สวัสดีค่ะ หลังจากกระทู้ที่เล่าเรื่องราวความรักของเรา ไป นี้ก็ครบรอบ 1เดือนที่ เราเลิกกับแฟน แต่เขาก็ยังคงวนเวียนมาอยู่กับเราเหมือนเดิม ความรู้สึกของเราตอนนี้มันยังคงมูฟออนไม่ไหว เคยลองอยู่กับเขาแล้วนึกถึงความรู้สึกตัวเองว่ายังรู้สึกรักเขาหรือป่าว แต่ก็คิดดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้รักและหวังให้เขากลับมาคบเราอีกครั้ง แต่ทำไมเหมือนมันแยกจากกันไม่ได้สักที หรือเป็นเพราะการที่เราทำงานในองค์กรเดียวกัน เราก็เลยไม่กล้าตัดขาด เขาก็ไม่กล้าที่จะตัดขาดเรา หรือ เป็นเพราะเขาหวังผลประโยชน์จากกายเราแบบไม่ต้องยึดติด แต่เราก็ไม่ได้มีอะไรกับเขามาสักพักตั้งแต่ที่เลิกกัน ทำเพียงนอนกอดหอมจูบและบอกเราว่าคิดถึงเรา
เรารับรู้ว่าคนที่ทำงานใกล้เขา รับรู้เรื่องของเรา เหมือนรู้ว่าเราอกหัก โดนทิ้ง ซึ่งทำงานใกล้เขาคนนั้น และเจอหน้าเราชอบแซว ว่าเราอกหักหรอ ซึ่งเรารู้สึกแย่มากๆ และอาย
ชีวิตประจำวันเราเปลี่ยนไป กลางคืนเรานอนไม่หลับ แต่เมื่อถึงวันหยุดอาทิตย์ละสองวัน เราไม่อยากทำอะไรเลยนอนทั้งวัน ไม่อยากลุกไปทำอะไร เหนื่อย ไม่มีแรง ข้าวไม่หิว และรู้สึกการทำงานในแต่ละวันไม่มีประสิทธิภาพเอาเสียเลย ในหัวคิดและเรื่องเดิมซ้ำๆ
และเราก็มารู้อีกหนึ่งอย่างแบบบังเอิญ คือ เราพึ่งรู้ว่า ที่จริงแล้วเขามีแฟนอยู่แล้ว และคบกันมานานมากๆ เป็นคนประเทศเดียวกับเขา เราช็อคมาก ตกใจมาก เราคนเป็นคนที่ซื่อสัตย์และเด็มที่กับความรัก เราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เป็นครั้งที่สองที่สาม ทำไมบางอย่างไม่ยุติธรรมกับเราบ้างเลย และเขาก็ขอธิบาย สุดท้ายเขาก็ยอมรับว่ามีแฟนอยู่แล้วจริงๆ และเขาก็ไม่ได้ทำกับเราแบบนี้แค่คนเดียว เขาเคยหลอกผู้หญิงอีกคนที่ทำงานเก่าของเขาซึ่งแฟนเขาก็ไม่รู้เรื่องเลย เนื่องจากทำงานคนละที่ ผู้หญิงคนนั้นโกรธและเกลียดเขาตบเขาให้คนอื่นมาดักทำร้ายเขา เราได้แต่ฟังคำที่เขาอธิบาย แต่เขาก็ตกใจในสิ่งที่เราก็ทำคือ นั่งฟังเขาร้องไห้เงียบๆ เขาถามเราว่า ทำไมคุณไม่ตบไม่ตีฉัน คุณเกลียดฉันไหม เราตอบว่า ไม่ ซึ่งเป็นคำที่เขาตกใจและร้องไห้ออกมา และมันทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆ ที่เขาหายไปวันหยุดเพราะอะไร บางครั้งเราเป็นคนพับเสื้อผ้าเตรียมกระเป๋าให้เขาด้วยซ้ำ อ๋อเขากลับไปหาแฟนเขาและเราติดต่อเขาไม่ได้ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์
เรากลายเป็นคนที่ ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเจอผู้คน วันหยุดเราเก็บตัวแต่ในห้อง ไม่ออกไปไหนและไม่อยากเจอผู้คน เราไม่อยากเสแสร้งว่าเรามีรอยยิ้ม เราไม่อยากพูดคุยกับใครเลย แม้แต่การโทรหาแม่ เราก็ไม่โทรหาท่าน เราไม่อยากให้เขารับรู้ถึงความทุกข์ใจของเรา จะปีใหม่เราก็รู้สึกไม่อยากไปเจอที่บ้าน เรารู้สึกว่าเราเป็นทุกข์มากๆ ไม่อยากเอาความทุกข์นี้กลับไปบ้าน และเรารู้สึกจมกับความรู้สึกนี้ เราร้องไห้ทุกวัน ยิ่งพอพระอาทิตย์ตกรู้สึกเคว้งทุกที แม้บางวันเขามาอยู่กับเรา เราก็ยังคงรู้สึกเคว้งหาทางออกไม่ได้ เราไม่ได้ดีใจแม้แต่น้อยที่เขายังมาหา เราอยากหยุดการทำงานไปเลย อยากอยู่คนเดียวในที่ๆของเราเรารู้สึกปลอดภัยที่ ไม่เจอใคร แต่ด้วยภาระหลายๆไม่อยากนำความทุกข์ใจไปให้คนที่บ้านรู้ เราเชื่อว่าถ้าเราบอกเรื่องนี้กับที่บ้านเราเขาคงโอบกอดเราไว้อย่างดีเหมือนเดิม และให้เราออกจากที่นี่ แต่เราควรจะโตและอดทนยอมรับมัน
