สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ความจริงคือเราไม่ควรไปยุ่ง ไปวิจารณ์รูปร่างหน้าตาคนอื่นอ่ะค่ะ
มันเรื่องของเค้า เค้าจะคิดยังไง เค้ามั่นใจที่เค้าเป็นแบบนั้น มันก็เรื่องของเค้า ไม่ต้องไปคิดแทนเค้าหรอกค่ะ
เอาแค่ตัวเราพอ พอใจแบบไหนก็คิดแบบนั้น ทำแบบนั้นค่ะ
คุณอยากสวย อยากหุ่นดี อยากขาว ก็ดูแลตัวเองไป
ส่วนคนอื่นเค้าจะพอใจแบบไหน มีความคิดแบบไหน ไม่ต้องไปบอกให้เค้าคิดเหมือนเราค่ะ
มันเรื่องของเค้า เค้าจะคิดยังไง เค้ามั่นใจที่เค้าเป็นแบบนั้น มันก็เรื่องของเค้า ไม่ต้องไปคิดแทนเค้าหรอกค่ะ
เอาแค่ตัวเราพอ พอใจแบบไหนก็คิดแบบนั้น ทำแบบนั้นค่ะ
คุณอยากสวย อยากหุ่นดี อยากขาว ก็ดูแลตัวเองไป
ส่วนคนอื่นเค้าจะพอใจแบบไหน มีความคิดแบบไหน ไม่ต้องไปบอกให้เค้าคิดเหมือนเราค่ะ
ความคิดเห็นที่ 12
อ่อ คือตัวเธออะไม่มีความสุขในตัวเองใช่มั้ยละ
รู้สึกเหนื่อยกะการที่ผู้หญิงจะต้องคอยวิ่งตามbeauty standard ก็เลยอิจฉาคนที่เขาพอใจในตัวเองถูกมะ
เธอก็เลยพยายามยัดเยียดความไม่พอใจที่ตัวเองมีเพื่อให้คนอื่นต้องมาทำตามเหมือนเธอ
แบบเออมมาออกกำลังกายสิ ผู้หญิงควรจะหุ่นดีนะ
มาทาครีมเยอะๆสิ ผู้หญิงควรจะงั้นควรจะงี้
เธออิจฉาคนที่เขามีความสุขกะสิ่งที่ตัวเองเป็นเพราะเธอทำไม่ได้ใช่ปะละ 555555
โคตรฮาเลยอะ
มันก็ไม่ได้ผิดนะที่เธอจะพูดว่าการอยู่ในbeauty standardมันทำให้ได้พรีวิลเลจในสังคม อืม แล้วถ้าคนบางคนเขาอาจจะไม่ได้อยากได้หรือถึงอยากได้แต่ก็ชั่งใจแล้วว่าการพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่มันโอเคกว่าการต้องวิ่งตามเรื่อยๆแล้วปัญหาของเรื่องนี้มันทำให้เธอเดือดร้อนยังไงนะ
เอาง่ายๆยอมรับก่อนว่าเวลาไปเตือนใครอะเธอแค่อยากให้เขาเสียเซลฟ์ อยากให้เขาความมั่นใจต่ำเหมือนที่เธอเป็น เธอไม่ได้หวังดีอะไรหรอก เพราะคนเรามันไม่หวังดีกะคนที่ไม่ได้สำคัญอะไรกะเราอยู่แล้วถูกป่ะ แต่เสียใจด้วยนะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปละ
รู้สึกเหนื่อยกะการที่ผู้หญิงจะต้องคอยวิ่งตามbeauty standard ก็เลยอิจฉาคนที่เขาพอใจในตัวเองถูกมะ
เธอก็เลยพยายามยัดเยียดความไม่พอใจที่ตัวเองมีเพื่อให้คนอื่นต้องมาทำตามเหมือนเธอ
แบบเออมมาออกกำลังกายสิ ผู้หญิงควรจะหุ่นดีนะ
มาทาครีมเยอะๆสิ ผู้หญิงควรจะงั้นควรจะงี้
เธออิจฉาคนที่เขามีความสุขกะสิ่งที่ตัวเองเป็นเพราะเธอทำไม่ได้ใช่ปะละ 555555
โคตรฮาเลยอะ
