ในวันที่ 7 พ.ย. ปี 1991 เเฟนบาสทั่วโลกรู้สึกตกใจมากเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวว่า Magic Johnson ซุปเปอร์สตาร์คนดังของทีม Los Angeles Lakers ติดเชื้อ HIV ถึงตอนนั้นจะยังไม่มีอินเทอร์เน็ตเเต่ข่าวสารก็ยังกระจายไปทั่วโลกเเม้เเต่ในประเทศไทยเอง เด็กๆ อย่างเราก็ยังได้ยินข่าวนี้
Magic ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ CBS เมื่อเร็วๆ นี้ว่า:
“ตอนนั้นโรคเอดส์นี่เป็นอะไรที่ฟังดูน่ากลัวมาก มันเป็นเหมือนคําพิพากษาความตาย ผมนี่เเทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย ตอนที่ทีมเเพทย์ของ Lakers เเจ้งให้ผมทราบว่าผมติดเชื้อ HIV ผมไม่เชื่อเเละได้ถามยํ้าตั้งร้อยรอบว่าจริงเหรอ มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าเเต่ทีมเเพทย์ก็ยังยืนยันว่าพวกเขาได้ตรวจผลเลือดซํ้าหลายรอบเเละพบว่าผมมีเชื้อจริง”
ตอนนั้นเมจิคอยู่ในลีกมาเข้าปีที่ 13 เเล้วเเละทีม Lakers ก็กําลังเข้าค่ายฝึกซ้อมเตรียมเปิดฤดูกาลนั้นอยู่ พอ Magic ทราบว่าเขาติดเชื้อ เขาก็ประกาศรีไทร์ออกจากลีกอย่างกะทันหันในวัย 32 ปีเเถมทําใจไว้ล่วงหน้าว่าตัวเองอาจจะตายได้เพราะตอนนั้นยารักษาต่างๆ ยังอยู่ในขั้นทดลอง มันไม่ได้มีสารพัดยาให้เลือกเเบบทุกวันนี้
“ตอนนั้นผมเพิ่งเเต่งงานมาเเค่เดือนเดียวเเละเราเพิ่งมีลูกด้วยกัน ผมเลยนึกไม่ออกว่าจะบอกกับ Cookie ซึ่งเป็นภรรยาของผมยังไงว่าเคยนอกใจเธอระหว่างคบกันเเละติดโรคร้ายที่รักษาไม่หายกลับมา” Magic กล่าว
ก็ถือว่าโชคดีที่ Cookie ให้อภัยสามีของเธอเเต่เธอก็ยังกังวลว่าตัวเองเเละลูกที่เพิ่งเกิดจะติดเชื้อ HIV ด้วยหรือเปล่าเเต่พวกเขาก็รอดตัวไปเมื่อผลออกมาว่าไม่ได้ติดเชื้อ
“ผมรักภรรยาของผมมากเเละไม่อยากให้เธอเสียใจ การเป็นสตาร์ดังมันทําให้ผมเจอกับผู้หญิงเยอะเเละบางทีก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้”
ตอนนั้นมีข่าวลือว่า Magic เป็นเกย์หรือเป็นพวกเสือไบออกมาด้วยเพราะตอนนั้น HIV มักจะพบบ่อยในหมู่พวกรักร่วมเพศเเต่เขาก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้
“หลายๆ คนคิดว่ามีเเต่พวกเกย์ที่ติด HIV เเต่จริงๆ เเล้วพวกไม่เบี่ยงเบนก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน ตอนนั้นคนปฏิบัติต่อผมราวกับว่าเป็นโรคเรื้อนที่ห้ามเเตะ ห้ามกอดหรือห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด”
หลังจากที่ Magic ออกมาเเถลงข่าวผ่านสื่อเเละอําลาวงการบาสไป เขาก็อุทิศเวลาให้กับการกุศลโดยการช่วยหาเงินให้กับโครงการวิจัยยารักษาโรคเอดส์ เขามีชื่อติดผลโหวตทีม All-Star ในปีนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงเลยเเม้เเต่เกมส์เดียว
“ตอนนั้นผมทําพินัยกรรมไว้เรียบร้อยเพราะคิดว่าตัวเองจะต้องตายซะเเล้วเเต่ไปๆ มาๆ ผ่านไป 30 ปีผมก็ยังอยู่ตรงนี้เหมือนเดิมเเละประสบความสําเร็จทั้งด้านการทําธุรกิจเเละชีวิตครอบครัว”
Magic บอกว่าทุกวันนี้เขาก็ยังต้องกินยาต้านไวรัสอยู่ซึ่งปัจจุบันยาต้านไม่ต้องกินวันละ 3 ครั้งเหมือนสมัยก่อนอีกเเล้ว กินวันละครั้งก็พอ
