ทริปนี้เกิดจากความอยากเที่ยวอันเนื่องจากโควิทที่ไม่ได้ออกไปไหนมานาน  พอได้ออก  เลยออกมันติดๆกันหน่อย  เดือนก่อนก็ไปชะอำ  โดยเลือกจังหวัดที่ไม่เคยไป  เอาใกล้ๆกรุงเทพ  ไปคืนเดียว  เลยไม่อยากขับรถนานๆ  มองไปมองมาเลยมาได้ที่สระบุรี  ตอนหาที่พักก็คาดหวังสูงกับที่พักสักหน่อย  และก็ผิดหวังเยอะหน่อย  เดี๋ยวจะบอกละกันเด้อว่าทำไม
ออกเดินทางกันตอน 9.30 มาถึงจุดหมายแรกคือร้าน Patrick Café  โดยหวังจะฝากท้องทั้งมื้อเช้าและมื้อเที่ยง  มาถึงก็ประมาณ 11.30 แล้ว  ดูจากในเพจร้านจะสวยงาม  บ้านสีขาวขนาดใหญ่  อาหารก็ดูน่ากิน ราคาไม่แพง  ไปถึงที่รู้สึกได้เลยว่า  โดนใจ  สถานที่โอเคมาก  ขอเตือนก่อนว่า  อย่าสั่งอาหารตอนหิว  เพราะจานมาอย่างใหญ่  สั่งยำมาม่าทะเลทรงเครื่อง หมี่กระเฉดทะเล  และสปาเก็ตตี้ซอสแอมไส้กรอก  เสาวรสปั่น และชามะนาวครีมชีส  รวมสนนราคา 500 บาทถ้วน  เรื่องรสชาติ อร่อยดี  อร่อยใช้ได้เลย  แถมให้เยอะมากด้วย  กินกันอิ่มพุงกางมาก  ราคาก็ไม่แพง  ใครจะมาสระบุรี ห้ามพลาดเลย  ตอนไปถึงคนก็มีพอสมควร นั่งไปนั่งมาคนเริ่มเยอะขึ้น  ขนาดวันศุกร์นะเนี่ย   


กินจนอิ่ม  จุดหมายปลายทางถัดไปก็คือ  วัดพระพุทธฉาย  แรกๆตั้งใจอยากไปนมัสการรอยพระพุทธบาท  แต่ไปถึงเหมือนทางวัดปิดทาง  ไม่ให้ขึ้น  เลยไม่ได้ไหว้ แถมลิงที่วัดเยอะมาก  ใครกลัวลิงไม่แนะนำให้มานะค่ะ  เลยตั้งใจไปจุดหมายถัดไปคือ  อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย  อันนี้สิทีเด็ด  เปิด GPS  เจอคำว่าอุโมงค์รถไฟทางใต้เขาพระพุทธฉาย (อะไรทำนองนี้)  อย่าไปเด็ดขาด  ขอเน้นว่าอย่าไป  เพราะมันพาไปทางที่อันตรายมากถึงมากที่สุด  ทางที่ไม่ควรเข้าไป  แต่เข้าไปแล้ววนกลับมาไม่ได้  ทางเดียวที่จะรอดคือต้องไปให้ถึงปลายทาง  บอกเลยว่ามันเป็นฝันร้ายของทริปนี้ชัดๆ  ทางวิบาก  กลัวแทบตายว่ารถจะดับ  ออกมาได้เนี่ยแทบอยากกรี๊ดด้วยความดีใจที่ยังรอดชีวิต  เจอคนระหว่างทางเค้างงว่ามาได้ยังไง  ทางแบบนี้มันต้องรถออฟโรดเท่านั้น  เค้าบอกเราโชคดีมากที่ขับมาได้ขนาดนี้ เอาเป็นว่ามาถึงได้แต่ไม่มีอารมณ์จะถ่ายรูปใดๆแล้ว  ขออย่างเดียว  ขอทางออกถนนใหญ่ให้ได้พอ GPS มันก็ช่างสรรหาทางมาจริงๆเลย
ออกมาถนนใหญ่ได้ระหว่างทางเจอวัดพระพุทธแสงธรรม  วัดใหญ่มาก  สวยมาก  พื้นที่เยอะมาก  เยอะขนาดวัดต้องติดป้ายว่าห้ามหัดขับรถในวัด  วัดนี้ทั้งใหญ่ทั้งสวยเลย  พระพุทธรูปก็องค์ใหญ่มาก  ถ้าพระหรือแม่ชีจะเดินไปไหนมาไหนในวัด  ควรมีรถรับส่งนะเนี่ย  โรงอาหารก็ใหญ่มาก  มีศาลาสำหรับให้คนมาปฎิบัติธรรม  มีโดมใหญ่ๆที่ยังสร้างไม่เสร็จ  แนะนำเลยใครมาสระบุรีต้องมาที่นี่  ในนี้มีร้านกาแฟด้วยนะ  แต่ไม่ได้ลองเลย  อิ่มอยู่

