ว่าด้วยเรื่องของBrauty Standard (แลกเปลี่ยนความคิดเห็น)

สวัสดีค่ะ จากหัวข้อเลยนะคะ ในเรื่องของการว่าด้วยเรื่องBeauty Standard

เรากำลังสงสัยว่า ในเรื่องของBeauty Standardมันครอบคลุมกันมากขนาดไหน ความหมายของมันหลักๆคือมาตรฐานความงามถูกมั้ยคะ แต่ว่า มันครอบคลุมเรื่องของมาตรฐานความงามขนาดไหนล่ะ

สิ่งที่Beauty Standardอยากบอก ก็คือไม่ควรตั้งมาตรฐานความงามบนโลกใบนี้ สวยก็สวยไปในแบบของตัวเอง ไม่มีใครไม่สวยไม่หล่อ แค่ไม่มีใบหน้าที่เป็นที่นิยมเพียงเท่านั้น

แต่มันก็จะมีอย่างหนึ่งที่ตามมาก็คือ เราเพียงแค่ต้องการมีใบหน้าแบบนั้น ใบหน้าตามแบบที่เราอยากได้แล้วมันตรงกับพิมพ์นิยม คุณกำลังหาว่าเราสนับสนุนBeauty Standardอยู่ใช่ไหม? เพียงแค่เพราะเราอยากมีหน้าตาที่มันฮิตๆ คุณก็หาว่าเราสนับสนุนBeauty Standard ไม่ยอมพอใจรูปร่างหรือใบหน้าธรรมชาติของตัวเอง

เราอยากรู้จริงๆ การAnti Beauty Standardคือการแอนตี้การตั้งมาตรฐานความงามหรือแอนตี้ใบหน้าแบบนั้นกันแน่? ถ้าในเมื่อเราอยากมีใบหน้าแบบนั้นแต่มันเป็นใบหน้าที่ฮิตและเป็นพิมพ์นิยม

มีอีกเรื่องก็คือ แล้วการดูแลตัวเองล่ะ เรื่องของผิวใสไม่ใส ผิวดีไม่ดี ไม่มีฝ้ากระ(ไม่นับเรื่องสิวนะ เพราะมันก็เหมือนการรักษาแผลตามร่างกายปกติ) เรื่องของสิวยังพอว่าเพราะมันเจ็บ ต้องรักษามันให้หาย แต่เรื่องฝ้ากระ รอยดำรอยแดงเนี่ย มันเป็นเพราะอิทธิพลด้านความงามหรือการพึงพอใจของตัวเองกันแน่ที่จะลบรอยเมลานินเหล่านี้ออกไปให้มันเนียนกริบทั้งหน้า อิทธิพลความคิดเหล่านี้มาจากBeauty Standardหรือความพึงพอใจที่จะลบมันออกไป 
 แต่ทุกครั้ง หลังจากรักษาสิวเสร็จแล้ว ก็จะมีอีกอย่างหนึ่งตามมาเสมอๆก็คือ การลบรอยสิวออก ซึ่งมันก็เป็นเมลานินเพิ่มจากการที่เราเป็นสิวซึ่งมันก็กลายเป็นสีผิวเราโดยปริยาย แบบนี้ถ้าเราลบสีเหล่านี้ออกจะกลายเป็นว่าเรากำลังดูถูกสีผิวตัวเองอยู่ใช่ไหม? และไม่พอใจกับการมีสีผิวที่ไม่เนียนเสมอกันอย่างนี้เหรอ?

