GEGEN PRESSING คืออะไร ?
- GEGEN PRESSING หรือ เกเก้น เพรซซิ่ง คือการเพรซสูงแย่งบอลกลับให้ไวที่สุดในแดนคู่ต่อสู้ เมื่อเราสูญเสียการครองบอล (ถ้าในภาษาอังกฤษจะเรียกว่าเคาน์เตอร์เพรซซิ่ง) ข้อดีคือเป็นการหยุดการสวนกลับฝั่งตรงข้ามและนำไปสู่โอกาสยิงของฝ่ายเราเอง (เพราะใกล้ประตูฝั่งตรงข้าม)
- โดยจะยกตัวอย่าง 5 รูป ให้เห็นแบบง่ายๆ -
จากรูปที่ 1 - ในวินาทีที่ 27 ผู้เล่นไลป์ซิคครองบอลอยู่
ในรูปที่ 2 - วินาทีที่ 29 ผู้เล่นไลป์ซิคจ่ายบอลเสียให้ฝั่งตรงข้าม และผู้เล่นในวงสีแดงพร้อมเพรซใส่ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามทันที
ในรูปที่ 3 - ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามจ่ายบอลให้เพื่อน แต่ผู้เล่นไลป์ซิค ยังไม่หยุดไล่เพรซ
ในรูปที่ 4 - วินาทีที่ 33 ผู้เล่นไลป์ซิคแย่งบอลกลับคืนมาได้ โดยใช้เวลาแค่ 4 วินาทีเท่านั้นเอง !! (ตามสูตรที่ต้องแย่งบอลกลับเมื่อสูญเสียการครองบอลภายใน 8 วินาที)
ในรูปที่ 5 - วินาทีที่ 36 เมื่อตัดบอลได้ในแดนฝั่งตรงข้ามและใกล้ประตูฝ่ายตรงข้ามนำไปสู่โอกาสยิงประตู ตาม concept เกเก้นเพรซซิ่ง โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วินาทีจากการแย่งบอลเท่านั้น
ซึ่งในตอนนี้ทีมที่มีจุดเด่นในเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นทีม ระดับ top ทั้ง 3 ทีมอย่าง แมนฯซิตี้ , ลิเวอร์พูล และ เชลซี ส่วนทีมระดับรองลงมาอย่าง ไบรท์ตันและเซาแธมป์ตันก็เล่นระบบนี้เช่นเดียวกัน ก็ต้องมารอดูกันว่า ราล์ฟ รังนิค กับเวลา 6 เดือน จะสามารถทำได้ใกล้เคียงทีมเหล่านี้แค่ไหน และ เมื่อจบฤดูกาลน่าจะเห็นอะไรบางอย่างว่าผู้เล่นคนไหนน่าจะได้ไปต่อกับระบบนี้
สุดท้าย..เส้นทางของระบบนี้จะยากลำบากแค่ไหน ต้องติดตามกันต่อไป
ถ้าชอบบทความแนวนี้
ฝากติดตามด้วยนะค้าบ >>>
ถกหลังเกมส์
Gegenpressing (เกเก้นเพรซซิ่ง) คำนี้ฮิตกันจัง มาดูนิยามกันครับว่าคืออะไร
GEGEN PRESSING คืออะไร ?
- GEGEN PRESSING หรือ เกเก้น เพรซซิ่ง คือการเพรซสูงแย่งบอลกลับให้ไวที่สุดในแดนคู่ต่อสู้ เมื่อเราสูญเสียการครองบอล (ถ้าในภาษาอังกฤษจะเรียกว่าเคาน์เตอร์เพรซซิ่ง) ข้อดีคือเป็นการหยุดการสวนกลับฝั่งตรงข้ามและนำไปสู่โอกาสยิงของฝ่ายเราเอง (เพราะใกล้ประตูฝั่งตรงข้าม)
- โดยจะยกตัวอย่าง 5 รูป ให้เห็นแบบง่ายๆ -
จากรูปที่ 1 - ในวินาทีที่ 27 ผู้เล่นไลป์ซิคครองบอลอยู่
ในรูปที่ 2 - วินาทีที่ 29 ผู้เล่นไลป์ซิคจ่ายบอลเสียให้ฝั่งตรงข้าม และผู้เล่นในวงสีแดงพร้อมเพรซใส่ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามทันที
ในรูปที่ 3 - ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามจ่ายบอลให้เพื่อน แต่ผู้เล่นไลป์ซิค ยังไม่หยุดไล่เพรซ
ในรูปที่ 4 - วินาทีที่ 33 ผู้เล่นไลป์ซิคแย่งบอลกลับคืนมาได้ โดยใช้เวลาแค่ 4 วินาทีเท่านั้นเอง !! (ตามสูตรที่ต้องแย่งบอลกลับเมื่อสูญเสียการครองบอลภายใน 8 วินาที)
ในรูปที่ 5 - วินาทีที่ 36 เมื่อตัดบอลได้ในแดนฝั่งตรงข้ามและใกล้ประตูฝ่ายตรงข้ามนำไปสู่โอกาสยิงประตู ตาม concept เกเก้นเพรซซิ่ง โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วินาทีจากการแย่งบอลเท่านั้น
ซึ่งในตอนนี้ทีมที่มีจุดเด่นในเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นทีม ระดับ top ทั้ง 3 ทีมอย่าง แมนฯซิตี้ , ลิเวอร์พูล และ เชลซี ส่วนทีมระดับรองลงมาอย่าง ไบรท์ตันและเซาแธมป์ตันก็เล่นระบบนี้เช่นเดียวกัน ก็ต้องมารอดูกันว่า ราล์ฟ รังนิค กับเวลา 6 เดือน จะสามารถทำได้ใกล้เคียงทีมเหล่านี้แค่ไหน และ เมื่อจบฤดูกาลน่าจะเห็นอะไรบางอย่างว่าผู้เล่นคนไหนน่าจะได้ไปต่อกับระบบนี้
สุดท้าย..เส้นทางของระบบนี้จะยากลำบากแค่ไหน ต้องติดตามกันต่อไป
ถ้าชอบบทความแนวนี้ ฝากติดตามด้วยนะค้าบ >>> ถกหลังเกมส์