ก็ดีใจกับ Magic ด้วยค่ะที่เป็นคนไข้ HIV ตัวอย่างที่สามารถยืนระยะอยู่ได้ยาวนาน ก็ขอให้เขามีสุขภาพที่เเข็งเเรงตลอดไปนะคะ (Credit: CBS)
🏀 Magic Johnson ย้อนอดีตเมื่อเขาติดเชื้อ HIV เมื่อ 31 ปีก่อน
Magic ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ CBS เมื่อเร็วๆ นี้ว่า:
“ตอนนั้นโรคเอดส์นี่เป็นอะไรที่ฟังดูน่ากลัวมาก มันเป็นเหมือนคําพิพากษาความตาย ผมนี่เเทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย ตอนที่ทีมเเพทย์ของ Lakers เเจ้งให้ผมทราบว่าผมติดเชื้อ HIV ผมไม่เชื่อเเละได้ถามยํ้าตั้งร้อยรอบว่าจริงเหรอ มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าเเต่ทีมเเพทย์ก็ยังยืนยันว่าพวกเขาได้ตรวจผลเลือดซํ้าหลายรอบเเละพบว่าผมมีเชื้อจริง”
ตอนนั้นเมจิคอยู่ในลีกมาเข้าปีที่ 13 เเล้วเเละทีม Lakers ก็กําลังเข้าค่ายฝึกซ้อมเตรียมเปิดฤดูกาลนั้นอยู่ พอ Magic ทราบว่าเขาติดเชื้อ เขาก็ประกาศรีไทร์ออกจากลีกอย่างกะทันหันในวัย 32 ปีเเถมทําใจไว้ล่วงหน้าว่าตัวเองอาจจะตายได้เพราะตอนนั้นยารักษาต่างๆ ยังอยู่ในขั้นทดลอง มันไม่ได้มีสารพัดยาให้เลือกเเบบทุกวันนี้
“ตอนนั้นผมเพิ่งเเต่งงานมาเเค่เดือนเดียวเเละเราเพิ่งมีลูกด้วยกัน ผมเลยนึกไม่ออกว่าจะบอกกับ Cookie ซึ่งเป็นภรรยาของผมยังไงว่าเคยนอกใจเธอระหว่างคบกันเเละติดโรคร้ายที่รักษาไม่หายกลับมา” Magic กล่าว
ก็ถือว่าโชคดีที่ Cookie ให้อภัยสามีของเธอเเต่เธอก็ยังกังวลว่าตัวเองเเละลูกที่เพิ่งเกิดจะติดเชื้อ HIV ด้วยหรือเปล่าเเต่พวกเขาก็รอดตัวไปเมื่อผลออกมาว่าไม่ได้ติดเชื้อ
“ผมรักภรรยาของผมมากเเละไม่อยากให้เธอเสียใจ การเป็นสตาร์ดังมันทําให้ผมเจอกับผู้หญิงเยอะเเละบางทีก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้”
ตอนนั้นมีข่าวลือว่า Magic เป็นเกย์หรือเป็นพวกเสือไบออกมาด้วยเพราะตอนนั้น HIV มักจะพบบ่อยในหมู่พวกรักร่วมเพศเเต่เขาก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้
“หลายๆ คนคิดว่ามีเเต่พวกเกย์ที่ติด HIV เเต่จริงๆ เเล้วพวกไม่เบี่ยงเบนก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน ตอนนั้นคนปฏิบัติต่อผมราวกับว่าเป็นโรคเรื้อนที่ห้ามเเตะ ห้ามกอดหรือห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด”
หลังจากที่ Magic ออกมาเเถลงข่าวผ่านสื่อเเละอําลาวงการบาสไป เขาก็อุทิศเวลาให้กับการกุศลโดยการช่วยหาเงินให้กับโครงการวิจัยยารักษาโรคเอดส์ เขามีชื่อติดผลโหวตทีม All-Star ในปีนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงเลยเเม้เเต่เกมส์เดียว
“ตอนนั้นผมทําพินัยกรรมไว้เรียบร้อยเพราะคิดว่าตัวเองจะต้องตายซะเเล้วเเต่ไปๆ มาๆ ผ่านไป 30 ปีผมก็ยังอยู่ตรงนี้เหมือนเดิมเเละประสบความสําเร็จทั้งด้านการทําธุรกิจเเละชีวิตครอบครัว”
Magic บอกว่าทุกวันนี้เขาก็ยังต้องกินยาต้านไวรัสอยู่ซึ่งปัจจุบันยาต้านไม่ต้องกินวันละ 3 ครั้งเหมือนสมัยก่อนอีกเเล้ว กินวันละครั้งก็พอ
ก็ดีใจกับ Magic ด้วยค่ะที่เป็นคนไข้ HIV ตัวอย่างที่สามารถยืนระยะอยู่ได้ยาวนาน ก็ขอให้เขามีสุขภาพที่เเข็งเเรงตลอดไปนะคะ (Credit: CBS)