สัญญาณเตือน! เครื่องปรับอากาศที่เราใช้ใกล้เสื่อมสภาพแล้วหรือยัง
หลายคนมักจะสงสัยว่าเครื่องปรับอากาศที่เราใช้อยู่กี่ปีถึงจะคุ้ม? แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลาเปลี่ยน? เครื่องปรับอากาศที่มีอยู่เสื่อมสภาพหรือยัง? ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนหายสงสัยกัน👇
อายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศก่อนเสื่อมสภาพ
ตรงนี้เราจะไม่สามารถบอกได้ว่าของแต่ละบ้านตีเป็นปีเป๊ะ ๆ เท่าไหร่ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อย่าง สภาพแวดล้อมบริเวณที่ติดแอร์ ไปจนถึงการติดตั้ง แต่โดยเฉลี่ยแล้วอายุการใช้งานก่อนเสื่อมสภาพของเครื่องปรับอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 8-10 ปี จึงจะเริ่มเสื่อมสภาพ
สัญญาณบอกว่าเครื่องปรับอากาศเสื่อมสภาพ
1.หากเครื่องปรับอากาศมีเหตุชำรุดบ่อย ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเวลาได้มาถึงแล้ว นั่นก็คือเสื่อมสภาพเรียบร้อย
2. อีกอาการคือเครื่องปรับอากาศไม่เสีย ยังใช้งานได้อยู่แต่กินไฟมากขึ้น เนื่องจากเมื่อผ่านการใช้งานมาเกินกว่า 10 ปี มอเตอร์หรือแผงวงจรไฟฟ้าจะเสื่อมสภาพ ทำให้ดึงกำลังไฟมาใช้มากขึ้น
หากเครื่องปรับอากาศเสื่อมสภาพแล้วแนะนำให้เปลี่ยนใหม่ไปเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะต้องพบกับปัญหาจุกจิก เสียเงินรวม ๆ แล้วซื้อเครื่องใหม่ได้เลย
นอกจากวิธีสังเกตอาการเสื่อมสภาพแล้ว เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลเครื่องปรับอากาศให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย สามารถไปทำตามกันได้ง่าย ๆ เลย 👇
วิธีชะลอการเสื่อมสภาพของเครื่องปรับอากาศ
1. หมั่นทำความสะอาด แบ่งออกเป็นทำความสะอาดด้วยตัวเอง ด้วยการนำแผ่นกรองออกมาทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และการทำความสะอาดด้วยการล้างใหญ่ ควรให้ช่างผู้ชำนาญเข้ามาทำความสะอาด ทุก ๆ 6 เดือน พร้อมให้ช่างผู้ชำนาญตรวจเช็กสภาพเครื่องปรับอากาศ
2. ปิดประตู-หน้าต่างให้สนิท หรือสังเกตไม่ให้ภายในห้องมีรูรั่ว เนื่องจากจะทำให้เครื่องปรับทำงานหนัก เสื่อมสภาพไว
3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยพลังงานความร้อนออกมาในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ เช่น กาน้ำร้อน ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จะปล่อยความร้อนออกมารบกวนอุณหภูมิในห้อง ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น
4. คอยสังเกตอาการผิดปกติของเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ นอกจากจะให้ช่างผู้ชำนาญเข้ามาตรวจเช็กสภาพทุก ๆ 6 เดือนแล้ว ผู้ใช้งานก็ควรสังเกตเครื่องปรับอากาศด้วยตัวเองด้วย หากมีเสียงดังผิดปกติ หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจากตัวเครื่องปรับอากาศ ให้รีบแก้ไขหรือเรียกช่างผู้ชำนาญเข้ามาเช็กอาการ เพื่อไม่ให้เกิดการเสื่อมสภาพ การซ่อมแซมหรือแก้ไขอย่างทันท่วงทีจะทำให้เครื่องปรับอากาศของเราเกิดปัญหาตามมาน้อย และดีกว่าการที่เราฝืนใช้เครื่องปรับอากาศที่เกิดปัญหาเพราะจะให้ทำยากต่อการแก้ไข
เคล็ด(ไม่)ลับที่อยากบอกต่อ
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า~♥