แล้วเรื่องของสีผิวอีกแล้ว ในส่วนของการแต่งหน้า คือการลบรอยคล้ำไม่สดใสของผิวออกไปทั้งๆที่กำลังมีการรณรงค์เรื่องของคนผิวดำหรือสีผิวอะไรก็ไม่ควรดูถูก แบบนี้เพราะเป็นอิทธิพลที่ว่ามีสีตรงไหนคล้ำมันไม่สวยไม่โอเคอย่างนี้เหรอคะ หรือเป็นเพราะอะไรอีก

แล้วถ้าเรื่องของBeauty Standardมันสำเร็จแล้ว วงการเสริมความงามด้านเครื่องสำอางจะยังคงอยู่หรือเปล่าถ้าให้ทุกคนพอใจกับสีผิวของตัวเองพอใจกับผิวของตัวเอง

สรุปยังไงทุกคนก็มีมาตรฐานด้านการแต่งหน้าในส่วนของการลบรอยคล้ำหมอง ลบรอยดำออกไปอยู่ดีต้องการผิวเนียนกริบไม่ใช่เหรอ มันไม่ตามมาตรฐานความงามด้านผิวกันตรงไหน มันก็ตามอยู่ดีชัดๆ

เรื่องนี้มันเลยกลายเป็นการแอนตี้มาตรฐานความงาม แอนตี้คนหน้าตาแบบนี้ แอนตี้คนต้องการมีหน้าตาแบบนี้หาว่าเขาสนับสนุนมาตรฐานความงามมากกว่าการลบมาตรฐานความงามออกไปซะอีกนะคะ เราต้องอดทนกับการที่เราไม่พอใจและอยากมีหน้าตาแบบไหนไปถึงอีกเมื่อไหร่เพียงเพราะคำว่าให้พอใจในหน้าตาธรรมชาติของตัวเองไม่ต้องทำตามใคร

คำถามแลกเปลี่ยนคือ เราควรแอนตี้มาตรฐานความงาม หรือแอนตี้คนที่ตั้งมาตรฐานกันแน่

แลกเปลี่ยนความคิดจากเรา : ตามที่เขาบอกกัน ทุกคนบนโลกมีความงามในแบบของตัวเอง มีความสวยหล่อในแบบของตัวเอง ไม่มีมาตรฐานความงามในโลก

แล้วถ้าคนเหล่านั้นเขามีหน้าตาแบบนั้นอยู่แล้ว จะกลายเป็นว่าคนเหล่านั้นทำตามมาตรฐานความงามใช่มั้ย แค่มีหน้าตาตามพิมพ์นิยมหน้าตาที่มันฮิต สุดท้ายก็กลายเป็นว่าเขาทำตามพิมพ์นิยมทั้งๆที่นั่นก็หน้าจริงๆของเขาจนกลายเป็นคนหน้าตาแบบนี้ก็โดนด่า แบบนั้นก็โดนเยาะเย้ย ไม่มีอะไรดีเลยซักอย่าง แบบนี้มันได้เหรอคะ? นี่คือความเห็นของเราต่อการแอนตี้มาตรฐานความงาม

ส่วนถ้ามาแอนตี้คนตั้งมาตรฐานความงามบ้าง จากเรา เราคิดว่ามันโอเคกว่ามาก ความงามมีหลากหลาย มีหลายอย่าง อยากหน้าตายังไงก็ได้ อยากหน้าฮิตก็ได้หน้าไม่ฮิตก็ได้ ผิวสีไหนก็ได้ จะทำยังไงก็ได้ เพียงแค่ถ้าคนที่มีความแตกต่างหรือเป็นอย่างตรงข้ามที่เราบอกข้างบน (หน้ามีสิว หน้าไม่ฮิต สีผิวไม่เนียนไม่ใส) เพียงแค่ไม่มีสิทธิ์ไปกดทับเขาหรือไปบอกเขาว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะทุกคนแตกต่างและมีความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์ 