มันก็ไม่ได้ผิดนะที่เธอจะพูดว่าการอยู่ในbeauty standardมันทำให้ได้พรีวิลเลจในสังคม อืม แล้วถ้าคนบางคนเขาอาจจะไม่ได้อยากได้หรือถึงอยากได้แต่ก็ชั่งใจแล้วว่าการพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่มันโอเคกว่าการต้องวิ่งตามเรื่อยๆแล้วปัญหาของเรื่องนี้มันทำให้เธอเดือดร้อนยังไงนะ
เอาง่ายๆยอมรับก่อนว่าเวลาไปเตือนใครอะเธอแค่อยากให้เขาเสียเซลฟ์ อยากให้เขาความมั่นใจต่ำเหมือนที่เธอเป็น เธอไม่ได้หวังดีอะไรหรอก เพราะคนเรามันไม่หวังดีกะคนที่ไม่ได้สำคัญอะไรกะเราอยู่แล้วถูกป่ะ แต่เสียใจด้วยนะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปละ
ความคิดเห็นที่ 8
🌿โลกใบนี้ไม่ใช่ ทัศนคติของใครคนหนึ่งคนเดียว
สมัยนี้เค้าเป็น global citizen กันแล้ว โลกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไม่มีใครมาผูกติดกับค่านิยมอย่างใดอย่างหนึ่ง คนใดคนหนึ่งหรอกค่ะ
ถ้าคุณอยู่ใน “สังคมมีคุณภาพ คนรอบข้างจะไม่คิดแทนคุณค่ะ”
เค้าจะยอมรับกับสิ่งที่คุณเป็น และ รักษาความเป็นตัวตนของเค้าไว้เช่นกันค่ะ
และคนที่มีสุขภาพจิตดี เค้าไม่สนใจหรอกค่ะว่า คนรอบข้างจะคิดอย่างไร ตราบใดที่ตัวเค้าเองมีความสุข🌿
สมัยนี้เค้าเป็น global citizen กันแล้ว โลกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไม่มีใครมาผูกติดกับค่านิยมอย่างใดอย่างหนึ่ง คนใดคนหนึ่งหรอกค่ะ
ถ้าคุณอยู่ใน “สังคมมีคุณภาพ คนรอบข้างจะไม่คิดแทนคุณค่ะ”
เค้าจะยอมรับกับสิ่งที่คุณเป็น และ รักษาความเป็นตัวตนของเค้าไว้เช่นกันค่ะ
และคนที่มีสุขภาพจิตดี เค้าไม่สนใจหรอกค่ะว่า คนรอบข้างจะคิดอย่างไร ตราบใดที่ตัวเค้าเองมีความสุข🌿
แสดงความคิดเห็น
ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงต้องมีทัศนคติที่ว่า จะมีหน้าตาแบบไหน หุ่นแบบไหน ผิวพรรณแบบไหนก็สวยได้ แบบนั้นคือสวยจริงหรือคะ ?
สงสัยอย่างนึงค่ะ ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ ส่วนใหญ่นะคะ ถึงต้องสร้างทัศนคติที่ว่า ไม่ว่าฉัน หรือใครก็ตาม จะอ้วนหรือผอม จะผิวขาวหรือผิวคล้ำ หรือมีรูปร่างหน้าตายังไงก็สวยแล้ว ซึ่งบางที คิดว่าคือมองยังไงก็ยังไม่เรียกว่าสวยนะคะ
แต่ผู้หญิงบางคนมักจะบอกว่า ฉันเป็นแบบนี้แล้วไม่สวยตรงไหน? ฉันชอบเป็นของฉันแบบนี้ ถึงฉันจะอ้วนจะดำ หรือมีหน้าตาที่ไม่เป็นที่นิยม ฉันก็ว่าฉันสวยแล้ว
โดยที่ว่า ถ้ามีใครซักคนเข้ามาแนะนำ อย่างเช่น "ลดน้ำหนักอีกนิดสิ ดูแลผิวให้ดีจะสวยกว่านี้นะ ดูแลผิวหน้าอีกนิดนะ"
ก็มักจะโดนมองว่า เป็นการบูลลี่ หรือ เผือกเรื่องของคนอื่น !!
