ครอบครัวเเฟนเเบบนี้เอาไงต่อดี

เกริ่นก่อนนะคะ ครอบครัวเราพอมีพอกิน ไม่เคยให้เราลำบากเลย เเต่เราเลือกคุ่ครองเเต่ละคนคือลำบากสุดโต่ง เเถมเลี้ยงอย่างลุกด้วยความสงสารที่ครอบครัวเขาไม่มีอะไรเลย หลายๆความลำบากนี้เป็นบทเรียนให้เราเลิกความคิดที่ว่าไม่มีก็ช่วยกันสร้าง พอโตมาวัยทำงานจนตอนนี้เราคิดว่าเเค่รักก็ไม่พอ จากที่ต่อต้านความคิดพ่อก็เริ่มเขาใจถ่องเเท้ เพราะเเต่ละคนพ่อไม่ถุกชะตาล่ะพูดตลอดว่าเลิกซะมันเลี้ยงไม่ได้หรอก ไหนเราจะต้องดูเเลครอบครัวเราอีก จนตอนนี้เราว่าเราสเเกนดีละนะ เราคุยกับคนๆนึงอยู่ก็เพื่อนกันนี่ละทำให้เลิกยาก เเถมเขาก็รักเรามาตั้งเเต่เด็กเเละรอเราจนวันนี้ เข้าเรื่องเลยคือ เขามีภาระเยอะมากๆ บ้าน รถ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเนต ค่าเเอร์ รับจบทุกอย่าง ช่วงเเรกๆยังมีเงินจากพ่อเขามาช่วยบ้าง เเต่ตอนนี้พ่อเเม่เเยกกันอยุ่ ทะเลาะกันทำให้พ่อเขาต้องกลับบ้านต่างจังหวัดเป็นปีเเล้ว เลยไม่ได้ทำงานหลัก กลับไปปลุกผักทำสวน ส่วนเเม่เขาไม่ทำงานค่ะ ทำให้ตอนนี้เขาต้องรับภาระตรงนี้หนักมาก ซึ่งเขาไม่มีเก็บสำรองเลย คือเดือนชนเดือน เเม่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยมากๆ ที่ว่ามีค่าเเอร์เพราะคนข้างบ้านจะติด อยากติดบ้าง ล่ะมันเป็นเเบบผ่อน ไม่ปรึกษาลุกหรือใครเลย สรุปเดือนละ 2000/24ปี มายก๊อตมาก สังคมเเถวนั้นคือฉันต้องที่1 ใครมีก็อยากมีบ้าง ส่วนค่าอื่นๆเขาจะเป็นคนให้เเม่ ล่ะเเม่ก็ไปจ้างเขาจ่าย จนมีเหตุการณ์คือธนาคารโทรมาว่ายอดค้าง2เดือน จนตอนนี้เรายังเอะใจว่าเเม่เขาจ่ายจริงไหม เพราะถามหาใบเสร็จรับเงินคือไม่รู้ๆอย่างเดียว จนเราทะเลาะกัน ถึงขั้นสั่งสอนให้ไปเคลียร์เรื่องนี้ล่ะมาจัดการจ่ายเองผ่านเเอปให้หมด (เรื่องนี้คือสะเพร่าหนักมาก ความเป็นผู้นำหายไปหมด) ยังไม่พอค่ะ เดือนๆนึงเเม่เขาขอตังบ่อยมาก ความเป็นลูกอะเนาะ เเม่ขอก็ต้องให้ ล่ะไม่มีการเเพลนใช้เงินใว่เลยว่าจำกัดที่เท่าไหร่ ให้ก็ให้สุดเกิน เราทะเลาะกันเรื่องนี้อีก เขาบอกเขาไม่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยเลย เห็นใจเขาหน่อยดิ เขาต้องรับภาระทุกอย่าง เเม่ก็ต้องให้ เอาจริง3พันให้เเม่ก็ยู่นะ ข้าว นานๆเเม่จะทำทีนี่ให้5-7พัน ล่ะคือให้ปุ้ปหมดภายในไม่กี่วัน เเถมเวลาไม่มีเงินก็ไปติดหนี้เเถวบ้านอีก ทำให้เรายิ่งไม่ชอบเเม่เขามาก ปากบอกอยากเเบ่งเบาภาระลุก เราเคยคิดว่าเขาเอาเงินไปเยอะๆ เก็บธนาคารให้ลุก เเต่ผิดคาด เรื่องรถ เชาออกรถมอไซค์มา xmax (เเต่ก่อนเคยมีรถยนต์เเต่พ่อเอาไปใช้เเล้ว) ออกมาล่ะมาเเต่งเเปลงนั่นนี่ ล่ะมันก็ไม่ทนเท่าเดิมๆ พอพังล่ะทีนี้ลำบากกันมากๆ ต้องมายืมมอไซค์เพื่อน เขาเคยเอารถเวฟไปส่งที่ทำงาน เรานี่บอกตรงๆอายมาก ความที่นั่งเเต่รถยนต์ไปทำงาน เห็นเพื่อนร่วมงานคือรีบเดินเลย เขาเคยถามอายไหม เเต่ตอบด้วยความถนอมน้ำใจว่าไม่อาย เขาก็พูดอย่างภาคภูมิใจว่า เเม่เขานะสอนว่าให้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี จนเราติดใจอีกล่ะ พอจะไปเเต่งรถเราอาระวาดเลย ระบายทุกอย่างว่าอายนะเเบบนี้ๆๆ ล่าสุดรถพัง เราเลยบอกว่า ลำบากอีกล่ะซินะ เขาก็พูดว่าเเค่นี้เอง (เเค่นี้ขอเรามันไม่เท่ากัน) เราบอกว่าที่จริงมันไม่ควรลำบากหรอก เเต่เพราะเอารถไปเเต่งอยากเป้นที่1 เห็นเเคร์เเต่สายตาคนอื่น เลยต้องลำบากเเบบนี้ เห็นเเก่ตัวไม่คิดถึงคนที่เขาร่วมใช้เลย เรารุ้สึกผิดมากๆ เขาบอกว่าขอโทษที่พามาลำบาก วันนี้นอนที่หอไปก่อนละกันนะ ล่ะเขาก็หายเงียบไปเลย ใจจิงๆเราอยากบอกเลิกเขานะ สงสารเขาที่ต้องมาฟังคำพูดเเรงๆ เเต่คำพูดทุกอย่างเราก็หวังดีนะ เรารักเขานะ เเต่มีสิ่งเดียวที่เรากลัวคือถ้าเราเป็นครอบครัวกันเเล้วภาระจะตกมาที่เราไหม เราควรทำยังไงดี เศร้ามาก เเต่เราไม่เคยบอกเลิกใครเลย ถ้าไม่สุดๆเดินออกมาเอง คือสงสารง่ะ อยากให้อีกฝ่ายบอกเลิกเราเอง เราดูเห้นเเก่ตัวเพราะเงินไปไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่