ยังไงความไม่มั่นใจในตัวเองมันก็ไม่มีทางหายไปจากโลกนี้หรอกเพราะยังไงในส่วนลึกของจิตใจเราก็ยังรู้สึกกับใบหน้าพิมพ์นิยมเห็นแล้วสะดุดตามากกว่าอยู่ดี มันก็ต้องมีการเปรียบเทียบกับตัวเองอยู่ดีเพียงแค่ในอนาคตข้างหน้าอาจไม่มีคนมาดูถูกเรา แต่เป็นจิตใจเราที่ดูถูกตัวเอง เลยต้องการมีหน้าตาแบบนี้แบบนั้น ผิวเนียนไร้สิวหรือต่างๆ ทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองมั่นใบในที่สุด

ยังไงศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดก็คงเป็นกระจกกับความคิดของตัวเองมากกว่าอยู่ดี อะไรมันจะดีขึ้นได้ถ้ายังคงดูถูกตัวเองอยู่ เราก็ต้องทำให้เรามั่นใจในตัวเองมากขึ้นจนสามารถเดินได้แบบเฉิดฉาย ไม่ใช่ยังคงจุมปุ๊กกับตัวเองหน้าตาเดิมๆด้วยคำที่ติดว่าให้ภูมิใจในหน้าตาของตัวเองทั้งๆที่เรากำลังรู้สึกไม่โอเค

พอเป็นแบบนี้ เราต้องการให้แอนตี้คนตั้งมาตรฐานความงามมากกว่า อีกอย่างคือ การทำทุกอย่างให้ตัวเองมั่นใจทางหน้าตาไม่ใช่การมีมาตรฐานความงามในใจจนต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เป็นการทำให้ตัวเองมั่นใจต่างหาก ไม่เห็นเหรอแค่คน ทำศัลยกรรมพลาสติกจมูกแค่อย่างเดียว แม้หน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปทางพิมพ์นิยมแต่เขาก็มั่นใจในใบหน้าตัวเองแล้ว นั่นเพราะเขาจะทำให้ตัวเองมั่นใจในตัวเองไม่ใช่การสนับสนุนมาตรฐานความงามแต่อย่างใดเลย 

การแอนตี้คนตั้งมาตรฐานความงาม ก็จะกลายเป็นการ แอนตี้Standardหรือการแอนตี้มาตรฐาน แอนตี้การตั้งมาตรฐานไม่ควรมีหน้าตาแบบไหนเป็นมาตรฐาน ไม่ใช่การแอนตี้ความสวยแบบมาตรฐาน แอนตี้Beauty Standardเพราะทุกใบหน้ามีความหมาย(ไม่มีใบหน้าไหนเป็นมาตรฐาน มีแค่พิมพ์นิยมกับไม่เป็นพิมพ์นิยมแค่นั้น) แม้จะหน้าตาแบบไหนก็ไม่ใช่มาตรฐาน ทุกคนหน้าตาแบบไหนก็ได้ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นพิมพ์นิยมจนถูกหาว่าสนับสนุนBeauty Standard(ทำให้หน้าตาตัวเองเป็นพิมพ์นิยมเพื่อถูกยอมรับ)ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไม่เป็นพิมพ์นิยมจนถูกดูถูก เราต้องแอนตี้คนที่มาด่า ไม่ใช่ไปแอนตี้ใบหน้าแบบไหน คนที่ดูถูกคนอื่นควรจะต้องหายไปไม่ใช่การทำให้ความไม่โอเคในตัวเองหายไปและคงอยู่ด้วยคำว่าพอใจในหน้าตาธรรมชาติของตัวเอง

รักสวยรักงามไม่ใช่การสนับสนุนBeauty Standard แต่เป็นการทำให้มั่นใจในตัวเอง
และการมีหน้าตาพิมพ์นิยมไม่ใช่การสนับสนุนBeauty Standardเช่นกัน

และมันจะไปขัดกับหลักการของวงการเสริมความงามที่ให้ทำตามความต้องการด้านความงามของตัวเอง แทนที่จะพอใจกับใบหน้าธรรมชาติของตัวเองถ้าเราต้องทนทุกข์หรือมีความต้องการใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอๆ คล้ายๆเทรนด์ถุงใต้ตายุคนึงนั่นแหละ