จากวัดก็ตรงมาที่พักเลย  ที่พักครั้งนี้ชื่อว่า ณดล สตรีมไซด์ ไทย วิลล่า เป็นที่พักแนวไทยๆ  จองห้องพัก Creek Deluxe รวมอาหารเช้า  ในราคา 1690 บาทต่อคืน  สภาพแวดล้อมที่พักเป็นธรรมชาติมาก  ติดลำธารน่าเล่นมาก  แต่น้ำเย็นมาก  ในส่วนของห้องพักนั้น ต้องขออภัยถ้าพูดตรงไป  เก่ามาก  ผ้าม่านขึ้นรา  ห้องน้ำสีขาวก็เต็มไปด้วยเชื้อราตามซอกกระเบื้อง มีสนิมขึ้นตามก๊อก ผนังแตกร้าว  แม้แต่โคมไฟตั้งโต๊ะทำงานยังเก่ายังแตก  แอร์ไม่เย็น  แถมเสียงดัง  เรียกช่างมาซ่อมกว่าจะมาปาไปเกือบชั่วโมง  ซ่อมก็ไม่หาย  wifi ก็ไม่เริ่ดไม่แรง  หลุดบ่อยมาก ที่นั่งข้างนอกไม่กล้านั่ง  เพราะเบาะดูไม่สะอาดเอาซะเลย  เสียดายเพราะวิวดี  เหมาะซื้ออะไรมานั่งกินเล่นชิวๆ  เตียงนอนสบาย  แข็งดี  ชอบแบบนี้  ไม่ชอบเตียงนุ่มๆ   มีหมอนมาให้หลายใบ  สรุปคือไม่แนะนำเท่าไหร่  แต่บางคนอาจชอบ  เพราะวิวดีมาก  พนักงานพูดจาดี  ไพเราะ แต่ดูไม่ค่อยกระตือรือล้นเท่าที่ควร  ได้ยินว่าคืนวันเสาร์ห้องเต็มเลยทีเดียว จริงๆถ้าห้องไม่เก่าขนาดนี้จะโอเคมากนะ  เพราะห้องสวย  ห้องน้ำใหญ่  มีอ่างอาบน้ำด้วย  แต่ไม่ได้ใช้เลย
พักผ่อนลงไปว่ายน้ำ  สระที่นี่ในรูปเหมือนใหญ่  ของจริงก็คือเล็กกระทัดรัดมาก  สระลึก 150 เซนติเมตร ตลอดสระ  มีป้ายติดว่าห้ามกระโดดน้ำและให้ใส่ชุดว่ายน้ำ  แต่ก็มีผู้ปกครองที่พาเด็กมาเล่นน้ำใส่ชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น  และกระโดดน้ำเล่นกันสนุกสนาน  มันแย่มากเลย  ป้ายมันก็ติดอยู่ชัดเจน  แต่ก็ยังจะมักง่ายกัน  ซึ่งพนักงานก็เดินไปมาก็ไม่มีใครมาตักเตือน  ทำให้หมดอารมณ์เล่นน้ำเลยทีเดียว  ที่นี่มี Fitness เล็กๆให้บริการด้วยนะ  แต่ไม่ได้ลองเข้าไปเล่น


หลังว่ายน้ำก็ได้เวลาข้าวเย็น  แรกๆกะจะซื้อจากตลาดมากิน  เพราะตอนขามามีผ่านตลาด  แต่พอขับออกไปดูตลาดวายซะแล้ว  เลยเปลี่ยนเป็นกลับมาสั่งจากที่พักมากิน ซึ่งถ้าจะสั่งมาที่ห้อง  จะมีค่าส่ง 100 บาท  นอกจากเราจะยกจานไปเอง  ถึงจะไม่มีค่าส่ง  สั่งผัดไทยห่อไข่ไม่ใส่ถั่วงอก+กะเพราหมูสับหน่อไม้ราดข้าว  สนนราคารวม 282 บาท  ตัวอาหารผัดไทยธรรมดา  อร่อยกินได้  แต่ตัวกะเพราะอร่อยมาก  อร่อยจนอยากซื้อกลับบ้าน  ราคาก็มาตราฐานร้านอาหารในโรงแรม   กินเสร็จอิ่มนอนได้  สบายใจละ