ซึ่งเรามองว่าเรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ เรารู้ค่ะว่า แบบไหนก็สามารถสวยได้
ค่านิยมความสวย คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง
แต่ต้องเข้าใจก่อนนะคะว่า ค่านิยมนั้นมันได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว และเราอยู่ในประเทศที่มีค่านิยมแต่เดิมว่า ต้องขาว
ต้องหุ่นดี ต้องจมูกโด่ง ตาคม หน้าคมแบบฝรั่ง หน้าละมุนแบบเกาหลี
แต่ปัจจุบันนี้คนผิวเข้มแล้วสวยก็มีเยอะ และเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทยค่ะ
ค่านิยมความสวยเหล่านั้น ก็ยังคงมีความสำคัญมากๆต่อการใช้ชีวิตค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม การทำงาน มันมีผลจริงๆนะคะ
เราอาจคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก แค่เราเป็นคนที่คิดดี ทัศนคติดี เราก็ดูดีได้ ก็ใช่ค่ะ
แต่การดูแลตัวเองให้ดูดีกว่าที่เป็นอยู่นั้น
จะช่วยส่งเสริมให้บุคลิกภาพของเราดูดี
คนรอบข้างมองดูแล้วสบายตา
ทำให้เราเข้ากับสังคมได้ดียิ่งขึ้น จะไม่ดีกว่าหรอคะ
ทำไมหลายๆคนก็ยังมีความมั่นใจที่ผิดกันอยู่คะ
บางคนคือ รูปร่างดูอ้วน บางคนอ้วนมาก อ้วนเกินไปจนดูไม่งาม อยากผอม แต่ยังไม่คิดจะออกกำลังกาย ไม่คุมอาหาร ปากบอกเดี๋ยวค่อยลดๆ จนปัจจุบันก็ยังไม่ลด จนไปพาลพูดว่าคนอื่นว่าบูลลี่คนอ้วน ทั้งที่ตัวเองไม่พยายามลดเอง
บางคนผอมเกินไปจนดูไม่งาม แต่ก็ยังมีคนส่วนมากที่อยากจะผอมขนาดนั้นอยู่ค่ะ
บางคนหน้าตาดูไม่ได้ ดูไม่สดใส และเข้าสังคมโดยที่ ปล่อยหน้าสด เข้าใจนะคะว่าชอบแบบนี้สะดวกแบบนี้ แต่ยังไง ก็ควรจะแต่งหน้าซักหน่อยนะคะ จะดูสดใสน่ามอง
บางคนผิวหน้าดูโทรม ดูหมองคล้ำ เป็นสิว แต่ก็ยังใช้วิธีการดูแลผิวแบบผิดๆ บางคนไม่บำรุง ไม่ทากันแดด ไม่ควบคุมเรื่องอาหารการกิน และการนอน
แต่ทำไมยังมั่นใจใจตัวเองโดยที่ไม่คิดจะปรับปรุง ทำให้มองดูแล้ว ไม่เป็นที่น่าสบายหูสบายตาเลย
และยังมีกลุ่มคนที่คอยให้กำลังใจแบบผิดๆด้วยค่ะ ด้วยการชมว่า "เธอสวยแล้ว
หุ่นเธออ้วนก็ไม่ได้ไปหนักหัวใคร ไม่ต้องไปฟังคำพูดใครนะ!!"
บางคนก็จะแบบ " เธอไม่ต้องพยายามอยากขาวหรอก ผิวคล้ำก็สวยได้นะ" (ซึ่งเชื่อว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนอยากมีผิวขาว)
บางคนแบบ "เนี่ย ผิวแบบเธอน่ะ สเปคฝรั่งเลย "
เอิ่มม คือบางคนเขาผิวคล้ำแต่อยากขาวค่ะ ไม่ได้อยากสเปคฝรั่งแบบสาย ฝ.
ไปพูดแบบนั้นก็ทำให้หมดกำลังใจที่จะมีผิวขาว ซึ่งบางคนที่ผิวคล้ำ มันดูไม่เข้ากับรูปร่างหน้าตาไง ทำให้ดูแล้วไม่มีสง่าราศี
การที่เขาจะมีผิวขาว ทำให้ดูสวยกว่าจริงๆ
มันจะเป็นการดีกว่ามั้ยคะ ถ้าเราจะแนะนำในสิ่งที่ดีกว่านี้ โดยไม่เอาแต่อวยกันแบบโลกสวยค่ะ
หากใครที่ยังมีความคิดแบบนี้นะคะ
บอกเลยค่ะว่า มันจะทำให้คนส่วนใหญ่ขาดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองให้สวยขึ้นค่ะ
คนเรามั่นใจได้ แต่ สวยก็คือสวย
ไม่สวยก็คือไม่สวยนะคะ
ทุกคนมีความคิดเห็นเรื่องนี้ยังไงกันบ้าง
เข้ามาบอกกันได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