ที่กลายเป็นกระทู้นี้เพราะทุกเว็บก็เขียนเหมือนกันหมดว่า Beauty Standardคือความงามตามมาตรฐาน มาตรฐานความงาม พยายามทำให้ตัวเองมีหน้าตาแบบนี้เพื่อไม่โดนดูถูก ไม่ควรสนับสนุนมาตรฐานความงามเพราะลดทอนคุณค่าของตัวเอง ตัวเองมีคุณค่าไม่ควรดูถูกตัวเอง ไม่ควรมีมาตรฐานความงามจนสร้างความไม่มั่นใจในตนเอง ให้มั่นใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ว่าทุกคนมีความแต่งต่าง แล้วก็ตบท้ายด้วยสวยบากภายในบ้าง มีเสน่ห์อย่างอื่นบ้าง ไม่มีการที่บอกว่าเปลือกนอกทุกคนสวยด้วยเลย สุดท้ายทุกคนก็ไม่ได้มีใบหน้าที่สวยอย่างนั้นเหรอ?

เรื่องนี้สอนให้เรารู้คุณค่าในตนเอง ไม่ควรลดทอนคุณค่าของตัวเองจากคำพูดคนอื่น และคิดว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือต้องการมีใบหน้า สีผิว หรือรูปร่างแบบไหนเป็นการลดทอนคุณค่าในปัจจุบันของตนเอง แต่มันคือการทำตามความต้องการ ความชอบ ความงามตามแบบที่ตัวเองอยากเป็น ตามที่มันมีพิมพ์นิยมหรือไม่มีพิมพ์นิยมเกิดขึ้นบนโลก โลกภายนอกมีพิมพ์นิยม โลกภายในก็มีพิมพ์ของตัวเราเช่นกันว่าเราชอบอย่างไร เราจึงเปลี่ยนมันให้เข้ากับความต้องการของตัวเอง และมันเป็นการที่เรารู้จักตัวเองมากขึ้นและทำทุกอย่างตามความพอใจของตัวเอง เปลี่ยนเพื่อตัวเอง ดีกว่าเปลี่ยนเพื่อคนอื่นค่ะ

มีอีกอย่างนะ การแอนตี้Standardก็ต้องแอนตี้เพื่อทุกคน ไม่ควรมีใครถูกลดทอนคุณค่าเพียงเพราะเปลือกนอกโดยไม่มองความเป็นไปหรือความสามารถของตัวเรา เปลือกนอกทุกคนดี ทุกคนโอเคกันหมดอยู่แล้ว ทำตามแบบที่ต้องการไปได้เลยกับเปลือกนอก แต่แค่ขอให้คิดเรื่องสุขภาพกันนิดนึง(เรื่องน้ำหนักให้ตามเกณฑ์ไม่อ้วนไปไม่ผอมไปเพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ ปลอดภัยจากโรคอ้วน โรคที่คนผอมกว่าเกณฑ์มีโอกาสเสี่ยง หรือภูมิต้านทานจะน้อยกว่า บลาๆๆ) หรือถ้าเรื่องอะไรต่างๆเกี่ยวกับร่างกายมันไม่สามารถทำได้จริงๆก็ให้เคารพกับกฎกติกา มันจะส่งผลเสียทั้งเขาและเราและอย่าได้โทษตัวเองกันเลยนะคะกับเรื่องของสุขภาพเพราะมันเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้จริงๆและดูแลตัวเองกันเยอะๆ

| สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องนี้ได้เลยนะคะ ทวนพ้อย
:ควรจะต้องแอนตี้Beauty Standardหรือแอนตี้คนตั้ง Standard

แสดงความคิดเห็นแบบสุภาพชนด้วยนะคะ อย่างน้อยๆต้องเห็นใจซึ่งกันและกันและเข้าใจเสมอว่าไม่มีใครรู้จักกันนะคะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่