ราคาน้ำมัน-หุ้น ร่วงกราว เหตุทั่วโลกกังวลโควิด 'โอไมครอน'
https://ch3plus.com/news/category/267792
จากความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 โอไมครอน ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกอีกครั้ง
มีรายงานว่า ตลาดเงินทั่วโลกเผชิญการเทขายอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มสายการบินและหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการเดินทางท่องเที่ยวอื่นๆ หลังจากนักลงทุนวิตกว่า การแพร่ระบาดของโอไมครอนจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นหยุดชะงักลงอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงหนักกว่า 900 จุดเมื่อปิดตลาดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนราคาน้ำมันดิบ ดับเบิลยูทีไอ ร่วงลง ถึง 13.06 เปอร์เซ็นต์ หรือ 10.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 68.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2020 เป็นต้นมา เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งร่วงลงมา 11.55 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 72.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ ตลาดหุ้นในย่านอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเปิดซื้อขายในวันอาทิตย์ ร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรกของการซื้อขาย โดยดัชนีหุ้นซาอุดี ร่วงลงหนักที่สุดในวันเดียวในรอบ 2 ปี
สุดระทม! ชาวนากาฬสินธุ์ เผยต้นทุนผลิตสูง ขายข้าวขาดทุนยับ
https://www.dailynews.co.th/news/523479/
ชาวนาจ.กาฬสินธุ์ สุดระทม เหตุต้นทุนการผลิต-เก็บเกี่ยวยังสูง ค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวไร่ละ 1,000 บาท แรงงานเกี่ยวข้าววันละ 300 บาท แถมเลี้ยงอาหาร 2 มื้อ ขณะที่ราคาขายข้าวเปลือกยังอยู่ที่ กก.ละ 5-6 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ ที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวเต็มพื้นที่ ทั้งจ้างรถเก็บเกี่ยว จ้างแรงงานคนเกี่ยว พบว่าต่างประสบปัญหาค่าจ้างแพงโดยรถเกี่ยวข้าวไร่ละ 800-1,000 บาท ขณะที่ชาวนาอีกหลายราย เลือกที่จะจ้างแรงงานคนเกี่ยวข้าว เพราะคิดว่าราคาถูกกว่าจ้างรถเกี่ยว และเมล็ดข้าวไม่ตกหล่นเสียหาย โดยให้ค่าจ้างคนละ 300 บาทต่อวันและเลี้ยงอาหารอีก 2 มื้อ (มื้อเช้ากับมื้อเที่ยง) แต่เมื่อบวกลบต้นทุนและค่าใช้จ่ายแล้วก็ยังขาดทุนเช่นเดิม เนื่องจากต้นทุนสูงและราคาขายข้าวเปลือกยังตกต่ำ กก.ละ 5-6 บาท เท่านั้น
นาย
บัวทอง ภูแสงศรี อายุ 53 ปีชาวนาบ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีในปีนี้เห็นว่าค่าจ้างรถรถเกี่ยวและค่าแรงคนงานสูง ตนและญาติพี่น้อง 5 คนจึงช่วยกันเกี่ยวด้วยมือเอง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้มีพื้นที่นาประมาณ 7 ไร่ ใช้เวลาเกี่ยว 5 วันก็เสร็จ จากนั้นช่วยกันมัดฟ่อนข้าวที่ตากแดดแห้งแล้ว ขนฟ่อนข้าวขึ้นลานโดยจ้างรถสีข้าว ซึ่งปีที่ผ่านมาคิดค่าจ้างถุงละ 5 บาท แต่ปีนี้ผู้ประกอบการรถสีข้าวคิดถุงละ 10 บาท อ้างว่าน้ำมันแพง ทั้งนี้ ข้าวของตนและญาติที่ช่วยกันเกี่ยวมือ ได้ข้าวเปลือกจากการจ้างรถสี 120 ถุง เสียค่าบริการ 1,200 บาท ถือว่าสูง แต่ก็ถูกกว่าจ้างรถเกี่ยว อย่างไรก็ตาม การทำนาทุกขั้นตอนต้นทุนยังสูงมาก ชาวนาที่มีพื้นที่ทำนามากยิ่งลงทุนสูง โดยเฉพาะเมื่อนำข้าวเปลือกไปขายขาดทุน สำหรับตนยังไม่เอาข้าวไปขาย ขอชะลอการขายไว้ก่อนสักระยะ เผื่ออนาคตราคาจะสูงขึ้น