รุ่งเช้ากับอาหารเช้าโรงแรม  จะมี set ให้เลือกว่าจะกินอะไร  เลือกได้ไม่อั้น  ถ้ากินไหว  เลือกสั่งเซตผัดหมี่สิงคโปร์ หอยทอดไม่ใส่ถั่วงอก ข้าวต้มกุ้ง และข้าวผัดนาซี  อาหารเช้าไม่ได้ว้าว  รสชาติธรรมดา  ข้าวต้มไม่ร้อน  ตัวข้าวผัดได้ไก่มานิดนึง  ไม่ค่อยคุ้ม  เหมือนเน้นให้กินข้าวซะมากกว่า  ใครอยากกินหลายเซตแนะนำให้สั่งไปทีเดียว  ไม่งั้นจะรอนาน  รอยาว  เพราะเค้าทำตามคิว  กว่าจะทำครบคิวแล้ววนกลับมา  อารมณ์มันจะค้าง

กินเสร็จเตรียมตัว check-out กลับ  ก็หาสถานที่เที่ยว  โชคดีมากไปเปิด facebook สวนบิ๊กเต้  เปิดวันนี้วันแรกพอดี  แต่เปิดแบบ soft opening คือเปิดไม่เต็มที่  เลยลองไปดู   ปกติที่นี่ค่าเข้า 30 บาท  แต่ด้วยวันนี้เป็นวันแรกที่เปิด  ยังเปิดไม่ทุกส่วน  ไร่ดอกไม้ยังบานไม่เยอะ แต่ก็มีที่สำหรับถ่ายรูปอยู่นะ  ได้รูปสวยๆมาเพียบ  แต่ต้องเดินไกลหน่อย  แปลงที่ดอกไม้บานดันอยู่ไกล วันนี้เลยไม่เก็บค่าเข้า  ที่นี่มีขายผักด้วยนะ  สนใจสั่งซื้อกันได้  อยากสั่งผ่าน FB ก็ทำได้  เข้าไปที่ FB ผักอควโปนิกส์ Pak Aquaponics ก็สามารถสั่งได้  ผักสด ต้นใหญ่  อร่อยมาก  ตอนซื้อมีโปร  ถ้าไลค์กับแชร์ FB จะได้ของแถม  ถ้าซื้อครบ 100 บาท ได้แถม 50 บาท  คุ้มเกินคุ้ม  

ออกจากสวนบิ๊กเต้  ก็ผ่านมายังไร่ภูนวพันธุ์  เป็นสถานที่จบทริปสระบุรี กะจะมาซื้อองุ่นสดสักหน่อย  แต่เสียดาย  องุ่นยังไม่โตเลยได้ซื้อน้ำกับของฝาก (ผลิตภัณฑ์ทำงานองุ่น)  และถ่ายรูปสวยๆกับแปลงองุ่นแทน  ตอนถ่ายรูปจะมีพี่พนักงานพาเข้าแปลง  พนักงานจะคอยเตือนไม่ให้เราเด็ดองุ่น  หรือเอาหัวไปโดนองุ่นของเค้า  วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนมากๆจริงๆ  ถ่ายรูปไร่องุ่น  แดดไม่มีแผ่วเลย

สรุปแล้ว คชจ ที่เสียไปทั้งทริปคือ ค่าห้อง 1690 ค่ากิน 877 ค่าน้ำมัน 700 รวม 3267 ตกคนละ 1633.5 บาทเอง  ถือว่าไม่แพง  แถมประสบการณ์หลงทางตอนจะไปอุโมงค์จะตราตรึงใจไม่รู้ลืม  เป็นฝันร้ายที่น่าจะติดหัวไปอีกหลายคืน   และจำไปจนตาย  หวังว่าจะไม่มีใครหลงไปทางนั้นอีกนะ  แค่คิดก็สยองแล้ว  สิ่งที่ประทับใจที่สุดในทริปคือคาเฟ่แรกที่ไป  Patrick Café  อาหารอร่อย ให้เยอะ  ใครมีโอกาสไปสระบุรีก็ลองแวะไปกินกันดูนะ