สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราแค่อยากจะมาเล่าประสบการณ์ชีวิต เราเติบโตมาในครอบครัวกลางๆ ถูกเลี้ยงดูมาด้วยตากับยายเรารู้สึกรักยายและตามาก ท่านเข้าใจเราทุกอย่าง รับฟังเรา ใช้เหตุผลไม่ใช้ความรุนแรง แต่เมื่อเราอยู่ประถมเราก็ต้องไปอยู่กับพ่อแม่ แต่บ้านของพ่อแม่และยายอยู่ไม่ไกลกันค่ะ ชีวิตของเราก็เริ่มเปลี่ยนไป แม่เราเป็นคนเข้มงวดมาก ไม่ยอมให้เราไปเล่นกีบใครวันๆต้องอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัดที่แม่ซื้อมาให้ ทำผิดนี่โดนก้านมะยมตีเลยค่ะ เราก็เป็นเด็กหัวไม่ดี แต่ก็ต้องพยายามเพราะไม่อยากถูกตี ขนาดแม่เข้าห้องน้ำเรายังต้องยืนท่องสูตรคูณให้แม่ฟัง ตอนแม่กอกน้ำหรือทำอาหาร เราก็ต้องอ่านหนังสือให้แม่ฟัง เรารู้สึกว่าทุกๆอย่างแม่กดดันเราเกินไปจึงขอให้พ่อช่วยพูดกับแม่ บทสรุปคือพ่อกับแม่ทะเลาะกันค่ะ เราก็ได้แต่ร้องไห้รู้สึกเสียใจไม่อยากให้พ่อโดนว่าจึงต้องตั้งใจเรียนต่อไป ผลการเรียนเราก็ดีขึ้นมาเรื่อยไป แต่ทุกๆวันก่อนไปโรงเรียนเราต้องตื่นมาล้างถ้วย กวาดบ้าน ถ้าวันไหนไม่ทำวันนั้นแม่จะโมโหไม่ให้เราไปโรงเรียนเลยค่ะ กวาดบ้านไม่สะอาดก็จะโดนตี เรียนเสร็จกลับบ้านก็ต้องรีบทำงานบ้านทุกๆอย่างแล้วรีบมาทำการบ้านมาอ่านหนังสือทำโจทย์ที่แม่ตั้งให้ หลายครั้งที่เพื่อนชอบถามเราว่าเรานี่เป็นลูกแม่จริงรึเปล่าทำไมแม่โหดจัง เราโดนตีมาทุกแบบค่ะ หนักสุดก็ไม้กวาด จนแขนยกไม่ขึ้นเลย ไม่มีใครช่วยเราได้ ทุกคนที่เข้ามาช่วยก็จะคอยลำบากไปหมด จากนั้นไม่กี่ปีแม่ก็เริ่มมีน้องค่ะ แม่ตามใจน้องมาก ได้ทุกอย่าง น้องไม่ต้องทำอะไร ขนาดเราว่าน้องเรายังผิดเลยค่ะ เวลาเราอยากได้อะไรก็ต้องหาเองค่ะ ไม่กล้าขอแม่เลย รองเท้านักเรียน สี หรืออะไรต่างๆแม่แต่อุปกรณ์การเรียนเรายังต้องซื้อเองเลยค่ะ เราไปทำงานตั้งแต่รับจ้างปลูกยาง ใส่ปุ๋ย กอกดินใส่ถุง ปั่นจักรยานไปเองตลอดเลยค่ะ ปิดเทอมก็ต้องไปทำงานกับญาติที่กทม ไปเป็นคนใช้บ้าง ไปเลี้ยงเด็กบ้าง ทำงานที่ร้านขายของเก่าก็ทำค่ะ ที่เล่ามานี้เราพึ่งเรียนประถมเองค่ะทำงานประมาณนี้มาตลอดจนถึงม. 6 เลยค่ะ ทั้งที่บ้านเรามีสวนมะม่วง เราเคยเก็บไปขายอยู่นะคะได้เกือบหมื่นเลยค่ะ แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บ เพราะแม่จะให้น้องเก็บแทน ส่วนเราต้องนั่งรถไปกทมคนเดียวตั้งแต่ป.4 บางครั้งเราไม่อยากไปแต่สุดท้ายก็โดนกดดันให้ไปค่ะ ถ้าไม่ไปเขาจะไม่ส่งเรียน เราก็ต้องไปค่ะ นั่งร้องไห้บนรถน้อยใจ งานหนักงานเบาก็ทำไป มีครั้งหนึ่งลูกเจ้านายชวนเราไปเที่ยวทะเลด้วย แต่เราไม่กล้าไปหรอกค่ะ เราก็เป็นแค่คนใช้เท่านั้น แต่ในใจนี่ก็อยากไปนะคะ (บางทีก็แอบน้อยใจในชีวิตค่ะทำไมช่วยชีวิตเท่ากันของเรากับเขามันต่างกันจัง)
