สวัสดีค่ะเรื่องของเราค่อนข้างยาวนิดนึงนะคะ อยากขอความปรึกษาจริงๆค่ะ ก่อนหน้านี้เราทำงานอยู่ที่หนึ่งมาสักพักค่ะ งานค่อนข้างโอเค เพื่อนร่วมงานก็ดีเงินดี แต่ติดอย่างเดียวคือการเดินทางที่ไม่สะดวกต้องเดินทางหลายต่อทำให้สุขภาพของเราแย่และเหนื่อยมากๆเดินทางกลับบ้านรวมแล้ว 3ชั่วโมง เพราะต้องนั่งรถโดยสารสามต่อกว่าจะถึง บวกกับช่วงโควิดด้วยทางบ้านยิ่งเป็นห่วงไม่อยากให้นั่งรถโดยสารเดินทางไปทำงานไกลๆ เราจึงมาปรึกษากับทางบ้าน คุณพ่อของเราจึงได้ไปฝากฝังกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่รู้จักกันให้ฝากเราเข้าทำงานใกล้บ้านที่หนึ่งซึ่งเค้าก็ทำงานอยู่ที่นี้ด้วยค่ะ หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากทางที่ทำงานใหม่เราจึงได้ไปยื่นลาออกจากที่ทำงานเดิม หลังจากทำงานได้ไปสักระยะจนได้บรรจุเป็นพนักงานประจำรู้สึกว่าการทำงานค่อนข้างที่จะหนักมากๆ คนงานเยอะก็คือเยอะไปเลย คนงานน้อยก็แทบจะมีเวลาไปทำอย่างอื่น นั่งชิว รอหมดไปวันๆ เราไม่ได้ว่าคนที่ภาระงานน้อยนะคะ แต่ที่ทำงานเค้าแจงงานมาให้แต่ละคนไม่เหมาะสมจริงๆ ทั้งที่เงินเดือนได้เท่ากันนะคะ งานบ้างอย่างโยนภาระมาให้เราโดยไม่แจ้งเหตุผล ปรับเปลี่ยนการทำงานและภาระหน้าที่การทำงานปุ๊บปั๊บโดยแจ้งล่วงหน้าแค่ 2วัน ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมการทำงานได้ดี และเคยมีเหตุการณ์ที่เราโดนเอารัดเอาเปรียบกับเพื่อนร่วมงานโดนเพื่อนร่วมงานคนนี้โยนภาระงานของตัวเองมาให้เราซึ่งคือหน้าที่ของตัวคนนั้นเอง คนที่ได้ผลประโยชน์ก็คือตัวเค้าล้วนๆ ด้วยความที่เรายังเป็รน้องใหม่เลยไม่กล้าบอกกับเค้าตรงๆ เราจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับหัวหน้าและฝ่ายบุคคลแทน แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งๆที่มีหลักฐานแต่พวกเค้ากลับทำเฉยและปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปซึ่งเราไม่โอเคมากๆ และไม่นานมานี้ที่ทำงานเก่าติดต่อเรามาอยากให้เรากลับทำงานด้วยเหมือนเดิม ใจเราตอนนี้อยากกลับไปทำงานที่เก่ามากเลยค่ะ เพราะตอนนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางแล้วเพราะเรามีรถส่วนตัวแล้วค่ะ แต่ติดที่ผู้ใหญ่ที่คุณพ่อเราเคยไปรบกวนฝากฝังเราเข้าทำงาน เรารู้สึกเกรงใจเค้าที่เค้าออกหน้าและทำธุระเรื่องการสมัครงานให้ กลัวจะทำให้แกเสียความรู้สึก ทั้งๆที่เราพึ่งมาทำงานยังไม่ครบปี 
  เราขอคำแนะนำของทุกคนหน่อยนะคะว่าจะเริ่มบอกที่ทำงานเก่ายังไงดีว่าจะลาออก และจะพูดกับผู้ใหญ่ที่เคยฝากเราเข้าทำงานด้วยยังไงดี เพราะยังต้องเจอและเห็นหน้าแกไปอีกนานค่ะ กลัวแกจะเสียความรู้สึก
  ขอบคุณล่วงหน้านะคะ🙏🏻