ป้าชาวตราดร้องสื่อ ลูกสาวตายหลังฉีดแอสตราฯ เข็มแรก วอนรัฐตรวจสอบเยียวยา
https://www.thairath.co.th/news/local/east/2253382
ป้าชาวตราดวัย 65 ปีสุดเศร้า ลูกสาวผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มแรก วอนรัฐตรวจสอบช่วยเหลือเยียวยา เพราะครอบครัวไม่มีเงิน สวดคืนเดียวจะต้องเผาแล้ว
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 29 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางถวิล แต่งงาน อายุ 65 ปี ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ว่าลูกสาวบุญธรรม คือ นางสาว
เพ็ญรัตน์ พลายเพชรน้อย หรือ แมต อายุ 25 ปี ได้เสียชีวิตหลังจากการไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ที่โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา และได้เสียชีวิตลงเมื่อประมาณตี 3 ของวันที่ 27 พ.ย. 64 ผ่านมา
เมื่อเดินทางไปยังวัดวังกระแจะ เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพน้องแมต พบกับนางถวิล ผู้เป็นแม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นางสาว
เพ็ญรัตน์ เป็นบุตรบุญธรรม ตนเองรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก พ่อแม่น้องได้แยกทางกันไป โดยเลี้ยงดู
น้องแมต มาด้วยความผูกพัน หลังจากที่น้องได้เติบโตมามีนิสัยร่าเริง ขยัน ชอบช่วยเหลือคน และเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานได้ก็จะส่งให้แม่ใช้เดือนละ 5,000 บาท จนกระทั่ง 4 เดือนที่ผ่านมา
น้องแมต ได้เดินทางไปทำงานที่ล้งทุเรียน จ.ชุมพร และเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา น้องได้ไปฉีดวัคซีนเข็มแรก แอสตราเซเนกา ที่โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร และมาเสียชีวิตลงเมื่อกลางดึกวันที่ 27 พ.ย. 64
นาง
ถวิล แม่บุญธรรมน้องแมต กล่าวทั้งน้ำตา ว่า สงสารลูก ถึงแม้ว่าน้องแมตจะไม่ใช้ลูกแท้ๆ ของตน แต่ตนก็เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ รักเหมือนลูก
น้องแมตเป็นเสาหลักของครอบครัว จะเป็นห่วงแม่ตลอด จะโทรคุยกับแม่ตลอด ตนเองอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเยียวยาในการเสียชีวิตของน้องในครั้งนี้ด้วย ตนเองก็ไม่มีเงิน เถ้าแก่เจ้าของล้งได้ช่วยเหลือเบื้องต้น ซื้อโลงศพให้และเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมเพียงแค่คืนเดียวก็จะทำพิธีเผาศพน้อง
ด้านนางสาว
สุรัชนา ท้วมเจริญ เพื่อนผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองกับน้องแมตไปฉีดวัคซีนเข็มแรกด้วยกัน เนื่องจากต้องเดินทางบ่อย จึงจำเป็นต้องฉีด ซึ่งวันแรกที่ไปฉีดวันที่ 25 พ.ย.64 ช่วงประมาณก่อนเที่ยง หลังฉีดวัคซีนก็กลับไปพักผ่อนกันตามปกติน้องก็ยังมีอาการปกติดี มีไข้อ่อนๆ ตนก็ได้โทรถามตลอดเวลา น้องก็บอกว่ามีไข้อ่อนๆ เท่านั้น จนกระทั่งรุ่งเช้าน้องได้นอนเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่ นาง
พรนภา ปิ่นทอง พี่สาวของน้องแมต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเสียใจมากที่น้องเสียชีวิต แต่ยังติดใจว่าทำไมทางโรงพยาบาลถึงได้ฉีดวัคซีนให้ผู้ตาย ในเมื่อน้องเองมีน้ำหนักถึง 104 กก. ทำไมไม่แนะนำให้น้องฉีดตัวอื่น พอเด็กเสียไปแล้วไม่มีใครที่จะออกมารับผิดชอบ หมอแค่ลงความเห็นว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ ตนเองอยากวอนให้รัฐออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้.