เราตกเป็นมือที่สามแบบไม่รู้ตัว และตอนนี้เรารู้แล้วเราก็ไม่ได้อยากให้เขามาอยู่ด้วย แต่เขาจะบอกเราว่าขอร้องเถอะ เขากลัวเราทำอะไรลงไป
เรารู้สึกแย่และถามตัวเองซ้ำๆว่าทำไมเราต้องผิดหวังซ้ำและเจอแต่เรื่องแย่ ทำยังไงถึงจะหลุดพ้น หรือมีทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือหนีจากที่นี่
ความผิดหวังทำให้ฉันกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง พึ่งรู้ว่ากลายเป็นมือที่สามแบบไม่รู้ตัว
เรารับรู้ว่าคนที่ทำงานใกล้เขา รับรู้เรื่องของเรา เหมือนรู้ว่าเราอกหัก โดนทิ้ง ซึ่งทำงานใกล้เขาคนนั้น และเจอหน้าเราชอบแซว ว่าเราอกหักหรอ ซึ่งเรารู้สึกแย่มากๆ และอาย
ชีวิตประจำวันเราเปลี่ยนไป กลางคืนเรานอนไม่หลับ แต่เมื่อถึงวันหยุดอาทิตย์ละสองวัน เราไม่อยากทำอะไรเลยนอนทั้งวัน ไม่อยากลุกไปทำอะไร เหนื่อย ไม่มีแรง ข้าวไม่หิว และรู้สึกการทำงานในแต่ละวันไม่มีประสิทธิภาพเอาเสียเลย ในหัวคิดและเรื่องเดิมซ้ำๆ
และเราก็มารู้อีกหนึ่งอย่างแบบบังเอิญ คือ เราพึ่งรู้ว่า ที่จริงแล้วเขามีแฟนอยู่แล้ว และคบกันมานานมากๆ เป็นคนประเทศเดียวกับเขา เราช็อคมาก ตกใจมาก เราคนเป็นคนที่ซื่อสัตย์และเด็มที่กับความรัก เราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เป็นครั้งที่สองที่สาม ทำไมบางอย่างไม่ยุติธรรมกับเราบ้างเลย และเขาก็ขอธิบาย สุดท้ายเขาก็ยอมรับว่ามีแฟนอยู่แล้วจริงๆ และเขาก็ไม่ได้ทำกับเราแบบนี้แค่คนเดียว เขาเคยหลอกผู้หญิงอีกคนที่ทำงานเก่าของเขาซึ่งแฟนเขาก็ไม่รู้เรื่องเลย เนื่องจากทำงานคนละที่ ผู้หญิงคนนั้นโกรธและเกลียดเขาตบเขาให้คนอื่นมาดักทำร้ายเขา เราได้แต่ฟังคำที่เขาอธิบาย แต่เขาก็ตกใจในสิ่งที่เราก็ทำคือ นั่งฟังเขาร้องไห้เงียบๆ เขาถามเราว่า ทำไมคุณไม่ตบไม่ตีฉัน คุณเกลียดฉันไหม เราตอบว่า ไม่ ซึ่งเป็นคำที่เขาตกใจและร้องไห้ออกมา และมันทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆ ที่เขาหายไปวันหยุดเพราะอะไร บางครั้งเราเป็นคนพับเสื้อผ้าเตรียมกระเป๋าให้เขาด้วยซ้ำ อ๋อเขากลับไปหาแฟนเขาและเราติดต่อเขาไม่ได้ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์
เรากลายเป็นคนที่ ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเจอผู้คน วันหยุดเราเก็บตัวแต่ในห้อง ไม่ออกไปไหนและไม่อยากเจอผู้คน เราไม่อยากเสแสร้งว่าเรามีรอยยิ้ม เราไม่อยากพูดคุยกับใครเลย แม้แต่การโทรหาแม่ เราก็ไม่โทรหาท่าน เราไม่อยากให้เขารับรู้ถึงความทุกข์ใจของเรา จะปีใหม่เราก็รู้สึกไม่อยากไปเจอที่บ้าน เรารู้สึกว่าเราเป็นทุกข์มากๆ ไม่อยากเอาความทุกข์นี้กลับไปบ้าน และเรารู้สึกจมกับความรู้สึกนี้ เราร้องไห้ทุกวัน ยิ่งพอพระอาทิตย์ตกรู้สึกเคว้งทุกที แม้บางวันเขามาอยู่กับเรา เราก็ยังคงรู้สึกเคว้งหาทางออกไม่ได้ เราไม่ได้ดีใจแม้แต่น้อยที่เขายังมาหา เราอยากหยุดการทำงานไปเลย อยากอยู่คนเดียวในที่ๆของเราเรารู้สึกปลอดภัยที่ ไม่เจอใคร แต่ด้วยภาระหลายๆไม่อยากนำความทุกข์ใจไปให้คนที่บ้านรู้ เราเชื่อว่าถ้าเราบอกเรื่องนี้กับที่บ้านเราเขาคงโอบกอดเราไว้อย่างดีเหมือนเดิม และให้เราออกจากที่นี่ แต่เราควรจะโตและอดทนยอมรับมัน
เราตกเป็นมือที่สามแบบไม่รู้ตัว และตอนนี้เรารู้แล้วเราก็ไม่ได้อยากให้เขามาอยู่ด้วย แต่เขาจะบอกเราว่าขอร้องเถอะ เขากลัวเราทำอะไรลงไป
เรารู้สึกแย่และถามตัวเองซ้ำๆว่าทำไมเราต้องผิดหวังซ้ำและเจอแต่เรื่องแย่ ทำยังไงถึงจะหลุดพ้น หรือมีทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือหนีจากที่นี่