สาเหตุที่เปลี่ยนเฟสบุ๊คบ่อยๆของแต่ละคนคืออะไร?

คำถามตามหัวข้อเลย

ตั้งแต่เด็กจนโต เท่าที่จำความได้...
เจ้าของกระทู้​เปลี่ยนเฟสบุ๊ค(ที่เป็นเฟสจริงชื่อจริงรูปหน้าตัวเองจริง)​ มา5แอคเค้าท์​ (5แอคเค้าท์คือแอคเค้าท์ที่เป็นแอคเค้าท์จริง ไม่รวมแอคเค้าท์หลุม,
แอคเค้าท์บอท, แอคเค้าท์ที่ยืมเมจบังหน้า เพราะแอคเค้าท์พวกนั้นก็มีเยอะ แต่ลบไปหมดแล้ว ตอนเด็กๆ บางช่วง จำได้ว่าช่วงมัธยม ก็เคยสมัครแอคเค้าท์หลุมด้วย แอคเค้าท์หลุม/บอท/เมจก็คือแอคที่ไม่เปิดเผยตัวตน เช่นไม่เปิดเผยชื่อ ไม่มีรูปตัวเอง ใช้รูปดารา หรือรูปการ์ตูนบังหน้า ตอนนั้นสมัครไว้หลบภัยเวลาเครียดๆ ก็จะไปหลบอยู่ในแอคเค้าท์นั้นเพราะไม่มีใครรู้จักเรา มีแค่เพื่อนที่สนิทจริงๆเท่านั้นที่รู้แอคเค้าท์พวกนั้นของ)​

เฟสบุ๊คตอนประถม มี2 แอคเค้าท์
-แอคเค้าท์ที่1 ตอนนั้นสมัครเพื่อเอาไว้เล่นเกมและติดต่อเฉพาะบางคน ตอนนั้นไม่ค่อยรับใครเยอะ เพราะค่อนข้างโลกมีส่วนตัวสูงในโซเชียลมีเดีย ตอนนั้นรับเฉพาะคนในครอบครัวกับเพื่อนและคนรู้จักบางคน (รับเฉพาะคนกลุ่มน้อย)​ เพราะในตอนนั้นส่วนมากใช้เพื่อเล่นเกม เป็นแอคที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ใช้มาประมาณ1ปีกว่าๆถึง2ปี แล้วก็ลบทิ้งไป เพราะตอนนั้นอยากเปลี่ยนชื่อเฟส แต่มันเปลี่ยนไม่ได้ เพราะก่อนหน้านั้นมันเออเร่อ เผลอกดส่งเรื่องเปลี่ยนชื่อไปหลายครั้ง มันเลยเปลี่ยนไม่ได้ ก็เลยลบทิ้งเพราะเปลี่ยนชื่อไม่ได้ บวกแอคนั้นมีแต่การแจ้งเตือนเกมล้วนๆทั้งแอ๊ค แล้วก็มีรูปภาพแบบตอนเด็กล้นแอ๊ค แอ๊คนี้ใช้มาประมาณ1-2ปี เป็นเฟสบุ๊คที่เอาไว้เล่นเกมและใช้เป็นเฟสส่วนตัวแบบเงียบๆ คือเป็นเฟสบุ๊คที่ไม่รับคนเยอะ เป็นเฟสบุ๊คที่เอาไว้อยู่กับความสงบ สุดท้าย ตัดสินใจลบเพราะว่าบัญชีโดนบล๊อกการเปลี่ยนชื่อ อยากเปลี่ยนชื่อในเฟสบุ๊คแต่มันเปลี่ยนไม่ได้ และตอนนั้นก็แก้ไขไม่เป็น จริงๆมันมีวิธีแก้ไขสำหรับเฟสบุ๊คที่โดนบล๊อกการเปลี่ยนชื่อแต่ตอนนั้นเพิ่งเล่นเฟสบุ๊ค1-2ปีแรกยังเล่นไม่ค่อยชำนาญและแก้ไม่เป็น ก็เลยลบไป

-แอคเค้าท์ที่2เอาไว้รับคนทั่วไปเลย รับเยอะ ทั้งเพื่อน ครอบครัว คนรู้จัก คนในโรงเรียน เป็นเฟสที่รับทุกคนที่รู้จัก แต่ก่อนจบป.6 แอคที่2มันเข้าไม่ได้ ทั้งที่กรอกอีเมลกรอกรหัสเฟสถูกทุกอย่างเลย คิดว่าน่าจะลืมยืนยันอีเมลหรืออะไรสักอย่าง อยู่ๆระบบมันก็ล๊อคบอกว่าไม่สามารถเข้าได้ต้องรอตรวจสอบข้อมูลอะไรไม่รู้ แล้วแอคนั้นก็บินไปเลย พอเข้ามัธยม เริ่มต้นมา ก็เปิดแอ๊คใหม่