JJNY : ทั่วโลกกังวล'โอไมครอน'│ชาวนากาฬสินธุ์เผยต้นทุนสูง ขาดทุนยับ│ป้าร้องสื่อลูกสาวตายหลังฉีดเข็มแรก│ญี่ปุ่นส่อปิดปท.
https://ch3plus.com/news/category/267792
จากความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 โอไมครอน ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกอีกครั้ง
มีรายงานว่า ตลาดเงินทั่วโลกเผชิญการเทขายอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มสายการบินและหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการเดินทางท่องเที่ยวอื่นๆ หลังจากนักลงทุนวิตกว่า การแพร่ระบาดของโอไมครอนจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นหยุดชะงักลงอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงหนักกว่า 900 จุดเมื่อปิดตลาดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนราคาน้ำมันดิบ ดับเบิลยูทีไอ ร่วงลง ถึง 13.06 เปอร์เซ็นต์ หรือ 10.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 68.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2020 เป็นต้นมา เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งร่วงลงมา 11.55 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 72.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ ตลาดหุ้นในย่านอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเปิดซื้อขายในวันอาทิตย์ ร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรกของการซื้อขาย โดยดัชนีหุ้นซาอุดี ร่วงลงหนักที่สุดในวันเดียวในรอบ 2 ปี
สุดระทม! ชาวนากาฬสินธุ์ เผยต้นทุนผลิตสูง ขายข้าวขาดทุนยับ
https://www.dailynews.co.th/news/523479/
ชาวนาจ.กาฬสินธุ์ สุดระทม เหตุต้นทุนการผลิต-เก็บเกี่ยวยังสูง ค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวไร่ละ 1,000 บาท แรงงานเกี่ยวข้าววันละ 300 บาท แถมเลี้ยงอาหาร 2 มื้อ ขณะที่ราคาขายข้าวเปลือกยังอยู่ที่ กก.ละ 5-6 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ ที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวเต็มพื้นที่ ทั้งจ้างรถเก็บเกี่ยว จ้างแรงงานคนเกี่ยว พบว่าต่างประสบปัญหาค่าจ้างแพงโดยรถเกี่ยวข้าวไร่ละ 800-1,000 บาท ขณะที่ชาวนาอีกหลายราย เลือกที่จะจ้างแรงงานคนเกี่ยวข้าว เพราะคิดว่าราคาถูกกว่าจ้างรถเกี่ยว และเมล็ดข้าวไม่ตกหล่นเสียหาย โดยให้ค่าจ้างคนละ 300 บาทต่อวันและเลี้ยงอาหารอีก 2 มื้อ (มื้อเช้ากับมื้อเที่ยง) แต่เมื่อบวกลบต้นทุนและค่าใช้จ่ายแล้วก็ยังขาดทุนเช่นเดิม เนื่องจากต้นทุนสูงและราคาขายข้าวเปลือกยังตกต่ำ กก.ละ 5-6 บาท เท่านั้น
นายบัวทอง ภูแสงศรี อายุ 53 ปีชาวนาบ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีในปีนี้เห็นว่าค่าจ้างรถรถเกี่ยวและค่าแรงคนงานสูง ตนและญาติพี่น้อง 5 คนจึงช่วยกันเกี่ยวด้วยมือเอง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้มีพื้นที่นาประมาณ 7 ไร่ ใช้เวลาเกี่ยว 5 วันก็เสร็จ จากนั้นช่วยกันมัดฟ่อนข้าวที่ตากแดดแห้งแล้ว ขนฟ่อนข้าวขึ้นลานโดยจ้างรถสีข้าว ซึ่งปีที่ผ่านมาคิดค่าจ้างถุงละ 5 บาท แต่ปีนี้ผู้ประกอบการรถสีข้าวคิดถุงละ 10 บาท อ้างว่าน้ำมันแพง ทั้งนี้ ข้าวของตนและญาติที่ช่วยกันเกี่ยวมือ ได้ข้าวเปลือกจากการจ้างรถสี 120 ถุง เสียค่าบริการ 1,200 บาท ถือว่าสูง แต่ก็ถูกกว่าจ้างรถเกี่ยว อย่างไรก็ตาม การทำนาทุกขั้นตอนต้นทุนยังสูงมาก ชาวนาที่มีพื้นที่ทำนามากยิ่งลงทุนสูง โดยเฉพาะเมื่อนำข้าวเปลือกไปขายขาดทุน สำหรับตนยังไม่เอาข้าวไปขาย ขอชะลอการขายไว้ก่อนสักระยะ เผื่ออนาคตราคาจะสูงขึ้น