เรื่องต่อมาที่เราอยากจะเล่าคือเรื่องความรักที่มันไม่เท่ากันค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่าเราเป็นพี่แม่พ่อเลยให้ความรักกับน้องมากกว่า แต่ในบางความคิดเราก็โครตน้อยใจเลยค่ะ เพราะทุกเหตุการณ์ทุกการกระทำมันตรงข้ามกันไปเลยค่ะ เพราะเราต้องเป็นคนผิดทุกครั้งไม่ว่าอะไรก็ตาม น้องต้องถูกเสมอ เราไม่สามารถว่าน้องได้ ไม่สามารถพูดหรือกระทำอะไรไม่ว่าทางวาจาหรือการกระทำ เพราะถ้าเราทำเราจะโดนตีเสมอ ต้องผิดแม่น้องจะเป็นคนผิดก็ตาม
หน้าที่ของน้องเราไม่มีอะไรเลยค่ะ แค่นอนเล่นเกมในห้อง ไม่ต้องทำอะไรส่วนเราก็ต้องทำงานบ้าน ทำงานสวนแค่ไปเรียกให้น้องมาทำช่วยเรายังโดนตี
แต่เราไม่กวาดขยะห้องน้ำเรายังโดนแม่ปามีดใส่เลย บางครั้งการกระทำหรือคำพูดของคนในครอบครัวมันก็ทำร้ายเราจังนะคะ มีหลายครั้งที่เราอยากจะตาย แต่สุดท้ายเราก็ไม่กล้าทำค่ะ ได้แค่กรีดข้อมือตัวเองให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง มันทำให้รู้ว่าเรายังเจ็บนะ เรายังมีความรู้สึก
เรามีชีวิตอยู่ในบ้านเสมือนคนใช้คนหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยมีความสุข ไม่มีอิสระ มีแต่ความผิด ต้องโดนด่าโดนตีตลอด
ควรทำอย่างไรเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่รักลูกไม่เท่ากัน
เรื่องต่อมาที่เราอยากจะเล่าคือเรื่องความรักที่มันไม่เท่ากันค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่าเราเป็นพี่แม่พ่อเลยให้ความรักกับน้องมากกว่า แต่ในบางความคิดเราก็โครตน้อยใจเลยค่ะ เพราะทุกเหตุการณ์ทุกการกระทำมันตรงข้ามกันไปเลยค่ะ เพราะเราต้องเป็นคนผิดทุกครั้งไม่ว่าอะไรก็ตาม น้องต้องถูกเสมอ เราไม่สามารถว่าน้องได้ ไม่สามารถพูดหรือกระทำอะไรไม่ว่าทางวาจาหรือการกระทำ เพราะถ้าเราทำเราจะโดนตีเสมอ ต้องผิดแม่น้องจะเป็นคนผิดก็ตาม
หน้าที่ของน้องเราไม่มีอะไรเลยค่ะ แค่นอนเล่นเกมในห้อง ไม่ต้องทำอะไรส่วนเราก็ต้องทำงานบ้าน ทำงานสวนแค่ไปเรียกให้น้องมาทำช่วยเรายังโดนตี
แต่เราไม่กวาดขยะห้องน้ำเรายังโดนแม่ปามีดใส่เลย บางครั้งการกระทำหรือคำพูดของคนในครอบครัวมันก็ทำร้ายเราจังนะคะ มีหลายครั้งที่เราอยากจะตาย แต่สุดท้ายเราก็ไม่กล้าทำค่ะ ได้แค่กรีดข้อมือตัวเองให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง มันทำให้รู้ว่าเรายังเจ็บนะ เรายังมีความรู้สึก
เรามีชีวิตอยู่ในบ้านเสมือนคนใช้คนหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยมีความสุข ไม่มีอิสระ มีแต่ความผิด ต้องโดนด่าโดนตีตลอด