-แอ๊คที่3 ใช้ตั้งแต่ขึ้นม.ต้นช่วงแรกๆ ใช้มา1ปีครึ่ง สุดท้ายก็ลบ เพราะตอนนั้นมีปัญหาอะไรสักอย่าง แล้วเจออะไรในโซเชียลที่มันเป็นพิษต่อใจเยอะ ช่วงนั้นรู้สึกว่าเล่นเฟสแล้วทำให้เสียสุขภาพจิต ก็เลยลบ เลิกเล่นแบบนานอยู่ เลิกเล่นไปประมาณเกือบๆปี

-แอคที่4 มาสมัครตอนใกล้จะจบมัธยมต้นแล้ว แต่เล่นได้ไม่กี่เดือนก็โดนบุคคลปริศนามาแฮ๊ครหัสบัญชี และกู้คืนบัญชีไม่ได้ด้วย สุดท้ายเฟสบุ๊คก็ปลิวหายไป และโดนลบบัญชี!
-แอคที่5 แอคปัจจุบัน ใช้ถาวร ใช้มาหลายปีแล้ว ปัจจุบันก็ใช้อันเดียว ...

สำหรับสาเหตุที่ลบเฟสบุ๊คเก่าและเปลี่ยนเป็นบัญชีเฟสบุ๊คใหม่สาเหตุที่เปลี่ยนนะ ไม่นับแอคเค้าท์ที่โดนสแปมหรือโดนสั่งปิดบัญชีเพราะสาเหตุบางอย่าง
1.บางครั้งก็มีความรู้สึกเริ่มต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เนื่องจากเฟสบุ๊คเป็นสื่อออนไลน์ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายมากๆ และรู้จักกันได้ง่ายมากๆผ่านระบบออนไลน์
เนื่องจากตอนนั้นรู้สึกว่าการที่เรารู้จักผู้คนจำนวนมากมันทำให้เกิดความวุ่นวายตามมาภายหลัง การรับรู้เรื่องของผู้คนหมู่มากผ่านฟีดข่าวในโซเชียล บางครั้งก็มีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีที่ต้องคัดกรองก่อนรับข้อมูลเข้าสมอง
2.เรื่องของความรู้สึก
หลายๆครั้งโซเชียลมีเดียก็มีผลต่อความรู้สึกของคนที่ใช้มัน เช่น การโพสต์ข้อความโต้ตอบกลับอาจมีการพาดพิงถึงบุคคลอื่นๆ การเข้าไปเห็นอะไรบางอย่างที่ส่งผลต่อจิตใจ เช่น อาจจะมีปัญหากับเพื่อนฝูงในสังคม มีปัญหาหัวใจ อกหัก ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้เมื่อเข้าไปเห็นอะไรในโซเชียลมีเดีย
3.การไม่คัดกรองคน เวลารับแอ๊ดใครเข้ามา
บางครั้งการรับแอ๊ดเพื่อนในเฟสบุ๊คมากเกินไปโดยที่ไม่ได้คัดกรองจนมีเหตุอะไรบางอย่างตามมา
และการที่ต้องมานั่งไล่ลบภายหลังก็ทำให้เสียเวลามากเช่นกัน
4.การที่เราควบคุมตัวเองไม่ได้ในการที่รู้สึกอะไรและโพสต์ออกไป บางอย่างมันก็ไม่ดี และบางครั้งเราก็เผลอโพสต์อะไรที่ไม่ดีออกไปเยอะในตอนที่เรารู้สึกเครียดหรือรู้สึกเศร้า บางครั้ง เราก็ปล่อยผ่านจนเวลามันผ่านไปนาน พอรู้ตัวอีกที.. จะมานั่งไล่ลบโพสต์พวกนั้นทีหลังก็ไม่รู้จะลบหมดไหม?  
5. รู้สึกเบื่อ ไม่อยากเข้า ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากติดโซเชียล รู้สึกอิ่มตัวกับทุกอย่าง
เลยแยกไปสิงไลน์ สิงแอพอื่นที่มันให้ความสงบและถูกรบกวนน้อยกว่านี้
และก็..เหตุผลอื่นๆก็มีบ้าง แต่หลักๆมักจะเป็น5ข้อนี้ สำหรับเจ้าของกระทู้นะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่