ป้าชาวตราดร้องสื่อ ลูกสาวตายหลังฉีดแอสตราฯ เข็มแรก วอนรัฐตรวจสอบเยียวยา
https://www.thairath.co.th/news/local/east/2253382
ป้าชาวตราดวัย 65 ปีสุดเศร้า ลูกสาวผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มแรก วอนรัฐตรวจสอบช่วยเหลือเยียวยา เพราะครอบครัวไม่มีเงิน สวดคืนเดียวจะต้องเผาแล้ว
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 29 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางถวิล แต่งงาน อายุ 65 ปี ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ว่าลูกสาวบุญธรรม คือ นางสาวเพ็ญรัตน์ พลายเพชรน้อย หรือ แมต อายุ 25 ปี ได้เสียชีวิตหลังจากการไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ที่โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา และได้เสียชีวิตลงเมื่อประมาณตี 3 ของวันที่ 27 พ.ย. 64 ผ่านมา
เมื่อเดินทางไปยังวัดวังกระแจะ เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพน้องแมต พบกับนางถวิล ผู้เป็นแม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นางสาวเพ็ญรัตน์ เป็นบุตรบุญธรรม ตนเองรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก พ่อแม่น้องได้แยกทางกันไป โดยเลี้ยงดูน้องแมต มาด้วยความผูกพัน หลังจากที่น้องได้เติบโตมามีนิสัยร่าเริง ขยัน ชอบช่วยเหลือคน และเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานได้ก็จะส่งให้แม่ใช้เดือนละ 5,000 บาท จนกระทั่ง 4 เดือนที่ผ่านมาน้องแมต ได้เดินทางไปทำงานที่ล้งทุเรียน จ.ชุมพร และเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา น้องได้ไปฉีดวัคซีนเข็มแรก แอสตราเซเนกา ที่โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร และมาเสียชีวิตลงเมื่อกลางดึกวันที่ 27 พ.ย. 64
นางถวิล แม่บุญธรรมน้องแมต กล่าวทั้งน้ำตา ว่า สงสารลูก ถึงแม้ว่าน้องแมตจะไม่ใช้ลูกแท้ๆ ของตน แต่ตนก็เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ รักเหมือนลูก น้องแมตเป็นเสาหลักของครอบครัว จะเป็นห่วงแม่ตลอด จะโทรคุยกับแม่ตลอด ตนเองอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเยียวยาในการเสียชีวิตของน้องในครั้งนี้ด้วย ตนเองก็ไม่มีเงิน เถ้าแก่เจ้าของล้งได้ช่วยเหลือเบื้องต้น ซื้อโลงศพให้และเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมเพียงแค่คืนเดียวก็จะทำพิธีเผาศพน้อง
ด้านนางสาวสุรัชนา ท้วมเจริญ เพื่อนผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองกับน้องแมตไปฉีดวัคซีนเข็มแรกด้วยกัน เนื่องจากต้องเดินทางบ่อย จึงจำเป็นต้องฉีด ซึ่งวันแรกที่ไปฉีดวันที่ 25 พ.ย.64 ช่วงประมาณก่อนเที่ยง หลังฉีดวัคซีนก็กลับไปพักผ่อนกันตามปกติน้องก็ยังมีอาการปกติดี มีไข้อ่อนๆ ตนก็ได้โทรถามตลอดเวลา น้องก็บอกว่ามีไข้อ่อนๆ เท่านั้น จนกระทั่งรุ่งเช้าน้องได้นอนเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่ นางพรนภา ปิ่นทอง พี่สาวของน้องแมต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเสียใจมากที่น้องเสียชีวิต แต่ยังติดใจว่าทำไมทางโรงพยาบาลถึงได้ฉีดวัคซีนให้ผู้ตาย ในเมื่อน้องเองมีน้ำหนักถึง 104 กก. ทำไมไม่แนะนำให้น้องฉีดตัวอื่น พอเด็กเสียไปแล้วไม่มีใครที่จะออกมารับผิดชอบ หมอแค่ลงความเห็นว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ ตนเองอยากวอนให้รัฐออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้.