สัญญาณเตือน! เครื่องปรับอากาศที่เราใช้ใกล้เสื่อมสภาพแล้วหรือยัง
หลายคนมักจะสงสัยว่าเครื่องปรับอากาศที่เราใช้อยู่กี่ปีถึงจะคุ้ม? แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลาเปลี่ยน? เครื่องปรับอากาศที่มีอยู่เสื่อมสภาพหรือยัง? ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนหายสงสัยกัน👇
อายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศก่อนเสื่อมสภาพ
ตรงนี้เราจะไม่สามารถบอกได้ว่าของแต่ละบ้านตีเป็นปีเป๊ะ ๆ เท่าไหร่ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อย่าง สภาพแวดล้อมบริเวณที่ติดแอร์ ไปจนถึงการติดตั้ง แต่โดยเฉลี่ยแล้วอายุการใช้งานก่อนเสื่อมสภาพของเครื่องปรับอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 8-10 ปี จึงจะเริ่มเสื่อมสภาพ
สัญญาณบอกว่าเครื่องปรับอากาศเสื่อมสภาพ
1.หากเครื่องปรับอากาศมีเหตุชำรุดบ่อย ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเวลาได้มาถึงแล้ว นั่นก็คือเสื่อมสภาพเรียบร้อย
2. อีกอาการคือเครื่องปรับอากาศไม่เสีย ยังใช้งานได้อยู่แต่กินไฟมากขึ้น เนื่องจากเมื่อผ่านการใช้งานมาเกินกว่า 10 ปี มอเตอร์หรือแผงวงจรไฟฟ้าจะเสื่อมสภาพ ทำให้ดึงกำลังไฟมาใช้มากขึ้น
หากเครื่องปรับอากาศเสื่อมสภาพแล้วแนะนำให้เปลี่ยนใหม่ไปเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะต้องพบกับปัญหาจุกจิก เสียเงินรวม ๆ แล้วซื้อเครื่องใหม่ได้เลย
นอกจากวิธีสังเกตอาการเสื่อมสภาพแล้ว เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลเครื่องปรับอากาศให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย สามารถไปทำตามกันได้ง่าย ๆ เลย 👇
วิธีชะลอการเสื่อมสภาพของเครื่องปรับอากาศ
1. หมั่นทำความสะอาด แบ่งออกเป็นทำความสะอาดด้วยตัวเอง ด้วยการนำแผ่นกรองออกมาทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และการทำความสะอาดด้วยการล้างใหญ่ ควรให้ช่างผู้ชำนาญเข้ามาทำความสะอาด ทุก ๆ 6 เดือน พร้อมให้ช่างผู้ชำนาญตรวจเช็กสภาพเครื่องปรับอากาศ
2. ปิดประตู-หน้าต่างให้สนิท หรือสังเกตไม่ให้ภายในห้องมีรูรั่ว เนื่องจากจะทำให้เครื่องปรับทำงานหนัก เสื่อมสภาพไว
3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยพลังงานความร้อนออกมาในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ เช่น กาน้ำร้อน ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จะปล่อยความร้อนออกมารบกวนอุณหภูมิในห้อง ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น
4. คอยสังเกตอาการผิดปกติของเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ นอกจากจะให้ช่างผู้ชำนาญเข้ามาตรวจเช็กสภาพทุก ๆ 6 เดือนแล้ว ผู้ใช้งานก็ควรสังเกตเครื่องปรับอากาศด้วยตัวเองด้วย หากมีเสียงดังผิดปกติ หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจากตัวเครื่องปรับอากาศ ให้รีบแก้ไขหรือเรียกช่างผู้ชำนาญเข้ามาเช็กอาการ เพื่อไม่ให้เกิดการเสื่อมสภาพ การซ่อมแซมหรือแก้ไขอย่างทันท่วงทีจะทำให้เครื่องปรับอากาศของเราเกิดปัญหาตามมาน้อย และดีกว่าการที่เราฝืนใช้เครื่องปรับอากาศที่เกิดปัญหาเพราะจะให้ทำยากต่อการแก้ไข
เคล็ด(ไม่)ลับที่อยากบอกต่อ
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า~♥