ยงแมลงที่มีประโยชน์ (ตัวห้ำ)
* ไข่สามารถใช้ในการเพาะเลี้ยงแมลงที่มีประโยชน์ (ตัวเบียน) ได้ดี
* ผงไหมป่าอีรี่ นำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอาง สบู่ผงไหม
* ผ้าม่านที่ทำจากไหมป่าอีรี่สามารถป้องกันแสง UV ได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นๆ
ความก้าวหน้าและผลงานวิจัยที่ดำเนินการแล้ว
...สามารถลดแรงงาน โดยการเพาะเลี้ยงด้วยการให้อาหารเพียง 1 ครั้ง/วัน ถ่ายมูล 1 ครั้ง/วัน และการจัดการพืชอาหาร (ศิวิลัย และคณะ,2543,2546)
...สามารถเพาะเลี้ยงได้โดยเกษตรกรภายใต้สภาพแวดล้อมและอุณหภูมิของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ตลอดปี (ศิวิลัย และคณะ,2537,2543,ข้อมูลยังไม่ได้ตีพิมพ์;Sirinungkararat et a1,2002; Atthatorn et a1,2002)
...สามารถใช้เป็นแนวทางในการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยผลผลิตหัวมันไม่ลด รวมทั้งผู้มีอาชีพเลี้ยงไหมบ้าน (ศิวิลัย และคณะ,2543)
...สามารถพัฒนาต่อเพื่อให้เป็นอาหารสำเร็จรูปของปลาสวยงาม (ศิวิลัย และคณะ,2544)
...สามารถทอเป็นผืนผ้าโดยการทอร่วมกับเส้นใยชนิดอื่น ทำให้มีความแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ผ้าทอรวมทั้งซักรีดและดูแลรักษาง่ายขึ้น (Sirinungkararat et a1,2002)
...สามารถนำมาเป็นอาหารคนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปลอดภัยจากสารเคมี รสชาติที่อร่อย และมีโปรตีนสูงถึงประมาณ 66% ซึ่งสูงกว่าไหมบ้าน (ศิวิลัย และคณะ, 2547)
...สามารถเพาะเลี้ยงได้ด้วยพืชอาหารหลายชนิดรวมทั้งมันต้นและมันสาย ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในไทย และเป็นรายงานครั้งแรกของโลก
...สามารถสาวได้คล้ายไหมบ้าน จึงลดแรงงานและต้นทุนการผลิตเส้นไหมอีรี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นรายงานครั้งแรกของโลก และกำลังอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรเรื่องผลิตเส้นไหมต้นแบบซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปี 2546
ลักษณะทางการเกษตร
จำนวนไข่ไหมต่อแม่ 350-400 ฟอง
น้ำหนักรังสด 1 รังโดยเฉลี่ย 2.5 กรัม
น้ำหนักเปลือกรัง 1 รังโดยเฉลี่ย 23 เซนติกรัม
เปอร์เซนต์เปลือกรัง 11-12 เปอร์เซนต์
ผลผลิตรัง/กล่อง (20,000 ฟอง) 20-30 กิโลกรัม